เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับปัญหาผิวของคุณ

ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี

คุณกำลังพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ แต่ไม่แน่ใจว่ายี่ห้อไหนเหมาะกับตัวเองใช่ไหมคะ? เพราะไม่ใช่แค่ ฉีดแล้วสวย เท่านั้น แต่ สูตรฟิลเลอร์ที่เลือกต้องตรงกับปัญหาของแต่ละจุดบนใบหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และปลอดภัย

ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลากหลายแบรนด์ เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse ไปจนถึงกลุ่ม HA ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่ได้รับการรับรองจาก อย. แล้วทั้งหมด แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติทางเทคนิคต่างกัน ทั้ง ความยืดหยุ่น ความกระจายตัว อายุการคงอยู่ และที่สำคัญคือ ความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด

ฟิลเลอร์คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มผิวที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้า เช่น ร่องลึก ใต้ตาลึก แก้มตอบ หรือคางไม่ชัด โดยไม่ต้องผ่าตัด จุดประสงค์ของฟิลเลอร์คือ การเติมเต็มเนื้อเยื่อที่สูญเสียไปตามอายุ เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สมดุล และมีมิติมากขึ้น

ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่นิยมมากที่สุดคือกลุ่มที่เรียกว่า HA หรือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ จึงสามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ตกค้าง มีความปลอดภัยสูง และมีหลากหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการเฉพาะจุด

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

แม้จะใช้สาร HA เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละยี่ห้อมีความพิเศษต่างกันอยู่ที่:

  • เทคโนโลยีการผลิต เช่น NASHA, XpresHAn, Vycross, CPM ฯลฯ
  • ความเข้มข้นและขนาดของโมเลกุล ส่งผลต่อความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และอายุของผลลัพธ์
  • การกระจายตัวของเนื้อฟิลเลอร์ มีผลต่อความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยหลังฉีด

ปัจจัยที่ควรใช้ในการเลือกฟิลเลอร์

การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ใช่แค่เลือกแบรนด์ที่ดังหรือรีวิวเยอะเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน

1. เนื้อสัมผัสของฟิลเลอร์

  • ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ใช้ยกโครงหน้า เช่น คาง ขมับ
  • ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับจุดที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา

2. ความคงตัว (G prime) และความยืดหยุ่น

มีผลต่อการคงรูปหลังฉีดและความเป็นธรรมชาติ

3. อายุการคงอยู่ของผลลัพธ์

  • บางรุ่นอยู่ได้ 6-12 เดือน
  • บางรุ่นยาวถึง 18-24 เดือน

4. ความปลอดภัย

ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. เท่านั้นที่ควรใช้ และควรเปิดกล่องต่อหน้า พร้อมตรวจ Lot & QR Code

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? เปรียบเทียบแบรนด์ยอดนิยม

ฟิลเลอร์แบรนด์ยอดนิยม

ยี่ห้อ ประเทศ จุดเด่น เหมาะกับ
Juvederm สหรัฐอเมริกา เนื้อเนียนละเอียด อยู่ได้นาน 18-24 เดือน คาง, ขมับ, ร่องแก้ม, ปาก
Restylane สวีเดน เทคโนโลยี NASHA/XpresHAn ความยืดหยุ่นสูง ใต้ตา, ร่องแก้ม, ริมฝีปาก
Belotero สวิตเซอร์แลนด์ กระจายตัวดี เหมาะกับผิวบาง ใต้ตา, ริ้วรอยตื้น
Definisse อิตาลี ยกกระชับดี บวมน้อย เหมาะจุดลึก โหนกแก้ม, กรอบหน้า

ฟิลเลอร์จากเกาหลี

ยี่ห้อ จุดเด่น
Neuramis Shape Technology คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
Yvoire HICE Cross-link มีหลายสูตรให้เลือก
E.P.T.Q. 2CM Tech เหมาะกับผู้เริ่มต้น

คุณสมบัติทางเทคนิคของฟิลเลอร์ที่ควรรู้

ความแข็ง (Elasticity / G′)

ค่าความแข็งแรงในการพยุงเนื้อฟิลเลอร์ให้คงรูปได้ดี หากต้องการใช้ในบริเวณที่ต้องรับแรงกด เช่น คาง ขมับ ค่าความแข็งนี้ต้องสูง

ยี่ห้อที่มี G′ สูง Juvederm Voluma, Definisse Restore, Restylane Lyft

ความยืดหยุ่น (Plasticity / Cohesiveness)

ความสามารถของเนื้อฟิลเลอร์ในการปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริมฝีปากหรือร่องแก้ม

สูตรเน้นความยืดหยุ่น Juvederm Volbella, Restylane Kysse, Belotero Intense

ความกระจายตัวในผิว (Tissue Integration)

การกระจายตัวของฟิลเลอร์ภายในชั้นผิว ส่งผลต่อความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติหลังฉีด

ยี่ห้อที่โดดเด่น Belotero, Restylane Refyne

ค่าความอุ้มน้ำ (Water Holding / Swelling Factor)

ค่าการอุ้มน้ำส่งผลต่ออาการบวมหลังฉีด ฟิลเลอร์บางรุ่นเน้นคงรูปมากกว่าอุ้มน้ำเพื่อลดการบวม

สูตรบวมน้อย Definisse, Juvederm Volux

เลือกฟิลเลอร์ตามตำแหน่งบนหน้า

ใต้ตา

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Restylane Vital, Restylane Refyne, Belotero Soft

จุดที่ผิวบางที่สุดของใบหน้า ต้องการฟิลเลอร์ที่เบา กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อน และบวมน้อย

ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Restylane Defyne, Juvederm Volift

ต้องการฟิลเลอร์ที่มีความแน่นและยืดหยุ่นดี เพื่อคงรูปและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้เป็นธรรมชาติ

คาง

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Juvederm Voluma, Juvederm Volux

คางต้องการโครงสร้างที่ชัดเจนและฟิลเลอร์ที่แน่น คงตัว ไม่ไหล ให้ผลยาวนานถึง 24 เดือน

ปาก

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Juvederm Volbella, Restylane Kysse

ริมฝีปากคือจุดเคลื่อนไหวตลอดเวลา ต้องการฟิลเลอร์ที่นุ่มและยืดหยุ่นสูง

ขมับ

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Juvederm Voluma

ขมับตอบทำให้หน้าดูโทรมและอ่อนแอ เติมเต็มแล้วจะดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที

แก้มตอบ

ฟิลเลอร์ที่แนะนำ Restylane Lyft, Juvederm Voluma

เติมวอลุ่มเพื่อให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา ไม่โทรม

จุดสังเกตฟิลเลอร์แท้

เทคนิคตรวจสอบฟิลเลอร์แท้

  • มีฉลากภาษาไทย ที่ระบุเลข อย. อย่างชัดเจน
  • มีเลขล็อต (Lot Number) และวันที่ผลิต-หมดอายุบนกล่อง
  • ซีลพลาสติกห่อกล่อง แน่นหนา และกล่องไม่บุบหรือเสียรูป
  • เปิดกล่องให้ลูกค้าเห็นต่อหน้า ก่อนฉีดทุกครั้ง
  • สแกน QR Code เพื่อยืนยันข้อมูลผลิตภัณฑ์
  • มีกระดาษ Serial Number แปะลงในแฟ้มเวชระเบียน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ประเภท HA จะอยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้, ตำแหน่งที่ฉีด, และพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากเป็นรุ่นพรีเมียม เช่น Juvederm Voluma หรือ Volux ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า 18 เดือน

โดยทั่วไปจะไม่เจ็บมาก เพราะแพทย์จะทายาชา หรือใช้ฟิลเลอร์ที่มียาชาผสมในตัว ขั้นตอนใช้เวลาเพียง 15-30 นาที และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น

บริเวณแก้มตอบเหมาะกับฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นและสามารถสร้างโครงสร้างใต้ผิวได้ เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft เพราะช่วยเติมวอลุ่มให้ใบหน้าดูเต็ม สดใสขึ้น

ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเลือกฟิลเลอร์สูตรบางเบาอย่าง Restylane Vital หรือ Refyne ความเสี่ยงถือว่าน้อยมาก จุดนี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เพราะผิวบางและอยู่ใกล้เส้นเลือด

สรุป

เมื่อพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์ “ยี่ห้อไหนดี” คำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ “ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดและลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล” เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติทางเทคนิคแตกต่างกัน

การเลือกฟิลเลอร์ที่ ใช่ จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และปลอดภัยในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องเติมบ่อยหรือแก้ไขซ้ำ

เคล็ดลับจากแพทย์ ไม่มีคำว่า ‘ยี่ห้อที่ดีที่สุด’ มีแต่ ‘ยี่ห้อที่เหมาะสมกับคุณ’ เท่านั้นค่ะ

การปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินตำแหน่งและเลือกสูตรที่ตอบโจทย์จุดนั้น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และคุ้มค่าค่ะ