Radiesse คือ สารช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวและอีลาสติน

โปรแกรม Radiesse กระตุ้นคอลลาเจนผิวหน้า อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว

สารบัญ

คุณหมอสรุปให้ Radiesses คืออะไร? ทำที่รัตตินันท์ ดีอย่างไร?

  • Radiesse คือ สารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน โดยมีส่วนประกอบของ (CaHA) หรือ แคลเซียมไฮดรอกซีลาพาไทต์ 
  • ผลลัพธ์ของการฉีด Radiesse คือ ช่วยทั้งเติมเต็มและฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้ผิวแน่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว
  • ฉีด Radiesse ที่รัตตินันท์ คลินิก เราพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผิวหน้าของผู้เข้ารับบริการทุกเคส หากยังไม่แน่ใจว่าตนเองนั้นเหมาะกับการฉีด หรือทำหัตถการประเภทใดสามารถติดต่อปรึกษาก่อนได้ค่ะ

Radiesses คืออะไร

หากพูดถึงการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าและลำคอ หลายท่านอาจสงสัยว่ามีฟิลเลอร์ หรือ หัตถการใดบ้าง? ที่สามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาในส่วนนี้เราจึงขอแนะนำ Radiesses อีกหนึ่งฟิลเลอร์สำคัญช่วยแก้ไขได้ตรงจุดและเห็นผลในระยะยาว

Radiesses (อ่านว่า เร – เดียสซ์) คือ ฟิลเลอร์ชนิดหนึ่งมีจุดเด่นแตกต่างจากฟิลเลอร์แบบทั่วไป (เช่น Hyaluronic Acid หรือ HA) เพราะ Radiesse ไม่ได้แค่เติมเต็มผิวให้เรียบตึงในทันที แต่ยังเข้าไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในบริเวณที่ฉีดอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดการปัญหาผิวที่มีความหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย

หากคุณมีปัญหาผิวหน้า เช่น หน้าตอบ ผิวแห้งกร้านขาดน้ำ มีริ้วรอยร่องลึกและผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง Radiesses ถือว่าอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะเป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด ช่วยเติมวอลุ่มให้ผิว และเห็นผลยาวนานด้วยองค์ประกอบจาก CaHA ทำให้ฟื้นฟูและชะลอวัย

ทำความรู้จัก องค์ประกอบของตัวยา Radiesses

Radiesses คือสารเติมเต็มผิวหนัง (Dermal Filler) ที่มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะนอกจากช่วยเติมเต็มร่องลึกได้ทันทีแล้ว ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวได้อีกด้วย

องค์ประกอบหลักของ Radiesses คือ สารแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite: CaHA) ในรูปแบบไมโครสเฟียร์ขนาด 25–45 ไมครอน ซึ่งคิดเป็น 30% ของปริมาณทั้งหมด CaHA เป็นสารประกอบของแคลเซียมและฟอสเฟตที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในกระดูกและฟัน ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับใต้ผิวหนังและช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่

อีก 70% ของ Radiesses คือ สารเนื้อเจล Sodium Carboxymethylcellulose ที่ช่วยพาอนุภาค CaHA กระจายตัวได้อย่างเหมาะสมและช่วยให้เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด

radiesse

Radiesses ใช้สาร CaHA ที่ผลิตจากกระบวนการสังเคราะห์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัยสูง สามารถเข้ากันได้กับร่างกาย (Biocompatible) โดยไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน (Non-immunogenic) และสามารถสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกายตามธรรมชาติ (Homeostatic Mechanism) 

นอกจากใช้เป็นฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณร่องลึก เช่น ร่องแก้มและมุมปากแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อยกกระชับผิวบริเวณใบหน้าส่วนล่างที่หย่อนคล้อย หรือเป็น Biostimulator เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้า คอ หรือมือ ให้ผิวแน่น เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นอีกด้วย

Radiesses มีหลักการทำงานอย่างไร?

เมื่อฉีด Radiesses เข้าไปใต้ผิวหนัง สารสำคัญที่อยู่ในตัวยาคือ อนุภาคแร่ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) จะถูกกระจายตัวอยู่ในเนื้อเจลพาหะ (Sodium Carboxymethylcellulose) ซึ่งเป็นตัวนำพาให้อนุภาคเหล่านี้กระจายตัวสม่ำเสมอและฉีดเข้าสู่ผิวได้อย่างแม่นยำ เมื่อเข้าสู่ชั้นผิวลึก

เช่น ชั้น Dermis หรือใต้ผิวหนังแท้ ตัวเจลจะเริ่มทำงานก่อนทันทีโดยการพยุงเนื้อเยื่อใต้ผิว ทำให้บริเวณที่มีร่องลึกหรือหย่อนคล้อย เช่น ร่องแก้ม แก้มตอบ หรือแนวกรอบหน้า ดูเต็มขึ้น กระชับขึ้น และเรียบเนียนขึ้นได้ทันทีภายในไม่กี่นาทีหลังฉีด ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 30–50%

ในระยะยาว หลังจากเจลพาหะค่อย ๆ ถูกดูดซึมไป อนุภาค CaHA จะยังคงทำหน้าที่เป็น โครงสร้างรองรับ (Scaffold) ให้เซลล์ผิวเข้าไปเกาะ และกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนและอีลาสตินธรรมชาติของร่างกายอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1–3 เดือน ผิวในบริเวณนั้นจะมีความแน่น ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จึงนับว่า Radiesses เป็นทั้งสารเติมเต็มทันที และยังเป็น Biostimulator ที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวจากภายในในคราวเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มากกว่าการเติมเต็มทั่วไป

ควรฉีด Radiesses กี่ครั้ง? อยู่ได้นานแค่ไหน?

ครั้งแรก : ฉีด 1 ครั้งก็เห็นผลทันที

ระยะยาว : ฉีดกระตุ้นปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าผลลัพธ์เริ่มลดลง

อยู่ได้นาน : 12–18 เดือน (บางท่านอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเอง)

Radiesse เหมาะกับใครบ้าง?

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามวัย
    เช่น บริเวณกรอบหน้า มุมปาก คาง หรือแนวขากรรไกรที่เริ่มตกและไม่คมชัด
  2. ผู้ที่มีใบหน้าตอบ ขาดวอลลุ่ม หรือโครงสร้างผิวไม่สมดุล
    Radiesse จะช่วยพยุงและปรับโครงหน้าให้ดูมีมิติยิ่งขึ้น
  3. ผู้ที่มีร่องลึก ร่องแก้มชัดเจน
    เหมาะสำหรับการเติมเต็มพร้อมกระตุ้นผิวให้แน่นขึ้นในระยะยาว
  4. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคอลลาเจนในผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
    Radiesse เป็น Biostimulator ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างต่อเนื่อง
  5. ผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ HA แล้วรู้สึกบวม โป๊ะ หรือไม่ติดทน
    Radiesse ให้ผลลัพธ์ที่แน่น ผิวกระชับ และอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
  6. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวบริเวณอื่น เช่น คอ หลังมือ
    เพื่อให้ผิวแน่น เรียบเนียน ดูอ่อนวัยแบบไม่ต้องศัลยกรรม
Radiesse รีวิว

Radiesse ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวบริเวณที่บางมาก
  • ผู้ที่มีโรคแพ้หรือภูมิคุ้มกันผิดปกติบางประเภท
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อหรือผิวหนังอักเสบในบริเวณที่ต้องการฉีด
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร

Radiesse แตกต่างจาก Filler ทั่วไปอย่างไร?

สารประกอบหลักต่างกัน

  • Radiesse ใช้ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งเป็นแร่แคลเซียมที่พบในกระดูกและฟันของมนุษย์
  • Filler ทั่วไป ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ที่มีอยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติ

ฟังก์ชันไม่เหมือนกัน

  • Radiesse เป็นทั้ง Filler และ Biostimulator ช่วยเติมเต็มพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
  • HA Filler ทำหน้าที่เพียงเติมเต็มร่องลึก เพิ่มวอลลุ่มเท่านั้น ไม่กระตุ้นผิวให้ฟื้นฟูในระยะยาว

ผลลัพธ์ยาวนานกว่า

  • Radiesse อยู่ได้นานถึง 12–18 เดือน หรือมากกว่า
  • HA Filler อยู่ได้ประมาณ 6–12 เดือน แล้วแต่ชนิดและตำแหน่งที่ฉีด

ลักษณะผิวหลังฉีด

  • Radiesse ให้ผิวที่ดูแน่น ยกกระชับ ไม่บวม
  • HA Filler ผิวจะดูนุ่มฟู เติมเต็มดี แต่ถ้าใช้มากเกินไปอาจดูบวมและไม่เป็นธรรมชาติ

เหมาะกับบริเวณที่ต่างกัน

  • Radiesse เหมาะกับจุดที่ต้องการการยกกระชับหรือพยุง เช่น กรอบหน้า คาง มุมปาก คอ มือ
  • HA Filler เหมาะกับจุดที่ต้องการความอ่อนนุ่ม เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก ขมับ แก้ม

ความรู้สึกหลังฉีด

  • Radiesse ให้ความรู้สึกแน่น ผิวกระชับแบบมีโครงสร้าง
  • HA Filler ให้สัมผัสนุ่ม ละมุนกว่า แต่ไม่ช่วยยกกระชับได้มาก

ทีมแพทย์ รัตตินันท์ คลินิก

พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์
พญ. นฤมล วิเชียร
พญ. จุฑามาศ ตันคุณากร

ก่อนฉีด - วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse

ก่อนตัดสินใจ

  • Radiesse เป็นสารเติมเต็มชนิด Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เป็น HA นอกจากเติมเต็มแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ได้ในระยะยาว
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า HA Filler โดยเฉลี่ย 12–18 เดือน
  • ฉีด 1 ครั้งก็เห็นผลทันที และผิวจะค่อย ๆ แน่นและกระชับขึ้นเรื่อย ๆ
  • ไม่เหมาะกับการฉีดบริเวณที่ผิวบางมาก เช่น ใต้ตา หรือริมฝีปาก

ก่อนฉีดควรแจ้งแพทย์

  • ประวัติการแพ้ยา หรือสารเติมเต็มชนิดใด
  • กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคเลือด หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่
  • เคยฉีดฟิลเลอร์หรือสารแปลกปลอมมาก่อนหรือไม่

การเตรียมตัวก่อนฉีด

  • หลีกเลี่ยงการทานยาแอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา และแอลกอฮอล์ 1–3 วันก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ
  • งดทำทรีตเมนต์ที่ผิว หรือเลเซอร์แรง ๆ ก่อนฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์

หลังฉีดแล้ว

  • อาจมีรอยบวม แดง หรือรู้สึกตึงในช่วง 1–3 วันแรก (เป็นปกติ)
  • งดการนวด คลึง หรือกดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 3–5 วัน
  • งดการออกกำลังกายหนัก อบซาวน่า หรือดื่มแอลกอฮอล์ 1–3 วัน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัดในช่วงแรก

Radiesse มีกี่รุ่น อะไรบ้าง?

โปรแกรม Radiesse มีทั้งหมด 2 รุ่น คือ Radiesse Filler แบบไม่มียาชา และ Radiesse Plus มีส่วนประกอบของยาชา

สะดวก
Radiesse ใช้มานาน
Radiesse วางใจ
Radiesse ถูกใจ

โปรแกรม Radiesse ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ตำแหน่ง

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

แนวกรอบหน้า (Jawline)

ยกกระชับใบหน้า ให้กรอบหน้าชัด ลดความหย่อนคล้อย

คาง (Chin)

เติมความยาว สร้างมิติให้ใบหน้าดูสมดุล

ขมับ (Temples)

เติมขมับตอบให้ดูอิ่มเต็ม ใบหน้าดูไม่โทรม

ร่องแก้ม (Nasolabial folds)

ลดร่องลึก ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

มุมปาก/มาริโอเนตไลน์ (Marionette lines)

ยกมุมปาก ลดร่องเศร้า

หลังมือ (Hands)

ลดความเหี่ยวย่น ให้ผิวมือดูอ่อนเยาว์

ลำคอ/เนินอก (บางเคส)

ฟื้นฟูผิวที่บางและหย่อนคล้อย

Mid-face/แก้มด้านข้าง

ยกกระชับผิว เพิ่ม Volume ให้ใบหน้ากลับมาดูสดใส

4 วิธีเช็ค Radiesse แท้หรือปลอม ดูอย่างไร?

มีฉลากภาษาไทย พร้อมเลขทะเบียน อย. ชัดเจน

  • บนกล่อง Radiesse ของแท้ต้องมีสติ๊กเกอร์ฉลากภาษาไทยจากผู้นำเข้า พร้อมเลขทะเบียน อย. ระบุชัดเจน
  • สามารถนำเลข อย. ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้โดยตรง

มีหมายเลขล็อต (LOT), วันผลิต และวันหมดอายุครบถ้วน

  • บนกล่องและหลอดยา Radiesse จะระบุ LOT No., MFG (วันที่ผลิต), และ EXP (วันหมดอายุ) อย่างชัดเจน
  • หมายเลขล็อตควรตรงกันทั้งกล่องและตัวยา หากไม่ตรงกันควรหลีกเลี่ยงการใช้

สแกน QR Code หรือ Serial Number ตรวจสอบแหล่งที่มา

  • บางคลินิกมีระบบสแกน QR Code หรือโชว์เลข Serial Number เพื่อให้ลูกค้าเช็กแหล่งที่มาผ่านเว็บไซต์ของตัวแทนนำเข้าอย่างเป็นทางการ

ขอดูหลอดยาก่อนฉีด พร้อมเปิดใหม่ต่อหน้า

  • ควรขอให้แพทย์หรือผู้ให้บริการเปิดกล่อง – เปิดหลอดยาใหม่ต่อหน้า
  • ชื่อผลิตภัณฑ์บนหลอดต้องพิมพ์ว่า RADIESSE® ชัดเจน มีฉลากตรงรุ่น (1.5 ml หรือ 3.0 ml)

เหตุผลที่หลายคนไว้วางใจเลือกฉีด Radiesse ที่รัตตินันท์ คลินิก

1. ดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

ทุกเคสได้รับการดูแลโดยแพทย์ที่มีความเข้าใจด้านการปรับรูปหน้าและโครงสร้างผิว ช่วยให้การวางแผนการฉีดเป็นไปอย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

2. ประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละคนอย่างรอบด้าน เพื่อออกแบบแนวทางการดูแลที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความงามของคุณ ทั้งเรื่องปริมาณ การเลือกตำแหน่ง และจังหวะการฟื้นฟู

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแหล่งที่มาชัดเจน

ตัวยาที่นำมาใช้ผ่านการคัดเลือกอย่างเหมาะสม โดยสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ทุกเคส เพื่อให้ผู้รับบริการมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างมั่นใจ

4. After Care

เรามี After Care และให้คำแนะนำหลังรับบริการ เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง และมีช่องทางสอบถามกับทีมผู้ดูแลได้อย่างสะดวก

5. สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการดูแลที่ดี

คลินิกมีการจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับการให้บริการ เพื่อความสะดวกและความเป็นส่วนตัวในการเข้ารับคำปรึกษาและขั้นตอนการดูแลต่าง ๆ

คุณหมอสรุปให้ Radiesse คืออะไร?

Radiesse คือ สารเติมเต็มผิว (filler) ชนิดหนึ่ง แต่ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่ไม่ได้มีแค่เติมเต็มทันทีเท่านั้น จุดเด่นของ Radiesse คือมีสารแร่ที่ชื่อว่า Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งนอกจากจะช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือปรับรูปหน้าได้ทันทีหลังฉีดแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวในระยะยาวด้วย

นึกง่าย ๆ คือ Radiesse = เติมเต็มทันที + ฟื้นฟูผิวจากภายใน ผลลัพธ์คือ ผิวแน่นขึ้น หน้าดูชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป (เฉลี่ย 12–18 เดือน)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม Radiesse

โปรแกรม Radiesse สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนสูง การนวดบริเวณที่ฉีด หรือการใช้สกินแคร์ที่กระตุ้นการผลัดเซลล์

การฉีดโปรแกรม Radiesse โดยทั่วไปจะเห็นผลทันทีหลังฉีด เพราะเนื้อเจลมีคุณสมบัติในการเติมเต็มผิวได้เลย และจะยิ่งเห็นผลชัดขึ้นในช่วง 2–4 สัปดาห์ หลังจากร่างกายเริ่มสร้างคอลลาเจนตามที่กระตุ้นไปแล้ว

หากต้องการผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง แนะนำให้ ฉีดซ้ำทุก 12 เดือน หรือให้แพทย์ประเมินเป็นรายกรณี

การฉีดโปรแกรม Radiesse จะเห็นผลเบื้องต้นทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นจะเห็นภายใน 2–4 สัปดาห์ หลังจากที่เนื้อผิวเริ่มฟื้นฟูและร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติม ทำให้ผิวแน่น ฉ่ำ และดูอิ่มน้ำมากขึ้น

โปรแกรม Radiesse 1 กล่องจะมี 1.5 cc บางคลินิกอาจมีการแบ่งฉีดในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ เช่น แก้ม ขมับ แนวกราม หรือมือ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม