กรนเสียงดัง ไม่ใช่ เรื่องเล็ก! เช็กเองง่าย ๆ ด้วยแอป SnoreLab

วิธีเช็คเสียงนอนกรน ตัวเองด้วย SnoreLab

เสียงกรนที่ดังจนรบกวนคนข้าง ๆ หรือทำให้ตัวเองสะดุ้งตื่นกลางดึก อาจไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่เป็นสัญญาณเตือน ว่าร่างกายกำลังประสบปัญหาด้านทางเดินหายใจหรือแม้กระทั่งมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอย่าง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA)

สัญญาณเตือนว่าอาจ กรนเสียงดังจนอันตราย

แม้หลายคนจะมองว่า นอนกรน เป็นเพียงปัญหาเรื่องเสียง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เสียงกรนที่ดังผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการร่วมบางอย่าง อาจบ่งชี้ถึงภาวะ หยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบตรวจเช็กโดยเร็ว

1. คนข้าง ๆ บ่นว่าเสียงดังจนสะดุ้ง

หากเสียงกรนของคุณ ดังจนรบกวนคนข้างเคียง หรือทำให้คนในบ้านนอนไม่หลับ สะดุ้งตื่น หรือหนีไปนอนอีกห้อง แสดงว่าเสียงนั้นอาจรุนแรงเกินระดับปกติ โดยเฉพาะหากดังต่อเนื่องหลายชั่วโมงทุกคืน

2. มีอาการสำลัก หยุดหายใจ หรือสะดุ้งตื่นกลางดึก

นี่คือสัญญาณอันตรายที่สัมพันธ์กับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อทางเดินหายใจยุบตัว ปิดกั้นการหายใจเป็นช่วง ๆ ร่างกายจะพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยการสำลัก หายใจแรง หรือสะดุ้ง ซึ่งทำให้คุณภาพการนอนลดลงอย่างมาก

3. ง่วงมากตอนกลางวัน แม้จะนอนครบ

หากคุณนอนครบ 7–8 ชั่วโมงแต่ยังรู้สึก อ่อนเพลีย ง่วงมาก หรือหลับในระหว่างวัน เป็นประจำ แสดงว่า คุณภาพการนอนต่ำ ซึ่งอาจเป็นผลจากการกรนหรือหยุดหายใจขณะหลับที่ร่างกายไม่รู้ตัว

SnoreLab คืออะไร? แอปตรวจเสียงกรนยอดนิยมทั่วโลก

หากคุณสงสัยว่าตัวเองกรนเสียงดังแค่ไหน หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่ แต่ยังไม่พร้อมเข้ารับการตรวจ Sleep Test กับแพทย์ แอป SnoreLab คือตัวช่วยเบื้องต้นที่สามารถใช้ตรวจสอบได้จากที่บ้าน

SnoreLab เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีผู้ใช้งานหลายล้านคน ด้วยฟังก์ชันที่ใช้ง่ายและมีประสิทธิภาพในการตรวจจับเสียงกรนตลอดทั้งคืน

1. แอปนี้ทำงานอย่างไร? (ฟังก์ชันบันทึกเสียงอัตโนมัติ)

เมื่อคุณเปิดแอป SnoreLab แล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนก่อนนอน ตัวแอปจะทำการ บันทึกเสียงตลอดทั้งคืน เฉพาะช่วงที่ตรวจพบว่าอาจเป็นเสียงกรน โดยไม่ต้องฟังไฟล์ยาว ๆ ทั้งหมดในภายหลัง แอปจะตัดมาเฉพาะช่วงที่มีเสียงผิดปกติให้คุณฟังได้ทันที

2. Snore Score คืออะไร? (ระบบให้คะแนนระดับความดัง)

หลังจากบันทึกเสร็จในแต่ละคืน แอปจะคำนวณค่า Snore Score ซึ่งเป็นคะแนนที่สะท้อนระดับความดังและความถี่ของเสียงกรน

  • คะแนนต่ำ (<25) = กรนเบา
  • ปานกลาง (25–50) = เริ่มมีผลกระทบ
  • สูง (50–100+) = ควรปรึกษาแพทย์

ยังมีกราฟแสดงช่วงเวลาที่กรนหนัก เพื่อให้คุณเห็นพฤติกรรมการนอนในแต่ละคืนอย่างชัดเจน

3. ประโยชน์ของการติดตามเสียงกรนรายคืน

ทำให้คุณรู้ว่า กรนบ่อยแค่ไหน และรุนแรงแค่ไหน โดยไม่ต้องพึ่งคนข้าง ๆ เหมาะสำหรับใช้วัดผลหลังปรับพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก หรือเปลี่ยนท่านอน หากมีการเข้ารับการรักษา เช่น ใช้ CPAP หรือเลเซอร์ลดการกรน ก็สามารถใช้แอปวัดผลก่อน–หลังการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีเช็คเสียงนอนกรน ตัวเองด้วย SnoreLab

วิธีใช้แอป SnoreLab เพื่อตรวจสอบการนอนกรนของตัวเอง

1. ดาวน์โหลดและตั้งค่าเบื้องต้น (iOS / Android)

  • ดาวน์โหลดแอป SnoreLab ได้ฟรีจาก App Store หรือ Google Play Store
  • เมื่อติดตั้งเรียบร้อย เปิดแอปครั้งแรกจะมีการแนะนำวิธีใช้งาน
  • ตั้งค่าพื้นฐาน เช่น อายุ เพศ น้ำหนัก และพฤติกรรมก่อนนอน (แอลกอฮอล์ ยานอนหลับ ฯลฯ) เพื่อช่วยให้การวิเคราะห์แม่นยำยิ่งขึ้น
  • แนะนำให้วางโทรศัพท์ชาร์จแบตไว้ตลอดคืน และตั้งโหมดเครื่องบิน เพื่อป้องกันคลื่นรบกวน

2. ขั้นตอนการบันทึกเสียง

  • ก่อนนอน ให้เปิดแอป SnoreLab แล้วกด “Start”
  • วางโทรศัพท์ใกล้ศีรษะ (เช่น บนหัวเตียง หรือติดกับหมอน) โดยให้ไมโครโฟนหันเข้าหาตัว
  • แอปจะเริ่มบันทึกเสียงตลอดคืน โดยจะจับเฉพาะช่วงที่มีเสียงกรน และข้ามช่วงเงียบ
  • เมื่อตื่นนอน ให้กด “Stop” เพื่อหยุดการบันทึก และเข้าสู่หน้าวิเคราะห์

3. การอ่านผล Snore Score + วิเคราะห์แนวโน้ม

  • แอปจะสรุปเป็น คะแนน Snore Score (คะแนนยิ่งสูง = เสียงยิ่งดังนาน)
    • 0–25: กรนเบา
    • 25–50: กรนปานกลาง
    • มากกว่า 50: ควรเฝ้าระวัง อาจเสี่ยงภาวะ OSA
  • มีกราฟเสียงแสดงช่วงเวลาที่กรนหนัก–เบา
  • สามารถฟังเสียงย้อนหลังเพื่อประเมินลักษณะเสียงกรน
  • ยังสามารถดูสถิติรายวัน–สัปดาห์ เพื่อดูแนวโน้มว่าอาการดีขึ้นหรือลดลงจากการปรับพฤติกรรม

สรุป กรนเสียงดังอาจเป็นสัญญาณโรค อย่ารอให้สายเกินไป

กรนเสียงดัง ไม่ใช่เพียงเรื่องของเสียงรบกวน แต่คือ สัญญาณของความผิดปกติ ในระบบหายใจขณะหลับ โดยเฉพาะหากมีอาการหยุดหายใจ หรือรู้สึกง่วงผิดปกติในตอนกลางวันร่วมด้วย อาจเชื่อมโยงกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งส่งผลกระทบต่อหัวใจ สมอง และสุขภาพระยะยาว

การรู้เท่าทันและเริ่มต้น ติดตามอาการด้วยแอป SnoreLab ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดูแลตัวเอง หากพบว่ามีระดับเสียงกรนสูง หรือแนวโน้มอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ เข้ารับการตรวจ Sleep Test และปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมก่อนที่ภาวะกรนจะลุกลาม

นอนกรนไม่ใช่แค่เรื่องเสียง แต่คือคุณภาพชีวิตของทั้งคุณและคนข้าง ๆ เลเซอร์รักษานอนกรนคือทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยให้หายใจโล่ง หลับสบาย และตื่นมาสดชื่นทุกวัน สนใจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางฟรี แอดไลน์ได้เลยค่ะ นัดวันคุยกับคุณหมอได้เลยวันนี้