ผิวหมอง คล้ำเสีย ดูโทรมแม้พักผ่อนเพียงพอ… ไม่ใช่แค่ปัญหาผิว แต่คือสัญญาณจากภายใน รู้หรือไม่ หลายคนพยายามบำรุงผิวมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับยังไม่เห็นผลชัดเจน นั่นเพราะเบื้องหลังของผิวที่ไม่สดใส มักมาจาก “สารอาหารจำเป็น” ที่ร่างกายขาดหรือได้รับไม่เพียงพอในแต่ละวัน
“วิตามินผิว” จึงเป็นคำตอบของการดูแลลึกจากภายใน ด้วยการเติมวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสจากธรรมชาติ วิตามินบางชนิด ร่างกายสามารถผลิตหรือได้รับจากอาหารได้เอง แต่ในบางช่วงวัย หรือภาวะที่ร่างกายอ่อนล้า การ “เติมจากภายนอก” อย่างปลอดภัยและแม่นยำจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แพทย์เฉพาะทางให้การยอมรับ
วิตามินผิวคืออะไร?
“วิตามินผิว” ไม่ใช่ชื่อวิตามินเฉพาะชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่คือกลุ่มของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญต่อ การฟื้นฟูเซลล์ผิว, ลดการอักเสบ, และ เสริมสร้างความกระจ่างใสจากภายใน ในทางการแพทย์ วิตามินผิวมักอยู่ในรูปแบบที่เข้าสู่ร่างกายผ่านการ ดริป IV, ฉีด, หรือ รับประทาน เพื่อเร่งการฟื้นฟูและลดการขาดสารอาหารในระดับเซลล์
วิตามินที่ร่างกายสังเคราะห์เองได้
แม้ร่างกายสามารถสร้างสารบางชนิดได้เอง แต่ในหลายกรณี “ยังไม่เพียงพอ” ต่อความต้องการเฉพาะด้านผิวพรรณ เช่น
- Vitamin D สังเคราะห์ได้จากแสงแดด แต่ต้องอาศัยความเข้มของ UV และเวลาที่เหมาะสม
- CoQ10 สร้างเองได้ในวัยหนุ่มสาว แต่จะลดลงเรื่อย ๆ หลังอายุ 25 ปี
- Glutathione ร่างกายผลิตได้เองจากกรดอะมิโน แต่ลดลงตามความเครียด พักผ่อนไม่พอ หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น แม้ร่างกายจะ “สร้างได้” แต่ ปริมาณจริงที่ใช้งานได้ในผิวหนัง กลับน้อยลง โดยเฉพาะในคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ พักผ่อนน้อย หรือรับประทานอาหารไม่ครบหมู่
วิตามินจำเป็นที่ควร “เติม” เพิ่ม
การเติมวิตามินผิวในรูปแบบ IV Drip หรือฉีดใต้ผิว จึงเป็นทางลัดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว โดยเฉพาะวิตามินกลุ่ม
- Vitamin C กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดจุดด่างดำ
- Glutathione ปรับผิวให้กระจ่างใส ลดเม็ดสีเมลานิน สารตั้งต้นของผิวหมองคล้ำ
- Vitamin B-Complex บำรุงการทำงานของระบบประสาทและเซลล์ผิวหนัง
- Zinc / Selenium / Magnesium แร่ธาตุที่ช่วยสมานแผล และลดการอักเสบของผิว
การเติมสารอาหารกลุ่มนี้ในปริมาณที่เหมาะสม ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสภายใน 1–3 สัปดาห์
วิธีเติมวิตามินผิว เลือกแบบไหนดี
การเสริมวิตามินผิวมีได้หลายวิธี แต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ ความต้องการ, ไลฟ์สไตล์, และ ระดับการดูดซึมที่ร่างกายต้องการ ซึ่งสามารถแบ่งได้ 4 ช่องทางหลัก ๆ ดังนี้
- วิตามินแบบรับประทาน (Oral Supplements)
- การฉีดวิตามินผิวเฉพาะจุด (Injection)
- การดริปวิตามินผิวทางสายน้ำเกลือ (IV Drip Therapy)
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (IV Injection / IV Push)
เรามาดูจุดเด่นและจุดพิจารณาของแต่ละรูปแบบกันอย่างชัดเจน
1. วิตามินผิวแบบกิน (Oral Supplements)
รูปแบบ เม็ด / ผง / เจลลี่
การดูดซึม ผ่านระบบย่อยอาหารและเข้าสู่กระแสเลือดบางส่วน
ข้อดี
- หาซื้อง่าย สะดวก ทานเองได้ที่บ้าน
- ราคาไม่สูง เหมาะกับการดูแลระยะยาว
จุดสังเกต
- ดูดซึมได้แค่ ~10–20%
- ผลลัพธ์ช้า ต้องทานต่อเนื่อง
- ปริมาณวิตามินที่เข้าสู่ผิวน้อย
เหมาะสำหรับ คนที่ผิวปกติ ต้องการดูแลผิวแบบไม่เร่งด่วน
2. ฉีดวิตามินผิวเฉพาะจุด (Intramuscular / Subcutaneous Injection)
รูปแบบ ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณ
การดูดซึม ดูดซึมช้ากว่าฉีดเข้าเส้นเลือด แต่เร็วกว่าแบบกิน
ข้อดี
- เห็นผลเฉพาะจุด เช่น ลดรอยคล้ำใต้ตา รอยสิว
- เหมาะกับปัญหาเฉพาะพื้นที่เล็ก ๆ
- ใช้เวลาสั้น ไม่ต้องพักฟื้น
จุดสังเกต
- ไม่ครอบคลุมทั้งร่างกาย
- อาจมีรอยช้ำหรือบวมแดงจุดเล็ก
- ต้องทำโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น
เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาจุดเดียว เช่น ใต้ตาคล้ำ ฝ้าจาง ๆ
3. ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (IV Injection / IV Push)
รูปแบบ ฉีดสารเข้าหลอดเลือดโดยตรงภายในไม่กี่นาที
การดูดซึม เข้าสู่กระแสเลือดทันที 100%
ข้อดี
- ออกฤทธิ์เร็วมาก
- ใช้ในกรณีเร่งด่วน หรือสารที่ต้องออกฤทธิ์ทันที
จุดสังเกต
- ถ้าเร็วเกินไป อาจเวียนหัว ใจสั่น
- ปริมาณวิตามินต้องจำกัด (มักไม่เกิน 10 ml)
- ไม่เหมาะกับการดูแลผิวระยะยาว
เหมาะสำหรับ การแพทย์เฉพาะทางมากกว่าความงามทั่วไป
4. ดริปวิตามินผิว (IV Drip)
รูปแบบ วิตามินผสมในน้ำเกลือ ให้ผ่านสายน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือด
การดูดซึม เข้ากระแสเลือดช้า ๆ ดูดซึมได้เต็มที่ (90–100%)
ข้อดี
- ดูแลผิวทั่วร่างกาย ฟื้นฟูระบบได้ครอบคลุม
- ลดผิวหมองคล้ำ เร่งกระจ่างใส
- สามารถออกแบบสูตรเฉพาะบุคคลได้ (เช่น Gluta + Vit C + B Complex)
จุดสังเกต
- ต้องทำในคลินิกภายใต้แพทย์
- ใช้เวลาประมาณ 30–60 นาทีต่อครั้ง
เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการดูแลผิวแบบองค์รวม เห็นผลเร็ว ปลอดภัยระดับ Medical Grade
แนะนำ โปรแกรม RTN Signature Gluta + Vit C Drip จากรัตตินันท์ คลินิก
RTN Signature Gluta + Vitamin C Drip สูตรเฉพาะที่รัตตินันท์ คลินิก
ที่รัตตินันท์ คลินิก เราไม่เชื่อในสูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกคน เราจึงพัฒนาสูตร RTN Signature Gluta + Vitamin C Drip ขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใส สุขภาพดีจากภายใน ด้วยสารอาหารเข้มข้นระดับ Medical Grade ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เต็มประสิทธิภาพ
ใครเหมาะกับวิตามินผิว?
วิตามินผิวไม่ใช่เพียงเทรนด์เพื่อความสวยงาม แต่คือ “การเติมสิ่งที่ขาด” ในระดับเซลล์ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่…
- มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอจากแดด มลภาวะ หรือการนอนน้อย
- รู้สึกว่าผิวไม่สดใสแม้ใช้ครีมบำรุงหรือทำทรีตเมนต์
- เตรียมผิวก่อนออกงานสำคัญ เช่น ถ่ายภาพงานแต่ง, งานอีเวนต์
- ฟื้นฟูหลังคลอด หรือหลังพักฟื้นร่างกาย
- ทำงานหนัก เดินทางบ่อย นอนดึก ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ไม่จำกัดเพศหรือวัย เพราะเราออกแบบสูตรเฉพาะบุคคลภายใต้การดูแลของแพทย์ทุกเคส
ความปลอดภัย & ข้อควรระวัง
แม้การเติมวิตามินผิวจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่หากใช้โดยขาดความเข้าใจ หรือไม่มีการควบคุมคุณภาพ อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- ต้องใช้วิตามินเกรดการแพทย์ (Medical Grade) ผ่าน อย. เท่านั้น
- ต้องมีการประเมินโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- การดริปต้องดำเนินในสถานพยาบาลที่มีระบบปลอดเชื้อและอุปกรณ์ฉุกเฉินครบ
ที่ รัตตินันท์ คลินิก เราใช้มาตรฐานเดียวกับการให้ IV ในโรงพยาบาล พร้อมห้องบริการเฉพาะทางแยกจากผู้ป่วยอื่น
ผลข้างเคียงที่พบได้ & วิธีป้องกัน
ผลข้างเคียงจากการดริปวิตามินนั้นพบได้น้อยมาก โดยเฉพาะหากดูแลภายใต้แพทย์เฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม ผู้รับบริการควรรับรู้ไว้เสมอ
อาการ |
แนวโน้ม |
แนวทางป้องกัน |
เวียนหัว/คลื่นไส้เล็กน้อย |
พบน้อย |
ประเมินความดันก่อนดริป ดื่มน้ำให้เพียงพอ |
รอยช้ำบริเวณเข็ม |
พบได้บ้าง |
ใช้เทคนิคเฉพาะทาง หลีกเลี่ยงบริเวณเส้นเลือดบาง |
แพ้ส่วนผสมเฉพาะบุคคล |
พบได้น้อยมาก |
ซักประวัติแพ้อย่างละเอียด และใช้สูตรเฉพาะบุคคลเท่านั้น |
เปรียบเทียบกับการดูแลผิวรูปแบบอื่น
แม้การดูแลผิวจากภายนอก เช่น ครีมบำรุง, ทรีตเมนต์หน้า, หรือ เลเซอร์ผิว จะช่วยให้ผิวดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ “วิตามินผิว” คือทางเลือกที่ เสริมจากภายใน เพื่อฟื้นฟูที่ต้นเหตุ
วิธีดูแลผิว |
ระยะเวลาเห็นผล |
ดูแลลึกแค่ไหน |
ข้อจำกัด |
ครีมบำรุง |
1–2 เดือน |
เฉพาะชั้นผิว |
ขึ้นอยู่กับการดูดซึม / สภาพผิวแต่ละคน |
เลเซอร์ / ทรีตเมนต์ |
2–3 สัปดาห์ |
กลางถึงลึก |
อาจเกิดการระคายเคือง ต้องเว้นช่วงพัก |
วิตามินผิว IV Drip |
3–7 วัน |
ทั้งระบบเซลล์ |
ต้องประเมินโดยแพทย์ ใช้สูตรเฉพาะบุคคล |
RTN Signature Gluta + Vit C Drip จึงไม่ใช่การ “แทนที่” วิธีอื่น แต่เป็นการ เสริมประสิทธิภาพ ให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น และตอบสนองต่อการดูแลจากภายนอกได้ดีขึ้นในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย
โดยเฉลี่ย 3-5 ครั้งห่างกัน 1-2 สัปดาห์ ร่างกายจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเต็มที่ ผิวเริ่มกระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกและชัดขึ้นหลังคอร์สครบ
กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งในสูตร วิตามิน ผิว IV แต่วิตามินผิวครอบคลุมวิตามิน C, B-Complex, Minerals ร่วมด้วย
แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเสมอ ส่วนผสมปลอดภัยส่วนใหญ่ผ่านสู่เด็กน้อยมาก แต่ควรรออย่างน้อย 3 เดือนหลังคลอด
IV เข้าสู่กระแสเลือดทันที ดูดซึม ~90-100 % ส่วนแบบกินร่างกายดูดซึมเพียง 10-20 % และอาจถูกทำลายระหว่างย่อยอาหาร
พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ 1-2 ลิตร งดแอลกอฮอล์ 24 ชม. และแจ้งประวัติแพ้ยาให้แพทย์ทราบ
วิถีชีวิตใหม่หลังบำรุงผิว Future-Pacing
ลองจินตนาการถึงเช้าวันใหม่ที่คุณตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องพึ่งรองพื้นหนัก ๆ ผิวดูเรียบเนียน อิ่มน้ำ สว่างใสแบบธรรมชาติ แม้ในวันเร่งรีบก็มั่นใจทุกครั้งที่เงยหน้าสบตาใคร
คุณรู้สึกเบาสบาย ผิวดูเปล่งประกายไม่ใช่แค่จากผลิตภัณฑ์บนผิว…แต่จาก “สุขภาพภายใน” ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่คนรอบตัวจะสังเกตได้ ก่อนที่คุณจะบอกออกไปด้วยซ้ำ
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ