โปรแกรม Profhilo คืออะไร? ฟื้นฟูผิวล้ำลึก เข้มข้นเพื่อผิวกระชับ แบบธรรมชาติ

Profhilo

สารบัญ

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการฟื้นฟูผิวหน้าที่แห้งกร้าน เริ่มเหี่ยวย่น หรือขาดความชุ่มชื้น โปรแกรม Profhilo อาจเป็นคำตอบที่คุณค้นหา ด้วยเทคโนโลยีไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้นที่ผสมผสานกับศิลปะการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ทำให้ผิวของคุณกลับมาเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ

โปรแกรม Profhilo คืออะไร?

Profhilo เป็นเทคโนโลยีการฉีดไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ชนิดใหม่ที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป ด้วยสูตรที่ผสมผสาน High Molecular Weight HA และ Low Molecular Weight HA ในสัดส่วนที่สมบูรณ์ ทำให้สามารถกระจายตัวและซึมซาบลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ทำให้ Profhilo โดดเด่นคือการออกแบบมาเพื่อ “ฟื้นฟูผิวจากภายใน” มากกว่าการเติมเต็มหรือปรับแต่งรูปร่าง โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของผิวเอง ส่งผลให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น กระชับ และเปล่งประกายอย่างยั่งยืน

นวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแปลกไป แต่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นจากรากฐาน

หลักการทำงานของโปรแกรม Profhilo

หลักการสำคัญของ Profhilo อยู่ที่การใช้เทคโนโลยี NAHYCO® (Natural Cohesive Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นการผสมผสานไฮยาลูโรนิกแอซิด 2 ชนิดด้วยกรบวนการทางความร้อนโดยไม่ใช้สารเชื่อมโยง (Cross-linking agent) ทำให้ได้สารที่บริสุทธิ์และปลอดภัย

เมื่อฉีดเข้าไปในผิว Profhilo จะทำงานใน 3 ขั้นตอน:

  1. การกระจายตัวอย่างเป็นธรรมชาติ HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำจะกระจายตัวไปทั่วบริเวณที่ฉีด ช่วยให้ผิวได้รับการชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
  2. การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงจะทำหน้าที่กระตุ้น Fibroblast (เซลล์ที่สร้างคอลลาเจน) ให้ทำงานมากขึ้น
  3. การฟื้นฟูโครงสร้างผิว ผิวจะค่อย ๆ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวกลับมากระชับ เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 

โปรแกรม Profhilo ปลอดภัยไหม?

ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้รับบริการให้ความสำคัญมากที่สุด Profhilo ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีระดับความปลอดภัยสูง เนื่องจากหลายปัจจัย:

มาตรฐานการผลิต – ผลิตด้วยเทคโนโลยี NAHYCO® ที่ไม่ใช้สารเชื่อมโยงเคมี ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้

ส่วนประกอบธรรมชาติ – ไฮยาลูโรนิกแอซิดเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว จึงมีความเข้ากันได้สูงกับผิว

การย่อยสลายตามธรรมชาติ – สารจะถูกร่างกายย่อยสลายไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่สะสมในร่างกาย

รับรองมาตรฐานสากล – ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย CE Mark ของยุโรป และ FDA ของสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้ทำการรักษายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรับประกันความปลอดภัย การรักษาควรได้รับการดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความรู้เฉพาะทางในการใช้ Profhilo

Profhilo ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

โปรแกรม Profhilo ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวหลากหลายประเภท โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นและการเสื่อมของโครงสร้างผิว:

ผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่มนวล และเปล่งปลั่งมากขึ้น

ริ้วรอยตื้นและร่องแก้ม ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแปลกไปจากเดิม

ผิวเสียจากแสงแดด กระตุ้นการซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากรังสี UV ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น

ผิวหย่อนคล้อย เสริมความกระชับให้ผิวผ่านการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่

รูขุมขนกว้าง ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้ละเอียดขึ้น ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและไม่เด่นชัด

ผิวหมองคล้ำและไม่มีความเปล่งประกาย เสริมความสดใสให้ผิว ทำให้ใบหน้าดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ Profhilo ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาเฉพาะจุด แต่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าที่ติดทนนานขึ้น ผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้น หรือความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน

Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง

Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง

ความยืดหยุ่นของ Profhilo คือสามารถนำมาใช้ดูแลผิวได้หลากหลายบริเวณ โดยแต่ละจุดจะได้รับการออกแบบเทคนิคการฉีดที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดกับลักษณะของผิวในแต่ละพื้นที่

1. ใบหน้า

บริเวณใบหน้าเป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการฉีด Profhilo โดยจะใช้เทคนิค Bio Aesthetic Point (BAP) ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับการศึกษาวิจัยเฉพาะ มีทั้งหมด 5 จุดในแต่ละข้างของใบหน้า

จุดการฉีดที่สำคัญ:

  • บริเวณแก้มส่วนบน เพื่อเสริมความกระชับและยกกรรมใบหน้า
  • บริเวณแก้มส่วนล่าง ช่วยปรับปรุงเส้นขอบหน้า
  • พื้นที่รอบปาก เพื่อลดริ้วรอยตื้นและเพิ่มความชุ่มชื้น
  • บริเวณคาง ช่วยให้โครงหน้าดูชัดเจนขึ้น

การฉีดในบริเวณใบหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป แต่ช่วยเสริมสร้างความสุขภาพและความเปล่งประกายของผิว

2. ใต้ตา

บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนและต้องการความชำนาญเป็นพิเศษ Profhilo สามารถช่วยปรับปรุงปัญหาในบริเวณนี้ได้อย่างอ่อนโยน

ปัญหาที่สามารถดูแลได้:

  • ถุงใต้ตาเล็กน้อย
  • ผิวหย่อนคล้อยใต้ตา
  • เส้นริ้วรอยตื้น ๆ
  • ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น

การรักษาบริเวณใต้ตาด้วย Profhilo จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น และลดเงาใต้ตาที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย

3. ลำคอ

ลำคอเป็นบริเวณที่มักถูกมองข้าม แต่สามารถเผยให้เห็นสัญญาณของวัยได้อย่างชัดเจน Profhilo ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวบริเวณนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ที่ได้รับ:

  • ผิวคอกระชับขึ้น
  • ลดริ้วรอยแนวนอนบนคอ
  • ปรับปรุงเนื้อผิวให้เรียบเนียน
  • เสริมความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณคอและไหล่บน

การดูแลบริเวณลำคอด้วย Profhilo จะช่วยให้ดูสมส่วนกับใบหน้าที่ได้รับการดูแลแล้ว

4. หลังมือ

หลังมือเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่แสดงสัญญาณของวัยอย่างชัดเจน และมักได้รับผลกระทบจากแสงแดดและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

การปรับปรุงที่เห็นได้:

  • เส้นเอ็นและเส้นเลือดดูไม่เด่นชัด
  • ผิวมือดูอิ่มฟูและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
  • ความนุ่มนวลของผิวมือเพิ่มขึ้น

5. บริเวณผิวเฉพาะจุดอื่น ๆ

นอกจากบริเวณหลักแล้ว Profhilo ยังสามารถนำมาใช้ดูแลผิวในบริเวณอื่น ๆ ตามความเหมาะสมและความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น:

  • บริเวณไหล่บน สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหยาบกร้านจากการสวมเสื้อผ้า
  • บริเวณท้องแขน เพื่อปรับปรุงความกระชับของผิว
  • เหนือหน้าอก สำหรับการดูแลผิวที่ได้รับแสงแดด

การเลือกบริเวณที่จะรับการรักษาควรปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการดูแลที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว

profhilo - TH

Profhilo ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

การวางแผนการรักษาด้วย Profhilo จะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน

โปรโตคอลมาตรฐาน:

  • ครั้งที่ 1-2: ระยะห่าง 4 สัปดาห์ เป็นช่วง Basic Treatment
  • การติดตาม: หลังจากครั้งที่ 2 ประมาณ 4-6 สัปดาห์
  • การดูแลรักษา: ทุก 6-9 เดือน ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง:

หลังครั้งแรก (1-2 สัปดาห์)

  • ผิวรู้สึกชุ่มชื้นและนุ่มนวลมากขึ้น
  • การแต่งหน้าติดทนนานขึ้น
  • ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้นเล็กน้อย

หลังครั้งที่สอง (4-8 สัปดาห์)

  • เริ่มเห็นการปรับปรุงเนื้อผิวอย่างชัดเจน
  • ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ริ้วรอยตื้น ๆ ลดลง

ผลลัพธ์เต็มที่ (8-12 สัปดาห์)

  • ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
  • โครงสร้างผิวดีขึ้นอย่างชัดเจน
  • ความมั่นใจในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้น

ระยะเวลาคงอยู่: ผลลัพธ์จาก Profhilo สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:

  • อายุและสภาพผิวเริ่มต้น
  • การดูแลผิวหลังการรักษา
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การได้รับแสงแดด
  • ไลฟ์สไตล์และการดูแลสุขภาพโดยรวม

โปรแกรม Profhilo เหมาะกับใคร?

การเลือกรับโปรแกรม Profhilo ควรพิจารณาจากความต้องการและสภาพผิวเฉพาะตัว โดยกลุ่มที่เหมาะสมมีดังนี้

1. คนวัยทำงาน อายุ 25 ปีขึ้นไป

ในวัยนี้ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจนลดลง และผิวเริ่มแสดงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง Profhilo เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มดูแลผิวอย่างเป็นระบบ

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาผิวก่อนเกิดขึ้น
  • คนที่ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ
  • ผู้ที่ใช้เวลาในการแต่งหน้านาน ต้องการผิวพื้นฐานที่แข็งแรง

2. ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมตามวัย

สำหรับผู้ที่เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว Profhilo ช่วยชะลอและปรับปรุงปัญหาเหล่านี้อย่างอ่อนโยน

สัญญาณที่ควรพิจารณา:

  • ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย
  • ริ้วรอยตื้น ๆ เริ่มปรากฏ
  • ผิวขาดความยืดหยุ่น
  • รูขุมขนเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น

3. ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด

หากคุณมีปัญหาด้านความชุ่มชื้นของผิวอย่างต่อเนื่อง Profhilo สามารถช่วยแก้ปัญหาได้จากรากฐาน

อาการที่สังเกตได้:

  • ผิวตึงหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
  • การแต่งหน้าหลุดง่าย หรือไม่เรียบเนียน
  • ผิวดูหมองคล้ำ ไม่มีความเปล่งประกาย
  • ต้องใช้ครีมบำรุงหลายขั้นตอนแต่ยังรู้สึกแห้งตึง

4. ผู้ที่เคยทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ แล้วผิวยังไม่ฟูขึ้นเท่าที่ต้องการ

บางครั้งการรักษาด้วยเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ อาจให้ผลในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ผิวยังขาดความอิ่มฟูและความชุ่มชื้น Profhilo สามารถเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปนี้ได้

เหมาะสำหรับผู้ที่:

  • เคยทำเลเซอร์แล้วแต่ผิวยังดูแห้งกร้าน
  • ทำฟิลเลอร์แต่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มเติม
  • รักษาสิวแล้วแต่ผิวยังดูไม่มีความเปล่งประกาย
  • ทำ Botox แล้วแต่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม

การตัดสินใจเลือกโปรแกรม Profhilo ควรเริ่มจากการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัว เพื่อให้ได้แผนการดูแลที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับโปรแกรม Profhilo

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะตัวตามสภาพผิวและประวัติสุขภาพของแต่ละบุคคล

ก่อนการนัดหมาย 1-2 สัปดาห์:

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน E หรือ Omega-3 (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยาใด ๆ)
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่น ๆ บริเวณที่จะรักษา
  • เลิกดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วันก่อนการรักษา

วันก่อนการรักษา:

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายและผิวมีความชุ่มชื้นที่ดี
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อมรับการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูง

ในวันรักษา:

  • ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ไม่ทาครีมหรือเครื่องสำอางใด ๆ
  • แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในการรักษา
  • มาถึงคลินิกก่อนเวลานัดประมาณ 15-30 นาที
  • แจ้งแพทย์หากมีความผิดปกติของร่างกาย เช่น ป่วยหวัด หรือมีอาการอักเสบ

ข้อมูลสำคัญที่ควรแจ้งแพทย์:

  • ประวัติการแพ้ยาหรือสารใด ๆ
  • ประวัติการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
  • การใช้ยาหรืออาหารเสริมที่อาจส่งผลต่อการรักษา
  • สภาวะสุขภาพพิเศษ เช่น ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว

ขั้นตอนการฉีดโปรแกรม Profhilo

ขั้นตอนการรักษาด้วย Profhilo ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้:

ขั้นตอนที่ 1: การปรึกษาและประเมินผิว แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด ผ่านการสังเกตและการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ผิวเฉพาะทาง เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

ขั้นตอนที่ 2: การทำความสะอาดและเตรียมผิว

  • ทำความสะอาดบริเวณที่จะรักษาด้วยสารฆ่าเชื้อทางการแพทย์
  • ทาครีมชาเฉพาะที่หากจำเป็น (ประมาณ 20-30 นาที)
  • กำหนดจุดที่จะฉีดตามหลัก Bio Aesthetic Point (BAP)

ขั้นตอนที่ 3: การฉีด Profhilo

  • ใช้เข็มขนาดเล็ก (30-32 gauge) เพื่อลดความเจ็บปวด
  • ฉีด Profhilo ในจุดที่กำหนดไว้อย่างระมัดระวัง
  • ใช้เทคนิคการฉีดที่อ่อนโยน เพื่อให้สารกระจายตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ระยะเวลาการฉีดประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา

ขั้นตอนที่ 4: การดูแลหลังการรักษา

  • ประเมินสภาพผิวหลังการรักษา
  • ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังการรักษา
  • กำหนดนัดครั้งต่อไปตามแผนการรักษา
  • แจ้งช่องทางติดต่อกรณีมีคำถามหรือความกังวล

ความรู้สึกระหว่างการรักษา: ส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายกับการฉีดวัคซีน ความเจ็บปวดจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากการฉีดเสร็จสิ้น

ผลลัพธ์หลังฉีดโปรแกรม Profhilo เป็นอย่างไร?

การเปลี่ยนแปลงหลังจากรับโปรแกรม Profhilo จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสมดุลกับโครงสร้างหน้าเดิม

ทำไมต้อง profhilo

สัปดาห์ที่ 1-2: ช่วงการฟื้นฟู

  • ผิวอาจมีการบวมเล็กน้อยบริเวณจุดที่ฉีด เป็นเรื่องปกติและจะหายไปเอง
  • เริ่มรู้สึกถึงความชุ่มชื้นของผิวมากขึ้น
  • ผิวดูสดใสขึ้นเล็กน้อย แม้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก

สัปดาห์ที่ 3-4: การเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

  • ผิวรู้สึกนุ่มนวลและเรียบเนียนมากขึ้น
  • การแต่งหน้าติดทนนานขึ้น และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • รู้สึกว่าผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น

สัปดาห์ที่ 5-8: ผลลัพธ์เริ่มชัดเจน

  • เห็นการปรับปรุงเนื้อผิวอย่างเด่นชัด
  • ริ้วรอยตื้น ๆ ลดลง
  • ผิวกระชับขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้มและขอบหน้า
  • รูขุมขนดูเล็กลงและไม่เด่นชัด

สัปดาห์ที่ 9-12: ผลลัพธ์เต็มที่

  • ได้รับผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
  • ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ความมั่นใจในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
  • คนรอบข้างอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางบวก

ลักษณะเฉพาะของผลลัพธ์:

  • เป็นธรรมชาติ: ไม่ทำให้หน้าดูแปลกหรือตึง
  • สมดุล: ปรับปรุงผิวโดยรวมแทนการเปลี่ยนแปลงเฉพาะจุด
  • ยั่งยืน: ผลลัพธ์จะค่อย ๆ พัฒนาและคงอยู่นานขึ้น
  • เสริมความมั่นใจ: ช่วยให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดโปรแกรม Profhilo

แม้ว่า Profhilo จะเป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง แต่เช่นเดียวกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ ผู้รับบริการควรทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นทันที (ปกติและจะหายเอง):

การบวม

  • เกิดขึ้นได้ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
  • มักเกิดบริเวณจุดที่ฉีด โดยเฉพาะใต้ตาและแก้ม
  • สามารถลดได้ด้วยการประคบเย็นเบา ๆ

รอยแดง

  • อาจมีรอยแดงเล็กน้อยบริเวณจุดที่ฉีด
  • มักหายไปภายใน 2-4 ชั่วโมง
  • สามารถปกปิดด้วยการแต่งหน้าได้หากจำเป็น

ความเจ็บปวดเล็กน้อย

  • รู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • คล้ายกับความรู้สึกหลังการฉีดวัคซีน
  • มักหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง

ผลข้างเคียงที่ไม่พบบ่อย:

รอยช้ำเล็กน้อย

  • อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยแตกง่าย
  • หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • สามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

การอักเสบเล็กน้อย

  • เกิดขึ้นได้หากมีการติดเชื้อ (ซึ่งไม่พบบ่อย)
  • ควรติดต่อแพทย์หากมีอาการผิดปกติ

ข้อควรระวังสำคัญ:

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดในช่วง 6-8 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือไปซาวน่าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
  • หากมีอาการผิดปกติหรือความกังวล ควรติดต่อแพทย์ทันที

การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและเพิ่มความมั่นใจในการรักษา

เปรียบเทียบความแตกต่างของ Profhilo กับ HA Filler ทั่วไป

หลายคนมักสงสัยว่า Profhilo แตกต่างจาก HA Filler ทั่วไปอย่างไร ทั้งสองมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูโรนิกแอซิดเหมือนกัน แต่มีการใช้งานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

HA Filler ทั่วไป

  • วัตถุประสงค์หลัก: เติมเต็มและปรับรูปร่าง เช่น เสริมริมฝีปาก ยกแก้ม หรือเติมร่องใต้ตา
  • โครงสร้างโมเลกุล: มีการเชื่อมโยง (Cross-linked) ให้มีความหนาแน่นสูง
  • การกระจายตัว: อยู่ในตำแหน่งที่ฉีดและกระจายตัวน้อย
  • ผลลัพธ์: เปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดได้ชัดเจน
  • ระยะเวลาคงอยู่: 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์

Profhilo

  • วัตถุประสงค์หลัก: ปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • โครงสร้างโมเลกุล: ไม่มีการเชื่อมโยง ผสมผสาน 2 น้ำหนักโมเลกุลต่างกัน
  • การกระจายตัว: กระจายตัวไปทั่วผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์: ปรับปรุงเนื้อผิว ความชุ่มชื้น และความกระชับ
  • ระยะเวลาคงอยู่: 6-9 เดือน แต่มีการปรับปรุงคุณภาพผิวระยะยาว

ตารางเปรียบเทียบ:

 

ลักษณะ

HA Filler ทั่วไป

Profhilo

การใช้งานหลัก

เติมเต็ม ปรับรูปร่าง

ฟื้นฟูคุณภาพผิว

จุดฉีด

เฉพาะบริเวณที่ต้องการปรับ

จุดยุทธศาสตร์ 5 จุด/ข้าง

ผลต่อรูปร่าง

เปลี่ยนรูปร่างได้

คงรูปร่างเดิม

การกระตุ้นคอลลาเจน

น้อย

สูง

ความเป็นธรรมชาติ

ขึ้นกับเทคนิค

สูงมาก

การเลือกใช้งาน:

  • หากต้องการปรับรูปร่าง เช่น เสริมริมฝีปาก หรือยกแก้ม ควรเลือก HA Filler
  • หากต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว และความชุ่มชื้น ควรเลือก Profhilo

สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด

เปรียบเทียบ Profhilo | Sculptra | Radiesse

การเลือกทรีตเมนต์ที่เหมาะสมจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตลาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

Profhilo

ส่วนประกอบหลัก: Hyaluronic Acid บริสุทธิ์ 2 น้ำหนักโมเลกุล จุดเด่น:

  • ให้ความชุ่มชื้นทันที
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • เหมาะกับทุกสีผิว เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมและเพิ่มความชุ่มชื้น

Sculptra

ส่วนประกอบหลัก: Poly-L-Lactic Acid (PLLA) จุดเด่น:

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • ผลลัพธ์คงอยู่นาน (18-24 เดือน)
  • เหมาะสำหรับการยกกระชับ เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากและต้องการความกระชับระยะยาว

Radiesse

ส่วนประกอบหลัก: Calcium Hydroxylapatite (CaHA) จุดเด่น:

  • ให้ผลทันทีและระยะยาว
  • กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี
  • เหมาะสำหรับการปรับโครงหน้า เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าและเพิ่มความกระชับพร้อมกัน

ตารางเปรียบเทียบโดยละเอียด:

 

ลักษณะ

Profhilo

Sculptra

Radiesse

เวลาเห็นผล

2-4 สัปดาห์

6-12 สัปดาห์

ทันทีและค่อยเป็นค่อยไป

ระยะเวลาคงอยู่

6-9 เดือน

18-24 เดือน

12-18 เดือน

จำนวนครั้ง

2-3 ครั้ง

3-4 ครั้ง

1-2 ครั้ง

ความเจ็บปวด

น้อย

ปานกลาง

น้อย-ปานกลาง

เวลาพักฟื้น

1-2 วัน

2-3 วัน

1-2 วัน

เหมาะกับอายุ

25+

35+

30+

 

การเลือกที่เหมาะสม:

  • อายุ 25-35: Profhilo เหมาะสำหรับการป้องกันและดูแลเบื้องต้น
  • อายุ 35-45: สามารถเลือกใช้ร่วมกันตามปัญหาเฉพาะ
  • อายุ 45+: อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์

โปรแกรม Profhilo ทำร่วมกับโปรแกรม Ulthera/Thermage

การรวมโปรแกรม Profhilo เข้ากับเทคโนโลยีการยกกระชับอื่น ๆ เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากกว่าการทำแต่ละโปรแกรมเพียงอย่างเดียว

การทำร่วมกับ Ulthera

Ulthera เป็นเทคโนโลยี Micro-focused Ultrasound ที่ทำงานในชั้นลึกของผิว (SMAS Layer) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับ

ประโยชน์ของการทำร่วมกัน:

  • Ulthera: ยกกระชับจากชั้นลึก ปรับโครงหน้า
  • Profhilo: เพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อผิว
  • ผลลัพธ์รวม: หน้ากระชับ + ผิวสุขภาพดี + ความชุ่มชื้นสมดุล

ลำดับการทำ:

  1. Ulthera ก่อน – เพื่อสร้างรากฐานการยกกระชับ
  2. รอ 2-4 สัปดาห์
  3. Profhilo – เพื่อเสริมความชุ่มชื้นและคุณภาพผิว

การทำร่วมกับ Thermage

Thermage ใช้เทคโนโลยี Radiofrequency เพื่อให้ความร้อนแก่ชั้นผิวลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

ประโยชน์ของการทำร่วมกัน:

  • Thermage: กระชับผิว ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
  • Profhilo: เติมเต็มความชุ่มชื้น ปรับปรุงเนื้อผิว
  • ผลลัพธ์รวม: ความกระชับ + ความนุ่มนวล + ความเปล่งประกาย

ข้อดีของการการทำร่วมกัน:

  • ผลลัพธ์ครอบคลุมมากขึ้น
  • ลดจำนวนครั้งในการรักษาแต่ละโปรแกรม
  • ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้น
  • การดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

กลุ่มที่เหมาะสม:

  • อายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหลากหลาย
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ครอบคลุมและรวดเร็ว
  • ผู้ที่สามารถจัดเวลาและงบประมาณได้

ข้อควรพิจารณา:

  • ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  • พิจารณาสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัว
  • มีการติดตามผลและปรับแผนตามผลลัพธ์ที่ได้รับ

คุณหมอตอบชัด! โปรแกรม Profhilo คุ้มไหม? เหมาะกับคุณหรือเปล่า?

“ในฐานะแพทย์ที่ดูแลผิวผู้รับบริการมาอย่างต่อเนื่อง หมอมักถูกถามเรื่อง Profhilo บ่อยมาก วันนี้หมออยากแชร์มุมมองจากประสบการณ์ตรงที่ได้ดูแลผู้รับบริการหลายรายแล้ว

เรื่องของความคุ้มค่า

จากประสบการณ์ของหมอ ความคุ้มค่าของ Profhilo ไม่ได้วัดแค่จากราคาเท่านั้น แต่ต้องดูจาก 3 มุมมอง:

  1. ด้านผลลัพธ์ หมอเห็นคนไข้หลายรายที่เปลี่ยนไปในทางบวก ไม่ใช่แค้เรื่องหน้าตา แต่เรื่องความมั่นใจด้วย หลายคนบอกว่าแต่งหน้าง่ายขึ้น ถ่ายรูปไม่ต้องแต่งมาก และที่สำคัญคือ รู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
  2. ด้านความปลอดภัย สำหรับหมอ ความปลอดภัยเป็นสิ่งแรกที่คิดเสมอ Profhilo มีข้อดีคือเป็นสาร HA ที่บริสุทธิ์ ไม่มี cross-linking agent ทำให้ปลอดภัยสูง หมอไม่เคยพบปัญหาร้ายแรงจากการใช้ Profhilo
  3. ด้านเวลาและการดูแลรักษา คนไข้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ส่วนใหญ่มาทำแล้วกลับไปทำงานได้เลย นี่เป็นจุดที่หลายคนชอบ เพราะไม่กระทบกับไลฟ์สไตล์

ใครที่หมอแนะนำให้ทำ Profhilo

กลุ่มที่หมอคิดว่าเหมาะมาก:

  • คนที่ผิวเริ่มแห้ง แต่งหน้าไม่ติด
  • คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแอร์ บิน หรือสถานที่แห้ง
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าทำอะไรมา
  • คนที่อายุ 28-45 ปี ที่ผิวเริ่มมีปัญหาแต่ยังไม่มาก

กลุ่มที่หมอคิดว่าควรพิจารณาเพิ่ม:

  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องทำร่วมกับวิธีอื่น
  • คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้า เพราะ Profhilo ไม่ได้ทำหน้าที่นี้

คำแนะนำจากประสบการณ์จริง

สิ่งที่หมอคิดว่าสำคัญที่สุด คือการมีความเข้าใจที่ถูกต้องกับผลลัพธ์ที่จะได้รับ Profhilo ไม่ใช่ ‘ยาวิเศษ’ ที่จะเปลี่ยนหน้าคุณในข้ามคืน แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสุขภาพผิว

หมอมักบอกคนไข้ว่า ลองคิดดูว่า เราดูแลใบหน้าทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า ทาครีม ทำแมส การทำ Profhilo ก็เหมือนกับการ ‘upgrade’ การดูแลให้ดีขึ้นอีกระดับ

คำถามที่หมออยากให้คุณถามตัวเอง

  1. คุณพร้อมที่จะทำต่อเนื่องไหม? เพราะ Profhilo ต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
  2. คุณมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลไหม? อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนเป็นคนละคน
  3. คุณพร้อมที่จะดูแลตัวเองหลังทำไหม? การใช้ครีมกันแดด ดื่มน้ำเพียงพอ เป็นต้น

ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาจากความร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้ การมีความเข้าใจที่ตรงกัน และการดูแลต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การทำครั้งเดียวแล้วทิ้งไว้

สิ่งสุดท้ายที่หมออยากบอก คือ อย่าเพิ่งตัดสินใจเพราะคนอื่นทำ หรือเพราะเห็นในโซเชียล ให้เวลาตัวเองคิด ปรึกษาครอบครัว และที่สำคัญคือ เลือกแพทย์และคลินิกที่คุณไว้วางใจได้จริง ๆ”

โปรแกรม Profhilo ราคาเท่าไหร่?

การลงทุนในโปรแกรม Profhilo ควรพิจารณาจากหลายมิติ เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา:

  1. คุณภาพผลิตภัณฑ์
  • Profhilo แท้จากอิตาลี (IBSA) มีราคาต่างจากผลิตภัณฑ์เทียบเคียง
  • การนำเข้าและเก็บรักษาตามมาตรฐานสากล
  • การรับรองและตรวจสอบคุณภาพจากหน่วงงานที่เกี่ยวข้อง
  1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์
  • ประสบการณ์และการฝึกอบรมเฉพาะทาง
  • ความรู้ในการใช้เทคนิค Bio Aesthetic Point (BAP)
  • การประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
  1. มาตรฐานคลินิก
  • สิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • มาตรฐานความปลอดภัยและการควบคุมการติดเชื้อ
  • บริการดูแลหลังการรักษา
  1. บริเวณและจำนวนการรักษา
  • ใบหน้า (โปรแกรมพื้นฐาน)
  • ใบหน้า + คอ
  • ใบหน้า + คอ + หลังมือ
  • แผนการรักษาแบบครบวงจร

การคิดค่าใช้จ่าย: ราคาโปรแกรม Profhilo จะแตกต่างกันตามแผนการรักษาและความต้องการเฉพาะบุคคล โดยทั่วไปจะเริ่มต้นจากการรักษาใบหน้าแบบครบ 2 ครั้ง ตามโปรโตคอลมาตรฐาน

สิ่งที่ควรพิจารณานอกเหนือจากราคา:

  • ประสบการณ์และผลงานของแพทย์
  • การติดตามและดูแลหลังการรักษา
  • ความโปร่งใสในการให้ข้อมูล
  • มาตรฐานความปลอดภัยของคลินิก

คำแนะนำในการเลือก: เลือกคลินิกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าการแข่งขันด้านราคา เพราะผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยมีค่ามากกว่าการประหยัดในระยะสั้น

ทำไมต้องเลือกฉีดโปรแกรม Profhilo ที่รัตตินันท์ คลินิก

การเลือกคลินิกสำหรับการรักษาด้วย Profhilo เป็นการตัดสินใจสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้รับ รัตตินันท์ คลินิกมีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าไว้วางใจ

ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

ทีมแพทย์ของรัตตินันท์ คลินิกมีความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางในด้านการดูแลผิวและความงาม โดยได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ

ความเชี่ยวชาญที่โดดเด่น:

  • การประเมินผิวด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างลึกซึ้ง
  • เทคนิคการฉีดที่ปรับแต่งตามโครงสร้างหน้าของแต่ละบุคคล
  • การใช้หลัก Bio Aesthetic Point (BAP) อย่างถูกต้องและแม่นยำ
  • ความรู้ในการผสมผสานโปรแกรม Profhilo กับการรักษาอื่น ๆ

การดูแลอย่างใกล้ชิด: แพทย์ให้ความสำคัญกับการติดตามผลการรักษา และปรับแผนการดูแลตามการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน

ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวเฉพาะคุณ

หลักการสำคัญของรัตตินันท์ คลินิกคือการไม่มี “โปรแกรมเดียวสำหรับทุกคน” แต่เน้นการสร้างแผนการดูแลที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิวเฉพาะตัว

กระบวนการออกแบบเฉพาะบุคคล:

  1. การประเมินเริ่มต้น
  • วิเคราะห์ประเภทผิว ความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่น
  • ประเมินปัจจัยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลต่อสุขภาพผิว
  • ทำความเข้าใจความต้องการและความคาดหวัง
  1. การวางแผนรักษา
  • กำหนดจุดฉีดที่เหมาะสมกับโครงหน้าและปัญหาเฉพาะ
  • ปรับปริมาณและเทคนิคตามความต้องการ
  • วางแผนการดูแลระยะยาวเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
  1. การติดตามและปรับปรุง
  • ประเมินผลการรักษาในแต่ละครั้ง
  • ปรับแผนการรักษาตามการตอบสนองของผิว
  • ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่เหมาะสม

ความแตกต่างที่สัมผัสได้: ผู้รับบริการจะได้รับการดูแลที่คำนึงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ไม่ใช่การทำตามแบบฟอร์มเดียวกันสำหรับทุกคน

คลินิกได้มาตรฐานระดับสากล

รัตตินันท์ คลินิกให้ความสำคัญกับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยในระดับสากล เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจในทุกขั้นตอนการรักษา

มาตรฐาน AACI (Aesthetic Anti-Aging Centers International):

  • ระบบการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล
  • การจัดการและเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง
  • ขั้นตอนการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย:

  • ห้องรักษาที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
  • ระบบการฆ่าเชื้อและควบคุมการติดเชื้อ
  • อุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับการตรวจสอบ

การรับรองคุณภาพ:

  • ใบรับรองและการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • การอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
  • ระบบการติดตามและประเมินผลการรักษา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Profhilo

A: Profhilo เน้นปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ส่วนฟิลเลอร์เน้นเติมเต็มและปรับรูปร่าง การกระจายตัวและผลลัพธ์จึงแตกต่างกัน

 A: ความเจ็บน้อยคล้ายการฉีดวัคซีน อาจมีการบวมเล็กน้อยใน 1-2 วันแรก แต่สามารถใช้ชีวิตปกติได้

 A: ไม่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ผู้ที่แพ้ Hyaluronic Acid หรือมีการอักเสบในบริเวณที่จะรักษา

A: ไม่จำเป็น สามารถทำงานได้ปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 24 ชั่วโมงแรก

 A: ประมาณ 6-9 เดือน แต่การปรับปรุงคุณภาพผิวอาจคงอยู่นานกว่านั้น ขึ้นกับการดูแลตัวเองด้วย

สรุป

โปรแกรม Profhilo เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวที่โดดเด่นด้วยการใช้ไฮยาลูโรนิกแอซิดบริสุทธิ์ 2 น้ำหนักโมเลกุล ที่ให้ผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผ่านการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของผิวเอง สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา การปรึกษาแพทย์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการดูแลที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด