Liraglutide หรือ GLP-1 คืออะไร? ลดน้ำหนักได้ผลจริงไหม

ปากกลดน้ำหนัก Liraglutide หรือ GLP-1 คืออะไร

Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1 นำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักได้โดยไม่เป็นอันตราย วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงยากลุ่มนี้กัน ว่าจริงๆ แล้วเหมาะกับใคร? ลดน้ำหนักได้จริงไหม? และทำงานอย่างไรต่อร่างกาย?

ยากลุ่ม GLP-1 คืออะไร ?

GLP-1 คือกลุ่มฮอร์โมนร่างกาย มีชื่อเต็มว่า glucagon-like peptide 1 analogue โดยปกติ จะหลั่งออกมาจากลำไส้ หลังจากรับประทานอาหาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และปรับระดับน้ำตาลในเลือด

ในทางการแพทย์ได้มีการนำ Liraglutide เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายกับ GLP-1 และเป็นยาที่ได้รับการอนุมัติโดย Thai FDA (ในปี 2018 ที่ผ่านมา) มาใช้ในการลดน้ำหนัก สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนหรือมีภาวะน้ำหนักเกิน ร่วมกับการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน

Liraglutide จะออกฤทธิ์โดยการจับกับตัวรับในสมอง ที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร แล้วส่งผลทำให้เรารู้สึกอิ่ม และหิวน้อยลง อยากอาหารลดลง ซึ่งก็ช่วยทำให้เราควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีขึ้น กินได้น้อยลง และช่วยลดน้ำหนักได้

Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1 ลดน้ำหนักได้อย่างไร ?

Liraglutide จัดเป็นยาลดน้ำหนักชนิดหนึ่งซึ่งยาได้ถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบของปากกาพร้อมเข็มขนาดเล็กมาก เพื่อใช้ลดน้ำหนักในระยะยาว การใช้งานจะเป็นการฉีดยาเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนัง บริเวณท้อง ต้นขาหรือต้นแขนของคนไข้

  • ตัวยาจะเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการควบคุมสมองทำให้ไม่รู้สึกหิว ความอยากอาหารลดลง
  • กระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินมาช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด โดยไม่ทำให้น้ำตาลตกหรือวูบ เพราะยาจะออกฤทธิ์ก็ต่อเมื่อเรากินอาหารเข้าไปแล้วเท่านั้น
  • มีฤทธิ์ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นย่อยช้าลง ส่งผลให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นกว่าปกติ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมอาหารและลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
Liraglutide หรือ GLP-1 ลดน้ำหนัก ได้ยังไง

Liraglutide หรือ GLP-1 เหมาะกับใคร ?

Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1 ใช้สำหรับลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย

  • เหมาะกับผู้ใหญ่อายุตั้งแต่18 ปีขึ้นไป
  • มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานตามดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body Mass Index)
    คลิ๊ก! เช็คคำนวณค่า BMI ที่นี่
  • มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
  • เหมาะกับคนปัญหาเกี่ยวกับการหายใจระหว่างนอนที่เรียกว่า ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับ เนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ

เนื่องจากกลไกหลักของ ปากลดความอ้วน เน้นการควบคุมปริมาณแคลอรีเข้าสู่ร่างกาย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกินให้น้อยลง โดยเฉพาะในคนที่มีนิสัยกินจุกจิก กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม และไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ เพราะจะทำให้สามารถจำกัดปริมาณการกินได้ดี อันนำไปสู่การควบคุมปริมาณแคลอรีและน้ำหนักตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ใครที่ไม่ควรใช้ Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1

อาจจะ ไม่เหมาะกับ คนที่ปกติกินน้อยอยู่แล้ว เพราะการใช้ปากกาลดความอ้วนจะยิ่งทำให้ทานน้อยลงไปอีก จนอาจส่งผลให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น ปากกาลดความอ้วนจึงเหมาะเป็นพิเศษกับผู้ที่กินเก่ง ชอบทานจุกจิก

  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์ โรคไทรอยด์
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ที่มีภาวะตับอ่อนอักเสบ
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่กำลังใช้ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด
  • ผู้ที่เป็นโรคตับหรือไต

คำแนะนำจากแพทย์ :

คนที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวเกิน 30 BMI รวมถึงอาจมีโรคแทรกซ้อนอื่นร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดัน การใช้ปากกาลดความอ้วน อาจได้ผลในระดับหนึ่ง หรือในบางคนอาจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่ควร แพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษาอีกรูปแบบหนึ่งคือ ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ซึ่งนอกจากจะลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยแล้ว สุขภาพก็ดีขึ้นตามด้วย

อ่านเพิ่มเติม

มั่นใจในมาตรฐาน ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (ฺBest Bariatric Surgery in thailand)
คุณเก๊ว ผ่าตัดกระเพาะลดหน้ำหนัก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเซอร์
รีวิว ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก รักษาโรคอ้วน วิธี Overstitch เย็บกระเพาะ

วิธีการใช้ Liraglutide ลดน้ำหนัก ควรใช้อย่างไรให้ถูกต้องและได้ผล

แนวทางปฏิบัติในการใช้ ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาลดความอ้วน ให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพนั้น สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้

  1. ปกติแล้วสามารถฉีด ปากกาลดน้ำหนัก Liraglutide ในเวลาใดของวันก็ได้ โดยจะฉีดยาพร้อมมื้ออาหารหรือไม่ก็ได้ ฉีดวันละ 1 ครั้ง ในเวลาใกล้เคียงกันของแต่ละวัน โดยเลือกเวลาที่สะดวกที่สุดที่สามารถฉีดได้ แพทย์อาจจะแนะนำให้ฉีดหลังทานอาหารเช้าของทุกวัน เพื่อให้ได้รับอาหารมื้อเช้าอย่างเต็มที่ก่อน โดยหลังจากฉีดยาแล้ว ในมื้อต่อๆ ไปของวันจะได้รู้สึกอยากอาหารน้อยลง
  2. ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฉีดยาคือ บริเวณหน้าท้อง ต้นขาด้านหน้า หรือต้นแขน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังลงไปในชั้นไขมัน (subcutaneous injection)
  3. ปากกาด้ามหนึ่งจะมีปริมาณยาทั้งสิ้น 18 มิลลิกรัม โดยที่ตัวปากกาจะมีตัวปรับโดสยาได้ ซึ่งแพทย์จะมีแนวทางในการกำหนดปริมาณโดสยาเอาไว้ให้แล้วอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักได้ดีที่สุด โดยจะเริ่มต้นด้วยยาในขนาดต่ำก่อน จากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มขนาดยาในช่วง 5 สัปดาห์แรกของการรักษา โดยแพทย์จะแจ้งให้ท่านทราบว่าต้องฉีดยาแซคเซ็นดา ปริมาณเท่าใดในแต่ละสัปดาห์ โดยปกติแล้ว แพทย์ของท่านจะบอกให้ท่านฉีดยาตามที่ระบุไว้ในตารางด้านล่าง
วิธีใช้ปากกลดน้ำหนัก Liraglutide หรือ GLP-1

4. หากท่านลืมฉีดยาและนึกขึ้นได้ภายใน 12 ชั่วโมงนับจากเวลาปกติที่ต้องฉีดยา ให้ฉีดยาทันทีที่นึกได้ อย่างไรก็ตาม หากเลยเวลาที่ท่านต้องฉีดยามานานเกิน 12 ชั่วโมงแล้ว ท่านไม่ต้องฉีดยาครั้งที่ลืม และให้ฉีดยาครั้งต่อไปในวันถัดไปตามเวลาเดิมได้เลย ห้ามเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่าหรือเพิ่มขนาดยาในวันต่อมาเพื่อทดแทนยาครั้งที่ลืม

5. ฉีดยาต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ ทั้งนี้ ไม่มีกำหนดตายตัวว่าจะต้องหยุดยาเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักของแต่ละบุคคล ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมที่น้ำหนัก 100 กิโลกรัม หลังใช้ปากกาลดน้ำหนักแล้วน้ำหนักลดลงเหลือ 75 กิโลกรัม ซึ่งค่า BMI แม้อาจยังเกินมาตรฐานอยู่ แต่ถ้าอยากหยุดใช้ ก็สามารถหยุดได้ เป็นต้น

6. การฉีดยาด้วยปากกาลดความอ้วน ไม่เจ็บอย่างที่หลายๆ คนกังวล เนื่องจากเข็มมีขนาดเล็กมาก ทั้งนี้ ในการฉีดครั้งแรก แพทย์หรือพยาบาลจะสาธิตวิธีการใช้ปากกาฉีดยาให้ท่านดูก่อนเพื่อให้ท่านสามารถทำเองได้ในการฉีดครั้งต่อไป

ยา Liraglutide หรือ GLP-1 ลดน้ำหนัก มีวิธีใช้อย่างไร

ผลข้างเคียงเมื่อใช้ Liraglutide

อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ้าง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูก เนื่องจากกลไกในการทำงานของยาที่ฉีดเข้าไปจะมีผลในการลดอัตราการบีบตัวของลำไส้ จึงมีโอกาสที่จะทำให้เกิดท้องผูกจากการที่ลำไส้ทำงานช้าลง กว่าจะย่อยอาหารออกเป็นกากใย เป็นอุจจาระ จึงใช้เวลานานกว่าเดิม

และเนื่องจากตัวยาส่งผลทำให้รู้สึกอิ่มไว จึงอาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอมได้ง่ายเวลาทานอาหาร โดยเฉพาะเมื่อทานแบบเร่งรีบ หรือทานมื้อใหญ่ๆ ในปริมาณมาก แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน และผู้ใช้ยาจะสามารถปรับตัวกับยาได้เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์

วิธีเก็บรักษา Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1

  • เก็บยาไว้ในตู้เย็น (2–8 องศาเซลเซียส) ห้ามแช่แข็ง ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็ง
  • หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก ยามีอายุ 1 เดือน
  • ควรสวมปลอกปากกาฉีดยาไว้เสมอเมื่อท่านไม่ได้ใช้ เพื่อป้องกันแสง
  • ห้ามใช้ยานี้หากสารละลายไม่ใสหรือมีสี

ไขมันส่วนเกิน สามารถ ดูดไขมันได้ !

คนที่ไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกายอยู่มาก นอกจากจะใช้ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาลดความอ้วน Saxenda ได้แล้ว อีกหนึ่งทางเลือกคือ สามารถ ดูดไขมัน เพื่อลดสัดส่วนได้ ได้ผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำทันที โดยส่วนที่นิยมดูดไขมันก็จะเป็นบริเวณที่มีการสะสมของไขมันเยอะ เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันต้นขา เป็นต้น หรือบางคนที่สุขภาพดีแต่อยากปรับสัดส่วนให้ดูสวยงามขึ้น ก็สามารถ ดูดไขมันสร้างร่อง 11 หรือ ดูดไขมันซิกแพค ได้อีกด้วย

รีวิว ดูดไขมัน Sexy Line
ลดหน้าท้อง ดูดไขมันหน้าท้อง Bodytite Liposuction
รีวิว ดูดไขมันต้นขาด้านนอก ลดขาใหญ่ ขาปูด

สรุป : อย่างไรก็ตาม Liraglutide หรือยากลุ่ม GLP-1 เป็นเพียงแค่แนวทางหนึ่งในการช่วยลดน้ำหนัก เหนือสิ่งอื่นใด คือ อาหารที่รับประทานเข้าไปสำคัญมาก เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารที่น้อยลงแล้ว เราจึงจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพของอาหารที่รับประทานเข้าไปให้ดีด้วย ถึงจะเป็นการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

คำแนะนำ : ควรเน้นการทานโปรตีนให้มาก ลดคาร์โบไฮเดรตและไขมันลง เพื่อลดการสูญเสียกล้ามเนื้อ ซึ่งการที่กล้ามเนื้อลดลงนั้น คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิด “โยโย่เอฟเฟกต์” (Yo-Yo Effect) หลังจากหยุดใช้ยาได้

เนื่องจากระบบเผาผลาญเราลดลง ทั้งนี้ถึงแม้จะไม่ใช่การใช้ปากกาลดความอ้วน แต่เป็นการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น หากแนวทางในการลดน้ำหนักเหล่านั้น คือการควบคุมปริมาณแคลอรีแล้ว ก็จำเป็นต้องควบคุมคุณภาพอาหารที่รับประทานเช่นเดียวกัน รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ไม่เครียด จะช่วยส่งเสริมให้เป้าหมายของการลดน้ำหนักให้สำเร็จไวขึ้น

Ref http://ndi.fda.moph.go.th/uploads/drug_doc/Liraglutide_PIL_NDI.pdf

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า