วิธีแก้การนอนกรนในผู้ชาย เคล็ดลับและวิธีการที่ได้ผล
การนอนกรนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชาย และส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนของผู้ที่กรนเองและคนรอบข้าง การนอนกรนไม่เพียงแต่ทำให้การนอนหลับไม่สนิท แต่ยังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าในระหว่างวันและส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ วิธีแก้การนอนกรน ผู้ชาย ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดเสียงกรน แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการนอน การใช้เครื่องมือช่วยการหายใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่าง ๆ รวมไปถึง รักษานอนกรน ด้วยเลเซอร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณและคนรอบข้างได้สัมผัสกับการนอนหลับที่ดีขึ้นและมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น
สาเหตุของการนอนกรนในผู้ชาย
การนอนกรนในผู้ชายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งกับสภาพทางกายภาพและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ต่อไปนี้คือ สาเหตุหลัก ที่ทำให้ผู้ชายเกิดการนอนกรน
1. น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
น้ำหนักเกิน หรือ โรคอ้วน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการนอนกรน โดยเฉพาะในบริเวณ คอและลำคอ ซึ่งอาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงและเกิดเสียงกรนเมื่ออากาศไหลผ่าน ไขมันส่วนเกินในลำคอสามารถดันทางเดินหายใจให้แคบลงส่งผลให้เกิดการกรน
2. การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยานอนหลับ
แอลกอฮอล์ และ ยานอนหลับ สามารถทำให้กล้ามเนื้อในลำคอผ่อนคลายมากเกินไป ส่งผลให้ ทางเดินหายใจแคบลง และเกิดการกรนการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงใกล้เวลานอนจะทำให้กรนรุนแรงขึ้น
3. การนอนหงาย
เมื่อ นอนหงาย อาจทำให้ ลิ้นและกราม เคลื่อนที่ไปข้างหลังและกีดขวางทางเดินหายใจ ทำให้เกิดเสียงกรน การนอนในท่านี้จะทำให้ทางเดินหายใจแคบลงและเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อในคอ
4. ปัญหาทางกายภาพ (การมีเนื้อเยื่อในคอที่หย่อนคล้อย)
เนื้อเยื่อในคอ อาจหย่อนคล้อยหรือมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งทำให้กีดขวางทางเดินหายใจ เช่น ต่อมทอนซิล หรือ เนื้อเยื่อหลอดลมที่ใหญ่ขึ้น สามารถทำให้เกิดการกรนได้
5. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นสภาวะที่ ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นชั่วขณะ ขณะนอนหลับ ส่งผลให้หายใจลำบากและมีเสียงกรน ภาวะนี้ทำให้การนอนหลับไม่สมบูรณ์และทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าในตอนเช้า
6. การอักเสบของทางเดินหายใจ
อาการหวัด ไซนัสอักเสบ หรือ ภูมิแพ้ ที่ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง หรือมีการอักเสบในคอ ก็สามารถทำให้เกิดการกรนได้ การอักเสบทำให้มีน้ำมูกหรือความดันในคอที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้การหายใจขัดขวางและเกิดเสียงกรน
7. การสูบบุหรี่
การ สูบบุหรี่ ทำให้การไหลเวียนของอากาศ ในทางเดินหายใจลดลง และทำให้ทางเดินหายใจอักเสบส่งผลให้กรนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังทำให้เนื้อเยื่อในคอระคายเคืองและทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
8. อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อ อายุมากขึ้น กล้ามเนื้อในลำคอจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงและกรนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในผู้ชายที่อายุมากกว่า 40 ปี การกรนอาจจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น
การปรับท่านอน เพื่อลดการนอนกรน
1. นอนตะแคง
ท่านอนหงาย เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการนอนกรน เพราะเมื่อเรานอนหงาย ลิ้น และ กราม อาจเคลื่อนที่ไปข้างหลังทำให้ ทางเดินหายใจ แคบลงและเกิดเสียงกรนได้
การนอนตะแคง ช่วยให้ลิ้นและเนื้อเยื่อในคอไม่ปิดกั้นทางเดินหายใจ จึงช่วยลดการกรน สำหรับผู้ที่พบว่าการนอนตะแคงเป็นการยาก สามารถใช้ หมอนหรืออุปกรณ์เสริม ที่ช่วยให้เรานอนในท่านี้ได้สะดวกขึ้น
2. ใช้หมอนรองใต้ตัว
การนอนในท่าที่มีศีรษะสูงขึ้น ช่วยให้การหายใจดีขึ้น โดยการใช้หมอนรองใต้ศีรษะ หรือหมอนหลายใบเพื่อยกศีรษะให้สูงขึ้น การยกศีรษะจะช่วยลดอาการ กรนจากการอุดตัน ในทางเดินหายใจและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
3. หลีกเลี่ยงการนอนหงาย
หากคุณมีปัญหาการกรนจากการนอนหงาย การใช้ หมอนพิเศษ ที่ทำให้คุณไม่สามารถนอนหงายได้ หรือใช้ อุปกรณ์เสริม เช่น ลูกบอลในเสื้อเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองนอนหงายได้ นอกจากนี้คุณสามารถใส่เสื้อผ้าหรือเสื้อที่มีกระเป๋าที่ด้านหลังเพื่อลดการนอนหงาย
4. หลีกเลี่ยงการนอนในท่าที่ทำให้ปอดถูกบีบ
ควรหลีกเลี่ยงการนอนในท่าที่ ทับท้องหรือทับหน้าอก ซึ่งจะทำให้ปอดหายใจลำบากและอาจเพิ่มการกรนได้
ทำไมการปรับท่านอนจึงช่วยลดการกรน
- การนอนหงาย จะทำให้ลิ้นและกล้ามเนื้อในคอ หย่อนตัวไปข้างหลังและปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการกรน
- การนอนตะแคง จะทำให้ทางเดินหายใจเปิดกว้าง ช่วยให้การหายใจเป็นไปได้ดีขึ้นและลดการกรน
- การยกศีรษะ ช่วยให้การหายใจสะดวก ลดอาการการไหลเวียนของอากาศที่ขัดขวางในช่องคอ
คำแนะนำเพิ่มเติม
ทานอาหารเย็นเบา ๆ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารหนักหรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน เพราะอาหารหนักและแอลกอฮอล์อาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงและกรนได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงการนอนดึก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะความเหนื่อยล้าสามารถทำให้การกรนแย่ลง
วิธีจัดการ นอนกรนในผู้ชาย
1. รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
หากการกรนของคุณรุนแรงและมีอาการหยุดหายใจขณะหลับ (เช่น หายใจไม่ออกชั่วขณะแล้วกลับมาหายใจใหม่) คุณอาจมี ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับการรักษาจากแพทย์
การรักษาภาวะนี้อาจต้องใช้ เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) หรือ BiPAP ที่ช่วยเปิดทางเดินหายใจ
2. ปรับพฤติกรรมการนอนและการเลือกหมอนที่เหมาะสม
การใช้ หมอนที่รองรับศีรษะและคอ ได้ดีเพื่อให้กล้ามเนื้อในลำคอไม่หย่อนลงมาปิดทางเดินหายใจ การนอนในท่านอนที่ ยกศีรษะสูงขึ้น สามารถช่วยลดการกรนได้ เช่น การใช้หมอนหนาหรือหมอนที่ช่วยยกศีรษะ
3. ควบคุมอาการภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ หรือ ไซนัสอักเสบ อาจทำให้การหายใจขัดขวางและทำให้เกิดการกรน ใช้ยาแก้แพ้หรือสเปรย์สำหรับจมูกเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกหรืออาการภูมิแพ้ก่อนนอน
4. หลีกเลี่ยงการนอนผิดท่า
การนอนหงายทำให้ ลิ้นและเนื้อเยื่อในคอ หย่อนลงไปข้างหลัง ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงและกรน การนอน ตะแคง จะช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างและลดเสียงกรน
5. หลีกเลี่ยงการหายใจทางปาก
หลีกเลี่ยงการหายใจทางปาก เพราะการหายใจทางปากอาจทำให้เกิดการกรนได้ ฝึก หายใจผ่านจมูก โดยการหายใจลึก ๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในทางเดินหายใจ
6. การรักษาสุขภาพจิตและการลดความเครียด
ความเครียด และ การนอนหลับไม่เพียงพอ สามารถทำให้การกรนแย่ลง ลองใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ, การหายใจลึก ๆ, หรือ การฟังเพลง เพื่อช่วยลดความเครียดก่อนนอน
7. การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมการนอนกรน
บางกรณีอาจใช้ ยา เช่น ยาต้านฮิสตามีน หรือ ยานอนหลับ เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ สเปรย์หรือน้ำมัน ที่ช่วยเปิดทางเดินหายใจบางชนิดอาจช่วยลดการกรน
8. การตรวจสุขภาพทั่วไป
การกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคอ้วน, ความดันโลหิตสูง, หรือ โรคหัวใจ การตรวจสุขภาพทั่วไปจะช่วยตรวจสอบว่าการกรนเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องรับการรักษาหรือไม่
อาการอย่างไรจึงควรไปพบแพทย์
การนอนกรนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายและผู้หญิง แต่บางครั้งการกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เพื่อป้องกันอาการที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
1. หากการกรนมีเสียงดังและรุนแรง
หากการกรนมีเสียงดังมากหรือเกิดการสะดุดหายใจในระหว่างการนอนหลับ เช่น หยุดหายใจชั่วขณะแล้วกลับมาหายใจใหม่ การกรนที่รุนแรงอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์
2. หากรู้สึกเหนื่อยล้าในตอนกลางวัน
หากคุณรู้สึก เหนื่อยล้า หรือ ง่วงนอน ในระหว่างวัน แม้จะนอนหลับเต็มอิ่มแล้ว อาจเป็นสัญญาณว่าการนอนกรนมีผลกระทบต่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากการกรนอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สดชื่นหลังตื่นนอนและมีอาการเหนื่อยล้าในตอนกลางวัน
3. หากมีอาการหายใจไม่สะดวกระหว่างนอนหลับ
หากการนอนกรนมีอาการหายใจไม่สะดวก หรือคุณรู้สึกว่ามีการ หายใจติดขัด หรือ หายใจไม่สะดวก ขณะนอนหลับ ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพของคุณ
4. หากมีการกรนร่วมกับอาการของโรคอื่น ๆ
หากคุณมีอาการ ปวดหัว ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือ ภาวะอ้วน ร่วมกับการกรน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและการรักษาที่เหมาะสม
5. หากกรนรบกวนคนรอบข้าง
หากการกรนของคุณ รบกวนคู่นอน หรือ คนรอบข้าง อย่างรุนแรงและบ่อยครั้ง ควรพิจารณาไปพบแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุและหาทางแก้ไข
6. หากมีอาการปวดคอหรือปวดกราม
อาการ ปวดคอ หรือ ปวดกราม ที่เกิดขึ้นหลังจากการกรนเป็นเวลานานอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการนอนกรนที่มีปัญหา ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย
รีวิว วิธีแก้อาการนอนกรน ผู้ชาย กรนหนักจนถึงขั้นมีเลือดออกคำแนะนำจากแพทย์
- การตรวจ Sleep Study (Polysomnography) เพื่อวินิจฉัย ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น ตรวจเลือดและตรวจความดันโลหิต เพื่อหาปัญหาสุขภาพที่อาจทำให้เกิดการกรน
- รักษานอนกรน ด้วยเลเซอร์
สรุปสาเหตุของการนอนกรนในผู้ชาย
การนอนกรนในผู้ชายเกิดจากหลายปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการนอน สุขภาพร่างกาย น้ำหนักตัว หรือปัญหาทางกายภาพต่าง ๆ การรับรู้สาเหตุเหล่านี้ช่วยในการเลือกวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม เช่น การปรับท่านอน ลดน้ำหนัก หรือการปรึกษาแพทย์ในกรณีที่กรนรุนแรงหรือสัมพันธ์กับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
วิธีแก้การนอนกรนสำหรับผู้ชาย ที่ได้ผลหนึ่งในนั้นคือการ ปรับท่านอน และ รักษาด้วยเลเซอร์ นั่นเอง
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์หลากหลายสาขา ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัยสูงและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้รับรองมาตรฐานจาก AACI สหรัฐอเมริกา ด้านศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก 2 ปีซ้อน รวมถึงรางวัลจาก WhatClinic ด้านบริการลูกค้ายอดเยี่ยมระดับสากล เป็นปีที่4 จากลูกค้ากว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง