ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น ทำยังไงดี? รวมวิธีแก้แบบเห็นผลจริง

ตื่นมาแล้วเหนื่อย

สารบัญ

เคยเป็นกันไหมคะ? กับอาการ ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น รู้สึกเหนื่อย โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ วิธีแก้ไข หากคุณรู้สึกตื่นนอนมาแล้วยังเพลียตลอดเวลา

ทำไมเราถึงตื่นมาแล้วไม่สดชื่น?

แม้ว่าจะนอนครบ 6–8 ชั่วโมง แต่หลายคนกลับรู้สึกง่วง เหนื่อย เพลีย หรือไม่กระปรี้กระเปร่าหลังตื่นนอน ซึ่งอาจไม่ใช่แค่การนอนไม่พอเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับกลไกการทำงานของร่างกายหลายระบบ ทั้งสมอง ฮอร์โมน และพฤติกรรมที่สะสมมาตลอดทั้งวัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุซ่อนอยู่

1. กลไกธรรมชาติของการนอนหลับ

การนอนหลับไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่เป็นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกายและสมอง โดยในแต่ละคืน ร่างกายจะเข้าสู่วงจรการนอน (Sleep Cycle) ประมาณ 4–6 รอบ ซึ่งแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 90 นาที แบ่งเป็นช่วงหลับตื้น หลับลึก และ REM (Rapid Eye Movement) ซึ่งเป็นช่วงที่สมองจัดระเบียบความทรงจำ และหลั่งฮอร์โมนสำคัญ เช่น เมลาโทนิน และโกรทฮอร์โมน

หากเราตื่นกลางวงจร หรือไม่ได้เข้าสู่ช่วงหลับลึกมากพอ ร่างกายจะรู้สึกเหมือนยังไม่ได้นอน จึงทำให้รู้สึกเพลียแม้นอนครบชั่วโมงแล้วก็ตาม

2. นาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) ผิดเพี้ยน

นาฬิกาชีวิต คือระบบภายในร่างกายที่ควบคุมรอบวัน (24 ชั่วโมง) ซึ่งเกี่ยวข้องกับแสงสว่าง อุณหภูมิ และกิจกรรมต่าง ๆ โดยธรรมชาติ ร่างกายควรตื่นเมื่อมีแสงเช้า และรู้สึกง่วงเมื่อเข้าสู่ความมืด แต่หากเรานอนผิดเวลา เข้านอนดึกตื่นสาย หรือเจอแสงจากมือถือก่อนนอนมากเกินไป นาฬิกาชีวิตจะรวน ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เมื่อตื่นขึ้นจึงรู้สึกมึน เบลอ หรือเหมือนยังไม่ตื่นเต็มที่

3.นอนครบแต่ยังไม่สดชื่น เพราะคุณภาพการนอนไม่ดี

จำนวนชั่วโมงไม่ใช่ทุกอย่าง แต่คุณภาพการนอนก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น นอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึกบ่อย หรือมีเสียงรบกวนขณะนอน ล้วนทำให้วงจรการนอนสะดุด ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเข้าสู่ช่วงหลับลึกได้เต็มที่ และไม่ได้รับการซ่อมแซมอย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งปัจจัยที่มักถูกมองข้ามคือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของคนที่ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น แม้จะนอนเต็มเวลาก็ตาม

วิธีแก้ เมื่อตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น

การตื่นนอนแล้วรู้สึกสดชื่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากพฤติกรรมสะสม ทั้งก่อนนอนและหลังตื่น หากคุณรู้สึกเพลีย มึนหัว หรือไม่อยากลุกจากเตียงในตอนเช้า ลองปรับตามวิธีเหล่านี้ เพื่อคืนความสดใสให้กับร่างกายและจิตใจ

1. ปรับเวลานอน – ตื่นให้ตรงกับนาฬิกาชีวิต

พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน แม้ในวันหยุด เพราะร่างกายมีนาฬิกาภายใน (Circadian Rhythm) ที่ต้องการความสม่ำเสมอ การนอนดึกหรือเปลี่ยนเวลานอนบ่อย ๆ จะทำให้สมองสับสน ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น

2. วางมือถือก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

แสงสีฟ้าจากหน้าจอรบกวนการหลั่งเมลาโทนิน ฮอร์โมนแห่งการหลับลึก ทำให้หลับยากและนอนไม่เต็มที่ แนะนำให้ปิดหน้าจอ แล้วเปลี่ยนมาอ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือทำสมาธิแทน เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างแท้จริง

3. นอนให้ครบวงจรการนอน (Sleep Cycle)

การนอนแต่ละครั้งจะมีรอบการนอนหลับ (ประมาณ 90 นาทีต่อรอบ) หากตื่นกลางรอบจะทำให้รู้สึกง่วงทั้งวัน ลองตั้งเวลานอนให้เป็น 6, 7.5 หรือ 9 ชั่วโมง เพื่อให้ตื่นตรงช่วงวงจรพอดี จะรู้สึกสดชื่นมากกว่า

4. ใช้แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่น

หลังตื่นนอน พยายามเปิดม่านหรือออกไปเจอแดดเบา ๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นนาฬิกาชีวิต สมองจะเริ่มปลุกระบบต่าง ๆ ให้ตื่นตัว และลดการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งคาเฟอีน

5. ฝึกการหายใจลึก ๆ หรือทำสมาธิก่อนนอน

ก่อนนอนควรให้เวลากับตัวเองสัก 5–10 นาทีในการหายใจช้า ๆ หรือทำสมาธิ เพื่อผ่อนคลายร่างกายและลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) วิธีนี้จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น หลับลึกขึ้น และตื่นมาไม่รู้สึกเพลีย

6. ดื่มน้ำหลังตื่นนอนทันที

ระหว่างนอน ร่างกายสูญเสียน้ำจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว การดื่มน้ำ 1 แก้วหลังตื่นช่วยปลุกระบบเผาผลาญ ปลุกสมอง และทำให้รู้สึกสดชื่นเร็วขึ้น โดยไม่ต้องง่วงงุนอยู่นาน

7. ออกกำลังกายเบา ๆ ตอนเช้า กระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสดชื่น

การขยับร่างกายเบา ๆ เช่น ยืดกล้ามเนื้อ เดินเร็ว หรือเล่นโยคะช่วงเช้า จะช่วยกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน และอะดรีนาลีน ซึ่งทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดใส พร้อมลุยงานทั้งวัน

8. กินอาหารเช้าที่มีโปรตีนและไม่หวานเกินไป

มื้อเช้าควรเป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อสมองและร่างกาย เช่น ไข่ต้ม ข้าวโอ๊ต อะโวคาโด หรือโยเกิร์ต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งเร็ว แล้วตกฮวบอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ง่วงกลางวัน

9. หากมีปัญหาเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการนอน (Sleep Clinic)

หากคุณลองปรับพฤติกรรมแล้วยังรู้สึกเพลียทุกเช้า หรือมีอาการร่วม เช่น นอนกรน ตื่นกลางดึกบ่อย หายใจสะดุด ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินภาวะ Sleep Apnea หรือความผิดปกติในการนอน เพื่อหาทางรักษาอย่างถูกต้อง

สรุป ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น แก้ได้ เริ่มจากการปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ

หากคุณตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่นบ่อย ๆ อย่าเพิ่งโทษแค่ว่านอนไม่พอ เพราะสาเหตุอาจมาจาก พฤติกรรมก่อนนอน, ความเครียด, หรือ คุณภาพการนอนที่ไม่ดี วิธีแก้เริ่มต้นได้ง่าย ๆ เช่น

  • เข้านอนให้เป็นเวลา
  • วางมือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง
  • ใช้แสงแดดช่วยปลุก
  • ดื่มน้ำ-ยืดเส้นเบา ๆ หลังตื่น
  • ปรับอาหารเช้าให้ดีต่อสมอง

หากยังรู้สึกอ่อนเพลียแม้นอนครบ ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุซ่อนเร้น เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะการนอนที่ดีคือ การลงทุนสุขภาพที่ดีที่สุดในระยะยาว

นอนกรนไม่ใช่แค่เรื่องเสียง แต่คือคุณภาพชีวิตของทั้งคุณและคนข้าง ๆ เลเซอร์รักษานอนกรนคือทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยให้หายใจโล่ง หลับสบาย และตื่นมาสดชื่นทุกวัน สนใจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางฟรี แอดไลน์ได้เลยค่ะ นัดวันคุยกับคุณหมอได้เลยวันนี้

ทีมแพทย์ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์

พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์
พญ. นฤมล วิเชียร
พญ. จุฑามาศ ตันคุณากร