ผ่าตัดกระเพาะ ที่ไหนดี? เจาะลึกทุกปัจจัยที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนด้วยการผ่าตัดกระเพาะ

การผ่าตัดกระเพาะ คือ การช่วยลดขนาดกระเพาะอาหาร ซึ่งผู้เข้ารับบริการจะสามารถรับประทานอาหารได้น้อยลงและรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การผ่าตัดกระเพาะ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูงในระยะยาว ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรักษาน้ำหนักที่ลดลงได้โดยปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดกระเพาะมีความยั่งยืนและช่วยให้สุขภาพดีขึ้นในระยะยาว

ทำไมสถานที่ถึงสำคัญในการผ่าตัดกระเพาะ?

การตัดสินใจเลือก ผ่าตัดกระเพาะ ที่ไหนดี? เพื่อนำไปสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสำหรับคุณ นั้นไม่ใช่แค่การเลือกในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะ การผ่าตัดกระเพาะ ไม่ใช่แค่หัตถการเพื่อความสวยงาม แต่คือ การผ่าตัดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจึงมีบทบาทสำคัญมากในทุกขั้นตอนของการรักษา โดยมีเหตุผลหลักดังนี้

1. ความปลอดภัยต้องมาก่อน

การผ่าตัดกระเพาะ เป็น การผ่าตัดใหญ่ซึ่งต้องใช้ทีมแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูง ผู้ป่วยอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เลือดออก ติดเชื้อ หรือภาวะลิ่มเลือด

สถานพยาบาลจึงต้องมี มาตรฐานความปลอดภัยระดับโรงพยาบาล เช่น

  • ระบบห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ (Sterile Operation Room)
  • ระบบสำรองไฟ ระบบช่วยชีวิต และการเข้าถึง ICU
  • อุปกรณ์ช่วยหายใจ เครื่องติดตามชีพจร เครื่องกระตุ้นหัวใจ

2. ต้องมี วิสัญญีแพทย์ และห้องผ่าตัดมาตรฐาน

การดมยาสลบในการผ่าตัดกระเพาะจำเป็นต้องใช้ วิสัญญีแพทย์ (Anesthesiologist) ดูแลตลอดการผ่าตัด ไม่ควรทำกับสถานที่ที่ไม่มีวิสัญญีแพทย์ประจำ เพราะความเสี่ยงจากยาสลบ เช่น หยุดหายใจ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด

และต้องทำในห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรองจาก สบส. หรือมาตรฐานสากล ไม่ใช่ห้องหัตถการทั่วไป

3. ต้องมีระบบดูแลหลังผ่าตัด (Aftercare) และทีมโภชนาการ

การผ่าตัดกระเพาะไม่ใช่จบที่ห้องผ่าตัด แต่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องอีกหลายเดือน เช่น

  • การติดตามผลน้ำหนัก สุขภาพ และผลเลือด
  • การประเมินพฤติกรรมการกิน และปรับพฤติกรรมแบบรายบุคคล
  • การให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ
  • การเสริมวิตามิน/แร่ธาตุ และดูแลอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

สถานที่ที่ไม่มีระบบ Aftercare หรือทีมดูแลแบบ Multidisciplinary อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ยั่งยืน หรือเกิดภาวะขาดสารอาหารในระยะยาวได้

4. ประสบการณ์ของทีมแพทย์เป็นเรื่องสำคัญ

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่ “ประสบการณ์” ของศัลยแพทย์ก็ยังคงเป็นปัจจัยชี้ขาด ทีมแพทย์ควร:

  • มีเคสผ่าตัดกระเพาะต่อเนื่องจำนวนมาก
  • มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Bariatric Surgery
  • มีทักษะในการรับมือภาวะแทรกซ้อน
  • ทำงานร่วมกับทีมโภชนาการ วิสัญญี และ Aftercare ได้อย่างราบรื่น

ผู้ป่วยควรศึกษาจากรีวิว เคสก่อน–หลัง และคำแนะนำจากคนไข้จริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ประเภทของ ผ่าตัดกระเพาะ แบบไหนดี?

1. Gastric Bypass การผ่าตัดนี้จะตัดกระเพาะอาหารส่วนบนให้มีขนาดเล็กลงและเชื่อมต่อกับลำไส้เล็กโดยตรง ทำให้อาหารผ่านกระเพาะและลำไส้สั้นลง ลดการดูดซึมแคลอรีและสารอาหาร ข้อดีคือช่วยลดน้ำหนักได้รวดเร็วและลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวาน ข้อเสียคือมีความซับซ้อนและเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส bypass bariatric surgery

2. Sleeve Gastrectomy วิธีนี้จะตัดกระเพาะอาหารออกบางส่วน ทำให้กระเพาะเหลือเพียงขนาดเล็กคล้ายท่อหรือกล้วยหอม ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ข้อดีคือเป็นการผ่าตัดที่ง่ายกว่า Gastric Bypass และไม่เปลี่ยนแปลงระบบการย่อยอาหาร ข้อเสียคือไม่สามารถนำส่วนที่ตัดไปกลับมาได้ และอาจมีโอกาสเกิดกรดไหลย้อน

ผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ sleeve bariatric surgery

3. Gastric Balloon การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด บอลลูนจะขยายตัวเมื่อใส่เข้าไปในกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ข้อดีคือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและสามารถถอดออกได้ง่าย ข้อเสียคือผลลัพธ์อาจไม่ยั่งยืนเมื่อเทียบกับการผ่าตัด และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการคลื่นไส้

การใส่บอลลูนในกระเพาะลดน้ำหนัก

4. OverStitch เป็นการเย็บกระเพาะอาหารผ่านกล้องโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้จะลดขนาดกระเพาะและทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ ข้อเสียคือมีความซับซ้อนและต้องทำโดยแพทย์ที่ผ่านการรักษามายาวนาน

เย็บกระเพาะ overstitch ไม่ต้องผ่าตัด รักษาโรคอ้วน

การเลือกวิธีการผ่าตัดหรือการลดน้ำหนักที่เหมาะสมควรพิจารณาจากสุขภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปอย่างยั่งยืน

หลัง ผ่าตัดกระเพาะ ควรทำอย่างไร?

หลังการผ่าตัดกระเพาะ การฟื้นตัวและการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สุขภาพดีและน้ำหนักที่ลดลงสามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน การดูแลสุขภาพหลังการผ่าตัด เริ่มต้นด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง เน้นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การดื่มน้ำมากพอเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรเว้นช่วงเวลาในการดื่มน้ำหลังอาหารประมาณ 30 นาทีเพื่อให้กระเพาะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มการเผาผลาญ เริ่มจากการเดินหรือออกกำลังกายเบา ๆ และค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นเมื่อร่างกายฟื้นตัว การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถรักษาน้ำหนักที่ลดลงได้

การติดตามผลกับแพทย์ เป็นสิ่งจำเป็น ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นระยะ ๆ เพื่อประเมินการฟื้นตัวและรับคำแนะนำในการปรับตัวต่อวิถีชีวิตใหม่ การติดตามผลช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลา

ด้วยการดูแลตนเองอย่างดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การผ่าตัดกระเพาะสามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนในระยะยาว

ความสำคัญของการดูแลตัวเอง หลังผ่าตัดกระเพาะ

การรักษาวินัยหลังการผ่าตัดกระเพาะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืน การปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นกุญแจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย หรือการติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

เคล็ดลับในการรักษาน้ำหนักที่ลดลง รวมถึงการสร้างนิสัยการรับประทานอาหารที่ดี เช่น เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูง การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเพิ่มอัตราการเผาผลาญ การดูแลสุขภาพจิตก็มีความสำคัญไม่น้อย การสนับสนุนจากครอบครัวและการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนจะช่วยให้คุณสามารถรักษาวินัยและแรงจูงใจได้เสมอต้นเสมอปลาย

สุดท้ายนี้ การติดตามผลกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและปรับปรุงวิธีการดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น การรักษาวินัยในการใช้ชีวิตหลังผ่าตัดจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถรักษาน้ำหนักที่ลดลงและมีสุขภาพที่ดีได้นาน

ความปลอดภัยของการ ผ่าตัดกระเพาะ

รัตตินันท์ คลินิก ได้พัฒนา เทคนิคการผ่าตัดลดน้ำหนักแบบ Triple Lock ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มความดูแลให้ปลอดภัยในการผ่าตัด เทคนิคนี้ประกอบด้วยสามขั้นตอนหลัก คือ การใช้ Stapler ในการตัดและเย็บกระเพาะ จากนั้นเสริมความแน่นหนาด้วยการเย็บด้วยไหมละลายที่มีความแข็งแรง และปิดท้ายด้วยการใช้กาวชีวภาพเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแนวผ่าตัด เทคนิคนี้ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะรั่วและเพิ่มความมั่นคงในการใช้งานกระเพาะอาหาร

ทีมแพทย์ลดขนาดกระเพาะ

ที่ รัตตินันท์ คลินิก

นพ. ปณต ยิ้มเจริญ

นพ. ปณต ยิ้มเจริญ

ศัลยแพทย์

น.ท.นพ. เสรษฐสิริ พันธุ์ธนากุล

น.ท.นพ. เสรษฐสิริ

พันธุ์ธนากุล

ศัลยแพทย์

ร.อ.นพ. ดุษฎี สุรกิจบวร

ร.อ.นพ. ดุษฎี สุรกิจบวร

ศัลยแพทย์

นพ. กฤติน อู่สิริมณีชัย

นพ. กฤติน อู่สิริมณีชัย

อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม

พญ. ณัฐกานต์ หุ่นธานี

พญ. ณัฐกานต์ หุ่นธานี

วิสัญญีแพทย์

พญ. สุชาดา ประพฤติธรรม

พญ. สุชาดา

ประพฤติธรรม

วิสัญญีแพทย์

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 2
CTA Lipo 1
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

สรุป ผ่าตัดกระเพาะ ที่ไหนดี?

ก่อนตัดสินใจ ผ่าตัดกระเพาะ การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ข้อควรระวัง เช่น ผู้ป่วยต้องมีภาวะสุขภาพที่มั่นคง ไม่มีโรคหัวใจหรือปัญหาปอดรุนแรง และต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตหลังผ่าตัด นอกจากนี้ แพทย์จะตรวจสอบว่า ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำด้านโภชนาการและการออกกำลังกายได้หรือไม่

การประเมินความพร้อมยังรวมถึงการตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น ตรวจเลือด ตรวจหัวใจ และตรวจความพร้อมของระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยควรทราบถึงผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งเข้าใจว่า การผ่าตัดกระเพาะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การสนับสนุนจากครอบครัวและการติดตามผลกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอหลังผ่าตัดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน