เมื่ออายุมากขึ้น.. ร่างกายก็เสื่อมลงตามกาลเวลา ทั้งภายในและภายนอก ที่เห็นได้ชัดก็คือสภาพผิวที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น สีผิวเข้มขึ้น มีกระ ฝ้า ผิวเหี่ยวย่น รวมถึงใบหน้าที่มีริ้วรอย หย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ไม่เต่งตึงเหมือนเดิม เนื่องจากไขมัน กล้ามเนื้อ กระดูก คอลลาเจนนั้นเริ่มสลายและลดน้อยลงตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูตอบ ตาตก คิ้วตก แก้มห้อย ดูไม่สดใส ซึ่งสามารถมองเห็นจากภายนอกได้ชัดเจน ส่วนใหญ่จะพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
ร่างกายภายในที่เสื่อมลงตามธรรมชาตินั้น เราสามารถเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงได้ แต่ใบหน้าที่เหี่ยวย่นนั้นจะแก้อย่างไรให้กลับมาสวยใส เต่งตึง และดูอ่อนวัยแบบธรรมชาติ? การยกกระชับใบด้วยด้วยวิธี ศัลยกรรมดึงหน้า หรือ Face Lift จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยในการชะลอวัยอีกทางหนึ่ง
ศัลยกรรมดึงหน้า (Face lift) คืออะไร?
ศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) หรือที่เรียกกันว่าศัลยกรรมหน้าเด็ก คือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยบนใบหน้าตั้งแต่ชั้นภายนอกถึงชั้นภายใน โดยการยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนัง (SMAS) ที่มีความหย่อนคล้อยให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และตัดผิวหนังส่วนเกิน แก้ปัญหาผิวหนังชั้นตื้นที่ทำให้เกิดริ้วรอยหรือความหย่อนยาน ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน ดูอ่อยเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง
ศัลยกรรมดึงหน้า : โกงอายุหน้าเด็ก จบปัญหาผิวที่เกิดจากวัย แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่แก้ได้ยาก และย้อนเวลาผิว คืนความอ่อนเยาว์ของใบหน้าได้อีกครั้ง
ทำไมต้องยกกระชับถึงชั้น SMAS ?
SMAS ย่อมาจาก Superficial Musculo Aponeurotic system คือเนื้อเยื่อที่ยึดประสานระหว่างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ บนใบหน้า สาเหตุที่คนเราใบหน้าหย่อนคล้อยก็เกิดการเนื้อเยื่อชั้น SMAS เกิดความหย่อนและยืดออกตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นการผ่าตัดดึงหน้า มีจุดประสงค์หลักคือ การเข้าไปยกกระชับเนื้อเยื่อชั้น SMAS ให้กระชับ เต่งตึง ซึ่งหากเราแก้ไขปัญหาได้ถูกจุดก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ใบหน้ายกกระชับได้นานขึ้น
หากไม่ยกกระชับชั้น SMAS แล้วผ่าตัดดึงหน้าชั้นตื้นเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่?
การผ่าตัดดึงหน้า แบบวิธีดั้งเดิม (Traditional Face Lift) จะช่วยแก้ปัญหาได้เพียงผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น แต่ถ้าหากคนไข้มีปัญหาความหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อภายในชั้นผิว การผ่าตัดดึงหน้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ถูกจุด อีกทั้งมีโอกาสที่แผลเป็นแย่ลง เพราะผิวชั้นในยังหย่อนคล้อยอยู่ อาจรั้งผิวหนังชั้นนอกให้ย้อยลงได้ เพราะฉะนั้นการดึงหน้าในชั้น SMAS (SMAS Manipulation) ย่อมดีกว่าการผ่าตัดดึงหน้าที่ตัดเฉพาะผิวหนังเพียงอย่างเดียว
ใจความสำคัญของการดึงหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ การดึงลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับทุกชั้นผิว
เพราะปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า ไม่ได้เกิดจากผิวหนังชั้นตื้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากผิวหนังชั้นในด้วย ตั้งแต่เนื้อเยื่อ-กล้ามเนื้อทุกส่วนที่ผสานกันที่ทำให้เกิดความหย่อยคล้อย ต้องดึงเพื่อทำให้ผิวกระชับและกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม การตัดผิวหนังหรือไขมันชั้นตื้นเพียงอย่างเดียว เลยอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้โดยตรงหรือตรงจุด
ศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) แบ่งออกเป็นกี่ส่วน
การผ่าตัดดึงหน้า แพทย์จะพิจารณาใบหน้าแบ่งออกเป็น 5 ส่วน แยกรักษาตามปัญหาของคนไข้หรือสามารถทำพร้อมกันทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Full Face Lift ก็ได้
- Forehead (หน้าผาก) แก้ปัญหารอยย่นหรือรอยยักหน้าผาก คิ้วตก มีร่องขมวดคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น ดูกังวล เศร้า ง่วง โดยยกกระชับส่วนของหน้าผากให้ตึง ยกคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
- Upper Face (ใบหน้าส่วนบน) แก้ปัญหาบริเวณขมับ-หางคิ้ว รอยตีนกา หางคิ้วตก ที่ทำให้ตาเศร้า หรือที่หลายคนเรียกว่า Foxy Eyes
- Middle Face (ใบหน้าส่วนกลาง) แก้ปัญหาบริเวณหางคิ้ว-มุมปาก มีไขมันแก้มส่วนกลางหย่อยคล้อยลงถึงมุมปาก มุมปากตก และมีร่องข้างจมูก ซึ่งความหย่อนคล้อยส่วนนี้จะเห็นชัดที่สุด และสอดคล้องกับใบหน้าส่วนล่างที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน
- Lower Face (ใบหน้าส่วนล่าง) แก้ปัญหาบริเวณมุมปาก-คาง คางตก มุมปากตกแก้มหย่อยคล้อย หรือ แก้มล่างตุ่ย (Fat Check) ทำให้คางดูไม่ชัด กรอบหน้าไม่ชัด
- Neck Lift (ลำคอ) ผิวที่คอหย่อน ไม่กระชับ มีริ้วรอย มีไขมันเหนียง (Turkey Neck)
ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย จุดไหนได้บ้าง
วิธีดึงหน้า (Face Lift) มีกี่แบบ?
ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เรามีเทคนิคที่เรียกว่า Natural Lift สวยในแบบคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่าตัดดึงหน้าโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และความชำนาญ เข้าใจปัญหาของคนไข้และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โดยวิธีดึงหน้าที่ใช้หลักๆ มีด้วยกัน 3 แบบ
- วิธีดึงหน้า แบบ Traditional Face Lift คือการดึงหน้าด้วยวิธีดั้งเดิม คือการเปิดแผลรอบใบหน้า ตัดผิวหนังส่วนเกินและทำการยกกระชับให้ตึง ซึ่งให้ผลลพธ์ที่ดีและชัดเจนที่สุดในการแก้ไขปัญหาผิวหนังชั้นตื้นที่มีความหย่อนคล้อย ที่มองเห็นได้จากภายนอก โดยมีการลงแผลบริเวณหน้าหู-หลังหู ในไรผม-หน้าไรผม
- วิธีดึงหน้า แบบ ผ่าตัดผ่านกล้อง (Endoscopic Face Lift ) แผลเล็ก ซ่อนแผล บวมช้ำน้อย และฟื้นตัวไว สามารถยกกระชับผิวหนังชั้นลึกได้ดี เหมาะกับการผ่าตัดที่ไม่ต้องตัดผิวหนังส่วนเกินออกเยอะ แต่ต้องการยกกระชับจากผิวหนังชั้นในส่วนลึกเท่านั้น
- วิธีดึงหน้า โดยใช้ Endotine เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการดึงหน้าในส่วนของผิวชั้นลึก (SMAS) แทนการใช้ไหม ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และอยู่ได้นานกว่า มีความปลอดภัยสูง
การเลือกใช้เทคนิคนั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ว่าต้องการแก้ไขปัญหาตรงจุดใด เช่น ต้องการซ่อนแผลไหม? หากไม่อยากมีแผลเป็นแพทย์ก็จะเลือกใช้กล้องเข้ามาช่วย แต่ต้องบอกว่าการส่องกล้องจะช่วยแก้ไขได้บางส่วน และการดึงหน้าแบบวิธีดั้งเดิมก็ยังจำเป็นในการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าบางส่วนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแพทย์จะแนะนำให้ใช้หลายเทคนิคร่วมกัน เช่น ผ่าตัดดึงหน้าร่วม+เอ็นโดไทน์ หรือ ผ่าตัดส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงทุกจุด ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ใบหน้าเต่งตึง ย้อนวัยสาวได้นาน 5-10 ปี *ขึ้นอยู่กับการดูและและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
เรื่องน่ารูเกี่ยวกับ ศัลยกรรมดึงหน้า
ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง
- เกิดแผลผ่าตัดขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม.จำนวน 3-5 จุด บนหนังศีรษะ (ไม่จำเป็นต้องโกนผม) และใช้กล้องขนาดเล็กเท่าปากกา สอดเข้าไปเพื่อทำการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อ และรอยเหี่ยวย่นที่อยู่ใต้ผิวหนัง จึงไม่จำเป็นต้องตัดผิวหนังออกแต่อย่างใด
- ผ่าตัดผ่านจอ Monitor ทำให้สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาทได้เป็นอย่างชัดเจน
- ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง จึงลดการเสียเลือด หรือการบาดเจ็บต่อเส้นประสาท ใช้ระยะในการพักฟื้นไม่นาน ไม่ทำให้หน้าผากกว้างเหมือนการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม
Endotine (เอ็นโดไทน์) คืออะไร? และ มีข้อดีอย่างไร?
Endotine (เอ็นโดไทน์) เป็นวัสดุเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดึงหน้า มีลักษณะเป็นแท่ง เนื้อบางใส มีความยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะเนื้อเยื่อผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ
เอ็นโดไทน์สามารถลงลึกถึงจุดที่เข้าถึงได้ยาก เช่น บริเวณกลางใบหน้า ที่การดึงหน้าด้วยวิธีธรรมดาไม่สามารถทำได้ และช่วยยืดอายุของใบหน้า ทำให้ยกกระชับได้นานกว่า รวมถึงเอ็นโดไทน์มีความแข็งแรงกว่าไหมธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้เอ็นโดไทน์ (Endotine) ยังสามารถปรับทิศทางการดึงของผิวหนังชั้นนั้นๆ ได้ดีทำให้ชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมันกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
แต่อย่างไรก็ตามจะต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ด้วยว่าต้องการใช้ endotine ด้วยหรือไม่ หรือหากใช้แล้วจะช่วยยกกระชับได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะบางรายก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เช่น ความหย่อนคล้อยไม่ได้อยู่ในส่วนที่ไกลมาก ใช้เพียงแค่การดึงหน้าแบบเดิมแล้วช่วยแก้ปัญหาได้ endotine ก็ไม่จำเป็น
อ่านเพิ่มเติม :Endotine เทคโนโลยี ยกกระชับใบหน้า แผลเล็ก
ผ่าตัดดึงหน้า ร่วมกับ ดูดไขมัน ได้ไหม?
การผ่าตัดดึงหน้า หรือการดึงหน้าลดอายุ ในกรณีที่คนไข้มีไขมันบนใบหน้าเยอะ เช่น ไขมันแก้ม, ไขมันเหนียง และต้องการเอาออก ก็สามารถทำร่วมกับการดึงหน้าได้ เพื่อทำให้หน้าเรียว โครงหน้าชัดได้ และข้อดีของการดูดไขมันร่วมด้วยคือสามรถดูดไขมันออกได้ในส่วนที่ไม่สามารถเข้าไปตัดออกได้โดยตรง
อ่านเพิ่มเติม : เทคนิค NeckTite ดูดไขมันเหนียง พร้อมกระชับผิว
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า - Face Lift
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ดึงหน้าลดอายุ ส่วน Forehead (หน้าผาก) โดยการส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ซ่อนแผลในศีรษะ แก้ปัญหาร่องขมวดคิ้ว ยกระดับคิ้ว หน้าผากตึงกระชับ
คำแนะนำโดยแพทย์ :
การผ่าตัดดึงหน้า
ส่วน Forehead (หน้าผาก)
แพทย์จะแนะนำผ่าตัดแบบส่องกล้อง ร่วมกับการใช้เอ็นโดไทน์ (Endotine) เพราะบริเวณหัวคิ้ว-ส่วนกลางของใบหน้าจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่มาก
การใช้กล้องสามารถช่วยให้มองเห็นและเลี่ยงการโดนเส้นประสาทและเส้นเลือดบริเวณนั้น ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจกิดขึ้นได้ อีกทั้งการใช้เอ็นโดไทน์จะช่วยให้ยกกระชับได้นานกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการดึงแบบธรรมดา
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ผ่าตัดดึงหน้าส่วน Middle+Lower face lift ร่วมกับการใช้ Endotine มีแก้มหย่อนคล้อย ร่องข้างจมูก มุมปากตก ลำคอส่วนบนหย่อนคล้อย และมีรอยแผลอยู่บริเวณไรผม หน้าหูไปจนถึงหลังหู แต่แทบมองไม่เห็นแผลเป็นบนใบหน้าเลย
ศัลยกรรมดึงหน้า ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ดีอย่างไร ?
- ออกแบบความสวยเฉพาะคุณ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์
- พร้อมด้วยทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ ตามมาตรฐานความปลอดภัย
- มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
- สามารถผ่าตัดได้ทุกวิธี
- ใช้อุปกรณ์พิเศษ Endotine ให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
- เทคนิคส่องกล้อง ซ่อนแผล (Scarless) หายไว ฟื้นตัวเร็ว
- มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ รับรองโดยกระทางสาธารณสุข (Operating Room)
- ปลอดเชื้อ COVID-19 ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย จากกรมอนามัย และ THAISTOPCOVID+
- ได้รับคุณภาพบริการมาตรฐานสากล AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้าน “Ambulatory Plastic Surgical Center” ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก
FAQ คำถามที่พบบ่อย ศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift)
ศัลยกรรมดึงหน้า จะขึ้นอยู่กับเทคนิคหรือวิธีผ่าตัดที่เลือกใช้ หรือหากทำรายการอื่นร่วมด้วย เช่น ดูดไขมัน, เติมไขมันหน้า ฯลฯ เวลาการผ่าตัดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แต่ส่วนมากจะใช้เวลาในการผ่าตัดด้วยการดมยาไม่เกิน 6-8 ชั่วโมง
ผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้การดมยาสลบร่วมด้วย หลังการผ่าตัดอาจจะมีอาการบวม เขียว ฟกช้ำเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำการรักษาประมาณ 2 อาทิตย์ และจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะประมาณ 1 เดือน
ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี? นั้นขึ้นอยู่กับการรักษาว่า ผ่าตัดดึงหน้าด้วยเทคนิคใด หากทำการผ่าตัดด้วยวิธีใด เช่น การผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม+เอ็นโดไทน์ , การผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ผลลัพธ์จะทำให้ใบหน้าเต่งตึง ยกกระชับได้ตั้งแต่ภายในและภายนอก ลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย หน้าเด็กลง และอยู่ได้นาน 5-10 ปี หรืออาจจะ 20 ปี นั้นขึ้นอยู่กับการดูแล สภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย
- อาการบวมช้ำหลังผ่าตัด ประมาณ 2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้น หน้าสวยเข้ารูปหลัง 1 เดือนเป็นต้นไป
- อาการชาบริเวณที่ทำการผ่าตัด แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ข้อเสียของการดึงหน้า หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
- อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้
- ได้ผลลัพธ์ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะทำการรักษาผิดจุด หรือผิดวิธี
- อาจเกิด Widening Scar หรือแผลเป็นกว้าง แผลรั้งได้ เพราะ ผ่าตัดดึงหน้าตึงจนเกินไป โดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญมากพอ
- ผ่าตัดดึงหน้าผิดชั้น อาจทำให้ใบหน้าห้อย หน้าเบี้ยว หรือหน้าผิดรูปได้ เพราะแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ความชำนาญที่สูงพอ และไม่เข้าใจ Anotomy บริเวณใบหน้าดีพอ
- กรณีต้องใช้การดมยา ต้องทำโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิต
ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้าในสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน
- เสี่ยงเกิดแผลติดเชื้อ เพราะสถานที่ไม่สะอาด
- ไม่มีห้องผ่าตัดที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างถูกต้อง
Endotite เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมในการผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ซึ่งการใช้ Endotite จะช่วยเข้าไปแก้ปัญหาในส่วนของผิวหนังชั้นลึก และสามารถมองเห็นผิวหนังชั้น smas โดยตรง แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด แก้ไขปัญหาผิวหนังได้ถูกชั้นกว่า ต่างกับการร้อยไหม ที่เราไม่สามารถเห็นได้ว่าร้อยไหมยังผิวชั้นไหน
แพทย์จะดูปัญหาบนใบหน้าของคนไข้มากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่อายุเป็นปัจจัยหนี่งที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยบนใบหน้า เช่น คิ้วเริ่มตก ใบหน้าหรือแก้มเริ่มย้อย มีริ้วรอย ที่เห็นได้ชัดกว่าในคนอายุน้อย
ในปัจจุบันก็มีคนอายุน้อย เช่น 30+ หันมามสนใจการดึงหน้ากันมากขึ้น เช่น การดึงหางตา หางคิ้ว แก้คิ้วตก ฯลฯ โดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ที่แผลเป็นเล็ก แผลน้อย หรือซ่อนแผลได้
- คนที่ใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเยอะ ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า ให้กลับมาดูเต่งตึง และอ่อนกว่าวัย
- คนที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วน แก้ไขใบหน้าที่ผิดรูปให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ก่อนตัดสินใจทำ ดึงหน้าที่ไหนดี? ต้องศึกษาข้อมูลให้มากๆ เพราะศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดใหญ่ จะต้องทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญมากพอ และต้องทำการดมยา ซึ่งจะต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดกรรักษา รวมถึงสถานที่ต้องได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด ลดความเสี่ยงต่างๆ และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม อย่าดูเพียงแค่ ดึงหน้าราคาถูก โปรโมชั่น เพียงอย่างเดียว!
สรุป
ในปัจจุบันการผ่าตัดดึงหน้า นอกจากจะนิยมในคนอายุ 40-50 ปีขึ้นไปแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมมากในหมู่คนอายุน้อย (30+) อีกด้วย เพราะช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า ที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้นานกว่าวิธีอื่นๆ
ถึงแม้ผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง ดูอ่อนกว่าวัย แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนคิดที่จะทำ ศัลยกรรมดึงหน้า หรือการผ่าตัดใดๆ จะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกปรึกษาและทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญรวมถึงมาตรฐานต่างๆ มีความน่าเชื่อถือ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ และให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามแบบที่หวังไว้
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์