เมื่อเตรียมตัวก่อนดูดไขมันแล้ว ขั้นตอนดูดไขมัน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราต้องเลือกสถานที่ที่มีขั้นตอนทำหัตถการตามมาตรฐาน เพราะจะช่วยทำให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันสวยเป๊ะ ปัง! อาทิ ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ชนิดใด ความน่าเชื่อถือของคลินิก หรือมาตรฐาน-ใบรับรอง เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด หรือลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดได้ในระหว่างขั้นตอนดูดไขมัน หรือผลลัพธ์หลังดูดไขมัน วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนดูดไขมันว่ามีอะไรบ้าง
ขั้นตอนดูดไขมัน ประกอบด้วย 4 ขั้นหลัก ๆ คือ
- การตรวจความหนาแน่นของชั้นไขมันด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์
- ให้ยาชาเฉพาะจุดด้วย เทคนิค Pure Tumescent
- ดูดไขมันด้วยเทคนิค TripleTite
- เย็บแผลและใส่ชุดกระชับทันทีหลังดูดไขมันเสร็จ
1. แพทย์ใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ ตรวจชั้นไขมัน
แพทย์จะใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ ตรวจเช็กร่างกายในบริเวณที่จะทำการดูดไขมันก่อนทุกครั้ง ซึ่งมีข้อดีคือ
- แพทย์วินิจฉัยและประเมินร่างกายของคนไข้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมัน การใช้เครื่องอัลตร้าซาวน์จะทำให้มองเห็นภายในช่องท้อง จึงสามารถป้องกันการเกิดอันตรายต่ออวัยวะภายใน เช่น การดูดไขมันโดนอวัยวะสำคัญ
- แพทย์รู้ตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันชัดเจน และสามารถดูดไขมันส่วนเกินนั้นออกมาได้ในปริมาณมาก เนื่องจากเครื่องอัลตร้าซาวด์มีความถี่สูง จึงสามารถมองเห็นไขมันชั้นลึกได้ แม้ในคนที่มีปริมาณไขมันหนามาก ซึ่งข้อดีของการดูดไขมันชั้นลึกนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผิวเป็นริ้วคลื่น ได้ดีกว่าการดูดไขมันชั้นตื้นเกินไป
- กรณีเคสแก้ดูดไขมัน การใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ก่อนดูดไขมัน ยังนำมาใช้สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขผิวที่บุ๋มจากการดูดไขมันอย่างผิดวิธี เนื่องจากเครื่องจะช่วยให้ทราบถึงตำแหน่งของบริเวณที่จะแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
2. วาดบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน
แพทย์จะทำการวาดบริเวณที่ต้องการดูดไขมันส่วนเกินออก มาร์กจุดที่จะเจาะรูเพื่อดูดไขมันแบบซ่อนแผล หลังจากนั้นจะทาเบตาดีน เพื่อฆ่าเชื้อทั่วร่างกายก่อนขึ้นเตียงเพื่อทำหัตถการต่อไป
3. ใส่ยาชาเฉพาะจุด ยาระงับประสาท หรือให้ยาสลบ
แบบให้ยาชา : แพทย์จะทำการใส่ยาชาเฉพาะจุด ใต้ผิวบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน โดยใช้เทคนิค Pure Tumescent โดยในยาชาจะมีส่วนผสมของน้ำเกลือและยาต่าง ๆ ที่มีความเข้มข้นสูง ที่ช่วยยาชาออกฤทธิ์ได้นานขึ้น เจ็บน้อย และทำให้เลือดออกน้อยที่สุด ซึ่งปริมาณยาจะถูกคำนวณอย่างเหมาะสมตามน้ำหนักตัวของคนไข้ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ยามากเกินไปจนเป็นพิษ (Over Dose)
แบบยาระงับประสาท (Twilight Sedation) : เป็นการให้ยาผ่อนคลายก่อนการฉีดยาชา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลับไม่ลึกเท่าการดมยาสลบ ยังสามารถตอบสนองกับคำสั่งของแพทย์ได้ เช่น การปลุกให้ตื่นได้โดยง่าย
แบบดมยาสลบ : ขั้นตอนดูดไขมันด้วยการดมยา ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จะมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลการหายใจตลอดการรักษา รวมถึงเช็กร่างกายคนไข้ก่อนให้ปลอดภัยก่อนกลับบ้าน ในขั้นตอนการทำเมื่อเราหลับลงแล้ว แพทย์จะเริ่มใส่ยาชาในจุดที่ต้องการดูดไขมัน และเมื่อยาออกฤทธิ์ก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนดูดไขมันต่อไป
4. ดูดไขมันด้วย เทคนิค TripleTite
เริ่มดูดไขมัน (Liposuction) เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ แพทย์จะเริ่มทำการใช้ขั้นตอน BodiTite เพื่อละลายไขมันที่อัดแน่นอยู่ใต้ชั้นผิวไปพร้อม ๆ กับการกระชับผิว โดยใช้ความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม หลังจากนั้นจะใช้ขั้นตอน PowerTite ทำการดูดไขมันส่วนเกินออก พร้อมกับการทำ Fat Equalization เกลี่ยผิวบริเวณที่ทำการดูดไขมันเรียบเนียน และเมื่อเย็บแผลเสร็จแล้วก็จะทำการ DermaTite เพื่อกระชับผิวให้เรียบขึ้น ลดผิวเปลือกส้มหลังดูดไขมัน
ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ?
- หลังดูดไขมันเสร็จ พยาบาลจะทำการใส่แปะแผ่นซึมซับพร้อมกับใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมันให้ลูกค้าทันที เพื่อทำให้ผิวกระชับเร็วที่สุด และป้องกันการเกิดก้อนซีโรมา
- หลังการดูดไขมัน ให้หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดบริเวณแผล เพราะอาจทำให้เกิดสีคล้ำได้
- งดการทานของหมักดอง หรืออาหารรสจัด รวมถึงงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังตัดไหมประมาณ 14 วัน หรือรอให้แผลแห้งสนิทก่อน
- งดอาบน้ำ 1 วัน หลังการดูดไขมัน และสามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป โดยปิดพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อ่านเพิ่มเติม :
วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ดูดไขมันที่ไหนดี? ข้อควรรู้ก่อนเลือกคลินิกดูดไขมัน สวยอย่างปลอดภัยอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์