ผ่าตัด กับยาสลบเป็นของคู่กันที่ได้ยินมานาน ใช้กันในโรงพยาบาลบ่อยครั้งจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่รู้หรือไม่ ว่ายาสลบนั้นมีอันตรายเกินกว่าที่คาด น้อยไปหรือมากไปก็ส่งผลเสียต่อการทำหัตถการได้ ต่อให้แพทย์มีประสบการณ์แค่ไหนก็มีสิทธิ์พลาดได้ ดังนั้น สถานพยาบาลส่วนใหญ่จึงเลี่ยงกายใช้ยาสลบให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ ยกเว้นเคสผ่าตัดที่จำเป็นจริงๆ
การดูดไขมันที่ต้องใช้เข็มแทงเข้าร่างกายนั้น ทำให้คนทั่วไปคิดว่า “หลับเสียดีกว่า” จึงต้องการนอนระหว่างดำเนินหัตถการ โดยไม่รู้ว่าแค่ ยาชา ก็เกินพอแล้ว
จุดแตกต่างระหว่างยาชาและยาสลบ
เทียบกันแบบจุดต่อจุดเลยนะคะ
- เรื่องรู้สึกตัว: วางยาสลบหลับแล้วหลับเลย ไม่รู้สึกระหว่างศัลยกรรม ซึ่งนอกจากทำให้หมอทำงานยากขึ้นแล้ว บางคนอาจหลับไม่สนิทส่งผลข้างเคียง
- ตื่นแล้วลุกขึ้นมาได้เลย: ผลของยาสลบไม่ได้หายทันทีหลังศัลยกรรมเสร็จ
- อาการเจ็บหลังศัลยกรรม: ยาสลบอาจทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วสวยเลย ตามสาวๆ ปรารถนา แต่ศัลยกรรมหลายอย่างรวมถึงดูดไขมัน ก็เจ็บจากเข็มดูดไม่น้อย ทำให้เมื่อผลยาสลบหายไป ความเจ็บปวดจะเข้ามาทันที ในขณะที่ยาชาลดอาการเจ็บปวดไปได้มากทั้งระหว่างทำและหลังทำเสร็จ
- โอกาสในการเกิดลิ่มเลือด: จากประสบการณ์และรายงานทางการแพทย์ พบว่าการใช้ยาสลบมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันมากกว่า ต่างจาก การดูดไขมันด้วยการฉีดยาชา
- อันตรายจากการวางยา: ยาสลบต้องใช้ หมอดมยา หรือวิสัญญีแพทย์ ที่มีความชำนาญสูง เพราะมีโอกาสพลาดจากการกำหนดปริมาณยานอนหลับได้ น้อยเกินไปอาจหลับไม่สนิทจนตื่นระหว่างศัลยกรรม มากเกินไปอาจหลับไม่ตื่น หรือ อาจฟื้นได้แต่กินเวลาไปเป็นวัน ในขณะที่ยาชาควบคุมได้ง่ายกว่า ความปลอดภัยสูง
การวางยาสลบในขณะทำการดูดไขมันจะทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันไม่สามารถขยับตัวได้ พลิกตัวลำบาก แต่การดูดไขมันจำเป็นที่จะต้องดูดในหลายจุด เพื่อที่จะให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ดูดไขมันต้นแขน หรือ ดูดไขมันต้นขา นั้น ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่าทางของคนไข้ร่วมด้วย เพราะเป็นบริเวณที่มีหลายมุม ทำให้คนไข้ควรมีสติในระหว่างดำเนินการศัลยกรรม
โดยรวมแล้ว เรื่องของการฟื้นตัว และผลลัพธ์หลังการดูดไขมัน เนื่องจากการศัลยกรรมดูดไขมันแบบวางยาสลบจะมีการใช้ยาชาในปริมาณน้อย กว่าการฉีดยาชา ทำให้คนไข้มีอาการปวดมากหลังการผ่าตัด จนต้องใช้การฉีดยาแก้ปวด และจะไม่สามารถลุกเดินได้ทันที ส่งผลถึงเรื่องของการฟื้นตัวที่จะทำได้ช้ากว่า มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันมากกว่า ต่างจาก การดูดไขมันด้วยการฉีดยาชา คนไข้สามารถลุกเดินกลับบ้านได้ทันที (บางรายซึ่งเป็นคนไข้ของรัตตินันท์คลีนิกลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำระหว่างการดูดไขมันก็มีนะคะ)
การขยับตัว หรือเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้เป็นอย่างดีนั้นเอง
สรุป วางยาสลบ VS ฉีดยาชา
วางยาสลบ | ฉีดยาชา | |
รู้สึกตัวระหว่างการดูดไขมัน | X | O |
คนไข้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ทันที | X | O |
อาการเจ็บหลังการผ่าตัด | เจ็บปวดมาก | มีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย-ปานกลาง |
โอกาสในการเกิดลิ่มเลือดหลังการดูดไขมัน | สูง | ต่ำ |
อันตรายจากการวางยา | สูง | ต่ำ |
ด้วยหลายสาเหตุนี้ ทำให้ทาง รัตตินันท์คลินิก จึงเลือกใช้ยาชาในการดูดไขมัน จะส่งผลดีและปลอดภัยต่อคนไข้ มากกว่าการวางยาสลบ การดูดไขมัน BodyTite ด้วยการฉีดยาชา จะทำให้ได้ผลลัพธ์ในการดูดไขมันที่ดีที่สุด ได้รูปร่างออกมาสวยสมบูรณ์ในทุกสัดส่วน
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันด้วยการฉีดยาชานั้นจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะต้องมีการเลือกใช้ยาชาที่มีความเข้มข้นสูง, มีการคำนวณอัตราส่วนในการใช้ให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ความเชี่ยวชาญของคุณหมอในการดูดไขมันจึงมีความสำคัญ เนื่องจากต้องใช้ประสบการณ์ และความใจเย็นอย่างมากในการดูดไขมันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการดูดไขมัน ก็ไม่ต่างอะไรกับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชนิดหนึ่งที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ รวมถึงความใจเย็นในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ
ดมยาสลบ เพื่อดูดไขมันทั้งตัว ไม่ดี
การดูดไขมันด้วยการวางยาสลบ ถึงแม้ว่าจะได้รับการนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถทำให้ชาได้ทั้งตัว เพราะคนไข้อยู่ในอาการสลบ ทำให้สามารถดูดได้หลายจุดในครั้งเดียว หรือที่เรียกว่า “การดูดไขมันทั้งตัว” ซึ่งมักจะเป็นที่นิยมของหลายๆท่าน ที่ต้องการหุ่นสวยฉบับเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม จากการการศึกษาพบว่าการดูดไขมันในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 3.5 ลิตร เนื่องจากการดูดไขมันปริมาณมากเพียงครั้งเดียว จะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันเป็นอย่างมาก การดูดไขมันทั้งตัวจึงเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง
เนื่องจากหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆขึ้นระหว่างการผ่าตัดดูดไขมัน ไม่ว่าจะด้วยความประมาทเลิ่นเล่อของแพทย์ หรืออันตรายแอบแฝงที่มากับการวางยาสลบ เช่น กรณีการแทงเข็มทะลุตับ ขณะทำการดูดไขมัน เนื่องจากการวางยาสลบทำให้คนไข้ไม่สามารถรู้ตัวได้เลย ในขณะเดียวกันหมอก็ไม่สามารถทราบได้
เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ทางรัตตินันท์คลินิกเลือกที่จะทำการผ่าตัดดูดไขมัน BodyTite ด้วยการวางยาสลบ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกับผู้ที่เข้ารับการทำมากที่สุด นอกจากนี้เรายังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างดีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันแผลที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ กับคุณหมอฝีมือเยี่ยมที่ได้รับการยอมรับจากระดับนานาชาติ หรือการเลือกใช้เครื่องมืออัลตราซาวน์ในขณะทำแบบเรียลไทม์ เพื่อที่จะสามารถควบคุม และลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดลงไปได้แน่นอน