โรคอ้วนเริ่มเป็นปัญหาในไทยที่เห็นชัดขึ้นทุกปี บางคนกินแบบไม่สนใจอะไร อ้วนตั้งแต่เด็ก ไม่แคร์กับโรคประจำตัวตอนอายุมากก็มี จนเมื่อเป็นโรคแล้วถึงคิดได้ว่าควรลดน้ำหนัก ถึงตอนนั้น การลดน้ำหนักจะกลายเป็นเรื่องยากมาก ทั้งอัตราเผาผลาญในร่างกายที่ต่ำลง ร่างกายที่ไม่รองรับการออกกำลังกายหนักๆ บวกกับ เวลาทำงานที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาให้บริหารร่างกาย รวมถึง เปลี่ยนพฤติกรรมการกินก็ยาก มีแต่ของอร่อยทั่วไทยเรียกร้องให้ไปเยือนถึงถิ่น แถมในตัวเมืองโทรสั่งได้ 24 ชั่วโมง จะลดได้อย่างไร ? บางคนก็เลือกวิธี สบายปาก ลำบากหมอ ไปให้แพทย์ช่วยแทน
ผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนักอย่างเด็ดขาด แต่คนไม่กล้า
การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักเป็นทางเลือกที่เริ่มพูดถึงมากขึ้น ไม่ว่าจะใส่บอลลูน รัดกระเพาะ ตัดกระเพาะแบบสลีฟ ผ่าตัดแบบบายพาส ที่เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้ ปรับพฤติกรรมการกินไปจากเดิมให้มีสุขภาพดีขึ้น หายจากโรคประจำตัวบางอย่างได้
เชื่อว่าคนไทยยุค 4.0 แทบทุกคนฟังชื่อวิธีครั้งแรก ก็เริ่มกลัวแล้ว ใส่ของเข้าไปในร่างกาย กับ ตัดกระเพาะออก ใครจะไปเชื่อว่าเป็นวิธีรักษาโรคอ้วน แถมใช้คำว่า “ผ่าตัด” เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องนึกภาพการเอามีดผ่าท้องควักกระเพาะออก ซึ่งศัลยกรรมในปัจจุบัน เขาใช้เทคโนโลยีวิธีส่องกล้องกันหมดแล้ว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่เจ็บมากด้วย รักษาตัวไม่นาน
ด้วยเหตุผลข้างต้น ทำให้ดูดไขมัน เป็นอะไรที่ฟังดูดีกว่า “อ้วนเพราะไขมัน – เอาไขมันออก = ผอมเพียว” เหมือนเป็นสมการที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ 2019 แต่ขอบอกเลยว่า คิดผิด อาจเสียเงินฟรี
เหตุผลที่ดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ปกติ ต้องการจะมีสัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการที่จะมีสัดส่วนในแบบที่ต้องการ และมีบริเวณที่มีการสะสมของไขมันที่กำจัดได้ยาก แม้จะมีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม
ดังนั้น การดูดไขมันไม่ได้เป็นการรักษาโรคอ้วน มีการจำกัดปริมาณไขมันที่ดูดได้ และจุดที่ดูดได้ ไม่ใช่ว่าดูดไขมันทั้งตัว ต้องอาศัยการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นควบคู่กันไปด้วย
คนอ้วนดูดไขมันบางส่วนไม่ได้
บางส่วนของร่างกายจะไม่สามารถดูดไขมันได้ เช่น ไขมันช่องท้อง ทำให้ถึงลดไปได้บ้างแต่ส่วนพุงยังคงยื่นจากท้อง อาจไม่ถึงกับแบนราบทันที (ขึ้นกับน้ำหนักตัว) ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เด็ดขาด ต่างจากการผ่าตัดตัดกระเพาะ
อีกทั้ง คนอ้วนมีส่วนระดับอันตรายในการศัลยกรรมทุกชนิดอยู่ 5 ระดับ (รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ช่วงท้ายคลิปด้านล่าง) โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายเกิน 35 ขึ้นไป ควรเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแทนการดูดไขมัน เรื่องการเลือกสถานที่และแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา
ดูดไขมันเหมาทั้งตัว สำหรับคนอวบ ?
คนอวบเกินมาตรฐานเล็กน้อย อาจคิด ดูดไขมันเหมาทั้งตัว เพื่อลดน้ำหนักไปพอสมควร แล้วค่อยออกกำลังกายชดเชยให้เข้ารูปได้บ้าง ถือเป็นไอเดียที่น่าจะลงตัวกว่าการไปตัดกระเพาะ และไม่ต้องออกกำลังกายมาก ผอมแบบเร่งด่วน ทันใจ
แต่ถือเป็นทางเลือก ที่แพทย์ดูดไขมันไม่ค่อยอยากแนะนำ เพราะการดูดไขมันทั้งตัว เลี่ยงการเสียของเหลวในร่างกาย กับเลือดไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งดูดปริมาณที่มาก ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับคนไข้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว อีกทั้ง ถ้าไม่ปรับตัว อาจกลับมาอ้วนได้ทุกเวลา
ดังนั้น การปรับพฤติกรรมการกิน กินอาหารให้ครบห้าหมู่ ไดเอ็ต ออกกำลังกาย จะช่วยได้ดีกว่าในระยะยาว
สำหรับคนที่ ไม่มั่นใจว่าตนเหมาะกับการดูดไขมันหรือไม่ ปรึกษากับทางรัตตินันท์คลินิกได้ที่ช่องทางด้านล่าง