หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการฟื้นฟูผิวหน้าที่แห้งกร้าน เริ่มเหี่ยวย่น หรือขาดความชุ่มชื้น โปรแกรม Profhilo อาจเป็นคำตอบที่คุณค้นหา ด้วยเทคโนโลยีไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้นที่ผสมผสานกับศิลปะการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ทำให้ผิวของคุณกลับมาเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Profhilo คืออะไร?
Profhilo เป็นเทคโนโลยีการฉีดไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ชนิดใหม่ที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป ด้วยสูตรที่ผสมผสาน High Molecular Weight HA และ Low Molecular Weight HA ในสัดส่วนที่สมบูรณ์ ทำให้สามารถกระจายตัวและซึมซาบลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ทำให้ Profhilo โดดเด่นคือการออกแบบมาเพื่อ “ฟื้นฟูผิวจากภายใน” มากกว่าการเติมเต็มหรือปรับแต่งรูปร่าง โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของผิวเอง ส่งผลให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น กระชับ และเปล่งประกายอย่างยั่งยืน
นวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแปลกไป แต่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นจากรากฐาน
หลักการทำงานของโปรแกรม Profhilo
หลักการสำคัญของ Profhilo อยู่ที่การใช้เทคโนโลยี NAHYCO® (Natural Cohesive Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นการผสมผสานไฮยาลูโรนิกแอซิด 2 ชนิดด้วยกรบวนการทางความร้อนโดยไม่ใช้สารเชื่อมโยง (Cross-linking agent) ทำให้ได้สารที่บริสุทธิ์และปลอดภัย
เมื่อฉีดเข้าไปในผิว Profhilo จะทำงานใน 3 ขั้นตอน:
- การกระจายตัวอย่างเป็นธรรมชาติ HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำจะกระจายตัวไปทั่วบริเวณที่ฉีด ช่วยให้ผิวได้รับการชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
- การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงจะทำหน้าที่กระตุ้น Fibroblast (เซลล์ที่สร้างคอลลาเจน) ให้ทำงานมากขึ้น
- การฟื้นฟูโครงสร้างผิว ผิวจะค่อย ๆ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวกลับมากระชับ เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
โปรแกรม Profhilo ปลอดภัยไหม?
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้รับบริการให้ความสำคัญมากที่สุด Profhilo ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีระดับความปลอดภัยสูง เนื่องจากหลายปัจจัย:
มาตรฐานการผลิต – ผลิตด้วยเทคโนโลยี NAHYCO® ที่ไม่ใช้สารเชื่อมโยงเคมี ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้
ส่วนประกอบธรรมชาติ – ไฮยาลูโรนิกแอซิดเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว จึงมีความเข้ากันได้สูงกับผิว
การย่อยสลายตามธรรมชาติ – สารจะถูกร่างกายย่อยสลายไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่สะสมในร่างกาย
รับรองมาตรฐานสากล – ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย CE Mark ของยุโรป และ FDA ของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้ทำการรักษายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรับประกันความปลอดภัย การรักษาควรได้รับการดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความรู้เฉพาะทางในการใช้ Profhilo
Profhilo ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
โปรแกรม Profhilo ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวหลากหลายประเภท โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นและการเสื่อมของโครงสร้างผิว:
ผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่มนวล และเปล่งปลั่งมากขึ้น
ริ้วรอยตื้นและร่องแก้ม ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแปลกไปจากเดิม
ผิวเสียจากแสงแดด กระตุ้นการซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากรังสี UV ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น
ผิวหย่อนคล้อย เสริมความกระชับให้ผิวผ่านการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
รูขุมขนกว้าง ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้ละเอียดขึ้น ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและไม่เด่นชัด
ผิวหมองคล้ำและไม่มีความเปล่งประกาย เสริมความสดใสให้ผิว ทำให้ใบหน้าดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ Profhilo ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาเฉพาะจุด แต่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าที่ติดทนนานขึ้น ผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้น หรือความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน
Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ความยืดหยุ่นของ Profhilo คือสามารถนำมาใช้ดูแลผิวได้หลากหลายบริเวณ โดยแต่ละจุดจะได้รับการออกแบบเทคนิคการฉีดที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดกับลักษณะของผิวในแต่ละพื้นที่
1. ใบหน้า
บริเวณใบหน้าเป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการฉีด Profhilo โดยจะใช้เทคนิค Bio Aesthetic Point (BAP) ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับการศึกษาวิจัยเฉพาะ มีทั้งหมด 5 จุดในแต่ละข้างของใบหน้า
จุดการฉีดที่สำคัญ:
- บริเวณแก้มส่วนบน เพื่อเสริมความกระชับและยกกรรมใบหน้า
- บริเวณแก้มส่วนล่าง ช่วยปรับปรุงเส้นขอบหน้า
- พื้นที่รอบปาก เพื่อลดริ้วรอยตื้นและเพิ่มความชุ่มชื้น
- บริเวณคาง ช่วยให้โครงหน้าดูชัดเจนขึ้น
การฉีดในบริเวณใบหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป แต่ช่วยเสริมสร้างความสุขภาพและความเปล่งประกายของผิว
2. ใต้ตา
บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนและต้องการความชำนาญเป็นพิเศษ Profhilo สามารถช่วยปรับปรุงปัญหาในบริเวณนี้ได้อย่างอ่อนโยน
ปัญหาที่สามารถดูแลได้:
- ถุงใต้ตาเล็กน้อย
- ผิวหย่อนคล้อยใต้ตา
- เส้นริ้วรอยตื้น ๆ
- ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น
การรักษาบริเวณใต้ตาด้วย Profhilo จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น และลดเงาใต้ตาที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย
3. ลำคอ
ลำคอเป็นบริเวณที่มักถูกมองข้าม แต่สามารถเผยให้เห็นสัญญาณของวัยได้อย่างชัดเจน Profhilo ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวบริเวณนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์ที่ได้รับ:
- ผิวคอกระชับขึ้น
- ลดริ้วรอยแนวนอนบนคอ
- ปรับปรุงเนื้อผิวให้เรียบเนียน
- เสริมความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณคอและไหล่บน
การดูแลบริเวณลำคอด้วย Profhilo จะช่วยให้ดูสมส่วนกับใบหน้าที่ได้รับการดูแลแล้ว
4. หลังมือ
หลังมือเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่แสดงสัญญาณของวัยอย่างชัดเจน และมักได้รับผลกระทบจากแสงแดดและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การปรับปรุงที่เห็นได้:
- เส้นเอ็นและเส้นเลือดดูไม่เด่นชัด
- ผิวมือดูอิ่มฟูและอ่อนเยาว์ขึ้น
- สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
- ความนุ่มนวลของผิวมือเพิ่มขึ้น
5. บริเวณผิวเฉพาะจุดอื่น ๆ
นอกจากบริเวณหลักแล้ว Profhilo ยังสามารถนำมาใช้ดูแลผิวในบริเวณอื่น ๆ ตามความเหมาะสมและความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น:
- บริเวณไหล่บน สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหยาบกร้านจากการสวมเสื้อผ้า
- บริเวณท้องแขน เพื่อปรับปรุงความกระชับของผิว
- เหนือหน้าอก สำหรับการดูแลผิวที่ได้รับแสงแดด
การเลือกบริเวณที่จะรับการรักษาควรปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการดูแลที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว
Profhilo ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?
การวางแผนการรักษาด้วย Profhilo จะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน
โปรโตคอลมาตรฐาน:
- ครั้งที่ 1-2: ระยะห่าง 4 สัปดาห์ เป็นช่วง Basic Treatment
- การติดตาม: หลังจากครั้งที่ 2 ประมาณ 4-6 สัปดาห์
- การดูแลรักษา: ทุก 6-9 เดือน ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง:
หลังครั้งแรก (1-2 สัปดาห์)
- ผิวรู้สึกชุ่มชื้นและนุ่มนวลมากขึ้น
- การแต่งหน้าติดทนนานขึ้น
- ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้นเล็กน้อย
หลังครั้งที่สอง (4-8 สัปดาห์)
- เริ่มเห็นการปรับปรุงเนื้อผิวอย่างชัดเจน
- ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น
- ริ้วรอยตื้น ๆ ลดลง
ผลลัพธ์เต็มที่ (8-12 สัปดาห์)
- ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
- โครงสร้างผิวดีขึ้นอย่างชัดเจน
- ความมั่นใจในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้น
ระยะเวลาคงอยู่: ผลลัพธ์จาก Profhilo สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:
- อายุและสภาพผิวเริ่มต้น
- การดูแลผิวหลังการรักษา
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การได้รับแสงแดด
- ไลฟ์สไตล์และการดูแลสุขภาพโดยรวม
โปรแกรม Profhilo เหมาะกับใคร?
การเลือกรับโปรแกรม Profhilo ควรพิจารณาจากความต้องการและสภาพผิวเฉพาะตัว โดยกลุ่มที่เหมาะสมมีดังนี้
1. คนวัยทำงาน อายุ 25 ปีขึ้นไป
ในวัยนี้ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจนลดลง และผิวเริ่มแสดงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง Profhilo เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มดูแลผิวอย่างเป็นระบบ
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาผิวก่อนเกิดขึ้น
- คนที่ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ
- ผู้ที่ใช้เวลาในการแต่งหน้านาน ต้องการผิวพื้นฐานที่แข็งแรง
2. ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมตามวัย
สำหรับผู้ที่เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว Profhilo ช่วยชะลอและปรับปรุงปัญหาเหล่านี้อย่างอ่อนโยน
สัญญาณที่ควรพิจารณา:
- ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- ริ้วรอยตื้น ๆ เริ่มปรากฏ
- ผิวขาดความยืดหยุ่น
- รูขุมขนเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
3. ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด
หากคุณมีปัญหาด้านความชุ่มชื้นของผิวอย่างต่อเนื่อง Profhilo สามารถช่วยแก้ปัญหาได้จากรากฐาน
อาการที่สังเกตได้:
- ผิวตึงหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- การแต่งหน้าหลุดง่าย หรือไม่เรียบเนียน
- ผิวดูหมองคล้ำ ไม่มีความเปล่งประกาย
- ต้องใช้ครีมบำรุงหลายขั้นตอนแต่ยังรู้สึกแห้งตึง
4. ผู้ที่เคยทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ แล้วผิวยังไม่ฟูขึ้นเท่าที่ต้องการ
บางครั้งการรักษาด้วยเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ อาจให้ผลในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ผิวยังขาดความอิ่มฟูและความชุ่มชื้น Profhilo สามารถเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปนี้ได้
เหมาะสำหรับผู้ที่:
- เคยทำเลเซอร์แล้วแต่ผิวยังดูแห้งกร้าน
- ทำฟิลเลอร์แต่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มเติม
- รักษาสิวแล้วแต่ผิวยังดูไม่มีความเปล่งประกาย
- ทำ Botox แล้วแต่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
การตัดสินใจเลือกโปรแกรม Profhilo ควรเริ่มจากการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัว เพื่อให้ได้แผนการดูแลที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับโปรแกรม Profhilo
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะตัวตามสภาพผิวและประวัติสุขภาพของแต่ละบุคคล
ก่อนการนัดหมาย 1-2 สัปดาห์:
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน E หรือ Omega-3 (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยาใด ๆ)
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ บริเวณที่จะรักษา
- เลิกดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วันก่อนการรักษา
วันก่อนการรักษา:
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายและผิวมีความชุ่มชื้นที่ดี
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อมรับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูง
ในวันรักษา:
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ไม่ทาครีมหรือเครื่องสำอางใด ๆ
- แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในการรักษา
- มาถึงคลินิกก่อนเวลานัดประมาณ 15-30 นาที
- แจ้งแพทย์หากมีความผิดปกติของร่างกาย เช่น ป่วยหวัด หรือมีอาการอักเสบ
ข้อมูลสำคัญที่ควรแจ้งแพทย์:
- ประวัติการแพ้ยาหรือสารใด ๆ
- ประวัติการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
- การใช้ยาหรืออาหารเสริมที่อาจส่งผลต่อการรักษา
- สภาวะสุขภาพพิเศษ เช่น ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว
ขั้นตอนการฉีดโปรแกรม Profhilo
ขั้นตอนการรักษาด้วย Profhilo ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: การปรึกษาและประเมินผิว แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด ผ่านการสังเกตและการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ผิวเฉพาะทาง เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ขั้นตอนที่ 2: การทำความสะอาดและเตรียมผิว
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะรักษาด้วยสารฆ่าเชื้อทางการแพทย์
- ทาครีมชาเฉพาะที่หากจำเป็น (ประมาณ 20-30 นาที)
- กำหนดจุดที่จะฉีดตามหลัก Bio Aesthetic Point (BAP)
ขั้นตอนที่ 3: การฉีด Profhilo
- ใช้เข็มขนาดเล็ก (30-32 gauge) เพื่อลดความเจ็บปวด
- ฉีด Profhilo ในจุดที่กำหนดไว้อย่างระมัดระวัง
- ใช้เทคนิคการฉีดที่อ่อนโยน เพื่อให้สารกระจายตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ระยะเวลาการฉีดประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา
ขั้นตอนที่ 4: การดูแลหลังการรักษา
- ประเมินสภาพผิวหลังการรักษา
- ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังการรักษา
- กำหนดนัดครั้งต่อไปตามแผนการรักษา
- แจ้งช่องทางติดต่อกรณีมีคำถามหรือความกังวล
ความรู้สึกระหว่างการรักษา: ส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายกับการฉีดวัคซีน ความเจ็บปวดจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากการฉีดเสร็จสิ้น
ผลลัพธ์หลังฉีดโปรแกรม Profhilo เป็นอย่างไร?
การเปลี่ยนแปลงหลังจากรับโปรแกรม Profhilo จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสมดุลกับโครงสร้างหน้าเดิม
สัปดาห์ที่ 1-2: ช่วงการฟื้นฟู
- ผิวอาจมีการบวมเล็กน้อยบริเวณจุดที่ฉีด เป็นเรื่องปกติและจะหายไปเอง
- เริ่มรู้สึกถึงความชุ่มชื้นของผิวมากขึ้น
- ผิวดูสดใสขึ้นเล็กน้อย แม้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก
สัปดาห์ที่ 3-4: การเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
- ผิวรู้สึกนุ่มนวลและเรียบเนียนมากขึ้น
- การแต่งหน้าติดทนนานขึ้น และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- รู้สึกว่าผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น
สัปดาห์ที่ 5-8: ผลลัพธ์เริ่มชัดเจน
- เห็นการปรับปรุงเนื้อผิวอย่างเด่นชัด
- ริ้วรอยตื้น ๆ ลดลง
- ผิวกระชับขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้มและขอบหน้า
- รูขุมขนดูเล็กลงและไม่เด่นชัด
สัปดาห์ที่ 9-12: ผลลัพธ์เต็มที่
- ได้รับผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
- ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
- ความมั่นใจในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
- คนรอบข้างอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางบวก
ลักษณะเฉพาะของผลลัพธ์:
- เป็นธรรมชาติ: ไม่ทำให้หน้าดูแปลกหรือตึง
- สมดุล: ปรับปรุงผิวโดยรวมแทนการเปลี่ยนแปลงเฉพาะจุด
- ยั่งยืน: ผลลัพธ์จะค่อย ๆ พัฒนาและคงอยู่นานขึ้น
- เสริมความมั่นใจ: ช่วยให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดโปรแกรม Profhilo
แม้ว่า Profhilo จะเป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง แต่เช่นเดียวกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ ผู้รับบริการควรทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นทันที (ปกติและจะหายเอง):
การบวม
- เกิดขึ้นได้ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
- มักเกิดบริเวณจุดที่ฉีด โดยเฉพาะใต้ตาและแก้ม
- สามารถลดได้ด้วยการประคบเย็นเบา ๆ
รอยแดง
- อาจมีรอยแดงเล็กน้อยบริเวณจุดที่ฉีด
- มักหายไปภายใน 2-4 ชั่วโมง
- สามารถปกปิดด้วยการแต่งหน้าได้หากจำเป็น
ความเจ็บปวดเล็กน้อย
- รู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
- คล้ายกับความรู้สึกหลังการฉีดวัคซีน
- มักหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
ผลข้างเคียงที่ไม่พบบ่อย:
รอยช้ำเล็กน้อย
- อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยแตกง่าย
- หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
- สามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
การอักเสบเล็กน้อย
- เกิดขึ้นได้หากมีการติดเชื้อ (ซึ่งไม่พบบ่อย)
- ควรติดต่อแพทย์หากมีอาการผิดปกติ
ข้อควรระวังสำคัญ:
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดในช่วง 6-8 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือไปซาวน่าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หากมีอาการผิดปกติหรือความกังวล ควรติดต่อแพทย์ทันที
การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและเพิ่มความมั่นใจในการรักษา
เปรียบเทียบความแตกต่างของ Profhilo กับ HA Filler ทั่วไป
หลายคนมักสงสัยว่า Profhilo แตกต่างจาก HA Filler ทั่วไปอย่างไร ทั้งสองมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูโรนิกแอซิดเหมือนกัน แต่มีการใช้งานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
HA Filler ทั่วไป
- วัตถุประสงค์หลัก: เติมเต็มและปรับรูปร่าง เช่น เสริมริมฝีปาก ยกแก้ม หรือเติมร่องใต้ตา
- โครงสร้างโมเลกุล: มีการเชื่อมโยง (Cross-linked) ให้มีความหนาแน่นสูง
- การกระจายตัว: อยู่ในตำแหน่งที่ฉีดและกระจายตัวน้อย
- ผลลัพธ์: เปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดได้ชัดเจน
- ระยะเวลาคงอยู่: 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์
Profhilo
- วัตถุประสงค์หลัก: ปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- โครงสร้างโมเลกุล: ไม่มีการเชื่อมโยง ผสมผสาน 2 น้ำหนักโมเลกุลต่างกัน
- การกระจายตัว: กระจายตัวไปทั่วผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์: ปรับปรุงเนื้อผิว ความชุ่มชื้น และความกระชับ
- ระยะเวลาคงอยู่: 6-9 เดือน แต่มีการปรับปรุงคุณภาพผิวระยะยาว
ตารางเปรียบเทียบ:
ลักษณะ |
HA Filler ทั่วไป |
Profhilo |
การใช้งานหลัก |
เติมเต็ม ปรับรูปร่าง |
ฟื้นฟูคุณภาพผิว |
จุดฉีด |
เฉพาะบริเวณที่ต้องการปรับ |
จุดยุทธศาสตร์ 5 จุด/ข้าง |
ผลต่อรูปร่าง |
เปลี่ยนรูปร่างได้ |
คงรูปร่างเดิม |
การกระตุ้นคอลลาเจน |
น้อย |
สูง |
ความเป็นธรรมชาติ |
ขึ้นกับเทคนิค |
สูงมาก |
การเลือกใช้งาน:
- หากต้องการปรับรูปร่าง เช่น เสริมริมฝีปาก หรือยกแก้ม ควรเลือก HA Filler
- หากต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว และความชุ่มชื้น ควรเลือก Profhilo
สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
เปรียบเทียบ Profhilo | Sculptra | Radiesse
การเลือกทรีตเมนต์ที่เหมาะสมจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตลาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
Profhilo
ส่วนประกอบหลัก: Hyaluronic Acid บริสุทธิ์ 2 น้ำหนักโมเลกุล จุดเด่น:
- ให้ความชุ่มชื้นทันที
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับทุกสีผิว เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมและเพิ่มความชุ่มชื้น
Sculptra
ส่วนประกอบหลัก: Poly-L-Lactic Acid (PLLA) จุดเด่น:
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน (18-24 เดือน)
- เหมาะสำหรับการยกกระชับ เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากและต้องการความกระชับระยะยาว
Radiesse
ส่วนประกอบหลัก: Calcium Hydroxylapatite (CaHA) จุดเด่น:
- ให้ผลทันทีและระยะยาว
- กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี
- เหมาะสำหรับการปรับโครงหน้า เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าและเพิ่มความกระชับพร้อมกัน
ตารางเปรียบเทียบโดยละเอียด:
ลักษณะ |
Profhilo |
Sculptra |
Radiesse |
เวลาเห็นผล |
2-4 สัปดาห์ |
6-12 สัปดาห์ |
ทันทีและค่อยเป็นค่อยไป |
ระยะเวลาคงอยู่ |
6-9 เดือน |
18-24 เดือน |
12-18 เดือน |
จำนวนครั้ง |
2-3 ครั้ง |
3-4 ครั้ง |
1-2 ครั้ง |
ความเจ็บปวด |
น้อย |
ปานกลาง |
น้อย-ปานกลาง |
เวลาพักฟื้น |
1-2 วัน |
2-3 วัน |
1-2 วัน |
เหมาะกับอายุ |
25+ |
35+ |
30+ |
การเลือกที่เหมาะสม:
- อายุ 25-35: Profhilo เหมาะสำหรับการป้องกันและดูแลเบื้องต้น
- อายุ 35-45: สามารถเลือกใช้ร่วมกันตามปัญหาเฉพาะ
- อายุ 45+: อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์
โปรแกรม Profhilo ทำร่วมกับโปรแกรม Ulthera/Thermage
การรวมโปรแกรม Profhilo เข้ากับเทคโนโลยีการยกกระชับอื่น ๆ เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากกว่าการทำแต่ละโปรแกรมเพียงอย่างเดียว
การทำร่วมกับ Ulthera
Ulthera เป็นเทคโนโลยี Micro-focused Ultrasound ที่ทำงานในชั้นลึกของผิว (SMAS Layer) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับ
ประโยชน์ของการทำร่วมกัน:
- Ulthera: ยกกระชับจากชั้นลึก ปรับโครงหน้า
- Profhilo: เพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อผิว
- ผลลัพธ์รวม: หน้ากระชับ + ผิวสุขภาพดี + ความชุ่มชื้นสมดุล
ลำดับการทำ:
- Ulthera ก่อน – เพื่อสร้างรากฐานการยกกระชับ
- รอ 2-4 สัปดาห์
- Profhilo – เพื่อเสริมความชุ่มชื้นและคุณภาพผิว
การทำร่วมกับ Thermage
Thermage ใช้เทคโนโลยี Radiofrequency เพื่อให้ความร้อนแก่ชั้นผิวลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
ประโยชน์ของการทำร่วมกัน:
- Thermage: กระชับผิว ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
- Profhilo: เติมเต็มความชุ่มชื้น ปรับปรุงเนื้อผิว
- ผลลัพธ์รวม: ความกระชับ + ความนุ่มนวล + ความเปล่งประกาย
ข้อดีของการการทำร่วมกัน:
- ผลลัพธ์ครอบคลุมมากขึ้น
- ลดจำนวนครั้งในการรักษาแต่ละโปรแกรม
- ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้น
- การดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มที่เหมาะสม:
- อายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหลากหลาย
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ครอบคลุมและรวดเร็ว
- ผู้ที่สามารถจัดเวลาและงบประมาณได้
ข้อควรพิจารณา:
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- พิจารณาสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัว
- มีการติดตามผลและปรับแผนตามผลลัพธ์ที่ได้รับ
คุณหมอตอบชัด! โปรแกรม Profhilo คุ้มไหม? เหมาะกับคุณหรือเปล่า?
“ในฐานะแพทย์ที่ดูแลผิวผู้รับบริการมาอย่างต่อเนื่อง หมอมักถูกถามเรื่อง Profhilo บ่อยมาก วันนี้หมออยากแชร์มุมมองจากประสบการณ์ตรงที่ได้ดูแลผู้รับบริการหลายรายแล้ว
เรื่องของความคุ้มค่า
จากประสบการณ์ของหมอ ความคุ้มค่าของ Profhilo ไม่ได้วัดแค่จากราคาเท่านั้น แต่ต้องดูจาก 3 มุมมอง:
- ด้านผลลัพธ์ หมอเห็นคนไข้หลายรายที่เปลี่ยนไปในทางบวก ไม่ใช่แค้เรื่องหน้าตา แต่เรื่องความมั่นใจด้วย หลายคนบอกว่าแต่งหน้าง่ายขึ้น ถ่ายรูปไม่ต้องแต่งมาก และที่สำคัญคือ รู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
- ด้านความปลอดภัย สำหรับหมอ ความปลอดภัยเป็นสิ่งแรกที่คิดเสมอ Profhilo มีข้อดีคือเป็นสาร HA ที่บริสุทธิ์ ไม่มี cross-linking agent ทำให้ปลอดภัยสูง หมอไม่เคยพบปัญหาร้ายแรงจากการใช้ Profhilo
- ด้านเวลาและการดูแลรักษา คนไข้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ส่วนใหญ่มาทำแล้วกลับไปทำงานได้เลย นี่เป็นจุดที่หลายคนชอบ เพราะไม่กระทบกับไลฟ์สไตล์
ใครที่หมอแนะนำให้ทำ Profhilo
กลุ่มที่หมอคิดว่าเหมาะมาก:
- คนที่ผิวเริ่มแห้ง แต่งหน้าไม่ติด
- คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแอร์ บิน หรือสถานที่แห้ง
- คนที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าทำอะไรมา
- คนที่อายุ 28-45 ปี ที่ผิวเริ่มมีปัญหาแต่ยังไม่มาก
กลุ่มที่หมอคิดว่าควรพิจารณาเพิ่ม:
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องทำร่วมกับวิธีอื่น
- คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้า เพราะ Profhilo ไม่ได้ทำหน้าที่นี้
คำแนะนำจากประสบการณ์จริง
สิ่งที่หมอคิดว่าสำคัญที่สุด คือการมีความเข้าใจที่ถูกต้องกับผลลัพธ์ที่จะได้รับ Profhilo ไม่ใช่ ‘ยาวิเศษ’ ที่จะเปลี่ยนหน้าคุณในข้ามคืน แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสุขภาพผิว
หมอมักบอกคนไข้ว่า ลองคิดดูว่า เราดูแลใบหน้าทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า ทาครีม ทำแมส การทำ Profhilo ก็เหมือนกับการ ‘upgrade’ การดูแลให้ดีขึ้นอีกระดับ
คำถามที่หมออยากให้คุณถามตัวเอง
- คุณพร้อมที่จะทำต่อเนื่องไหม? เพราะ Profhilo ต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
- คุณมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลไหม? อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนเป็นคนละคน
- คุณพร้อมที่จะดูแลตัวเองหลังทำไหม? การใช้ครีมกันแดด ดื่มน้ำเพียงพอ เป็นต้น
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาจากความร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้ การมีความเข้าใจที่ตรงกัน และการดูแลต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การทำครั้งเดียวแล้วทิ้งไว้
สิ่งสุดท้ายที่หมออยากบอก คือ อย่าเพิ่งตัดสินใจเพราะคนอื่นทำ หรือเพราะเห็นในโซเชียล ให้เวลาตัวเองคิด ปรึกษาครอบครัว และที่สำคัญคือ เลือกแพทย์และคลินิกที่คุณไว้วางใจได้จริง ๆ”
โปรแกรม Profhilo ราคาเท่าไหร่?
การลงทุนในโปรแกรม Profhilo ควรพิจารณาจากหลายมิติ เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา:
- คุณภาพผลิตภัณฑ์
- Profhilo แท้จากอิตาลี (IBSA) มีราคาต่างจากผลิตภัณฑ์เทียบเคียง
- การนำเข้าและเก็บรักษาตามมาตรฐานสากล
- การรับรองและตรวจสอบคุณภาพจากหน่วงงานที่เกี่ยวข้อง
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์
- ประสบการณ์และการฝึกอบรมเฉพาะทาง
- ความรู้ในการใช้เทคนิค Bio Aesthetic Point (BAP)
- การประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
- มาตรฐานคลินิก
- สิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ทางการแพทย์
- มาตรฐานความปลอดภัยและการควบคุมการติดเชื้อ
- บริการดูแลหลังการรักษา
- บริเวณและจำนวนการรักษา
- ใบหน้า (โปรแกรมพื้นฐาน)
- ใบหน้า + คอ
- ใบหน้า + คอ + หลังมือ
- แผนการรักษาแบบครบวงจร
การคิดค่าใช้จ่าย: ราคาโปรแกรม Profhilo จะแตกต่างกันตามแผนการรักษาและความต้องการเฉพาะบุคคล โดยทั่วไปจะเริ่มต้นจากการรักษาใบหน้าแบบครบ 2 ครั้ง ตามโปรโตคอลมาตรฐาน
สิ่งที่ควรพิจารณานอกเหนือจากราคา:
- ประสบการณ์และผลงานของแพทย์
- การติดตามและดูแลหลังการรักษา
- ความโปร่งใสในการให้ข้อมูล
- มาตรฐานความปลอดภัยของคลินิก
คำแนะนำในการเลือก: เลือกคลินิกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าการแข่งขันด้านราคา เพราะผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยมีค่ามากกว่าการประหยัดในระยะสั้น
ทำไมต้องเลือกฉีดโปรแกรม Profhilo ที่รัตตินันท์ คลินิก
การเลือกคลินิกสำหรับการรักษาด้วย Profhilo เป็นการตัดสินใจสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้รับ รัตตินันท์ คลินิกมีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าไว้วางใจ
ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
ทีมแพทย์ของรัตตินันท์ คลินิกมีความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางในด้านการดูแลผิวและความงาม โดยได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
ความเชี่ยวชาญที่โดดเด่น:
- การประเมินผิวด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างลึกซึ้ง
- เทคนิคการฉีดที่ปรับแต่งตามโครงสร้างหน้าของแต่ละบุคคล
- การใช้หลัก Bio Aesthetic Point (BAP) อย่างถูกต้องและแม่นยำ
- ความรู้ในการผสมผสานโปรแกรม Profhilo กับการรักษาอื่น ๆ
การดูแลอย่างใกล้ชิด: แพทย์ให้ความสำคัญกับการติดตามผลการรักษา และปรับแผนการดูแลตามการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน
ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวเฉพาะคุณ
หลักการสำคัญของรัตตินันท์ คลินิกคือการไม่มี “โปรแกรมเดียวสำหรับทุกคน” แต่เน้นการสร้างแผนการดูแลที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิวเฉพาะตัว
กระบวนการออกแบบเฉพาะบุคคล:
- การประเมินเริ่มต้น
- วิเคราะห์ประเภทผิว ความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่น
- ประเมินปัจจัยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลต่อสุขภาพผิว
- ทำความเข้าใจความต้องการและความคาดหวัง
- การวางแผนรักษา
- กำหนดจุดฉีดที่เหมาะสมกับโครงหน้าและปัญหาเฉพาะ
- ปรับปริมาณและเทคนิคตามความต้องการ
- วางแผนการดูแลระยะยาวเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
- การติดตามและปรับปรุง
- ประเมินผลการรักษาในแต่ละครั้ง
- ปรับแผนการรักษาตามการตอบสนองของผิว
- ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่เหมาะสม
ความแตกต่างที่สัมผัสได้: ผู้รับบริการจะได้รับการดูแลที่คำนึงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ไม่ใช่การทำตามแบบฟอร์มเดียวกันสำหรับทุกคน
คลินิกได้มาตรฐานระดับสากล
รัตตินันท์ คลินิกให้ความสำคัญกับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยในระดับสากล เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจในทุกขั้นตอนการรักษา
มาตรฐาน AACI (Aesthetic Anti-Aging Centers International):
- ระบบการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล
- การจัดการและเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง
- ขั้นตอนการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย:
- ห้องรักษาที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
- ระบบการฆ่าเชื้อและควบคุมการติดเชื้อ
- อุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับการตรวจสอบ
การรับรองคุณภาพ:
- ใบรับรองและการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
- ระบบการติดตามและประเมินผลการรักษา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Profhilo
A: Profhilo เน้นปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ส่วนฟิลเลอร์เน้นเติมเต็มและปรับรูปร่าง การกระจายตัวและผลลัพธ์จึงแตกต่างกัน
A: ความเจ็บน้อยคล้ายการฉีดวัคซีน อาจมีการบวมเล็กน้อยใน 1-2 วันแรก แต่สามารถใช้ชีวิตปกติได้
A: ไม่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ผู้ที่แพ้ Hyaluronic Acid หรือมีการอักเสบในบริเวณที่จะรักษา
A: ไม่จำเป็น สามารถทำงานได้ปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 24 ชั่วโมงแรก
A: ประมาณ 6-9 เดือน แต่การปรับปรุงคุณภาพผิวอาจคงอยู่นานกว่านั้น ขึ้นกับการดูแลตัวเองด้วย
สรุป
โปรแกรม Profhilo เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวที่โดดเด่นด้วยการใช้ไฮยาลูโรนิกแอซิดบริสุทธิ์ 2 น้ำหนักโมเลกุล ที่ให้ผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผ่านการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของผิวเอง สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา การปรึกษาแพทย์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการดูแลที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์หลากหลายสาขา ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัยสูงและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้รับรองมาตรฐานจาก AACI สหรัฐอเมริกา ด้านศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก 2 ปีซ้อน รวมถึงรางวัลจาก WhatClinic ด้านบริการลูกค้ายอดเยี่ยมระดับสากล เป็นปีที่4 จากลูกค้ากว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง