การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นศัลยกรรมความงามอย่างหนึ่ง ที่ช่วยทำให้รูปร่างดูสวยงาม ดูสมส่วน สร้างความมั่นใจเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า ฯลฯ ด้วยการดูดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายออก เป็นทางเลือกที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจน รวดเร็ว และมีความปลอดภัย
แต่การดูดไขมันให้ได้หุ่นสวย เป๊ะปัง! นั้นจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีซะก่อน ทั้งเรื่องของ แพทย์ที่ทำการรักษา, ขั้นตอนดูดไขมัน ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ชนิดใด, ความน่าเชื่อถือของคลินิก หรือมาตรฐาน-ใบรับรอง เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด หรือลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดได้ในระหว่างขั้นตอนดูดไขมัน หรือผลลัพธ์หลังดูดไขมัน วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ขั้นตอนการดูดไขมัน ว่ามีอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ?
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ทำอย่างไร?
- งดทานวิตามิน / อาหารเสริม ทุกชนิด เช่น น้ำมันตับปลา วิตามินซี รวมถึงงดยาต้านแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin , Plavix หรือตัวอื่นๆ ก่อนทำการผ่าตัดอย่างน้อย 7-14 วัน หรือถ้ามียาที่รับประทานประจำ กรุณาปรึกษาแพทย์ก่อน ว่าสามารถทานต่อได้หรือไม่
- งดสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังทำการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจส่งผลทำให้เกิดผลแทรกซ้อนระหว่างดูดไขมัน หรือหลังการดูดไขมัน เช่น อาการบวมช้ำหายช้า, ติดเชื้อ ฯลฯ
- กรณีให้ยาชาเฉพาะจุด ต้องงดอาหาร 3 ชม แค่สามารถทานน้ำได้ตามปรกติก่อนการผ่าตัด
- การผ่าตัดแบบดมยา ต้องงดอาหารทุกชนิด 8 ชม. งดน้ำเปล่า 3 ชม. ก่อนทำการผ่าตัด
- หากมีการใช้ยาชนิดใดที่ไม่สามารถหยุดได้ หรือมีโรคประจำตัว ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า เพื่อประเมินการรักษาได้อย่างปลอดภัย
- ผลตรวจเลือด และผลตรวจจาก LAB ต่างๆ ควรส่งให้ทางที่ปรึกษาด้านความงามประจำตัวของคุณลูกค้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเริ่มทำหัตถการ
- ตรวจเช็คความสะอาดของเล็บมือ-เล็บเท้า รวมถึงกรณีดูดไขมันส่วนล่าง เช่น ต้นขา ควรโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นก่อนการรักษา เพื่อความสะอาด
- ชุดที่มาใส่ในวันทำหัตถการ ควรเป็นชุดหลวมๆ ที่สามารถถอดออกได้ง่าย เช่นกระดุมหน้า กระโปรง หรือเสื้อเชิ้ตกลัดกระดุม เป็นต้น
ขั้นตอนการดูดไขมัน มีอะไรบ้าง?
1. แพทย์จะใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ ตรวจเช็คร่างกายในบริเวณที่จะทำการดูดไขมันก่อนทุกครั้ง ซึ่งมีข้อดีคือ
- แพทย์วินิจฉัยและประเมินร่างกายของคนไข้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมัน การใช้เครื่องอัลตร้าซาวน์จะทำให้มองเห็นภายในช่องท้อง จึงสามารถป้องกันการเกิดอันตรายต่ออวัยวะภายใน เช่น การดูดไขมันโดนอวัยวะสำคัญ
- แพทย์รู้ตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันชัดเจน และสามารถดูดไขมันส่วนเกินนั้นออกมาได้ในปริมาณมาก เนื่องจากเครื่องอัลตร้าซาวด์มีความถี่สูง จึงสามารถมองเห็นไขมันชั้นลึกได้ แม้ในคนที่มีปริมาณไขมันหนามาก ซึ่งข้อดีของการดูดไขมันชั้นลึกนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผิวเป็นริ้วคลื่น ได้ดีกว่าการดูดไขมันชั้นตื้นเกินไป
- กรณีเคสแก้ดูดไขมัน การใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ก่อนดูดไขมัน ยังนำมาใช้สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขผิวที่บุ๋มจากการดูดไขมันอย่างผิดวิธี เนื่องจากเครื่องจะช่วยให้ทราบถึงตำแหน่งของบริเวณที่จะแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
2. แพทย์จะทำการวาดบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน ส่วนเกินออก หลังจากนั้นจะทาเบตาดีน เพื่อฆ่าเชื้อทั่วร่างกายก่อนขึ้นเตียงเพื่อทำการดูดไขมัน
3. แพทย์จะทำการใส่ยาชาเฉพาะจุด ใต้ผิวบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน โดยใช้เทคนิค Tumescent โดยในยาชาจะมีส่วนผสมของ น้ำเกลือและสารต่างๆ ที่ช่วยยาชาออกฤทธิ์ได้นานขึ้น เจ็บน้อย และทำให้เลือดออกน้อยที่สุด
4. เริ่มดูดไขมัน (Liposuction) เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ แพทย์จะเริ่มทำการใช้เครื่องมือ BodyTite ละลายไขมันใต้ชั้นผิวไปพร้อมๆ กับการกระชับผิว โดยใช้ความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม หลังจากนั้นจะใช้เครื่อง MicroAire PAL ทำการดูดไขมันส่วนเกินออก พร้อมกับการทำ Fat Equalization เกลี่ยผิวบริเวณที่ทำการดูดไขมันเรียบเนียน
ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ?
- หลังดูดไขมันเสร็จ พยาบาลจะทำการใส่แปะแผ่นซึมซับพร้อมกับใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมันให้ลูกค้าทันที เพื่อทำให้ผิวกระชับเร็วที่สุด และป้องกันการเกิดก้อนซีโรมา
- หลังการดูดไขมัน ให้หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดบริเวณแผล เพราะอาจทำให้เกิดสีคล้ำได้
- งดการทานของหมักดอง หรืออาหารรสจัด รวมถึงงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังตัดไหมประมาณ 14 วัน หรือรอให้แผลแห้งสนิทก่อน
- งดอาบน้ำ 1 วัน หลังการดูดไขมัน และสามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป โดยปิดพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อ่านเพิ่มเติม :
วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ดูดไขมันที่ไหนดี? ข้อควรรู้ก่อนเลือกคลินิกดูดไขมัน สวยอย่างปลอดภัยบรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน ในไทยและเอเชียแปซิฟิค
เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันมากว่า 24 ปี