ศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอก ลดขนาดเต้านม อย่างปลอดภัย จากรัตตินันท์

ตัดหน้าอก

การผ่าตัดหน้าอกเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริง ลดความรู้สึกไม่สบายใจ และเพิ่มคุณภาพชีวิตอย่างที่คุณสัมผัสได้ รัตตินันท์ คลินิก เข้าใจว่าการตัดสินใจเรื่องนี้ต้องอาศัยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจ

สารบัญ

คุณหมอสรุปให้ ตัดหน้าอก คืออะไร ทำไมต้อง รัตตินันท์ คลินิก

การผ่าตัดหน้าอก (Breast Surgery) หรือที่เรียกว่า Top Surgery เป็นหัตถการทางศัลยกรรมที่ช่วยลดขนาดหรือเอาเนื้อเยื่อเต้านมออก เพื่อให้รูปร่างหน้าอกสอดคล้องกับเพศสภาพที่ผู้รับบริการระบุตัวตน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นหญิง แต่ระบุตัวตนเป็นชาย (Transgender Men) หรือบุคคลเพศหลากหลาย (Non-Binary)

ทำไมต้องเลือก รัตตินันท์ คลินิก?

  • แพทย์ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งและศัลยกรรมหน้าอก
  • มาตรฐานความปลอดภัยระดับ AACI ด้าน Ambulatory Plastic Surgical Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอกในเอเชียแปซิฟิก โปร่งใสทุกขั้นตอน
  • ห้องผ่าตัดมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่านมาตรฐานความสะอาดปลอดเชื้อ COVID-19 จากกรมอนามัย และ THAISTOPCOVID+
  • เทคนิคหลากหลาย เลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล รวมถึงเทคนิคใหม่ส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้
  • การดูแลแบบเฉพาะราย ตั้งแต่การปรึกษา วางแผน จนถึงการดูแลหลังผ่าตัด พร้อมทีมวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ความเป็นส่วนตัว พื้นที่ปรึกษาและดูแลที่ให้ความเคารพและเกียรติ

ตัดหน้าอก หรือ ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก คืออะไร

การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก (Breast Reduction Surgery) หรือ Reduction Mammoplasty คือหัตถการที่นำเนื้อเยื่อเต้านม ไขมัน และผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อให้หน้าอกมีขนาดเล็กลง แบนราบ และเหมาะสมกับรูปร่างที่ต้องการ

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับเพศสภาพ การผ่าตัดนี้มักเรียกว่า Top Surgery หรือ Gender-Affirming Mastectomy หรือ Masculinizing Chest Surgery ซึ่งมุ่งเน้นสร้างรูปร่างหน้าอกที่ดูเป็นชายมากขึ้น โดยอาจมีการปรับตำแหน่งปานนม ลดขนาดปานนม และปรับสัดส่วนกล้ามเนื้อหน้าอกให้เหมาะสม

การผ่าตัดนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงแค่ด้านความงามเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญหลายประการ เช่น การลดอาการปวดหลัง คอ และไหล่ที่เกิดจากน้ำหนักของหน้าอกที่มากเกินไป การปรับปรุงท่าทางการยืนและนั่ง การเพิ่มความสะดวกในการออกกำลังกายและกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความมั่นใจและปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวม

การผ่าตัดหน้าอก เหมาะกับใคร

1. ผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นหญิง แต่ระบุตัวตนเป็นชาย (Transgender Men)

ผู้ที่รู้สึกว่าหน้าอกไม่สอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริง การผ่าตัดช่วยลดความรู้สึกไม่สบายใจและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ลดความจำเป็นในการใช้สเตย์รัดหน้าอก (Chest Binding) ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง หายใจลำบาก หรือผิวหนังระคายเคือง

2. บุคคลเพศหลากหลาย (Non-Binary / Gender Diverse)

ผู้ที่ไม่ระบุตัวตนเป็นชายหรือหญิงแต่เพียงอย่างเดียว และต้องการปรับรูปร่างหน้าอกให้สอดคล้องกับความรู้สึกและภาพลักษณ์ของตนเอง ไม่ต้องการให้รูปร่างหน้าอกมีลักษณะชัดเจนแบบเพศหญิง

3. ผู้ที่มีภาวะ Gender Dysphoria รุนแรง

ความรู้สึกไม่สอดคล้องระหว่างเพศกำเนิดและเพศสภาพที่รุนแรง ส่งผลต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต การผ่าตัดเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ช่วยลดอาการได้ รู้สึกไม่สบายใจหรือทุกข์ใจอย่างมากเมื่อมองหรือสัมผัสหน้าอกของตัวเอง

4. ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายพร้อมสำหรับการผ่าตัด

ไม่มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ และมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่สูบบุหรี่ หรือสามารถหยุดสูบได้ในช่วงก่อนและหลังผ่าตัดตามคำแนะนำแพทย์ มีความเข้าใจชัดเจนถึงขั้นตอน ผลลัพธ์ และระยะเวลาการฟื้นตัว

5. ผู้ที่ผ่านการปรึกษาและประเมินโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ

การผ่าตัดหน้าอกควรได้รับการประเมินจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่มีประสบการณ์ด้านเพศสภาพ และได้รับการปรึกษาจากทีมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ได้รับข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับความเสี่ยง ผลลัพธ์ และการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อการตัดสินใจอย่างรอบคอบ

ข้อดีของการผ่าตัดหน้าอก มีอะไรบ้าง

ปรับบุคลิกภาพให้มั่นใจมากขึ้น

การมีรูปร่างหน้าอกที่สอดคล้องกับตัวตนช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจในการแต่งกาย การเข้าสังคม และการใช้ชีวิตประจำวัน ลดความกังวลเรื่องการถูกมองจากผู้อื่น รูปร่างสมส่วนขึ้น ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์โดยไม่ต้องปกปิด เพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ทั้งการเข้าสังคม การทำงาน และการถ่ายภาพ

แก้ปัญหาสุขภาพจากน้ำหนักหน้าอก

หน้าอกขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง คอ หรือไหล่ การผ่าตัดช่วยลดน้ำหนักที่กดทับร่างกาย ทำให้เคลื่อนไหวสะดวกและลดอาการปวดเมื่อยได้ ปรับท่าทางให้ดีขึ้น ลดปัญหาการโค้งงอของกระดูกสันหลังในระยะยาว

เสริมคุณภาพชีวิตและความคล่องตัว

ผู้รับบริการสามารถเลือกเสื้อผ้าได้อย่างอิสระมากขึ้น ออกกำลังกายได้สะดวก และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรูปร่างหน้าอก เคลื่อนไหวและออกกำลังกายได้สะดวกขึ้น เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ฟิตเนส ลดความรำคาญหรือความอึดอัดจากการสวมเสื้อชั้นในหรือการรัดหน้าอก

ลดความรู้สึกไม่สอดคล้องทางเพศ (Gender Dysphoria)

การผ่าตัดช่วยให้ร่างกายสอดคล้องกับเพศสภาพที่ระบุตัวตน ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง สำหรับผู้ที่อยู่ในกระบวนการยืนยันเพศ การผ่าตัดช่วยให้รูปร่างสอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศ ลดความกดดันทางจิตใจ และเพิ่มความมั่นใจในร่างกายของตัวเอง

ผลลัพธ์ถาวรและปลอดภัยเมื่อทำกับแพทย์เฉพาะทาง

เมื่อทำกับแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งที่ผ่านการฝึกอบรมและดูแลอย่างใกล้ชิด ผลลัพธ์มีความถาวร มีมาตรฐานความปลอดภัย และช่วยสร้างความมั่นใจในระยะยาว ไม่ต้องพึ่งการแก้ไขชั่วคราว เช่น การพันหน้าอกทุกวัน เมื่อผ่าตัดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และอยู่ได้ในระยะยาว

ผ่าตัดลดขนาดลานนม ตกแต่งหัวนม โดยแพทย์เฉพาะทาง

การผ่าตัดหน้าอก ไม่เหมาะกับใคร

1. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพรุนแรงหรือควบคุมไม่ได้

เช่น โรคหัวใจหรือโรคปอดขั้นรุนแรง โรคหัวใจที่ไม่คงที่ เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ เบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมไม่ดี หรือโรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (เสี่ยงเลือดออกมากหรือหยุดยาก) การผ่าตัดอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนระหว่างและหลังผ่าตัด จึงควรรักษาและควบคุมโรคให้ได้ก่อน

2. ผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือเพิ่งหยุดสูบไม่นาน

การสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงผิวหนังลดลง นิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนเลือดสู่แผล อาจส่งผลให้แผลหายช้า เกิดแผลเป็นที่เห็นชัด หรือมีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เพิ่มความเสี่ยงแผลหายช้า ติดเชื้อ หรือแผลแยก แนะนำให้หยุดสูบอย่างน้อย 4 ถึง 6 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด

3. ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อหรือมีแผลอักเสบในบริเวณหน้าอก

ควรรักษาให้หายก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหลังผ่าตัด การผ่าตัดในขณะที่มีการติดเชื้อเพิ่มโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง ควรรักษาให้หายสนิทก่อนเข้ารับการผ่าตัด

4. ผู้ที่มีภาวะทางจิตใจหรืออารมณ์ที่ยังไม่พร้อม

การผ่าตัดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ผู้รับบริการควรผ่านการประเมินและปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าตัดสินใจด้วยความพร้อมและเข้าใจผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลรุนแรงที่ยังไม่ได้รับการรักษา ยังไม่เข้าใจขั้นตอน ความเสี่ยง และผลลัพธ์ของการผ่าตัดอย่างถ่องแท้ ในกรณีการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศ ควรผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก่อน

รีวิว ผ่าตัดหน้าอกหญิงเป็นชาย ตัดนมทอม ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก 1
ผ่าตัดหน้าอกหญิงเป็นชาย ตัดนมทอม ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก 2

เทคนิคผ่าตัดหน้าอก มีกี่แบบ

การผ่าตัดหน้าอก ปี 2025 จำเป็นจะต้องได้รับการตรวจและวินิจฉัยโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง ซึ่งวิธีการผ่าตัดขึ้นอยู่กับขนาดเต้านม และความยืดหยุ่น หรือความหย่อนคล้อยของผิวหนัง โดยหลักแล้วการผ่าตัดเต้านม แบ่งออกดังนี้

  1. การผ่าตัดแผลเล็ก ด้วยวิธี ผ่าตัดผ่านแผลปานนม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกขนาดเล็กถึงปานกลาง ผิวหนังยืดหยุ่นดี แพทย์จะเปิดแผลรอบขอบปานนม เอาเนื้อเยื่อเต้านมออก และปรับตำแหน่งปานนมให้เหมาะสม แผลเป็นมักซ่อนอยู่รอบขอบปานนมและไม่เห็นชัดเจน

การผ่าตัดแผลเล็ก (Subcutaneous) ด้วยวิธีผ่าตัดผ่านแผลปานนม นั้นเป็นวิธีดั้งเดิมในการลดขนาดหน้าอก โดยทำการผ่าตัดบริเวณปานนมเป็นหลัก และเกิดแผลเป็นขนาดเล็กบริเวณปานนม หรือในบางกรณีอาจมีการผ่าเปิดแผลบริเวณเนื้อเต้านมร่วมด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อแผลเป็นเช่นกัน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัดว่าเปิดแผลบริเวณใดบ้าง

ลักษณะการเปิดแผล:

  • เปิดแผลบริเวณปานนม ลักษณะเป็นวงกลม
  • เปิดแผลครึ่งหนึ่งของปานนม (แนวตั้ง หรือแนวนอนก็ได้)
  • ผ่าตัดผ่านหัวนม (กรณีที่ต้องการลดขนาดของหัวนมด้วย)

ผ่าตัดผ่านแผลปานนม คือ การนำเครื่องมือสอดผ่านแผลที่กรีดบริเวณปานนม เพื่อเข้าไปตัดต่อมหรือเนื้อเยื่อเต้านมต่าง ๆ แผลเป็นก็จะอยู่รอบปานนม หรือลานนม

ข้อดี: เมื่อแผลหายดีแล้วก็จะมองไม่เห็นแผลที่ผ่าตัด หรือมองเห็นได้น้อยมาก ฟื้นตัวไม่นาน หน้าอกแบนราบเป็นธรรมชาติ

การผ่าตัดแผลปานนม ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน หรือนมทุกไซส์ ต้องให้แพทย์วินิจฉัยก่อน ซึ่งคนที่เหมาะกับการผ่าตัดผ่านแผลปานนม เช่น

  • หน้าอกเล็ก นมเล็ก (คัพ A) ปานนมใหญ่
  • หน้าอกไซส์กลาง (คัพ B) ปานนมใหญ่ (ลดขนาดหน้าอก และลดขนาดปานนม ไปพร้อมกันได้)
ศัลยกรรมทอม ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
  1. ผ่าตัดลดขนาดเต้านม โดยเปิดแผลบริเวณปานนม + ขยายแผลออกด้านใดด้านหนึ่งของเต้านม

เทคนิคนี้เหมาะกับหน้าอกที่มีขนาดปานกลาง แพทย์จะเปิดแผลรอบปานนมและขยายออกไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกได้มากขึ้น พร้อมปรับรูปร่างให้เรียบเนียน

ผ่าตัดลดขนาดเต้านม โดยเปิดแผลบริเวณปานนม บวกกับขยายแผลออกด้านใดด้านหนึ่งของเต้านม วิธีนี้แพทย์จะพิจารณาจากหลายส่วนก่อนทำการผ่าตัด ทั้งขนาดหน้าอก และผิวหนังของผู้รับบริการว่ามีความยืดหยุ่นมากน้อยเพียงใด เช่น

  • ลดขนาดเต้านม แผลเป็นคล้ายสัญลักษณ์โอเมกา (Omega) คือการกรีดแผลบริเวณปานนม และยาวออกไปด้านข้างของเต้านมเล็กน้อย
  • ลดขนาดเต้านม แผลเป็นรูปตัว T Scar คือ ผ่าเปิดแผลปานนมครึ่งหนึ่งในลักษณะแนวนอน และผ่าลงไปยังเต้านมด้านล่าง ลักษณะเป็นรูปตัว T
  • ผ่าเปิดแผลปานนมเป็นวงกลม พร้อมกับผ่าลงไปยังเต้านมด้านล่าง

ผ่าตัดเต้านม ลดขนาดหน้าอก แผลปานนม
  1. ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก แบบ Double O

เปิดแผลรอบปานนมทั้งสองข้าง เหมาะสำหรับการลดขนาดหน้าอกและปรับสัดส่วนให้สมดุล แผลเป็นจะอยู่รอบปานนมทั้งสองข้างและค่อยจางลงตามกาลเวลา

ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก แบบ Double O คือ การศัลยกรรมตัดหน้าอก โดยการเปิดแผลปานนมเป็นวงกลม พร้อมกับผ่าตัดเนื้อเต้านมรอบนอกที่เป็นส่วนเกินออก แล้วทำการดึงผิวหนังเข้ามาเย็บกับปานนม

ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก แบบ Double O
  1. ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก โดยเปิดแผลใต้ฐานหน้าอก

เทคนิค Inframammary Incision เหมาะสำหรับหน้าอกขนาดใหญ่ที่ต้องเอาเนื้อเยื่อออกจำนวนมาก แพทย์จะเปิดแผลใต้ฐานหน้าอกเพื่อเข้าถึงเนื้อเยื่อได้ง่าย แผลเป็นจะอยู่ใต้ฐานหน้าอกและมักซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เห็นชัดเจน

ผ่าตัดลดขนาดหน้าอกโดยเปิดแผลใต้ฐานหน้าอก การเปิดแผลใต้ฐานหน้าอก ลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม ก็เป็นวิธีที่นิยมเช่นกัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้รับบริการที่ขนาดหน้าอกปานกลาง (คัพ B) หน้าอกไม่ผิดรูป หรือหย่อนคล้อยมากนัก

ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก โดยเปิดแผลใต้ฐานหน้าอก
  1. การผ่าตัดเต้านมทั้งหมด (Breast Amputation)

เป็นการเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าอกแบนราบเหมือนหน้าอกชาย แพทย์จะปรับตำแหน่งและขนาดปานนมให้เหมาะสม พร้อมปรับสัดส่วนกล้ามเนื้อหน้าอกให้ดูเป็นธรรมชาติ

การผ่าตัดลดขนาดเต้านมด้วยวิธี Breast Amputation เป็นการตัดเต้านมทิ้งทั้งหมด โดยแผลจะมีความยาวตั้งแต่กลางหน้าอก ไปจนถึงเกือบด้านข้างลำตัว ซึ่งอาจจะเหมาะกับผู้รับบริการบางท่านเท่านั้น หรือมีสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • ผู้รับบริการที่มีหน้าอกต่ำ นมอยู่ต่ำกว่าระดับปกติ
  • ผู้รับบริการที่มีหน้าอกหย่อนยาน นมยาน ในคุณแม่ที่ผ่านการมีบุตรมาแล้ว
  • กรรมพันธุ์ ผู้รับบริการในบ้านที่เป็นผู้หญิงมีหน้าอกที่ใหญ่มาก ทำให้การใช้ชีวิตลำบาก
  • ผู้รับบริการที่มีหน้าอกใหญ่มาก ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ปวดหลัง ปวดไหล่ ฯลฯ
  • หน้าอกห้อย นมห้อย เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
  • หน้าอกผิดรูป เกิดจากการรัดสเตย์เป็นเวลานาน

การผ่าตัดเต้านมวิธีนี้ หัวนมอาจจะไม่มีความรู้สึก เนื่องจากต้องตัดเต้านมทิ้ง แล้วทำการย้ายหัวนมขึ้นมาวางตำแหน่งใหม่ (แปะหัวนมบนผิวหนัง) โดยไม่ได้เอาเส้นประสาทมาด้วย วิธีนี้เรียกว่า Nipple Graft และแพทย์จะช่วยออกแบบแผลบริเวณขอบหน้าอกให้เป็นลักษณะคล้ายแนวกล้ามเนื้อหน้าอกของผู้ชายได้ จึงช่วยให้ผู้ที่ต้องตัดนมทิ้ง เกิดความมั่นใจในสรีระมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แพทย์อาจจะพิจารณาจากผิวหนังของผู้รับบริการร่วมด้วย เพื่อลดการเกิดผลแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น รอยแผลเป็นที่อาจจะไม่สวยมาก แผลสีเข้มแดง หรืออาจจะเกิดแผลคีลอยด์ ซึ่งมักจะเกิดได้ง่ายในผู้รับบริการสีผิวขาวเหลืองหรือเข้ม อย่างคนเอเชียมากกว่ายุโรป

ผ่าตัดเต้านมทิ้ง ย้านหัวนมใหม่
  1. ดูดไขมันหน้าอก (Liposuction) ลดขนาดหน้าอก

เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกขนาดเล็กและประกอบไปด้วยไขมันเป็นหลัก ไม่มีเนื้อเยื่อต่อมเต้านมมาก แพทย์จะใช้เทคนิคดูดไขมันเพื่อลดขนาดหน้าอก แผลเล็กและไม่เห็นชัดเจน แต่อาจไม่เหมาะสำหรับหน้าอกขนาดใหญ่หรือผิวหนังหย่อนคล้อย

ดูดไขมันหน้าอก (Breast Liposuction) ในบางกรณีของการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกอาจต้องใช้การดูดไขมันร่วมด้วย เนื่องจากหน้าอกของผู้หญิงบางคนจะมีไขมันยาวขึ้นไปจนถึงรักแร้

ซึ่งการใช้เทคโนโลยีดูดไขมันทำการดูดไขมันส่วนเกินออก ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยที่ รัตตินันท์ คลินิก มีหัวดูดไขมัน หรือ Canulas ที่หลากหลายให้เลือกใช้กับแต่ละส่วนอย่างเหมาะสม

ดูดไขมันหน้าอก
ดูดไขมัน BodyTite Pro ดูดไขมัน PAL

เทคนิค ผ่าตัดหน้าอก จาก รัตตินันท์ คลินิก

การผ่าตัดแผลเล็ก ตัดหน้าอก แบบส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้

ลดขนาดหน้าอก เทคนิคใหม่ ส่องกล้องใต้รักแร้ ไร้แผลเป็นหน้าอก

รัตตินันท์ คลินิก มีการผ่าตัดหน้าอกด้วยเทคนิคหลากหลาย เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยเน้นผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจ แผลเป็นที่ไม่เห็นชัดเจน และมาตรฐานความปลอดภัยในทุกขั้นตอน

นอกจากการผ่าตัดลดขนาดเต้านมแล้ว รัตตินันท์ คลินิก ยังมีการทำ Chest Wall Contouring Surgery คือการปรับแต่งผนังหน้าอกให้มีลักษณะคล้ายหน้าอกผู้ชายมากที่สุด โดยแพทย์จะออกแบบแผลบริเวณขอบหน้าอกให้เป็นลักษณะคล้ายแนวกล้ามเนื้อหน้าอกของผู้ชาย ปรับสัดส่วนให้ดูเป็นธรรมชาติ และสร้างความมั่นใจในสรีระมากยิ่งขึ้น

ในบางผู้รับบริการที่มีขนาดหน้าอกใหญ่จากไขมัน แพทย์จะใช้ Liposuction การดูดไขมันร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าพอใจที่สุด

การผ่าตัดแผลเล็ก ตัดหน้าอก แบบส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้

เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้ (Endoscopic Transaxillary Breast Surgery) เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดขนาดหน้าอกโดยไม่ทิ้งแผลเป็นที่บริเวณหน้าอกหรือปานนม แพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ ที่ใต้รักแร้ใช้กล้องส่องเข้าไป เอาเนื้อเยื่อเต้านมออก และปรับสัดส่วนหน้าอกให้เรียบเนียน

การลดขนาดหน้าอก ด้วยวิธีส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้ เป็นเทคนิคของการผ่าตัดแผลเล็ก (Subcutaneous) แผลเป็นจะอยู่บริเวณใต้รักแร้ และมีขนาดเล็กมาก

ข้อดี:

  • แผลเป็นซ่อนอยู่ใต้รักแร้ ไม่มีแผลที่หน้าอก
  • ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • แพทย์สามารถเห็นส่วนต่าง ๆ ภายในเต้านม และตำแหน่งที่ต้องการตัดได้อย่างชัดเจนผ่านหน้าจอ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ของการผ่าตัด เช่น เลือดออกน้อย กล้ามเนื้อบาดเจ็บน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ พักฟื้นไม่นาน ฟื้นตัวเร็ว หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีแผลบริเวณหน้าอกให้เห็น

ข้อเสีย: อาจมีราคาสูงกว่าผ่าตัดลดขนาดเต้านมวิธีอื่น แต่ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่า

การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกแบบส่องกล้องใต้รักแร้ เหมาะกับหน้าอกไซส์ไหน ?

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับหน้าอกขนาดเล็กถึงปานกลาง ที่ผิวหนังยืดหยุ่นดี และเนื้อเยื่อต่อมเต้านมไม่มากเกินไป เหมาะกับ:

  • นมไซส์เล็ก (คัพ A) ปานนมใหญ่
  • เต้านมไซส์เล็ก (คัพ A) ปานนมเล็ก
  • นมใหญ่ หรือหน้าอกใหญ่ (คัพ B) ปานนมใหญ่
  • เต้านมปานกลาง นมใหญ่ หรือหน้าอกใหญ่ (คัพ B) ปานนมเล็ก

หากหน้าอกขนาดใหญ่หรือหย่อนคล้อย แพทย์อาจแนะนำเทคนิคอื่นที่เหมาะสมกว่า

ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก บริเวณใต้รักแร้ แบบไม่ส่องกล้อง ทำได้หรือไม่?

ทำได้ แต่ก็มีความเสี่ยงและอันตรายที่จะเสียเลือดมาก เลือดออกเยอะ เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อมากกว่าการส่องกล้อง เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในได้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การใช้กล้องส่องช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างภายในได้ชัดเจนขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นเลือด เส้นประสาท และช่วยให้ผลลัพธ์เรียบเนียนมากขึ้น

คำถาม: แล้วทำไมเสริมหน้าอกถึงทำได้ โดยไม่ต้องใช้การส่องกล้อง?

คำตอบ: การเสริมหน้าอกเป็นการสร้างโพรงแล้วใส่ซิลิโคนเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่เหมือนการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ที่ต้องมีการตัดเนื้อเต้านม ตัดต่อมน้ำนมออก ซึ่งจะมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อมากกว่า

กรณีพิเศษ: ในบางกรณี ผู้รับบริการที่มีหน้าอกปานกลางขึ้นไป (B/C) อาจไม่สามารถผ่าตัดแผลเล็ก ผ่านปานนม หรือผ่านกล้องใต้รักแร้ได้ เนื่องจากอาจมีเนื้อเยื่อเต้านมบางส่วน เช่น ด้านข้างลำตัว ที่ผ่าตัดแผลเล็กเข้าไม่ถึง หรือไม่สามารถเอาออกได้หมด สุดท้ายแพทย์อาจจะต้องเลือกทำการกรีดแผลบริเวณปานนมให้ใหญ่ขึ้น หรือยาวออกไปด้านข้าง เพื่อเอาไขมันและเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านข้างเต้านมออก ทำให้มีแผลเป็นยาวเพิ่มขึ้นอีก

แต่กรณีนี้สามารถแก้ได้โดยใช้ เทคนิคส่องกล้องใต้รักแร้ ร่วมกับการผ่าตัดบริเวณปานนม จะทำให้แผลเป็นบริเวณปานนมจะมีขนาดเล็กมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องกรีดขยายแผลยาวจากปานนมออกไปด้านข้าง (Extended) พร้อมทำการ Contouring หน้าอกให้เรียบเนียน เหมาะสม และเป็นธรรมชาติคล้ายหน้าอกผู้ชายมากที่สุด

รีวิวผ่าตัดหน้าอกผู้ชาย ผิวหนังเหี่ยวจากการลดน้ำหนัก
รีวิวผ่าตัดหนังแขน ผิวหนังแขนห้อย จากการลดน้ำหนัก

รีวิวผ่าตัดเต้านม ด้วยวิธี Breast Amputation สามารถทำการรักษาในผู้ชายได้
รายนี้มีผิวหนังบริเวณหน้าอก (เต้านม) หย่อนตั้งแต่ด้านหน้ายาวจนถึงด้านข้าง แพทย์ได้ทำการรักษาโดยใช้วิธีผ่าตัดหนังที่เสีย ขาดความยืดหยุ่นออก แล้วทำการย้ายตำแหน่งหัวนมให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ แผลเป็นจะยางตั้งแต่ด้านหน้าของหน้าอกไปจนถึงด้านข้างลำตัว นอกจากนั้นผิวบริเวณท้องแขนห้อย เกิดจากการลดน้ำหนัก แพทย์รักษาโดยการผ่าตัดยกกระชับต้นแขนร่วมด้วย

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดลดขนาดหน้าอก/เต้านม

ศัลยกรรมนมทอม ผ่าตัด ลดขนาดเต้านม
  1. ก่อนการผ่าตัดหน้าอกออก ต้องได้รับใบรับรองจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

ผู้ที่จะทำการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกจะต้องขอใบรับรองแพทย์จากนักจิตวิทยา (Psychologist) หรือนักจิตเวช (Psychiatry) มาก่อน อย่างน้อย 1 ท่าน เพื่อยืนยันว่าผู้รับบริการพร้อมทั้งทางจิตใจและเข้าใจผลลัพธ์ของการผ่าตัดอย่างถ่องแท้

  1. ตรวจความเข้มข้นของเลือด (Hemoconcentration) สำหรับผู้ที่เทคฮอร์โมน

ในกลุ่มผู้รับบริการที่เทคฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน จะพบว่ามีความเข้มข้นของเลือดสูง หากจะทำการผ่าตัดลดขนาดเต้านม จะต้องทำการเจาะเพื่อดูค่าความเข้มข้นของเลือดก่อน ซึ่ง ฮีมาโทคริต (Hematocrit หรือ HCT) หรือเซลล์เม็ดเลือดแดง จะต้องมีค่าไม่เกิน 40 (ปกติผู้ชายอยู่ที่ 45% ผู้หญิงอยู่ที่ 40%)

หากมีค่าเกิน แพทย์จะแนะนำให้หยุดทานยาฮอร์โมนก่อน ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนก่อนผ่าตัด เนื่องจากความปลอดภัยขณะการผ่าตัดและการดมยาในผู้รับบริการ

อัปเดต! คำแนะนำก่อนผ่าตัดหน้าอก ปี 2025 ด้วยวิธีการระงับความรู้สึก (ดมยา)

ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์:

  • งดการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเนื้อตาย (Gangrene) เนื่องจากสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี หรือติดเชื้อได้ง่ายจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อร่างกาย และทำให้แผลหายช้า
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่ โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Warfarin
  • งดการทานวิตามิน หรืออาหารเสริมทุกชนิด หยุดยาสมุนไพรหรือวิตามินที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา
  • ตรวจสุขภาพร่างกายและเจาะเลือดตามที่แพทย์แนะนำ

ก่อนผ่าตัด 1 วัน:

  • งดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด โดยระหว่างนี้สามารถดื่มของเหลวใสได้ ได้แก่ น้ำเปล่า น้ำหวานเฮลบลูบอย น้ำผลไม้ที่ไม่มีเนื้อหรือกากใย เช่น น้ำแอปเปิล น้ำองุ่น ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโซดา น้ำอัดลม ชาหรือกาแฟดำ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • งดน้ำทุกชนิด 3 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนตลอดทั้งวัน เช่น ชา กาแฟ
  • ต้องทำการงดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของการสูดสำลักอาหารเข้าปอดในระหว่างการได้รับการระงับความรู้สึก
  • อาบน้ำสะอาด ล้างร่างกายด้วยสบู่ฆ่าเชื้อหากแพทย์แนะนำ
  • เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สะดวก เช่น เสื้อกระดุมหน้า หรือเสื้อหลวม ๆ

วันผ่าตัด:

  • งดอาหารและน้ำตามที่แพทย์แนะนำ
  • ไม่ทาเครื่องสำอาง ครีม หรือน้ำหอม
  • ถอดเครื่องประดับ คอนแทคเลนส์ และฟันปลอมออก
  • ควรมีญาติหรือเพื่อนมารับหลังผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

ศัลยกรรมทอม ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
ศัลยกรรมทอม ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์

การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันและการวางแผนอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ปลอดภัย และสอดคล้องกับความต้องการของผู้รับบริการ ได้แก่

Step 1: การปรึกษาและวางแผนก่อนผ่าตัด

แพทย์จะพูดคุยกับผู้รับบริการเพื่อทำความเข้าใจความต้องการ ประเมินสภาพร่างกาย ขนาดและรูปร่างหน้าอก ความยืดหยุ่นของผิวหนัง และประวัติสุขภาพ จากนั้นแพทย์จะแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมและอธิบายขั้นตอน ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวัง

Step 2: เตรียมตัวผู้รับบริการ

ในวันผ่าตัด ผู้รับบริการจะเข้าสู่ห้องเตรียมตัว แพทย์วิสัญญีจะประเมินสุขภาพและอธิบายวิธีการระงับความรู้สึก ทีมพยาบาลจะติดเครื่องวัดสัญญาณชีพ เช่น ความดันโลหิต ชีพจร และออกซิเจนในเลือด

Step 3: ระงับความรู้สึก (General Anesthesia)

แพทย์วิสัญญีจะให้ยาระงับความรู้สึกแบบดมยา (General Anesthesia) เพื่อให้ผู้รับบริการหลับสนิทและไม่รู้สึกเจ็บปวดตลอดการผ่าตัด แพทย์วิสัญญีคอยดูแลควบคุม ดูค่าการหายใจต่าง ๆ ของผู้รับบริการให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

Step 4: ทำเครื่องหมายและเปิดแผล

แพทย์ศัลยกรรมจะทำเครื่องหมายบนหน้าอกเพื่อเป็นแนวทางในการผ่าตัด จากนั้นจะเปิดแผลตามเทคนิคที่เลือก (เช่น ผ่านแผลปานนม ใต้รักแร้ หรือใต้ฐานหน้าอก)

Step 5: เอาเนื้อเยื่อเต้านมออก

แพทย์จะเอาเนื้อเยื่อต่อมเต้านม ไขมัน และผิวหนังส่วนเกินออกตามแผนที่วางไว้ ในบางกรณีอาจเอาเนื้อเยื่อออกทั้งหมดเพื่อให้หน้าอกแบนราบ ในบางผู้รับบริการที่มีขนาดหน้าอกใหญ่จากไขมัน แพทย์จะใช้ Liposuction การดูดไขมันร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าพอใจที่สุด

Step 6: ปรับสัดส่วนและทำ Chest Wall Contouring

แพทย์จะปรับสัดส่วนหน้าอกให้สมดุล และทำ Chest Wall Contouring เพื่อสร้างรูปร่างหน้าอกที่คล้ายผู้ชาย โดยออกแบบแผลบริเวณขอบหน้าอกให้เป็นลักษณะคล้ายแนวกล้ามเนื้อหน้าอก ปรับตำแหน่งและขนาดปานนมให้เหมาะสมกับรูปร่างหน้าอกใหม่ เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

Step 7: เย็บแผลและปิดแผล

หลังจากปรับสัดส่วนเสร็จสิ้น แพทย์จะเย็บแผลอย่างพิถีพิถันด้วยเส้นไหมละเอียด ใช้เทคนิคการเย็บที่ช่วยลดแผลเป็น จากนั้นจะปิดแผลด้วยผ้าพันแผลปลอดเชื้อ

Step 8: ติดตั้งท่อระบายของเหลว (หากจำเป็น)

ในบางกรณี แพทย์อาจติดตั้งท่อระบายของเหลว (Drain) เพื่อป้องกันการสะสมของเลือดและน้ำเหลืองใต้แผลผ่าตัด ท่อนี้จะถูกถอดออกภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือเมื่อแพทย์พิจารณาว่าเหมาะสม

Step 9: สวมเสื้อกระชับหน้าอก

หลังผ่าตัด ผู้รับบริการจะต้องสวมเสื้อกระชับหน้าอก (Compression Garment) หรือผ้ารัดเต้านมแบบพิเศษ เพื่อช่วยประคับหน้าอก ลดบวม และช่วยให้รูปร่างหน้าอกสวยงาม

Step 10: พักฟื้นและสังเกตอาการ

หลังผ่าตัด ผู้รับบริการจะถูกนำไปยังห้องพักฟื้น ทีมพยาบาลจะสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ตรวจสัญญาณชีพ และดูแลความสบาย โดยต้องนอนพักฟื้น และดูอาการก่อนอย่างน้อย 3 ถึง 5 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ โดยมีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้ทันที เมื่อสภาพร่างกายคงที่และพร้อมแล้ว

Step 11: นัดติดตามผลและเปลี่ยนผ้าพันแผล

แพทย์จะนัดติดตามผลเพื่อตรวจแผล เปลี่ยนผ้าพันแผล ถอดไหม (หากจำเป็น) และประเมินการฟื้นตัว แพทย์นัดตรวจ ทำแผล ตัดไหม ประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ ผู้รับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดระยะเวลาในการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด ขนาดหน้าอก ของผู้รับบริการด้วย) โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง

ศัลยกรรมทอม ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก
ศัลยกรรมทอม ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก เทคนิคใหม่

การดูแลหลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

การดูแลหลังผ่าตัดมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่สวยงาม ผู้รับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สัปดาห์ที่ 1 ถึง 2 หลังผ่าตัด:

  • ห้ามโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหม
  • สวมเสื้อกระชับหน้าอก หรือผ้ารัดเต้านมแบบพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง ตามที่แพทย์แนะนำ
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนัก งอตัว หรือออกแรงมาก
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
  • งดการใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการผ่าตัด การยกแขนที่มากกว่าปกติ หรือระมัดระวังการกระแทก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเลือดออก เลือดคลั่ง แผลปริ ฯลฯ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหงายหรือยกหัวเตียงสูงเล็กน้อยเพื่อลดบวม
  • ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด รับประทานยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำแช่ตัว ควรเช็ดตัวหรืออาบน้ำฝักบัวอย่างระมัดระวัง

สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป:

  • สามารถทานวิตามินได้ช่วงหลัง 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน หลังผ่าตัดลดขนาดเต้านม ไปแล้ว
  • หลัง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัดขึ้นไป สามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้

สัปดาห์ที่ 3 ถึง 4:

  • เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้น แต่ยังหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
  • สวมเสื้อกระชับหน้าอกตามเวลาที่แพทย์แนะนำ (อาจลดลงเหลือเฉพาะกลางวัน)
  • นัดติดตามผลกับแพทย์เพื่อตรวจแผลและประเมินการฟื้นตัว

สัปดาห์ที่ 4 ถึง 6:

  • สามารถเข้าฟิตเนสได้ตามลำดับ

เดือนที่ 2 เป็นต้นไป:

  • สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ควรระวังการกระทบกระแทกบริเวณหน้าอก
  • ออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ควรเริ่มจากเบา ๆ ก่อน
  • ทาครีมบำรุงแผลเป็น (Scar Cream) หากแพทย์แนะนำ เพื่อช่วยลดรอยแผลเป็น
  • ป้องกันแผลจากแสงแดดด้วยครีมกันแดดหรือเสื้อผ้า

3 ถึง 6 เดือนหลังผ่าตัด:

  • ใส่ผ้ารัดเต้านมแบบพิเศษ อย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือนขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
  • หากผ่าตัดหัวนม ปานนม เส้นประสาทจะค่อย ๆ กลับมาดีขึ้น หลังการผ่าตัดไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน

การกลับไปเทคฮอร์โมน (สำหรับผู้ที่หยุดก่อนผ่าตัด):

  • หลังผ่าตัดเต้านม กลับไปเทคฮอร์โมนได้เมื่อไหร่? แพทย์จะแนะนำให้ทานได้หลังตัดไหมไปแล้ว หรือถ้าจะให้ชัวร์ควรให้แผลหายดีก่อน แล้วค่อยกลับไปทานยาฮอร์โมน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 ถึง 6 สัปดาห์แรก
  • การนอนคว่ำหรือกดทับหน้าอก
  • การตากแดดโดยตรงบริเวณแผลผ่าตัด
  • การใช้ซาวน่าหรืออบไอน้ำในช่วง 6 สัปดาห์แรก

ข้อดีของการผ่าตัดเต้านม ที่รัตตินันท์ คลินิก

  1. แพทย์มีความเข้าใจสรีระผู้รับบริการ
  2. มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่พร้อมและทันสมัย รวมถึงเทคโนโลยีดูดไขมันพร้อมหัวดูดไขมัน หรือ Canulas ที่หลากหลายให้เลือกใช้กับแต่ละส่วนอย่างเหมาะสม
  3. สามารถผ่าตัดได้ทุกวิธี รวมถึงเทคนิคใหม่ส่องกล้องผ่านแผลใต้รักแร้
  4. มีการทำ Chest Wall Contouring Surgery คือการทำให้หน้าอกเหมือนผู้ชาย และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยออกแบบแผลบริเวณขอบหน้าอกให้เป็นลักษณะคล้ายแนวกล้ามเนื้อหน้าอก
  5. ในบางผู้รับบริการที่มีขนาดหน้าอกใหญ่จากไขมัน แพทย์จะใช้ Liposuction การดูดไขมันร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและน่าพอใจที่สุด
  6. พร้อมด้วยทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ ตามมาตรฐานความปลอดภัย
  7. มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข ตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข
  8. ปลอดเชื้อ COVID-19 ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย จากกรมอนามัย และ THAISTOPCOVID+ จึงมั่นใจได้ว่า สะอาด ปลอดภัย
  9. ได้รับคุณภาพบริการมาตรฐานระดับ AACI ด้าน “Ambulatory Plastic Surgical Center” ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอกในเอเชียแปซิฟิก
ตัดส่วนเกิน แบบไม่เหลือคัพ
ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก
ศัลยกรรมทอม ผ่าตัด ลดขนาดหน้าอก

รีวิวผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

รีวิว ผ่าตัดหน้าอกหญิงเป็นชาย ตัดนมทอม ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก 1
ผ่าตัดหน้าอกหญิงเป็นชาย ตัดนมทอม ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก 2

ทีมแพทย์ศัลยกรรมหน้าอก
ที่ รัตตินันท์ คลินิก

น.ต.นพ. จตุพร ซื่อสัตย์
ศัลยแพทย์ตกแต่ง

ศัลยศาสตร์ตกแต่ง
และเสริมสร้าง

FAQs : คำถามที่พบบ่อย ศัลยกกรมตัดหน้าอก

ราคาศัลยกรรมตัดหน้าอก ของแต่ละสถานที่ให้บริการจะมีราคาที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ ความชำนาญและประสบการณ์ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานที่สะอาด ได้มาตรฐาน เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจลดขนาดเต้านม ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจและละเอียด พร้อมทั้งเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ

ศัลยกรรมทอม ลดขนาดหน้าอก ที่รัตตินันท์ คลินิก หลังผ่าตัดต้องนอนพักฟื้น และดูอาการก่อนอย่างน้อย 3 ถึง 5 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ โดยมีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยทั่วไปควรพักงาน 1 ถึง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด หากงานไม่หนักหรือไม่ต้องใช้แรงมาก อาจสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์

ลองพิจารณาและหาข้อมูลก่อนว่า สถานบริการไหนรักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง หรืออยากรักษาด้วยวิธีไหน จากนั้นก็เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน มีทีมแพทย์ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด มีห้องผ่าตัดที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีการรับรองมาตรฐานสากล เช่น AACI

หลังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก จะต้องใส่สายเดรน เพื่อทำการระบายเลือดและน้ำเหลือง บริเวณหน้าอกออก และป้องกันเลือดคั่งบริเวณหน้าอกที่ทำการผ่าตัดไป

ใส่สายเดรนนานเท่าไหร่? จะต้องให้แพทย์พิจารณา บางรายอาจถอดสายได้หลังผ่าตัดไม่กี่ชั่วโมง บางรายหากเลือดยังไหลอยู่อาจต้องติดสายเดรนกลับบ้านด้วย แล้วนัดมาถอดออกภายหลัง (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

ผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ที่รัตตินันท์ คลินิก จะใช้วิธีดมยาโดยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง แน่นอนว่าก็จะมีอาการหรือความเจ็บเป็นธรรมดา แต่ด้วยเทคนิคใหม่ “ผ่าตัดผ่านกล้อง แผลใต้รักแร้” ที่ได้นำมาใช้นั้น มีข้อดีคือ ไม่มีแผลเป็นที่หน้าอก หรือมีเพียงเล็กน้อย และจะมีแผลเล็ก ๆ ตรงใต้รักแร้เท่านั้น รวมถึงเจ็บน้อยกว่าวิธีก่อน ๆ พักฟื้นไม่นาน และฟื้นตัวได้เร็ว มีอาการเจ็บและไม่สบายในช่วง 3 ถึง 5 วันแรก แต่แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดเพื่อช่วยลดอาการ หลังจากนั้นอาการเจ็บจะค่อยลดลงและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

แพทย์จะแนะนำให้ทานได้หลังตัดไหมไปแล้ว หรือถ้าจะให้ชัวร์ควรให้แผลหายดีก่อน แล้วค่อยกลับไปทานยาฮอร์โมน โดยทั่วไปควรรออย่างน้อย 2 ถึง 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา

ไม่ได้แล้ว เนื่องจากเนื้อเต้านมและต่อมต่าง ๆ ถูกตัดออกไปหมดแล้ว การผ่าตัดนี้มีผลถาวร และหน้าอกจะไม่สามารถกลับมามีลักษณะเดิมได้อีก

การศัลยกรรมผ่าตัดลดขนาดหน้าอก นั้นไม่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้ทั้งหมด เนื่องจากการผ่าตัดแบบ Top Surgery เป็นการลดต่อมเต้านม ทำให้ขนาดเต้านมเล็กลง แต่ในส่วนที่ยังมีเต้านมเหลืออยู่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เป็นเพียงแค่ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้เท่านั้น

สามารถแก้ไขได้โดยการเติมไขมัน แต่ก็ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพของหน้าอกที่บุ๋มหรือแหว่งว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและเลือกวิธีแก้ไขต่อไป และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ให้บริการและแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนเลือกรับบริการทุกครั้ง

ยังไม่มีงานวิจัยออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การใช้สเตย์รัดหน้าอกเป็นเวลานาน มีผลเสียที่ชัดเจนคือทำให้หน้าอกห้อย หย่อนยาน หรือหน้าอกผิดรูป ซึ่งทำการแก้ไขได้ยาก นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง หายใจลำบาก หรือผิวหนังระคายเคือง

ทำได้แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากการใส่ซิลิโคนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหน้าอกอาจไม่ดูเป็นธรรมชาติเท่ากับการทำ Chest Wall Contouring และการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อจริง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ในบางกรณี ผู้รับบริการที่มีหน้าอกปานกลางขึ้นไป (B/C) อาจไม่สามารถผ่าตัดแผลเล็ก ผ่านปานนม หรือผ่านกล้องใต้รักแร้ได้ เนื่องจากอาจมีเนื้อเยื่อเต้านมบางส่วน เช่น ด้านข้างลำตัว ที่ผ่าตัดแผลเล็กเข้าไม่ถึง หรือไม่สามารถเอาออกได้หมด สุดท้ายแพทย์อาจจะต้องเลือกทำการกรีดแผลบริเวณปานนมให้ใหญ่ขึ้น หรือยาวออกไปด้านข้าง เพื่อเอาไขมันและเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านข้างเต้านมออก ทำให้มีแผลเป็นยาวเพิ่มขึ้นอีก

แต่กรณีนี้สามารถแก้ได้โดยใช้ เทคนิคส่องกล้องใต้รักแร้ ร่วมกับการผ่าตัดบริเวณปานนม จะทำให้แผลเป็นบริเวณปานนมจะมีขนาดเล็กมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องกรีดขยายแผลยาวจากปานนมออกไปด้านข้าง (Extended) พร้อมทำการ Contouring หน้าอกให้เรียบเนียน เหมาะสม และเป็นธรรมชาติคล้ายหน้าอกผู้ชายมากที่สุด

บทสรุป

การผ่าตัดหน้าอกเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริง ลดความรู้สึกไม่สบายใจ และเพิ่มคุณภาพชีวิต รัตตินันท์ คลินิก เข้าใจว่าการตัดสินใจนี้ต้องอาศัยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จึงมอบการดูแลแบบเฉพาะรายด้วยทีมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เทคนิคการผ่าตัดที่หลากหลาย และมาตรฐานความปลอดภัยระดับ AACI

ผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจไม่ได้เกิดขึ้นจากการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการเข้าใจความต้องการของแต่ละบุคคล การวางแผนอย่างพิถีพิถัน และการดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน รัตตินันท์ คลินิก พร้อมเดินไปกับคุณในเส้นทางสู่ตัวตนที่แท้จริง ด้วยความเคารพ ความเข้าใจ และการดูแลที่ออกแบบเพื่อคุณโดยเฉพาะ

หากคุณกำลังพิจารณาการผ่าตัดหน้าอก เราขอเชิญคุณมาพูดคุยกับทีมแพทย์ของเรา เพื่อรับการปรึกษาและประเมินอย่างละเอียด ในพื้นที่ความงามส่วนตัวที่ให้เกียรติและเคารพในทุกขั้นตอน เพราะคุณคู่ควรกับการดูแลที่ใส่ใจ และผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง

พร้อมเริ่มต้นเส้นทางของคุณหรือยัง? นัดหมายพูดคุยกับแพทย์คุณภาพที่ รัตตินันท์ คลินิก วันนี้ เพื่อค้นพบความงามที่แท้จริงในแบบที่เป็นคุณ

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดหน้าอก ไม่ใช่การรับประกันผลลัพธ์ ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของคุณ