โรคความดันต่ำ (HYPOTENSION) เป็นภาวะที่ความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ โดยทั่วไปมักไม่แสดงอาการรุนแรง แต่ในบางกรณีอาจส่งผลกระทบต่อการลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลียได้ การดูแลสุขภาพด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับโรคความดันต่ำคืออะไร อาการและสาเหตุของโรคความดันต่ำ และไปดูว่าโรคความดันต่ำ ควรกินอะไรและควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดบ้าง
โรคความดันต่ำคืออะไร
โรคความดันต่ำ หรือภาวะความดันโลหิตต่ำ (HYPOTENSION) คือภาวะที่ความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมได้ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และอาจเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ เช่น การขาดน้ำ การตั้งครรภ์ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือการใช้ยาบางชนิด หูอื้อเป็นอาการที่รู้สึกว่าหูมีเสียงดังหรือมีความรู้สึกอัดแน่นภายในหู ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อในหู ความดันโลหิตสูง หรือการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศ
อาการของโรคความดันต่ำ
ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- เวียนศีรษะ : อาการเวียนศีรษะมักเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว เช่น ลุกขึ้นยืนจากท่านอนหรือนั่ง
- หน้ามืด เป็นลม : อาจเกิดขึ้นเมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- คลื่นไส้ : อาจรู้สึกคลื่นไส้หรืออาเจียน
- เหนื่อยล้า : รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- มองเห็นภาพซ้อน : การมองเห็นไม่ชัดเจนหรือเห็นภาพซ้อน
- ขาดสมาธิ : มีปัญหาในการมีสมาธิหรือการจดจ่อ
- หายใจเร็ว : หายใจถี่และตื้น
- ผิวเย็น ชื้น และซีด : ผิวหนังอาจเย็น ชื้น และมีสีซีด
สาเหตุของโรคความดันต่ำ
สาเหตุของภาวะความดันโลหิตต่ำมีหลายประการ รวมถึง
- ภาวะขาดน้ำ : การขาดน้ำทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงได้ อาการขาดน้ำอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อยเกินไป การสูญเสียน้ำจากการออกกำลังกายหนัก หรือการอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัด
- การตั้งครรภ์ : ในช่วงการตั้งครรภ์ ระบบไหลเวียนเลือดของผู้หญิงจะขยายตัว ทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ : โรคหัวใจบางชนิด เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถทำให้ความดันโลหิตต่ำได้ เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปัญหาต่อมไร้ท่อ : ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ภาวะไทรอยด์ต่ำ (HYPOTHYROIDISM) หรือโรคแอดดิสัน (ADDISON’S DISEASE) สามารถทำให้ความดันโลหิตต่ำได้ เนื่องจากฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดไม่เพียงพอ
- การสูญเสียเลือด : การสูญเสียเลือดอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัด หรือการสูญเสียเลือดเรื้อรังจากแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ สามารถทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ
- ภาวะโลหิตเป็นพิษหรือการติดเชื้อรุนแรง : การติดเชื้อรุนแรงหรือภาวะโลหิตเป็นพิษ (SEPSIS) สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัวและความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
- อาการแพ้อย่างรุนแรง : อาการแพ้อย่างรุนแรง (ANAPHYLAXIS) สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัวและความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา
- ขาดสารอาหาร : การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน วิตามินซี และวิตามินบี ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ผนังหลอดเลือดแดงไม่แข็งแรงและคลายตัวมากเกินไป ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด : ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาสำหรับโรคพาร์กินสัน ยาต้านซึมเศร้า และยาลดความดันโลหิต สามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
อาหารที่คนเป็นโรคความดันต่ำควรรับประทาน
การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้ปกติได้ อาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีภาวะความดันต่ำ ได้แก่
1. เครื่องดื่มประเภทชาต่าง ๆ
- ชาโสม : โสมมีคุณสมบัติช่วยปรับการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายให้สมดุล ช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะและหน้ามืด
- ชาขิง : ขิงมีสาร GINGEROL ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยลดอาการอักเสบ
2. ผลไม้ที่มีวิตามินซี
- มะขามป้อม : มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลความดันโลหิต
- ส้ม : อุดมไปด้วยวิตามินซีและโพแทสเซียม ช่วยในการไหลเวียนของเลือดและลดความดันโลหิต
- มะม่วง : มีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต
3. อาหารประเภทเนื้อสัตว์
- ปลาซาร์ดีน : มีโอเมก้า-3 ที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดและลดการอักเสบ
- สาหร่ายทะเล : อุดมไปด้วยไอโอดีนและธาตุเหล็ก ช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินและปรับสมดุลความดันโลหิต
- หอยนางรม : มีธาตุสังกะสีและธาตุเหล็ก ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
4. วิตามินอีในผลไม้บางชนิด
- มะม่วงน้ำดอกไม้ : มีวิตามินอีสูง ช่วยในการไหลเวียนของเลือดและบำรุงผิว
- มะละกอสุก : มีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวและระบบย่อยอาหาร
5. ธัญพืชต่าง ๆ
- ข้าวกล้อง : มีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ข้าวสาลี : อุดมไปด้วยวิตามินบีและแร่ธาตุ ช่วยในการผลิตพลังงานและการทำงานของระบบประสาท
- ข้าวโพด : มีวิตามินบีและโพแทสเซียม ช่วยในการไหลเวียนของเลือด
6. ผลไม้อบแห้ง
- ลูกพรุน : มีโพแทสเซียมสูง ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตและระบบย่อยอาหาร
- ลูกเกด : อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมความดันโลหิต
7. อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12
- ไข่ : มีวิตามินบี 12 และโปรตีนสูง ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
- เนื้อสัตว์ : เช่น เนื้อวัวและตับ มีวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
8. อาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลต
- ผักใบเขียว : เช่น ผักโขมและบรอกโคลี มีโฟเลตสูง ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
- พืชตระกูลถั่ว : เช่น ถั่วลิสงและถั่วแดง มีโฟเลตและโปรตีนสูง ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
9. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- กาแฟ : มีคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มความดันโลหิต
- ชา : มีคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มความดันโลหิต
เคล็ดลับการกินเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ
- ดื่มน้ำประมาณ 300–500 มิลลิลิตร ก่อนมื้ออาหารประมาณ 15 นาที
- เน้นกินอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่กินบ่อย ๆ แทนการกินอาหารมื้อใหญ่
- หลังจากมื้ออาหารควรนั่งพักสักครู่
- ลดการบริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้เร็ว
- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในตอนกลางคืนหรือก่อนนอน
- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนเป็นโรคความดันต่ำ
1. อาหารที่มีโซเดียมสูงมากเกินไป
แม้ว่าโซเดียมจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตได้ แต่การบริโภคโซเดียมในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจและโรคไต อาหารที่มีโซเดียมสูงที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- ปลากระป๋อง
- ปลาร้า
- กะปิ
- ซอสปรุงรสและน้ำปลา
- ขนมขบเคี้ยวและอาหารหมักดอง
2. อาหารที่มีไขมันสูง
อาหารที่มีไขมันสูงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำแย่ลง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
- เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน หมูยอ หมูหยอง ไส้อั่ว
- อาหารทอดและอาหารฟาสต์ฟู้ด
- ขนมอบและเบเกอรี่ที่มีไขมันสูง
3. อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้เร็ว
คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้เร็วสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตลดลง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
- ข้าวขาว
- ขนมปังขาว
- ธัญพืชขัดสี
- น้ำตาลทรายขาวและแป้งขัดขาว
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำและลดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคตับและโรคหัวใจ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือจำกัดปริมาณการดื่ม
การปรับพฤติกรรมเพื่อช่วยลดอาการความดันต่ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการยืนนาน ๆ หรือการเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็วเกินไป
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้ความดันโลหิตต่ำ
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
ควรพบแพทย์หากมีสัญญาณหรืออาการของความดันโลหิตต่ำ เนื่องจากอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางการแพทย์ที่ร้ายแรงอื่น ๆ โดยอาจทำการจดบันทึกอาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เกิดขึ้นและสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในขณะนั้น หายใจไม่เต็มปอด เป็นอาการที่รู้สึกว่าหายใจได้ไม่เต็มที่หรือไม่สามารถรับอากาศเข้าปอดได้เต็มปริมาณ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หรือความเครียด
สรุป
โรคความดันต่ำ เป็นภาวะที่ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการปรับพฤติกรรมสามารถช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้ปกติได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมและไขมันสูง และควรพบแพทย์หากมีอาการที่รุนแรงหรือไม่สามารถควบคุมได้
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยด้านสุขภาพที่มีการรักษาในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย