Rattinan Medical Center

คลินิกดูดไขมัน ผ่าตัดกระเพาะ เสริมความงาม

  • หน้าแรก
  • บริการของเรา
    • ดูดไขมัน
      • ดูดไขมันหน้าท้อง
      • ดูดไขมันต้นขา
      • ดูดไขมันต้นแขน
      • ดูดไขมันน่อง
      • ดูดไขมันเหนียง
      • ดูดไขมันเอว
      • ดูดไขมัน Six Pack
      • ดูดไขมัน Sexy Line
      • ดูดไขมันหนอก
      • ดูดไขมันหน้า แก้ม
      • ฉีดไขมัน
    • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
    • เย็บกระเพาะ Overstitch
    • ตัดหนังหน้าท้อง
    • ศัลยกรรมร่างกาย
      • Gynecomastia รักษาหน้าอกผู้ชาย
      • เสริมสะโพก เสริมก้น
      • ปลูกผม FUE
      • เสริมหน้าอก
      • ตกแต่งเลเบีย
    • ศัลยกรรมใบหน้า
      • ร้อยไหม
      • ดึงหน้า (Facelift)
      • เสริมจมูก
      • เสริมคาง
      • ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
      • ศัลยกรรมหูกาง
    • เลเซอร์เพื่อการรักษา
      • ลบรอยสัก
      • รักษากระ ฝ้า
      • E-Matrix เลเซอร์หลุมสิว
      • 4D Lifting เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า
      • เลเซอร์ กำจัดขน
      • รักษานอนกรน
      • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
      • Ulthera
      • Thermage
      • Shockwave Therapy
    • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
    • รักษาเส้นเลือดขอด
    • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
    • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ
  • บทความ
    • ความรู้ดูดไขมัน
      • ก่อนดูดไขมัน
        • เรื่องควรรู้ก่อนดูดไขมัน
        • การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
        • Bodytite VS Vaser
        • ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
      • การดูแลหลังดูดไขมัน
      • ราคาดูดไขมัน
      • ภาพรีวิวดูดไขมัน
    • บทความสุขภาพ
      • คุยเรื่องศัลยกรรม
      • บทความผ่าตัดถุงใต้ตา
      • คำนวณ BMI
  • รีวิว
  • ทีมแพทย์
  • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
  • Promotion
international@rattinan.comEmail Us
+66 2 2331424Call Us
Sitthi Vorakij Building, 12A fl, Silom Soi 3, Silom Rd, BangkokFind Us
  • ติดต่อสอบถาม
    blank Tel: 086-570-7040
Official Rattinan International Website
  • หน้าแรก
  • บริการของเรา
    • ดูดไขมัน
      • ดูดไขมันหน้าท้อง
      • ดูดไขมันต้นขา
      • ดูดไขมันต้นแขน
      • ดูดไขมันน่อง
      • ดูดไขมันเหนียง
      • ดูดไขมันเอว
      • ดูดไขมัน Six Pack
      • ดูดไขมัน Sexy Line
      • ดูดไขมันหนอก
      • ดูดไขมันหน้า แก้ม
      • ฉีดไขมัน
    • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
    • เย็บกระเพาะ Overstitch
    • ตัดหนังหน้าท้อง
    • ศัลยกรรมร่างกาย
      • Gynecomastia รักษาหน้าอกผู้ชาย
      • เสริมสะโพก เสริมก้น
      • ปลูกผม FUE
      • เสริมหน้าอก
      • ตกแต่งเลเบีย
    • ศัลยกรรมใบหน้า
      • ร้อยไหม
      • ดึงหน้า (Facelift)
      • เสริมจมูก
      • เสริมคาง
      • ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
      • ศัลยกรรมหูกาง
    • เลเซอร์เพื่อการรักษา
      • ลบรอยสัก
      • รักษากระ ฝ้า
      • E-Matrix เลเซอร์หลุมสิว
      • 4D Lifting เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า
      • เลเซอร์ กำจัดขน
      • รักษานอนกรน
      • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
      • Ulthera
      • Thermage
      • Shockwave Therapy
    • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
    • รักษาเส้นเลือดขอด
    • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
    • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ
  • บทความ
    • ความรู้ดูดไขมัน
      • ก่อนดูดไขมัน
        • เรื่องควรรู้ก่อนดูดไขมัน
        • การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
        • Bodytite VS Vaser
        • ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
      • การดูแลหลังดูดไขมัน
      • ราคาดูดไขมัน
      • ภาพรีวิวดูดไขมัน
    • บทความสุขภาพ
      • คุยเรื่องศัลยกรรม
      • บทความผ่าตัดถุงใต้ตา
      • คำนวณ BMI
  • รีวิว
  • ทีมแพทย์
  • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
  • Promotion
  • Home

ผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery)

resunsgax40 1024x576 - ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก โดยศัลยแพทย์อันดับต้นๆ ของไทย

การผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) คือ เป็นการลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง ลดการดูดซึมสารอาหารของร่างกายที่นำไปสร้างเป็นพลังงานส่วนเกินจนเป็นไขมันที่ทำให้อ้วน ร่างกายจะปรับตัวตามสภาพกระเพาะที่เปลี่ยนไป

การตัดกระเพาะเป็นการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีกว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ซึ่งคนที่เข้าข่ายโรคอ้วนน้อยคนมากที่จะลดน้ำหนักได้สำเร็จจริง และปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้น จนมีโรคประจำตัวที่ทำให้อายุสั้นลง

สารบัญ show
1 ผู้ที่เหมาะสมผ่าตัดกระเพาะ
2 4 วิธีลดขนาดกระเพาะที่นิยมในไทย
3 ผ่ากระเพาะด้วยการส่องกล้อง
4 เทคนิค Double Lock
5 ประโยชน์ของการผ่าตัดลดน้ำหนัก
6 การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระเพาะอาหาร
7 ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร
8 การรับประทานอาหารหลังการผ่าตัด
9 ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดกระเพาะ

ผู้ที่เหมาะสมผ่าตัดกระเพาะ

ส่วนใหญ่ผู้ที่มีน้ำหนักตัวช่วง 90 – 100 กิโลกรัมขึ้นไป จะเหมาะสม แต่อาจคำนวณความสูงและน้ำหนัก เพื่อหาดัชนีมวลกาย (BMI) ร่วมด้วย ซึ่งควรเข้ามาสอบถามแพทย์

  1. ผู้ที่มี BMI มากกว่า 40 ขึ้นไป แม้ว่าจะยังไม่มีโรคประจำตัว
  2. ผู้ที่มี BMI ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป แต่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงชีวิต เช่น เบาหวาน, ความดัน, หยุดหายใจขณะหลับ

โปรแกรมคำนวณดัชนีมวลกาย: คำนวณ BMI

[ วิดีโอ BMI คืออะไร ทำไมก่อนดูดไขมันต้องเช็ค BMI ]

4 วิธีลดขนาดกระเพาะที่นิยมในไทย

1. การใส่บอลลูนในกระเพาะ (Intragastric Balloon)

ใส่บอลลูนในกระเพาะ

เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะลดน้ำหนัก ลดความอ้วน หรือควบคุมน้ำหนัก แต่ไม่สามารถควบคุมอาหารไม่ได้ และไม่อยากผ่าตัด รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักมาก มีภาวะเสี่ยงทำให้ยังไม่สามารถทำการผ่าตัดใดๆ ได้เลย สามารถเอาบอลลูนออกได้ เมื่อได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือเมื่อครบ 1 ปี

ข้อดี

  • บอลลูนที่ใส่เข้าไปในกระเพาะอาหาร จะทำให้รู้สึกอิ่ม และรับประทานอาหารได้น้อยลง
  • ใส่บอลลูนในกระเพาะก่อนให้ช่วยในการลดน้ำหนักลง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดอื่นๆ ต่อไป

ข้อเสีย

  • ไม่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายอาจยังต้องการอาหาร จนทำให้รู้สึกแย่กับการทานไม่ได้
  • ผลลัพธ์น้อยกว่าวิธีอื่น

2. การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบสลีฟ (Laparoscopic Sleeve Gastrectomy – LSG)

ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบสลีฟ

แพทย์จะส่องกล้องผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าท้อง 3-5 แผล จากนั้นศัลยแพทย์จะใช้ตัวตัดกระเพาะอัตโนมัติ (Stapler) ตัดกระเพาะและเย็บกระเพาะในคราวเดียวกัน แล้วดึงกระเพาะส่วนที่จะทำการตัดออกประมาณ 80% ผ่านรอยแผลบริเวณสะดือ โดยกระเพาะที่เหลืออยู่จะมีขนาดประมาณ 100-150 ซีซีเท่านั้น ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนกระตุ้นความหิวน้อยลง

ข้อดี

  • ผลจากที่กระเพาะหายไปหลายส่วน ทำให้ร่างกายลดฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิวลง
  • ไม่มีปัญหาเรื่องความหิว ต่างจากวิธีใส่บอลลูน หรือ รัดกระเพาะ

ข้อเสีย

  • ต้องระมัดระวังช่วงแรก ถ้าฝืนรับประทานโดยไม่ฟังคำแนะนำแพทย์ อาจเกิดแผลที่เย็บกระเพาะแตกได้

3. การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Laparoscopic REY Byprass gastrectomy)

ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส จะใช้วิธีการสอดกล้องเช่นเดียวกับการผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ โดยจะทำการผ่าแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าท้อง จากนั้นแพทย์จะทำการสอดใส่เครื่องมือเข้าไป เพื่อทำการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ต่างจากการผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ ตรงที่มีการตัดและต่อใหม่เพิ่มขึ้นอีกจุด โดยตัดกระเพาะออก เอามาต่อกับลำไส้ส่วนที่สอง ข้าม (บายพาส) ลำไส้ส่วนแรกไป

การผ่าตัดแบบบายพาส เป็นการผ่าตัดที่จัดการทั้งส่วนของกระเพาะอาหารและส่วนของลำไส้ ถือเป็นรูปแบบการผ่าตัดที่ทำให้ลดน้ำหนักได้มากที่สุด

ข้อดี

  • ผลลัพธ์ลดน้ำหนัก ดีกว่าและเร็วกว่าทุกวิธี

ข้อเสีย

  • ถ้าไม่ฟังคำแนะนำแพทย์ อาจมีปัญหาเรื่องขาดสารอาหารง่ายกว่าวิธีอื่น

4. การใส่ห่วงรัดกระเพาะ (Gastric Bands)

blank

การใส่ห่วงรัดกระเพาะ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงกระเพาะอาหารโดยตรง เป็นวิธีที่นิยมในอดีต

การส่องเครื่องมือผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าท้อง เพื่อเข้าไปรัดส่วนบนของกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารถูกกักไว้ ส่งผลให้รู้สึกอิ่มเร็ว รับประทานได้น้อยลง ทำให้น้ำหนักลดลง

การใส่ห่วงรัดกระเพาะมีปัญหาหลายเรื่อง จากห่วงที่เลื่อนได้ หรือ รัดแน่นเกินไปจนเกิดบาดแผล ไม่เกิดผลดีต่อคนไข้ ทำให้ความนิยมลดลง แต่ยังคงใช้ได้ดีในบางกรณี

ข้อดี

  • ลดปริมาณอาหารที่ทานลง โดยไม่ต้องผ่าตัด

ข้อเสีย

  • ห่วงรัด สร้างปัญหาให้คนไข้ได้ง่าย จากการเลื่อนหลุด หรือ แน่นเกินไป
  • ความต้องการทานอาหารไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้อาจต้องการทานของเหลวที่พลังงานสูง จนไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

ผ่ากระเพาะด้วยการส่องกล้อง

ผลจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักสามารถทำการผ่าตัดแบบส่องกล้อง สอดเครื่องมือเข้าไปในร่างกายจากรอยแผลขนาดเล็กบริเวณรอบท้องเพื่อดำเนินหัตถการ โดยไม่ต้องผ่าท้อง

หลังผ่าตัดเสร็จ คนไข้จะมีความรู้สึกเจ็บไม่มากนัก ลดความเสี่ยงในระหว่างผ่าตัด สามารถฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัด

เทคนิค Double Lock

iDrive - เทคนิคการผ่าตัดลดน้ำหนักแบบ Double Lock

เทคนิค Double Lock นี้ก็คือการใช้ไหมละลายที่มีความแข็งแรงมาก ลักษณะคล้ายเส้นลวดช่วยเย็บให้รอยต่อแน่นหนามากขึ้น โดยทำการม้วนให้ขอบริมของรอยตัดพับทบเข้ามาแล้วเย็บซ้ำอีกที แถมยังมีการใช้กาวชีวภาพที่ป้ายเพื่อให้แผลติดกันมาเสริมความแข็งแรงให้กับเทคนิค Double Lock นี้อีกชั้นหนึ่งด้วย

ความพิเศษของ Double Lock  คือ ทำให้รอยต่อแน่นหนามากขึ้น ป้องกันการเกิดสภาวะรั่วที่เป็นภาวะแทรกซ้อนอันดับหนึ่งของการผ่าตัดลดน้ำหนัก และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานกระเพาะอาหารในระยะยาว เนื่องจากกระเพาะมีหน้าที่บดอาหาร เมื่อมีการขยับมากเข้าก็ไม่แน่ว่าแนวผ่าตัดจะปริออกหรือไม่ Double Lock ทำให้แนวผ่าตัดนั้นแข็งแรงเพียงพอที่กระเพาะจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

เทคนิคการผ่าตัดลดน้ำหนักแบบ Double Lock นี้เป็นเอกลักษณ์ของรัตตินันท์คลินิก ที่ถูกออกแบบมาเพราะมองเห็นจุดที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้เข้ารับการรักษา ถึงแม้จะมีเทคนิคพิเศษนี้แล้ว ทางคลินิกก็ไม่ได้ละเลยที่จะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของการผ่าตัดถึงสองชั้นด้วยกัน จึงมั่นใจได้ว่ารัตตินันท์คลินิกและเทคนิค Double Lock จะช่วยให้การผ่าตัดลดน้ำหนักสำเร็จไปได้ด้วยดี พร้อมกับมีผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม

ประโยชน์ของการผ่าตัดลดน้ำหนัก

การผ่าตัดแบบบายพาส จะเป็นการผ่าตัดที่จัดการทั้งส่วนของกระเพาะอาหารและส่วนของลำไส้ ถือเป็นรูปแบบการผ่าตัดที่ทำให้ลดน้ำหนักได้มากที่สุด

ผลจากการที่น้ำหนักลดลง มีผลทำให้ห่างไกลจากหลายๆ โรคที่พบเห็นได้ในปัจจุบัน อย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็งหลายๆ รูปแบบ โรคตับ มีบุตรยาก และอีกหลายโรค

ข้อดีของการผ่าตัดกระเพาะอาหาร

ในไทย การผ่าตัดกระเพาะอาหารยังถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ และรู้จักกันไม่มาก แต่คนอ้วนที่มากขึ้นในสังคมทุกปี จากของกินที่เข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้มีคนพูดถึงเรื่องผ่าตัดกระเพาะเพื่อรักษาโรคมากขึ้น

โรคอ้วน เป็นปัญหาใหญ่ที่พบมากขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยพบสัดส่วนประชากรที่มีโรคอ้วนสูง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ จะทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา อย่าง เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง ถึงบางคนสามารถกลับมาหุ่นดีได้ด้วยวิธีการลดอาหาร และออกกำลังกาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้ อาจเกิดผลลัพธ์ที่แย่ยิ่งกว่า ทำให้การตัดกระเพาะเป็นตัวเลือกที่แพทย์ใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วย

การผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ถือเป็นศัลยกรรมประเภทหนึ่ง ในหลายประเทศมีผู้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดกระเพาะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีกว่า 2 แสนเคสในปี 2561

blank

โรคอ้วนมีแนวโน้มพบมากขึ้นในประเทศไทย ตามความเป็นอยู่ การเข้าถึงของกินที่ง่ายขึ้น การผ่าตัดกระเพาะจึงกลายเป็นทางเลือกในการลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว ที่พูดถึงมากขึ้นทุกปี จนเริ่มกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระเพาะอาหาร

  1. ต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากแพทย์ ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  2. เข้ารับคำแนะนำด้านโภชนาการ จากแพทย์เฉพาะทาง
  3. ทดสอบสภาวะด้านจิตใจว่าพร้อมสำหรับการทำ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านการกิน หลังจากได้รับการผ่าตัด
  4. เข้ารับการประเมินภาวะของโรคที่เป็นอยู่ เพื่อยืนยันว่าสามารถควบคุม และพร้อมเข้ารับการผ่าตัดได้ เช่น โรคเบาหวาน โดยแพทย์จะให้ยาเพื่อลดน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับไม่เกิน 150 มิลลิกรัมล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เนื่องจากหลังผ่าตัดระดับน้ำตาลของผู้ป่วยมีอากาสสูงขึ้นถึง 2-3 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดหลังผ่าตัด
  5. หยุดการสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2-3 สัปดาห์ และต้องหยุดหลังการผ่าตัด เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้ฟื้นตัวช้า และเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
  6. ผู้หญิงที่สงสัยว่าตัวเองอาจกำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่
  7. หากมีการรับประทานยา หรืออาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ว่ายาชนิดใดสามารถรับประทานได้ หรือควรหยุดรับประทานยาชนิดใด
  8. งดน้ำ และอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนวันที่จะรับการผ่าตัด หากมียาที่ต้องรับประทานตามแพทย์สั่งให้จิบน้ำน้อยๆ
  9. ในบางรายหากมีน้ำหนักตัวมากเกินไปอาจจะต้องลดน้ำหนักก่อนการทำการผ่าตัด ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการผ่าตัด และทำให้สามารถผ่าตัดได้ดีขึ้น
  10. เริ่มปรับพฤติกรรมการกิน

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร

  1. หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะถูกนำมาที่ห้องพักฟื้น โดยอาจมีการใช้หน้ากากออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ ผู้ป่วยอาจยังมีความรู้สึกงัวเงียหลังจากรู้สึกตัวแล้ว
  2. ผู้ป่วยจะได้รับอาหารและสารน้ำทางเส้นเลือด ผ่านสายน้ำเกลือ จนกว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารได้
  3. ขณะอยู่ในห้องพักฟื้น หากผู้ป่วยรู้สึกคลื่นไส้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากกระเพาะมีขนาดเล็กลงอย่างมาก ผู้ป่วยควรนั่งตัวตรง หรือเดิน เพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้
  4. จะมีพยาบาลคอยตรวจเช็คชีพจรและวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
  5. หลังการผ่าตัดจะได้รับการควบคุมอาหารทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
  6. ควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

การรับประทานอาหารหลังการผ่าตัด

  1. จิบน้ำเปล่าตลอดวัน แต่ไม่ควรดื่มน้ำ ก่อน หรือหลังรับประทานอาหาร 30-45 นาที
  2. ควรหยุดทานเมื่อรู้สึกอิ่ม ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอาหารคลื่นไส้ หรือจุกเสียดได้
  3. รับประทานอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด
  4. เมื่อเริ่มรับประทานอาหารทีละอย่าง เมื่อคุ้นเคยไม่มีอาการแทรกซ้อนค่อยเริ่มอาหารชนิดถัดไป
  5. ควรใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีในการรับประทานอาหารต่อมื้อ
  6. ควรรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนเป็นหลักทุกมื้อ ก่อนทาน ข้าว หรือแป้ง
  7. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง
  8. หลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  9. รับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน และจำกัดอาหารว่างที่ไม่จำเป็น
  10. ทานวิตามิน และแร่ธาตุเสริมตามคำแนะนำของแพทย์

ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดกระเพาะ

หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหารไปแล้วจะมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้ หากผู้เข้ารับการรักษาไม่ดูแลตัวเองให้ดีพอ

  • อาเจียน: ความเคยชินเดิมที่ต้องกินอาหารปริมาณมาก เมื่อผ่าตัดกระเพาะให้เล็กลงแล้ว พื้นที่ใหม่นั้นก็ไม่สามารถรับปริมาณอาหารได้ไหว จึงอาเจียนออกมา
  • เหงื่อแตก ใจสั่น เป็นลม: เป็นผลมาจากกินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป
  • ผมหลุดร่วง : เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ส่วนประกอบของร่างกายที่ต้องการโปรตีนก็จะเสื่อมสภาพไปเป็นธรรมดา ก็ต้องกินอาหารประเภทโปรตีนให้มากขึ้น
  • อาการปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย: ร่างกายขาดน้ำ หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหารแล้ว ต้องมีวินัยในการดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยให้ดื่มแบบจิบไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน
  • เบื่ออาหาร การรับรสเปลี่ยนไป: หลายคนจะมีประสาทสัมผัสในการรับรสเปลี่ยนไป อาจเบื่ออาหารที่เคยชื่นชอบ หรืออาจจะเบื่ออาหารที่ไม่ค่อยชอบอยู่แล้วก็ได้

ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปฏิบัติตัว จึงควรเลือกกินอาหารที่เหมาะสม และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ถ้าพบปัญหาให้ปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ควรเลือกคลินิกที่ติดตามผลโดยแพทย์-พยาบาล อย่างน้อย 1 ปี

ทำไมต้องผ่าตัดกระเพาะกับ รัตตินันท์คลินิก ?

blank

  • ผ่าตัดโดย นพ. ปณต ยิ้มเจริญ ศัลยแพทย์ทางเดินอาหาร & ผ่าตัดลดน้ำหนัก อาจารย์แพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากอเมริกา
  • ดำเนินการผ่าตัดในโรงพยาบาล ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • ทางคลินิก มีเคสผ่าตัดกระเพาะกว่า 300 ครั้ง/ปี โดยเจ้าหน้าที่มีความชำนาญในการประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชน
  • รัตตินันท์คลินิก เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี มั่นใจได้กับบริการของเรา
  • ไม่ต้องรอคิวนานหลายเดือน ประเมินร่างกายไม่นาน เจ้าหน้าที่ดำเนินงานรวดเร็ว เพื่อลูกค้าที่ต้องการลดน้ำหนักรักษาโรค
  • หลังผ่าตัด มีทีมแพทย์ ติดตามผล คอยให้คำแนะนำผู้ป่วย นาน 12 เดือน

ถาม-ตอบเรื่องตัดกระเพาะลดน้ำหนัก กับศัลยแพทย์ นพ. ปณต ยิ้มเจริญ

แพทย์ผู้ดำเนินการผ่าตัด
นพ. ปณต ยิ้มเจริญนพ. ปณต ยิ้มเจริญ

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมการผ่าตัดกระเพาะจึงได้ผลกว่าวิธีอื่น ?

ในทางสถิติแล้วพบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักเกินส่วนใหญ่แล้วมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้ที่สามารถลดน้ำหนักได้นั้นจะมีเพียงแค่ 3% เท่านั้น หลายคนท้อและเลิกล้มความพยายาม จนโรคอ้วนก่อปัญหากับสุขภาพ

ดังนั้นการผ่าตัดลดน้ำหนักจึงเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลดี และไม่กลับมาอ้วนซ้ำ

ผ่าตัดกระเพาะเจ็บไหม ?

พูดถึง “ผ่าตัดกระเพาะ” หลายคนกลัวเอามีดผ่าเปิดท้องเป็นแนวยาวเหมือนการผ่าตัดภายใน กังวลเรื่องแผลเป็นหลังการผ่าตัด

ความจริง ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน การผ่าตัดกระเพาะทุกวิธี จะมีแผลที่ผิวเท่ารูเข็ม เพื่อสอดอุปกรณ์เข้าไปทำการศัลยกรรมในร่างกายและไม่เจ็บมาก ใช้เวลาไม่นานรอยแผลจะหายไป

ลูกค้าก่อนและหลังผ่าตัดกระเพาะที่รัตตินันท์คลินิก

blank
blank
blank

blank
blank
blank

บทความยอดนิยม

  • การทานอาหารเสริมหลังการผ่าตัดลดน้ำหนักการทานอาหารเสริมหลังการผ่าตัดลดน้ำหนัก
  • โรคซึมเศร้า ทำให้อ้วน หรือ อ้วนทำให้เป็นซึมเศร้ากันแน่ ?โรคซึมเศร้า ทำให้อ้วน หรือ อ้วนทำให้เป็นซึมเศร้ากันแน่ ?
  • ดูแลเรื่องอาหารหลังการผ่าตัดลดน้ำหนักดูแลเรื่องอาหารหลังการผ่าตัดลดน้ำหนัก
Rattinan Clinic
Rattinan Medical Center
(รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์)
5 Sitthi Vorakit, Building 12A,
Soi Phiphat, Silom, Bang Rak 10500
Bangkok

วันและเวลาทำการ

วันจันทร์ - วันเสาร์
เวลา 10.00 น. - 20.00 น.
วันอาทิตย์ หยุดทำการ
สอบถามข้อมูลบริการ :
086-570-7040 , 086-323-4040
ติดต่อเรื่องทั่วไป : 02-233-1424-5

Our Working Hours

We open Monday - Saturday from 10.00 AM.-08.00PM.
Close on Sunday and some public holidays.

Telephone : +66 22331424, +66 22331425
E-Mail: international@rattinan.com
WhatsApp : +66 917767741
Skype : +66 863234040

บริการของเรา

  • ดูดไขมัน
  • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
  • Ulthera
  • Thermage FLX
  • รักษาเต้านมโตผู้ชาย Gynecomastia
  • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
  • ตัดหนังหน้าท้อง
  • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
  • รักษาเส้นเลือดขอด
  • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
  • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ

บริการดูดไขมัน

  • ดูดไขมันหน้าท้อง
  • ดูดไขมันต้นขา
  • ดูดไขมันต้นแขน
  • ดูดไขมันน่อง
  • ดูดไขมันเหนียง
  • ดูดไขมันเอว
  • ดูดไขมัน Six Pack
  • ดูดไขมัน Sexy Line
  • ดูดไขมันหนอก
  • ดูดไขมันหน้า แก้ม

ติดตามเราได้ที่

Like Us

พูดคุยกับเราได้ที่

blank

© 2021 Rattinan Clinic | TOS/Privacy Policy | Sitemap