ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro กับ Vaser Smooth อะไรดีกว่ากัน

ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro กับ Vaser Smooth อะไรดีกว่ากัน

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีดูดไขมัน ได้พัฒนาไปอย่างมาก มีเครื่องมือหลากหลายประเภทและใช้พลังงานหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน แต่หากพูดถึงเครื่องดูดไขมันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการ ทั้งในประเทศไทยและระดับโลก จะมีอยู่ 2 เทคโนโลยีหลักที่โดดเด่นเป็นที่รู้จัก ได้แก่ BodyTite Pro และ Vaser Smooth

หลายคนที่กำลังวางแผนจะดูดไขมัน อาจลังเลหรือสงสัยว่า ควรเลือกเทคโนโลยีไหนถึงจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างของ BodyTite Pro และ Vaser Smooth อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับรูปร่างของคุณเอง

เลือกดูดไขมันด้วย BodyTite Pro หรือ Vaser Smooth ดี

การดูดไขมันในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่การลดสัดส่วนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปั้นรูปร่างและกระชับผิวให้ดูสวยงามและได้สัดส่วนที่เหมาะสม ดังนั้น การเลือกเทคโนโลยีดูดไขมันที่เหมาะสม จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแต่ละเครื่องมือมีจุดเด่นและขีดความสามารถที่แตกต่างกัน การเลือกที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ลดความเสี่ยง และทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น

ความสำคัญของการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม

หลายคนอาจคิดว่าการดูดไขมันทุกแบบให้ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้มีผลอย่างมากต่อคุณภาพของผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความกระชับของผิว ความเรียบเนียนของสัดส่วนหลังการดูดไขมัน ไปจนถึงระยะเวลาการฟื้นตัว การเลือกเทคโนโลยีที่เข้ากับสภาพร่างกายและความต้องการเฉพาะบุคคลจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

เช่น หากคุณมีผิวหย่อนคล้อยหลังคลอดหรือมีอายุที่มากขึ้น อาจเหมาะกับเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวไปพร้อมกับการดูดไขมันอย่าง BodyTite Pro แต่ถ้าต้องการเน้นสลายไขมันที่มีความหนาแน่นหรือมีพังผืด เช่น ไขมันหน้าท้อง หรือต้นขาด้านใน การเลือก Vaser Smooth ที่ใช้พลังงาน Ultrasound อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนกว่า

ความสำคัญของการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม

BodyTite Pro เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency: RF) ในการสลายไขมันพร้อมกับกระชับผิวในขั้นตอนเดียว โดยเน้นที่การรักษาความกระชับของผิวหนัง ลดความเสี่ยงที่ผิวจะหย่อนคล้อยหลังการดูดไขมัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูดไขมันในบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เช่น ต้นแขน หน้าท้องหลังคลอด

Vaser Smooth ใช้ พลังงานคลื่นเสียง Ultrasound ความถี่ต่ำ ในการสลายไขมันอย่างอ่อนโยนและแม่นยำ สามารถแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสลายไขมันหนาแน่นหรือไขมันที่มีพังผืด รวมถึงเคสที่ต้องการปั้นรูปร่างแบบ Hi-Def หรือเน้นเส้นสรีระให้ชัดเจน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือก

  1. สภาพผิวและความหย่อนคล้อย หากคุณกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน BodyTite Pro อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะสามารถกระชับผิวไปพร้อมกับการสลายไขมัน
  2. ประเภทของไขมัน หากเป็นไขมันหนาแน่น มีพังผืด หรือเน้นปั้นรูปร่างอย่างชัดเจน Vaser Smooth จะเหมาะสมกว่า เพราะสามารถสลายไขมันได้ละเอียดและแม่นยำ
  3. ความต้องการผลลัพธ์ ต้องการแค่ลดไขมันเฉพาะส่วนหรืออยากได้ผิวที่กระชับเรียบเนียนควบคู่กัน ควรเลือกเทคโนโลยีให้ตรงกับความต้องการ
  4. คำแนะนำจากแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพร่างกายและแนะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

ทั้งนี้ ฝีมือของแพทย์ รวมถึงประสบการณ์ในการดูดไขมันมีความสำคัญมากกว่าประเภทของของเครื่องมือดูดไขมัน

ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

BodyTite Pro ดูดไขมันด้วยยพลังงานคลื่น RF พร้อมกระชับผิวดีที่สุด

BodyTite Pro เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมในหลายคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำ เนื่องจากสามารถทำได้ทั้งการสลายไขมันและ กระชับผิวในขั้นตอนเดียว ทำให้ผลลัพธ์หลังทำดูเป็นธรรมชาติ ผิวไม่หย่อนคล้อยแม้ลดปริมาณไขมันออกไปจำนวนมาก จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่กังวลเรื่องผิวไม่กระชับหลังดูดไขมัน

หลักการทำงานของ BodyTite Pro

BodyTite Pro ใช้ พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency: RF) ในการส่งความร้อนเข้าไปสลายไขมันใต้ชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง ความพิเศษของเทคโนโลยีนี้คือสามารถ ควบคุมอุณหภูมิ ได้อย่างแม่นยำทั้งภายนอกและภายใน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลไหม้หรือบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง

กระบวนการทำงานของ BodyTite Pro แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนหลัก

  1. สลายไขมันด้วยพลังงาน RF หัวอุปกรณ์จะปล่อยคลื่น RF เข้าไปละลายไขมันในบริเวณที่ต้องการ
  2. ดูดไขมันออกพร้อมกระชับผิว ในขณะที่ไขมันถูกดูดออก ความร้อนจาก RF จะช่วยหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้น

การใช้พลังงาน RF ในการกระชับผิว

ข้อได้เปรียบของ BodyTite Pro คือ การใช้พลังงาน RF เพื่อ กระชับผิว ควบคู่ไปกับการดูดไขมัน โดยเฉพาะในจุดที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เช่น ต้นแขน หน้าท้องหลังคลอด หรือบริเวณต้นขา ความร้อนจาก RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและกระชับมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ

หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน BodyTite Pro

เหมาะกับเคสแบบไหน

BodyTite Pro เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มี ปริมาณไขมันปานกลางถึงน้อย แต่กังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังทำ
  • ผู้ที่ต้องการ กระชับผิว ควบคู่กับการลดไขมัน เช่น หลังคลอด หรือผู้ที่มีอายุที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
  • บริเวณที่เหมาะสม ได้แก่ ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขาด้านใน หรือบริเวณใต้คาง

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

  • ช่วยกระชับผิวระหว่างดูดไขมัน ลดความเสี่ยงเรื่องผิวหย่อนคล้อยในทันทีหลังการทำ
  • ลดความเสี่ยงเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน ด้วยพลังงาน RF ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและหดตัวของเนื้อเยื่อ
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อน โดยเฉพาะหลังคลอด หรือบริเวณที่เนื้อเยื่อขาดความกระชับ เช่น ต้นแขน หน้าท้อง

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

  • ใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อย แม้จะไม่มากเท่าการผ่าตัดใหญ่ แต่ยังต้องมีระยะพักฟื้นประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ทำ
  • อาจไม่เหมาะกับการดูดไขมันปริมาณมาก หากต้องการดูดไขมันในปริมาณมาก หรือบริเวณกว้าง อาจต้องใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth

Vaser Smooth

Vaser Smooth เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีดูดไขมันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันสะสมแน่นหรือมีพังผืดแทรกซ้อนอยู่ในชั้นไขมัน จุดเด่นของ Vaser Smooth คือการใช้พลังงาน Ultrasound ความถี่ต่ำ ที่สามารถสลายไขมันได้อย่างอ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง และสามารถปั้นรูปร่างให้ดูชัดเจนเป็นธรรมชาติ

หลักการทำงานของ Vaser Smooth

Vaser Smooth ใช้เทคโนโลยี Ultrasound-Assisted Liposuction (UAL) ซึ่งเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำในการทำให้ไขมันแตกตัวและแยกออกจากเนื้อเยื่อรอบข้างได้อย่างง่ายดาย ความพิเศษของเทคโนโลยีนี้คือสามารถ เจาะจงเฉพาะชั้นไขมัน ได้โดยไม่ทำลายเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อสำคัญรอบ ๆ ทำให้การดูดไขมันมีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

กระบวนการทำงานของ Vaser Smooth ประกอบด้วย

  1. ปล่อยคลื่น Ultrasound เพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อ
  2. ดูดไขมันออกอย่างอ่อนโยน โดยไขมันที่ถูกแยกออกมาจะมีสภาพเป็นของเหลว ทำให้ดูดออกง่าย ลดความเสี่ยงในการบอบช้ำ

การใช้พลังงาน Ultrasound สลายไขมันเฉพาะจุด

Vaser Smooth สามารถสลายไขมันได้เฉพาะจุดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ไขมันสะสมแน่น หรือพื้นที่เล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียด เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือแม้แต่บริเวณใบหน้า การใช้ Ultrasound ช่วยให้กระบวนการดูดไขมันนุ่มนวลมากขึ้น ลดความเสียหายของเส้นเลือดและเนื้อเยื่อ จึงช่วยลดอาการบวมช้ำและระยะเวลาการฟื้นตัวได้ดี

หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2

เหมาะกับเคสแบบไหน

Vaser Smooth เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มี ไขมันสะสมหนาแน่นหรือมีพังผืด เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือหลัง
  • ผู้ที่ต้องการ ปั้นรูปร่างแบบละเอียด (Hi-Def) ให้เห็นเส้นสรีระชัดเจน เช่น หน้าท้องหกแพ็ก แขน ขา
  • ผู้ที่เคยมีปัญหา ผิวไม่เรียบหลังการดูดไขมันครั้งก่อน และต้องการแก้ไข

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth

  • สลายไขมันแน่นและพังผืดได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมหนาแน่นหรือมีพังผืดจำนวนมาก
  • ปั้นรูปร่างแบบ Hi-Def ได้แม่นยำ ช่วยเน้นสรีระ เส้นกล้ามเนื้อ หรือรูปร่างเฉพาะจุดได้ชัดเจน
  • ลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง ด้วยพลังงาน Ultrasound ที่ทำงานอย่างอ่อนโยน จึงลดอาการบวมช้ำและระยะเวลาการพักฟื้น

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth

  • ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการปั้นรูปร่าง การใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อปั้นรูปร่างให้ได้ Hi-Def ต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะสูงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • มีราคาสูงกว่าการดูดไขมันทั่วไป เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทางและต้องใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพสูง ราคาค่าบริการจึงสูงกว่าเทคนิคดูดไขมันแบบดั้งเดิม

ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro หรือ Vaser แบบไหนดีที่สุด

การเลือกเทคโนโลยีดูดไขมันให้เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละเครื่องมือมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน แม้ BodyTite Pro และ Vaser Smooth จะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับความนิยมสูง แต่ก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ในลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้น การพิจารณาให้รอบด้านก่อนตัดสินใจจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ

เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จากทั้งสองเทคโนโลยี

  • BodyTite Pro เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ กระชับผิวควบคู่กับการดูดไขมัน โดยเฉพาะในจุดที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เช่น ต้นแขน หน้าท้องหลังคลอด หรือใต้คาง หลังทำ ผิวจะดูเรียบเนียน กระชับ ไม่หย่อนคล้อย
  • Vaser Smooth เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เน้นการสลายไขมันที่หนาแน่น มีพังผืด หรือเน้น ปั้นรูปร่างแบบ Hi-Def เช่น หน้าท้องกล้ามเนื้อชัดเจน หรือเส้นสรีระที่ต้องการความละเอียดสูง ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดในเรื่องของการลดไขมันเฉพาะจุด และปั้นรูปร่างอย่างแม่นยำ
BodyTite Pro ดูดไขมันพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง
VASER Smooth ดูดไขมันพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์

ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล

ไม่มีเทคโนโลยีดูดไขมันชนิดใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะ สภาพร่างกาย และ เป้าหมายของผลลัพธ์ ของแต่ละคนมีความแตกต่างกันอย่างมาก ตัวอย่างเช่น

  • หากคุณมี ผิวหย่อนคล้อย และต้องการให้ผิวกระชับไปพร้อมกับการลดไขมัน BodyTite Pro จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า
  • หากคุณมี ไขมันสะสมหนาแน่น มีพังผืด หรืออยากได้รูปร่างที่เน้นรายละเอียดกล้ามเนื้อชัดเจน Vaser Smooth จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจึงต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งปริมาณไขมันที่ต้องการดูดออก ความกระชับของผิว และความต้องการในเรื่องของการปั้นรูปร่าง

คำแนะนำ ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกเทคโนโลยีดูดไขมัน คือ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับร่างกายและเป้าหมายของคุณเอง แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว ปริมาณไขมัน และความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อเพื่อช่วยตัดสินใจเลือกเทคนิคหรือเครื่องมือที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดกับคุณ

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดูดไขมันประเภทอื่น ๆ ที่แพทย์จะเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เน้นความกระชับของผิว หรือเน้นการสลายไขมันในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคน หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูดไขมันอื่น ๆ สามารถอ่านต่อได้ที่ รวมเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันที่เหมาะกับคุณ

คุณสมบัติหลัก

PAL

VASER

BodyTite

J-Plasma

SmartLipo

Body-Jet

ULTRA-Z

เทคโนโลยี

กลไกสั่นกลับไปมา

คลื่นเสียงอัลตราซาวด์

คลื่น RF แบบสองขั้ว

พลาสมาเย็น (ฮีเลียม + RF)

เลเซอร์ (1064–1320 nm)

น้ำเกลือแรงดันสูง (WAL)

คลื่นเสียงความถี่สูง

กลไกการทำงาน

หัวดูดเคลื่อนไหวเร็วเพื่อแยกไขมัน

คลื่นเสียงแตกไขมันด้วย Microbubble

RF ปล่อยพลังงานละลายไขมัน+หดผิว

พลาสมาเย็นทำให้เนื้อเยื่อหดตัวทันที

เลเซอร์ละลายไขมัน + กระตุ้นคอลลาเจน

พ่นน้ำเกลือเพื่อแยกไขมันอย่างอ่อนโยน

คลื่นเสียงแตกไขมันแบบละเอียด

การทำงานหลัก

ดูดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ

สลายไขมัน + ปั้นรูปร่าง

ละลายไขมัน + กระชับผิว

กระชับผิว

ละลายไขมัน + กระชับเบา ๆ

ดูดไขมันเบา ๆ

สลายไขมันอย่างนุ่มนวล

กระชับผิว

ไม่มี

เล็กน้อย

สูงสุดถึง 47%

ชัดเจนใต้ผิวถึง 82%

ปานกลาง

แทบไม่มี

เล็กน้อย

เก็บไขมันไปเติม

ดีเยี่ยม

ปานกลาง

ไม่เหมาะ

ไม่เหมาะ

ไม่เหมาะ

ดีเยี่ยม

ดี

ความแม่นยำในการปั้นรูปร่าง

ดี (มีหัวดูดเฉพาะ)

ดีมาก (Hi-Def)

ดี + กระชับ

ดี ปั้นได้แม่นยำ

ปานกลาง

ดี

ดี

ผิวแน่น/ไขมันแข็ง

ดี (มีหัวดูดเฉพาะ)

เหมาะมาก

ดี

ไม่เด่น

ไม่เด่น

ไม่เด่น

ดี

รอยแผล

น้อย

น้อย

น้อย

น้อย

น้อย

แทบไม่มี

น้อย

ความเจ็บ/พักฟื้น

ปานกลาง (2–5 วัน)

ปานกลาง (3–7 วัน)

ปานกลาง (3–7 วัน)

เบา (3–7 วัน)

เบา (2–5 วัน)

เบามาก (1–3 วัน)

เบา (2–5 วัน)

ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น

VASER, BodyTite, J-Plasma

PAL, J-Plasma

PAL, J-Plasma, Morpheus8

PAL, VASER

Lipo แบบเดิม

Fat Transfer, RF

PAL, Lipo แบบเดิม

เหมาะกับเคส

ดูดไขมันทั่วไป + เติมไขมัน

ปั้นรูปร่าง Hi-Def, ไขมันแน่น

ดูดไขมัน + กระชับผิว

ยกกระชับหลังดูดไขมัน

เคสเล็ก ๆ ผิวตึงดี

เติมไขมัน + ต้องการฟื้นตัวเร็ว

ดูดไขมันละเอียด

ได้รับการรับรองจาก FDA

บทสรุป

การเลือกเทคโนโลยีดูดไขมันระหว่าง BodyTite Pro และ Vaser Smooth ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะทั้งสองเทคโนโลยีมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และเหมาะกับความต้องการที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดควรอยู่ภายใต้ การประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยวิเคราะห์สภาพร่างกาย ปริมาณไขมัน และความต้องการของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงใจที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า