l บทความโดย นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (คุณหมอหนึ่ง)
ดูดไขมัน เป็นหนึ่งในวิธีลดไขมันในรางกายที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและเร็วที่สุด เป็นทางลัดในการปรับรูปร่างให้กลับมาฟิตแอนด์เฟิร์มในเวลาเร่งด่วน ยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารองรับ ทำให้การดูดไขมันมีปลอดภัยมากขึ้น ความเสี่ยงน้อยลง ฯลฯ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องศึกษารายละเอียดและทำความเข้าใจเรื่องการดูดไขมันให้ดีก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด ไม่เสี่ยงอันตราย และไม่ต้องมาแก้ซ้ำทีหลัง! มาดูกันว่า ดูดไขมันครั้งแรก เราต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง?
สารบัญ
การดูดไขมันคืออะไร ?
ไขมันส่วนเกิน (Fat) ที่สะสมในร่างกายมีสาเหตุหลักมาจากการกินอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ในปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ เช่น อ้วนลงพุง แขนใหญ่ ต้นขาใหญ่ มีเหนียงใต้คาง เป็นต้น จนทำให้หมดความมั่นใจในรูปร่างตัวเอง
การดูดไขมัน (Liposuction) คือการลดไขมัน กำจัดไขมันเฉพาะจุดในบริเวณที่ลดยาก หรือไม่สามารถเอาออกได้ด้วยวิธีการลดน้ำหนัก แบบควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งหลายคนมักเข้าใจผิดว่า “การดูดไขมันช่วยลดน้ำหนักได้” แต่ในความเป็นจริงแล้วประโยชน์ของการดูดไขมัน คือเป็นทางลัดในการลดไขมัน กระชับสัดส่วน สร้างหุ่นสวยในเวลาเร่งด่วนเท่านั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้า และส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีขึ้น เช่น คนที่มีหุ่นตรง หุ่นทรงกระบอก ดูดไขมันเอวเพื่อปรับรูปร่างทำให้ดูมีเอวS เอวคอดขึ้น หรือลดห่วงยางรอบเอว เอวปลิ้นได้
มาฟังคำตอบจากคุณหมอหนึ่ง : ดูดไขมันน้ำหนักลดลงไหม? ทำให้ผอมลงจริงรึเปล่า?
ใครเหมาะกับการดูดไขมันบ้าง ?
- Skinny Fat น้ำหนักตัวน้อยแต่มีไขมันส่วนเกิน เช่น ตัวเล็กแต่ขาใหญ่ แขนใหญ่ ผอมแต่มีพุงหมาน้อย พุงยื่น ฯลฯ
- พุงปลื้น เอวปลิ้น อ้วนลงพุง จากการกินอาหารประเภทของมัน ทอด หวาน ฯลฯ
- ไขมันแก้มเยอะ มีคาง 2 ชั้น หรือกรอบหน้าไม่ชัด
- ต้นขาใหญ่ น่องใหญ่ อยากดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่างให้สมดุลกับส่วนบน
- อยากมีหุ่นสวย รูปร่างดีในเวลาเร่งด่วน แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
- มีปัญหาไขมันสะสมที่เกิดจากยาบางชนิด เช่น ทานยาสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ จนเกิดไขมันหนอกหลังคอ
- มีไขมันหน้าท้องเยอะจากการฉีดอินซูลินซ้ำๆ เป็นเวลาหลายปี
- หน้าท้องหย่อน ท้องแขนห้อย จากการลดน้ำหนักตัวมากๆ
- คุณแม่หลังคลอด อยากดูดไขมันและกระชับผิวหน้าท้อง
- โรคบางชนิดที่ต้องอาศัยการ ดูดไขมันเพื่อการรักษา เช่น ก้อนเนื้องอกไขมันหรือ Lipoma บางชนิด
รีวิวดูดไขมันร่อง 11 และ Six Pack ด้วย BodyTite Pro และ PAL
ใครไม่เหมาะกับการดูดไขมัน ?
นอกจากนี้เราสามารถเช็คได้ว่า เราเหมาะกับการดูดไขมันหรือไม่? จากการคำนวณค่า BMI ซึ่งเกณฑ์การดูดไขมันจะทำได้ตั้งแต่ 20-29
แต่หากค่า BMI 30 ขึ้นไป ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน (น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน) การดูดไขมันอาจจะไม่ได้ผล แพทย์อาจจะแนะนำวิธีลดน้ำหนักอื่นแทน เช่น ผ่าตัดกระเพาะอาหาร ซึ่งได้ผลลัพธ์ถึง 3 ทาง คือ ลดน้ำหนัก-ลดโรค-ลดสัดส่วน ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงเพื่อสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย
คลิ๊ก! เพื่อเช็คค่า BMI ที่นี่!ทำไมต้องเช็ค BMI ก่อนดูดไขมัน?
ไขข้อข้องใจ ดูดไขมันลดความอ้วนได้ไหม : ดูดไขมันน้ำหนักลดไหม ?
ดูดไขมัน ส่วนไหนได้บ้าง ?
เราสามารถดูดไขมันได้ทุกส่วนของร่างกาย ในบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเยอะ ต้องการลดไขมันและกระชับรูปร่างให้สมส่วนกัน ซึ่งจากประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 24 ปี ของคุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ พบว่าตำแหน่งดูดไขมันที่นิยมมากในผู้หญิงและผู้ชาย คือ ดูดไขมันหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน และดูดไขมันเอว เพราะเป็นจุดที่ไขมันสะสมง่ายและลดยากที่สุด
นอกจากนี้การดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่างให้สวยงาม ก็ยังนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น การดูดไขมันสร้างร่อง 11 สำหรับผู้หญิงที่อยากมีหน้าท้องเรียบแบน มีไลน์กล้ามเนื้อที่สวยงามดูสุขภาพดี , ดูดไขมันสร้างซิกแพค (Six pack Liposuction) หน้าท้องผู้ชาย หรือเพื่อการรักษาโรคอย่าง ดูดไขมันหนอกคอ ที่มีสาเหตุจากการกินยาบางชนิด , ดูดไขมันนมน้อย (ไขมันใต้รักแร้) ที่ปลิ้นออกมาจนทำให้หมดความมั่นใจ ฯลฯ
ตำแหน่งดูดไขมัน
ไขมันส่วนไหนลดยากที่สุด ?
ไขมันหน้าท้องและต้นขาเป็นส่วนที่ลดยากที่สุด ถึงแม้จะออกกำลังกายหรือคุมอาหารอย่างหนัก ซึ่งการดูดไขมันเป็นหนึ่งในทางลัดที่ช่วยให้หน้าท้องเรียบ ต้นขาเล็กลง ในเวลาไม่นาน ผลลัพธ์ชัดเจน บางคนเปลี่ยนไซส์จาก XL เป็น L-M ได้เลยก็มี
แต่ทำไมบางคน ดูดไขมันหน้าท้องไปแล้ว แต่พุงไม่ยุบ ? ไขมันหน้าท้องประกอบด้วยชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อเรียงซ้อนกัน ซึ่งไขมันใต้ชั้นผิวที่เป็นไขมันชั้นตื้นนั้นสามารถดูดไขมันลดพุงได้ แต่ไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) ที่อยู่ชั้นในติดกับอวัยวะต่างๆ ไขมันส่วนนี้ไม่สามารถดูดออกได้
หากอยากลดไขมันช่องท้อง ต้องควบคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร และออกกำลังกายแทน ดังนั้นหลังดูดไขมันหน้าท้องไป หน้าท้องบางคนอาจจะยุบลงไม่มาก เพราะอาจจะมีไขมันในช่องท้องอยู่มากนั่นเอง
พุงป่อง พุงหมาน้อย ดูดไขมันช่วยได้หรือไม่?
รีวิวดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันหน้าท้อง
ดูดไขมันมีกี่วิธี ?
เครื่องดูดไขมันแต่ละแบบต่างกันอย่างไร? ปกติแล้วเรานิยมแบ่งและเรียก วิธีดูดไขมัน ตามชื่อเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ใช้มากกว่า เช่น BodyTite Pro, MicroAire PAL, Vaser Liposuction (เวเซอร์), Bodyjet (บอดี้เจ็ท) , smart lipo ซึ่งแต่ละเครื่องก็ถูกออกแบบมาใช้ในวัตถุประสงค์ต่างกัน
- BodyTite Pro (บอดี้ไทท์) เครื่องดูดไขมันมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยีคลื่น Radio Frequency (RF) มีประสิทธิภาพในการสลายไขมันและกระชับผิวได้มากที่สุดถึง 12% เป็นเครื่องเดียวที่มีเซ็นเซอร์ตรวจเช็คอุณหภูมิและมีหน้าจอแสดงอุณหภูมิขณะใช้งาน ป้องกันการเกิดผิวไหม้จากการใช้ความร้อนมากเกินไป ที่เป็นสาเหตุของการเกิดพังผืดหลังดูดไขมัน
- เครื่อง MicroAire PAL ใช้เทคโนโลยีระบบสั่นสะเทือนในการดูดไขมันออกได้ปริมาณมาก โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิวบริเวณข้างเคียง มีหัว Cannulas (หัวดูดไขมัน) ที่หลากหลายให้เลือกใช้กับแต่ละส่วนได้เหมาะสม อีกทั้งหัวดูดเป็นปลายทู่ ปลอดภัยไม่เสี่ยงผิวทะลุเหมือนหัวดูดปลายแหลมทั่วไป จึงเป็นที่นิยมในหมู่แพทย์ ในสหรัฐอเมริกา
อ่านเพิ่มเติม :
ทำไม “ดูดไขมัน BodyTite Pro” มีราคาสูง? กว่าเครื่องดูดไขมันอื่นๆ
ดูดไขมันวิธีไหนดีที่สุด ?
แพทย์แต่ละคนจะเลือกใช้เครื่องมือและมีเทคนิคในการดูดไขมันที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถใช้อุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะ ผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้เกิดจากเครื่องที่ดูดไขมันหรืออุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แต่ฝีมือแพทย์เป็นสิ่งสำคัญกว่า มากถึง 80% เลยก็ว่าได้และอีก 20% จะเป็น after care การดูแลหลังทำ
แพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง จะสามารถวิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกันได้ดีกว่า เข้าใจสรีระและเลือกวิธีดูดไขมันที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจที่สุด
จากประสบการณ์ดูดไขมันของคุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ อาจารย์สอนแพทย์ดูดไขมัน (กว่า 24 ปี มากกว่า 13,000 เคส) ได้ทดลองเครื่องดูดไขมันมาหลายตัวและพบว่า การใช้เครื่อง BodyTite Pro และ PAL ร่วมกันนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และสามารถลดหรือป้องกันผลแทรกซ้อนหลังดูดไขมันได้หลายอย่าง
เช่น พังผืดหลังดูดไขมัน ผิวหนังไหม้จากการใช้ความร้อนสูงไป หรือรอยบุ๋ม ผิวไม่เรียบหลังดูดไขมัน ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่คนไข้หลายคนกลับมาให้คุณหมอแก้ไข เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม :
คลิ๊ก! รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง ข้อเสียดูดไขมันที่ต้องระวัง!รีวิวเคสแก้ดูดไขมันทั้งตัว
คนไข้ดูดไขมันไม่ได้มาตรฐานจากที่อื่นมา อุปกรณ์ไม่พร้อมทำให้เจาะแผลดูดไขมันมากเกินจำเป็น รวมถึงใช้ความร้อนจากเครื่องมือมากเกินไปจนผิวบุ๋ม เกิดพังผืด และผิวเป็นคลื่น คุณหมอหนึ่งแก้โดยการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro และ PAL เกลี่ยไขมันใต้ชั้นผิวให้เท่ากัน และเติมเต็มไขมันในจุดที่บุ๋ม
ดูดไขมันที่ไหนดี ? สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือก คลินิกดูดไขมัน
ดูดไขมันเป็นศัลยกรรมความงามที่ต้องดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่มีความเชี่ยวชาญในการปรับรูปร่าง และถึงแม้จะเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่หากไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีพอก่อนทำก็อาจะเกิดข้อผิดพลาด ผลแทรกซ้อนหลังทำ หรือเกิดอันตรายได้เช่นกัน มาดูกันว่าเราจะต้องรู้อะไรบ้าง?
- ประวัติและผลงานของแพทย์
- ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของคลินิก
- ความสะอาดของสถานที่ มีอุปกรณ์ที่ครบครันและทันสมัย
- เลือกวิธีการดูดไขมันให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ได้ดี
- การบริการหลังการรักษา และความจริงใจต่อลูกค้า ทั้งก่อนและหลังดูดไขมัน
ดูดไขมัน ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ การันตีคุณภาพ ความปลอดภัย และผลลัพธ์ ด้วยประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 24 ปี ดูแลโดย คุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมันระดับเอเชียแปซิฟิก พร้อมกับทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมฝึกฝนเป็นอย่างดี มีความชำนาญในการรักษา ด้วยเครื่องมือทันสมัย สถานที่สะอาด มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ มาตรฐานโรงพยาบาล ปลอดเชื้อโรค มาตรฐานระดับสากล ด้วยราคาที่เหมาะสมและยุติธรรม
เราใช้เทคนิคดูดไขมันด้วย BodyTite Pro และ PAL เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพสูง แผลเล็ก เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย ฟื้นตัวไว อีกทั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้รับรองมาตรฐานสากล AACI จากสหรัฐอเมริกาว่าเป็น “ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก” มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
อ่านเพิ่มเติม :
ดูดไขมันอันตรายไหม ?
การดูดไขมันในปัจจุบันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารองรับการรักษา รวมถึงความสามารถของแพทย์ ซึ่งมีความปลอดภัยมากว่าหากเทียบกับการดูดไขมันแบบดั้งเดิม เราสามารถเลือกทำโดยใช้วิธีฉีดยาชาเฉพาะจุดหรือดมยาสลบได้ แต่อย่างไรก็ตามการดูดไขมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย จะต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมก่อนทุกครั้ง รวมถึงเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการมายาวนาน เป็นต้น
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราเลือกใช้เครื่องมือ-อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัยมาใช้ในการดูดไขมัน เช่น เครื่องดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีคลื่น RF ของ BodyTite Pro , เครื่องระบบสั่น PAL รวมถึงเครื่องมือกระชับผิวลดเซลลูไลท์ ลดบวมช้ำ ลดพังผืด ฯลฯ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันออกมาสวยงามและดีที่สุดแก่ลูกค้า รวมถึงทำการรักษาใน ห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ ที่ได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ฯลฯ
ดูดไขมันแบบฉีดยาชาเฉพาะจุด VS ดมยาสลบ ต่างกันอย่างไร ?
1. ดูดไขมันแบบฉีดยาชาเฉพาะจุด เหมาะกับบริเวณที่มีไขมันน้อยๆ หรือดูดเพียง 1-2 จุด เช่น ดูดไขมันน่อง หรือ ดูดไขมันต้นแขน ทั้ง 2 บริเวณนี้จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าส่วนอื่นๆ แพทย์จึงแนะนำใช้แค่ยาชาก็เพียงพอแล้ว
หลายคนมีความกังวลว่า ดูดไขมันใช้ยาชาเจ็บไหม?
ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Pure Tumescent” ที่มีส่วนผสมเข้มข้นของยาชา น้ำเกลือ และยาอื่นๆ ที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด ทำให้ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างดูดไขมันและหลังดูดไขมันได้นานต่อเนื่อง 8-10 ชั่วโมง
นอกจากนั้นเรายังมีอุปกรณ์ให้ยาชาสำหรับดูดไขมันโดยเฉพาะ เข็มให้ยาชามีขนาดเล็กมาก (เท่าเข็มฉีดยาแต่มีความยาวประมาณ 20 ซม.) สามารถส่งยาชาลงลึกถึงชั้นไขมันทุกส่วนได้อย่างทั่วถึง
คนไข้จะมีความรู้สึกตัวระหว่างดูดไขมัน อาจมีความรู้สึกเจ็บบ้างเป็นระยะๆ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้หรือมีเพียงเจ็บแปล๊บๆ เท่านั้น หลังดูดไขมันเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องนอนพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
รีวิวดูดไขมันด้วยการฉีดยาชาเฉพาะจุด
2. ดูดไขมันแบบดมยาสลบ ต้องมีวิสัญญีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
เหมาะกับคนที่ต้องการดูดไขมันหลายส่วนพร้อมกัน หรือดูดเพียง1 ส่วน แต่มีปริมาณไขมันเยอะ ซึ่งการดูดไขมันด้วยการดมยาสลบ จำเป็นต้องมีวิสัญญีแพทย์ (หมอดมยา) คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา ตั้งแต่ก่อนทำ-ระหว่างทำ-หลังทำ เพื่อความปลอดภัย
ยกตัวอย่างเช่น คนไข้รายนี้ทานยาบางชนิดจนเกิดเป็นไขมันสะสมบริเวณหลังคอ ส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตจนต้องหาทางรักษา คุณหมอหนึ่งจึงทำการ ดูดไขมันหนอกคอ (Buffalo hump Liposuction) ร่วมกับตัดก้อนไขมันออก โดยระหว่างการรักษามีหมอดมยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หลังทำเห็นได้ชัดว่าไขมันยุบหายไป คนไข้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
สิ่งสำคัญ : วิธีการให้ยาที่ถูกต้องจะต้องคำนวณตามน้ำหนักตัวของคนไข้ และทำโดยแพทย์หรือวิสัญญีแพทย์เท่านั้น เพราะการให้ยาชาคนไข้นั้นมีข้อกำจัดเช่นกัน ในเรื่องของ Over Dose หรือการได้รับยาชาในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้มีอาการเป็นพิษได้
อ่านเพิ่มเติม :
ดูดไขมันให้ปลอดภัยต้องทำอย่างไรบ้าง? ยาชา VS ดมยาสลบIหมอดมยา (หมอวิสัญญีแพทย์) สำคัญอย่างไรกับการดูดไขมัน?
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
- งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาตัวอื่นๆ เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนการดูดไขมัน
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ 2 อาทิตย์ เนื่องจากการสูบบุหรี่ทำให้แผลหายช้า และอาจจะเกิด complication หรือผลแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าปกติ
- ควรแจ้งให้แพทย์หากมีการแพ้ยาหรือใช้ยาชนิดใดอยู่ เนื่องจากยาบางชนิด หรือ อาหารเสริมบางชนิดทำให้เลือดออกง่าย เช่น น้ำมันปลา หรือน้ำมันตับปลา หรือวิตามินซี
- หากติดเชื้อ HIV และได้รับยาจน undetectable แล้วกรุณาสอบถามแพทย์โดยตรง
ขั้นตอนดูดไขมัน ด้วย BodyTite Pro ร่วมกับ PAL®
- ศัลยแพทย์วาดส่วนที่จะทำการดูดไขมันพร้อมใส่ยาชาใต้ผิวด้วยเทคนิค Pure Tumescent
- หลังยาชาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว แพทย์จะเริ่มใช้เครื่อง BodyTite Pro ละลายไขมันและกระชับผิวก่อน จากนั้นจะใช้ PAL® เครื่องระบบสั่น ดูดไขมันออก
- ในกรณีที่มีการดูดไขมัน sexy line , six pack , กล้ามแขน หรือ contouring ต่างๆ แพทย์จะเลือกใช้หัวดูดแบบพิเศษเพื่อดูดไขมันเฉพาะจุด จนเกิดเป็นรูปร่างที่สมส่วน ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ
- ทำ Fat Equalization เกลี่ยชั้นไขมันใต้ผิวให้เรียบเนียนเสมอกันอีกครั้ง และลดผลแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น การเกิดผิวไม่เรียบ ผิวบุ๋ม หรือผิวเป็นคลื่นหลังการดูดไขมันด้วย
- เย็บแผล และแปะแผ่นซึมซับพร้อมกับใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาเฉพาะทันทีหลังดูดไขมันเสร็จ เพื่อทำให้รูปร่าง-สัดส่วนกระชับและเข้าที่ได้เร็วขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
หลังการดูดไขมันเสร็จ พยาบาลจะทำการใส่ชุดกระชับทันทีซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก รวมถึงการดูแลหลังดูดไขมันเบื้องต้น เช่น งดการอาบน้ำ 1 วันหลังทำ, หลีกเลี่ยงการโดนแดด เพราะอาจจะทำให้แผลเกิดสีคล้ำ, สามารถออกกำลังกายได้หลังตัดไหม แผลแห้งสนิทแล้ว และงดทานของเค็ม งดสูบบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดองเพื่อให้แผลหายได้เร็วขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันที่อยากให้คำนึงถึงมากที่สุดคือ ..
1. การใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน
เนื่องจากผิวบริเวณที่ดูดไขมันออกจะเกิดช่องว่างและทำให้ผิวหนังยุบตัวลง ประโยชน์ของการใส่ชุดกระชับทันทีจะช่วยทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับเข้ารูปเร็วขึ้น ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ช่วยลดการบวมช้ำ รวมถึงป้องกันเกิดก้อนไตแข็งๆ ที่เรียกว่าซีโรม่า (Seroma) ได้
- ชุดกระชับหลังดูดไขมันใส่นานแค่ไหน? ใส่ชุดกระชับเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ใน 3 วันแรกหลังการดูดไขมัน หลังจากนั้นใส่เพียงวันละ 12 ชั่วโมง (เลือกช่วงเวลาเช้าหรือเย็นก็ได้) เป็นเวลาอีก 1 เดือน
- ดูดไขมันแต่ไม่ใส่ชุกระชับ จะเป็นอย่างไร? สิ่งสำคัญคือต้องใส่ชุดกระชับแขนที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมันเท่านั้น เพราะมีผลต่อผลลัพธ์หลังทำ หากใส่ชุดกระชับแบบที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด อาจทำให้ผิวบริเวณที่ดูดไขมันเป็นริ้วคลื่นที่เกิดจากการรัดของผ้าที่ไม่ได้มาตรฐานได้
วิธีเลือกชุดกระชับหลังดูดไขมันต้นขา
2. นวด RF หลังดูดไขมัน
การใส่ชุดกระชับร่วมกับการนวดจะช่วยให้ก้อนซีโรม่าสลายได้เร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นการดูดซึมและการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย ซึ่งดีกว่ากว่ารอให้สลายไปเองตามธรรมชาติที่ใช้เวลานานหลายเดือน
- นวดสลายไขมันที่ไหนดี? แนะนำให้หมั่นนวดบริเวณที่ดูดไขมันอย่างสม่ำเสมอเข้ามานวดที่คลินิกได้ในทุกสัปดาห์ ตามระยะเวลาการรักษาที่กำหนดไว้ หรือนวดด้วยตัวเองที่บ้านที่บ้าน เพียงวันละ 10-15 นาที
- ดูดไขมันกี่เดือนเห็นผล หลังดูดไขมันเสร็จจะเห็นความแตกต่างได้ทันที และรูปร่างจะค่อยๆ เฟิร์มกระชับเข้าที่มากขึ้นหลังดูดไขมันไปแล้วประมาณ 1 เดือน – 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน)
ดูดไขมันทั้งตัว ที่ไหนดี ?
ดูดไขมันเหมาทั้งตัว (All Body Liposuction) เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปร่างหลายจุดพร้อมกันในเวลาเร่งด่วน แต่จะต้องให้แพทย์ทำการพิจารณาก่อนว่าสามารถทำได้พร้อมกันในครั้งเดียวหรือไม่? เพราะการดูดไขมันทั้งตัวจะต้องใช้วิธีดมยาสลบ ซึ่งต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีข้อจำกัดปริมาณไขมันที่ดูดออกได้ในแต่ละครั้ง เพื่อความปลอดภัยของคนไข้อีกด้วย
- ดูดไขมันจะมีปริมาณที่จำกัด ต่อครั้ง ห้ามเกิน 3.5 – 5 ลิตร เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายต่อคนไข้
- ดูดไขมันทั้งตัวภายในครั้งเดียวอาจทำให้เสียเลือดมากเกินไป หรืออาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
- การดูดไขมันทั้งตัวภายในครั้งเดียวจะต้องให้ยาชาในปริมาณมาก ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยง ยาชาเป็นพิษได้ เป็นต้น
- ดูดไขมันเหมาทั้งตัวราคา สูงกว่าดูดที่ละส่วน และร่างกายอาจต้องพักฟื้นนานกว่า
อยากดูดไขมันทั้งตัว แต่ไม่อยากดมยาสลบ ทำได้ไหม?
คนที่อยากดูดไขมัน อยากลดสัดส่วนทั้งตัวแต่ไม่อยากดมยาสลบ เพราะแพ้ยาสลบหรือมีความกังวลต่างๆ สามารถใช้ยาชาเฉพาะจุดได้ค่ะ ซึ่งคุณหมอหนึ่งจะแนะนำให้แบ่งตำแหน่งดูดไขมันออกตามชุดกระชับ เช่น ชุดกระชับหน้าท้อง สามารถดูดไขมันหน้าท้อง+เอว+หลัง+สร้างร่อง11 หรือสร้างซิกแพค , ชุดกระชับต้นขา ดูดไขมันเหมารอบขา+สะโพก+น่อง+ข้อเท้า , ชุดกระชับต้นแขน ดูดไขมันต้นแขน+หลังส่วนบน+นมน้อย
อ่านเพิ่มเติม :
ดูดไขมันทั้งตัวในครั้งเดียว อันตรายไหม?คำแนะนำ “ดูดไขมันทั้งตัวได้ไหม?” จากคุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ อาจารย์สอนแพทย์ดูดไขมัน
ดูดไขมันราคาเท่าไหร่ ?
ราคาดูดไขมัน แต่ละคลินิกที่ให้บริการก็จะมีที่แตกต่างกัน ไล่ไปตั้งแต่หลักพัน-หลักหมื่น-หลักหลักแสน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ราคาดูดไขมันขึ้นอยู่ จุดที่ต้องการดูดไขมัน ต้องการลดสัดส่วนบริเวณไหนบ้าง ซึ่งราคาก็สูงตามความต้องการ
- คลินิกนั้นๆ คิดราคาดูดไขมันแบบเหมาส่วนหรือแบบนับจุด เพราะราคาจะแตกต่าง
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ คิดราคาดูดไขมันแบบเหมาส่วน ดูดออกให้เท่ากันทั้ง 2 ข้าง โดยแจ้งราคาชัดเจนก่อนทำและไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง จึงทำให้งบไม่บานปลาย แต่การที่เลือกจากราคาดูดไขมันเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถเป็นตัวการันตีได้ว่า ผลลัพธ์หลังทำจะออกมาดีเสมอไป เพราะยังมีสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงมากกว่าราคา
เช่น ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์, สถานที่ให้บริการถูกต้องตามสุขลักษณะหรือไม่ เช่น มีห้องผ่าตัดมาตรฐาน ถูกต้องตามกฏของกระทรวงสาธารณสุขหรือเปล่า , อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้สะอาด ปลอดภัย ปลอดเชื้อหรือไม่ เป็นต้น ส่วนเรื่อง ดูดไขมันราคาเท่าไหร่? นั้นให้เป็นเรื่องรองเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่าดูที่ราคาดูดไขมันเพียงอย่างเดียว
อ่านเพิ่มเติม :
ดูดไขมันแต่ละส่วน ราคาเท่าไหร่ ?ราคาดูดไขมันร่อง 11 สร้างเซ็กซี่ไลน์หน้าท้องผู้หญิง ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เริ่มต้นที่ 49,000 บาท โดยแพทย์ใช้อุปกรณ์พิเศษดูดไขมันสร้างร่อง 11 และมีเทคนิคซ่อนแผล แผลเล็กมากเพียง 3 จุด
ดูดไขมันผู้ชาย ทำได้หรือไม่ ?
การดูดไขมันไม่ได้นิยมในผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็สามารถดูดไขมัน ปรับรูปร่าง กระชับสัดส่วนได้เหมือนกัน จุดที่นิยมคือ ดูดไขมันเอว หน้าท้อง ดูดไขมันสร้างซิกแพค รวมถึงดูดไขมันหน้าอก เพื่อรักษาภาวะเต้านมโตในผู้ชาย (Gynecomastia)
1. ดูดไขมันซิกแพค (Six Pack Liposuction)
การดูดไขมันซิกแพค มีความซับซ้อนมากกว่าการดูดไขมันส่วนอื่นและทำได้ยากที่สุด เพราะต้องมีการออกแบบและสร้างไลน์กล้ามหน้าท้อง สร้างมิติ (แสงและเงา) ให้ดูเป็นธรรมชาติ การที่ทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง เข้าใจสรีระคนไข้ จะทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากที่สุด
คุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ อาจารย์สอนแพทย์ดูดไขมัน มีเทคนิคในการออกแบบซิกแพคตามไลน์กล้ามเนื้อจริงเฉพาะบุคคลให้เหมาะสมกับรูปร่าง สมส่วน มีทั้งแบบซอฟท์ลุค (Soft Look) และสปอร์ตลุค (Sport Look) และนำเข้าอุปกรณ์พิเศษที่ออกแบบเพื่อดูดไขมันสร้างซิกแพคโดยเฉพาะ เรียกว่า Hi-Def Six Pack Liposuction ที่มีคุณสมบัติแตกต่างจากอุปกรณ์อื่นๆ เช่น
- หัวดูดไขมันเป็นแบบโค้ง ไม่ต้องเจาะรูหน้าท้องมากเกินความจำเป็น
- ดูดไขมันส่วนที่เข้าถึงยากได้ง่ายกว่าวิธีอื่น
- หลังทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก บวมช้ำน้อย
- เทคนิคซ่อนแผล แผลต่ำ สามารถโชว์กล้ามโดยไร้แผลเป็นหน้าท้องได้อย่างมั่นใจ
- รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้นำเข้าอุปกรณ์สร้าง Six Pack ที่แรกและที่เดียวในไทย
รีวิวดูดไขมันซิกแพคผู้ชาย :
เทคนิคดูดไขมันซิกแพค ปี 2023 แบบไร้แผลเป็นหน้าท้อง ทำได้อย่างไร?
ดูดไขมันซิกแพค ราคาเท่าไหร่? และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
2. ดูดไขมันหน้าอกผู้ชาย (Breast Liposuction)
ดูดไขมันหน้าอกผู้ชาย เป็นวิธีลดไขมันหน้าอกผู้ชาย ที่ช่วยแก้ปัญหานมแหลมทะลุเสื้อ นมแหลมเหมือนผู้หญิง ทำให้หน้าอกกลับมาเรียบปกติได้
แต่บางครั้งนมแหลมอาจเกิดจากการมีเนื้อเยื่อเต้านมโตร่วมด้วย ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย – Gynecomastia (ไกเนโคมาสเตีย) ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเนื้อเยื่อเต้านมออก ผ่านแผลเล็กๆ บริเวณปานนม ไม่ต้องพักฟื้นนาน เพื่อไม่ให้หัวนมพุ่งออกมา หัวนมแบนราบ ใส่เสื้อยืดได้อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม :
ภาวะนมแหลมในผู้ชาย ออกกำลังกายจะหายไหม?รักษา Gynecomastia แก้ปัญหาผู้ชายนมแหลม หน้าอกโต ลดเองไม่ได้
3. ดูดไขมันเอว (Waist Liposuction)
ดูดไขมันเอวนิยมทำในกลุ่มผู้ชายที่มีห่วงยางรอบเอว (Love handles) เพราะช่วยลดไขมันส่วนเกิน ทำให้มีเอวเอส เอวคอด โชว์รูปร่างได้อย่างมั่นใจ หรือเหมาะกับคนที่มีรูปร่างทรงตรง ไม่มีเอว เอวตัน หรือเอวหนา ดูดไขมันเอวจะช่วยให้มีเอวในเวลาเร่งด่วน
อ่านเพิ่มเติม :
ดูดไขมันเอว ด้วยเทคนิค BodyTite Pro + PALดูดไขมันทิ้ง VS ดูดไขมันเติม ต่างกันอย่างไร?
ดูดไขมันทิ้ง จุดประสงค์คือดูดไขมันออกเพื่อลดสัดส่วน ให้ได้หุ่นที่สวยงาม แพทย์จะเลือกใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน เช่น BodyTite Pro, Vaser หรือเครื่องระบบสั่น PAL สลายไขมัน กระชับผิว และดูดไขมันออกให้ได้ปริมาณมากที่สุด และการดูดทิ้งเซลล์ไขมันไม่สามารถนำมาใช้ต่อได้เพราะถูกความร้อนสลายและไม่ได้คุณภาพที่ดีพอ
ดูดไขมันเติม ก็คือการดูดไขมันเพื่อมาเติมใหม่ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย วิธีนี้แพทย์จะเลือกใช้เครื่องระบบสั่นอย่าง PAL ในการ ดูดไขมันหน้าท้อง (Belly Liposuction) และ ดูดไขมันต้นขา (Legs and Thighs Liposuction) ออกมาแทนการใช้เครื่องที่มีความร้อน ซึ่งมีข้อดีคือ ระบบสั่นจะช่วยถนอมไขมันที่ดูดออกมาได้ดี เซลล์ไขมันมีชีวิต นำกลับมาเติมเต็มส่วนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไขมันที่ดูดออกไปแล้วสามารถนำกลับมาเติมส่วนไหนได้บ้าง? เช่น เติมไขมันหน้าด้วยไขมันตัวเอง (Fat Grafting) ให้ผลลัพธ์สวยงามเป็นธรรมชาติ ลดอายุผิว ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งช่วยเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน และคุ้มค่ากว่าการฉีดฟิลเลอร์ หากใช้ในปริมาณมาก ฯลฯ
ทำไมต้องดูดไขมัน ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
- รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการศัลยกรรมด้านการ ดูดไขมัน ในประเทศไทย มานานกว่า 24 ปี
- ดูแลศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เรื่องการปรับรูปร่าง อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน ศัลยแพทย์เฉพาะทาง วิสัญญีแพทย์ รวมถึงพยาบาลและเจ้าหน้าที่มืออาชีพ
- ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากต่างประเทศเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
- Body Contouring เชี่ยวชาญด้านการออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล
- Pure Tumescent เทคนิคการให้ยาชาเฉพาะที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
- Fat Equalization เทคนิคการเกลี่ยชั้นไขมัน ทำให้ผิวเรียบ ไม่เป็นคลื่น
- Certified Operating Room รับรองมาตรฐานห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ จากกระทรวงสาธารณสุข
- AACI ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ในด้านความปลอดภัยและการบริการ แห่งแรกในเอเชีย
- พร้อมให้คำปรึกษาลูกค้า โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ติดตามผลหลังการรักษาทุกเคส
- สถานที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ได้มาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมด้วยใบรับรอง THAI STOP COVID+ คลินิคปลอดเชื้อ จากกรมอนามัย
- มีบริการลดไขมัน สลายไขมันหลายจุด ราคาศัลยกรรมชัดเจน มีให้เลือกทั้งแบบนับจุด และราคาเหมาส่วน ไม่ชาร์จเพิ่มภายหลัง
- เดินทางสะดวกสบาย คลินิกอยู่ใกล้ BTS, MRT รถประจำทาง อาคารมีที่จอดรถให้ลูกค้า
รีวิวดูดไขมัน 2024 ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สรุป ข้อดีและข้อเสียของการดูดไขมัน
ดูดไขมันช่วยเรื่องอะไรบ้าง? หลักๆ เลยก็คือลดไขมันและกระชับสัดส่วน ทำให้รูปร่างสมส่วน สร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพ และรักษาโรคบางชนิดได้ รวมถึงแทบจะไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แผลเล็ก และเจ็บน้อย ด้วยความที่มีเครื่องมือ-เทคโนโลยีที่พร้อมและครบครัน ฯลฯ
ดูดไขมันมีผลเสียอะไรบ้าง? เช่น อาจมีรอยแผลเป็นหลังดูดไขมัน , อาการบวมช้ำ-ฟกช้ำหลังทำ, ผิวไม่เรียบ ผิวเป็นคลื่น, เกิดพังผืด-ผิวไหม้หลังดูดไขมันจากการที่แพทย์ใช้ความร้อนสูงเกินไป ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยเลือกคลินิกหรือสถานที่ให้บริการที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองต่างๆ อย่างถูกต้อง รวมถึงแพทย์ที่รักษาต้องมีความชำนาญและประสบการณ์สูง
อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน ในไทยและเอเชียแปซิฟิค
เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันมากว่า 24 ปี