สาเหตุ หัวนมบอด มีผลกระทบต่อสุขภาพไหม? พร้อมวิธีการแก้ไข

หัวนมบอด

หัวนมบอด เป็นภาวะที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยสังเกตกันมาก่อน แม้จะไม่ใช่ปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ร้ายแรงในทันที แต่ก็อาจส่งผลต่อความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง โดยเฉพาะในบางสถานการณ์ เช่น การให้นมบุตร การว่ายน้ำ หรือเมื่อเกิดร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ ที่ซับซ้อน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับภาวะหัวนมบอดมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของลักษณะ สาเหตุ ความเสี่ยงต่อสุขภาพ และที่สำคัญ คือวิธีการรักษาหัวนมบอดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนและตัดสินใจเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเอง

หัวนมบอด คืออะไร?

หัวนมบอด (Inverted Nipple) คือ ภาวะที่หัวนมหดตัวหรือบุ๋มเข้าไปในลานหัวนม แทนที่จะยื่นออกมาภายนอกตามปกติ ภาวะนี้อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ โครงสร้างท่อน้ำนมที่ผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือพังผืดที่รั้งหัวนมให้จมลง ซึ่งอาจเกิดจากการอักเสบ การผ่าตัด หรือการให้นมผิดวิธี

สามารถพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่บอดเล็กน้อย (ดึงออกได้) ไปจนถึงบอดรุนแรง (ดึงไม่ออกเลย)

หัวนมบอดเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?

หัวนมบอดสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
  • เกิดจากโครงสร้างท่อน้ำนมหรือเนื้อเยื่อรั้งหัวนมที่ผิดปกติ
  • มักไม่มีอันตรายทางสุขภาพ เว้นแต่ต้องการแก้ไขเพื่อความมั่นใจ
  1. พังผืดในเนื้อเยื่อเต้านม
  • เกิดเมื่อมีการอักเสบ บาดเจ็บ หรือผ่าตัดเต้านม
  • พังผืดรั้งหัวนมให้จมลง ทำให้ไม่สามารถยื่นออกได้
  1. สาเหตุทางการให้นม
  • การให้นมผิดท่า ทำให้เกิดแรงดึงซ้ำ ๆ
  • การอักเสบในช่วงให้นม (Mastitis)
  1. การผ่าตัดและทรีตเมนต์
  • การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
  • การผ่าตัดเนื้องอก
  • การเสริมหน้าอก (พังผืดรัดซิลิโคนแน่นผิดปกติ)
  1. การติดเชื้อเรื้อรัง
  • การติดเชื้อที่ท่อน้ำนมที่ปล่อยให้เรื้อรัง อาจเกิดพังผืดได้
  1. เนื้องอกหรือมะเร็งเต้านม
  • หากหัวนมเคยปกติ แล้วจู่ ๆ เกิดยุบลงข้างเดียว อาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง

หัวนมบอดในผู้ชาย เกิดจากอะไร

หัวนมบอดในผู้ชายสามารถเกิดได้เช่นเดียวกับผู้หญิง โดยมีสาเหตุหลักหลายประการ ได้แก่ กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเกิดจากโครงสร้างท่อน้ำนมที่สั้นหรือยึดรั้งหัวนมไว้ มักไม่เป็นอันตรายและไม่มีผลต่อสุขภาพทั่วไป พังผืดหรือเนื้อเยื่อรั้งภายในที่อาจดึงหัวนมให้ยุบลง ซึ่งเกิดขึ้นเองหรือจากการอักเสบเล็กน้อยในอดีต และการอักเสบติดเชื้อหรือการบาดเจ็บ เช่น การอักเสบของต่อมใต้หัวนม การติดเชื้อเฉียบพลัน หรือแรงกระแทกบริเวณทรวงอก

สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือ หากหัวนมยุบเข้าไปเฉียบพลัน ข้างเดียว โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจเป็นสัญญาณของก้อนเนื้อหรือมะเร็งเต้านมในผู้ชาย แม้ว่าพบได้น้อย แต่ไม่ควรมองข้าม ควรพบแพทย์ทันที โดยทั่วไป หากหัวนมบอดในผู้ชายเป็นตั้งแต่เด็ก และไม่มีอาการอื่นร่วม ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากเกิดภายหลังหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม

หัวนมบอด อันตรายไหม?

หัวนมบอดไม่ถือว่าอันตรายโดยตรง โดยเฉพาะถ้าเป็นตั้งแต่กำเนิดและไม่มีอาการผิดปกติอื่นร่วม ภาวะนี้เป็นเพียงลักษณะทางกายภาพที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพในระดับที่อันตรายต่อชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี หัวนมบอดอาจนำมาซึ่งความไม่สะดวกและปัญหาต่าง ๆ เช่น ความยากลำบากในการให้นมลูก หรือการรู้สึกไม่มั่นใจด้านจิตใจ สิ่งที่ต้องระวังคือ หากหัวนมบอดเกิดขึ้นใหม่แบบเฉียบพลัน ข้างเดียว มีการไหลออกผิดปกติ บวมแดง หรือคลำได้ก้อนแข็ง นี่คืออาการเตือนที่บ่งชี้ถึงปัญหาสำคัญอื่น เช่น มะเร็งเต้านม ซีสต์ หรือการติดเชื้อ ในกรณีเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยและรักษา

ลักษณะของหัวนมบอด มีกี่แบบ

ลักษณะของหัวนมบอด มี 3 แบบ โดยจำแนกตามความลึกและความสามารถในการดึงหัวนม ดังนี้

1. หัวนมบอดเล็กน้อย

  • หัวนมหดเข้าไปเพียงเล็กน้อย
  • สามารถดึงออกมาได้ง่ายเมื่อถูกกระตุ้น (อากาศเย็น สัมผัส หรือดึงด้วยมือ)
  • หัวนมจะค้างอยู่ชั่วคราว

2. หัวนมบอดปานกลาง

  • หัวนมบุ๋มลึกขึ้นและยากต่อการดึง
  • แม้ดึงออกมาได้แต่จะหดกลับทันที
  • บางครั้งต้องใช้แรงดึงมากหรือใช้เครื่องดูดหัวนม

3. หัวนมบอดรุนแรง

  • หัวนมหดลึกและไม่สามารถดึงออกได้เลย
  • เกิดจากพังผืดรั้งท่อน้ำนมอย่างรุนแรง
  • มักต้องใช้การรักษาหรือผ่าตัดแก้ไข

หัวนมบอด สามารถรักษาด้วยวิธีการใดบ้าง?

หัวนมบอดสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง ดังนี้

  1. วิธีธรรมชาติและการดูแลด้วยมือ

  • การใช้นิ้วกดแยก : วางนิ้วชี้ทั้งสองข้างบนลานนม กดเบา ๆ แล้วดึงออกจากกัน ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อวัน
  • การบีบดึงขณะอาบน้ำ : คีบหัวนมเบา ๆ แล้วดึงขึ้น ทำ 2-3 ครั้งทุกครั้งอาบน้ำ
  • การบีบเต้านม : กดเต้านมเข้าหากัน แล้วคีบหัวนมขึ้น ทำซ้ำ 20 ครั้งต่อวัน
  • การกระตุ้นหัวนม : คลึงหรือหมุนหัวนมเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที
  1. อุปกรณ์ช่วย

  • ที่ปั๊มหัวนม : บีบลูกยางให้เกิดแรงดูด ช่วยให้หัวนมนูนออกมา
  • ปทุมแก้ว : อุปกรณ์พลาสติกใสที่ครอบหัวนม ใส่ได้วันละ 8 ชั่วโมง ผลเห็นชัดในเวลา 1-2 สัปดาห์ถึงหลายเดือน
  • ลูกยางดูดหัวนม : ช่วยให้ดึงหัวนมให้นูนขึ้นก่อนให้นมลูก

วิธีรักษาหัวนมบอดด้วยอุปกรณ์ช่วย

วิธีรักษาหัวนมบอด ด้วยอุปกรณ์ช่วยเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับกรณีที่หัวนมบอดอยู่ในระดับปานกลาง หรือไม่ตอบสนองต่อการใช้มือกระตุ้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ปั๊มหัวนมเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นสองส่วน ด้านหนึ่งเป็นลูกยาง อีกด้านเป็นถ้วยพลาสติกใส ใช้งานโดยนำถ้วยครอบลงบนหัวนม แล้วบีบลูกยางให้เกิดแรงดูด ปล่อยมือให้เกิดแรงสุญญากาศช่วยดึงหัวนมให้นูนออกมา การใช้เป็นประจำจะช่วยให้หัวนมค่อย ๆ คืนรูปใกล้เคียงปกติ

ปทุมแก้วเป็นอุปกรณ์พลาสติกแข็งใส 2 ชั้น ลักษณะโดมครอบลานนม มีรูระบายอากาศด้านบน และรูวงกลมตรงกลางเพื่อให้หัวนมโผล่ออก สามารถใส่ได้ภายใต้ชุดชั้นในตลอดวัน ด้านฐานมีทั้งแบบนิ่ม (สวมใส่สบาย) และแบบแข็ง (แรงกดมาก เหมาะกับหัวนมบอดลึก) โดยควรใส่ทุกวัน วันละประมาณ 8 ชั่วโมง และถอดออกในช่วงเวลานอน ระยะเวลาที่เห็นผลแตกต่างกันในแต่ละบุคคล อาจใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ หรือหลายเดือน ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงความปลอดภัย คุณภาพของวัสดุ และความสะอาดในการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้

 3. การผ่าตัด (สำหรับระดับรุนแรง)

  • เหมาะสำหรับหัวนมบอดระดับ 3 ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น

  • ตัดหรือยืดเนื้อเยื่อเชื่อมต่อที่สั้นและแข็ง

  • ให้ผลลัพธ์ถาวร ฟื้นตัวไว

วิธีธรรมชาติเหมาะสำหรับระดับ 1-2 และต้องใช้เวลาหลายเดือน ส่วนหัวนมบอดระดับ 3 มักต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหรือการผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม

การรักษาหัวนมบอดด้วยการผ่าตัด

การผ่าตัดแก้หัวนมบอดเป็นวิธีรักษาที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวนมบอดระดับ 3 ที่รุนแรง หรือเมื่อวิธีการอื่นไม่ได้ผล

หลักการและขั้นตอนการผ่าตัด ศัลยกรรมแก้หัวนมบอดมีเป้าหมายการทำให้หัวนมยื่นออกมาและการคงไว้ในตำแหน่งนั้นอย่างถาวร โดยแพทย์ทำการผ่าตัดเล็ก ๆ รอบหัวนม โดยปกติจะอยู่ที่ขอบของวงแหวนสีชมพู เพื่อซ่อนรอยแผล จากนั้นตัดหรือยืดเนื้อเยื่อเชื่อมต่อที่สั้นและแข็ง ซึ่งดึงหัวนมให้จมลง ท่อนำนมจะถูกพิจารณาอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถให้นมได้ (หากต้องการ) หัวนมจะถูกปล่อยให้ยื่นออกมาในตำแหน่งใหม่ และบ้านแผลจะถูกทำให้ติดด้วยเย็บหรือกาวทางการแพทย์ เวลาของการผ่าตัดประมาณ 30-60 นาทีต่อหัวนมเดียว

ความปลอดภัยและยาสลบ การผ่าตัดอาจทำภายใต้ระงาน (General Anesthesia) หรือยาชาเฉพาะที่ (Local Anesthesia) ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ เอกสารที่ Rattinan Clinic เรามีทีมอ้นุศาสตร์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยสูงสุด

ประโยชน์ของการผ่าตัด ผลลัพธ์เป็นแบบถาวร ในส่วนใหญ่ของกรณี (ร้อยละ 85-95) หัวนมจะคงอยู่ในสภาวะยื่นออกมาอย่างถาวร นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงด้านจิตใจและความมั่นใจ ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอีกต่อไป และความสามารถในการให้นมยังคงเก็บไว้ในส่วนใหญ่ของกรณี ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากการสะอาดและการระบายอากาศที่ดีขึ้น

ข้อดีของการผ่าตัดแก้หัวนมบอด

  1. ผลลัพธ์ถาวร ในส่วนใหญ่ของกรณี (ร้อยละ 85-95) หัวนมจะคงอยู่ในสภาวะยื่นออกมาอย่างถาวร ไม่ต้องกังวลว่าหัวนมจะกลับเข้าไปอีก
  2. ปรับปรุงด้านจิตใจและความมั่นใจ ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการแต่งตัว การว่ายน้ำ หรือในความสัมพันธ์ส่วนตัว ลดความรู้สึกอึดอัดใจและไม่พอใจในรูปร่าง
  3. ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยต่อไป การกำจัดปัญหาอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องพึ่งพา Nipple Puller หรือปทุมแก้วอีกต่อไป
  4. ความสามารถในการให้นมยังคงอยู่ ในส่วนใหญ่ของกรณี ท่อน้ำนมจะถูกคงไว้ ดังนั้นผู้หญิงสามารถให้นมบุตรได้อย่างปกติหลังการผ่าตัด
  5. ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หลังการผ่าตัด พื้นที่สะอาดและระบายอากาศได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบ
  6. ฟื้นตัวไว และเจ็บน้อย ระยะเวลาฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดน้อยและสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวด

ผ่าตัดหัวนมบอด เหมาะกับใคร

  1. ผู้มีหัวนมบอดระดับ 3 (รุนแรง) หัวนมหดลึกและไม่สามารถดึงออกได้เลย ซึ่งวิธีการอื่นไม่สามารถช่วยได้
  2. ผู้ที่อุปกรณ์ช่วยไม่ได้ผล ลองใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ปทุมแก้ว Nipple Puller หรือวิธีการกระตุ้นด้วยมือแล้ว แต่ไม่เห็นผลประสิทธิภาพ
  3. ผู้วางแผนให้นม ต้องการแก้ไขปัญหาก่อนตั้งครรภ์ หรือวางแผนให้นมลูกในอนาคต
  4. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ประสบการติดเชื้อบ่อย ๆ หรือปัญหาความสะอาดที่ส่งผลต่อสุขภาพ
  5. ผู้ที่รู้สึกไม่สะดวกใจอย่างรุนแรง รู้สึกอึดอัดใจ ไม่มั่นใจ หรือกังวลเกี่ยวกับลักษณะร่างกายอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและจิตใจ

ผ่าตัดหัวนมบอด ไม่เหมาะกับใคร

  1. ผู้มีหัวนมบอดระดับ 1 หรือ 2 ที่ไม่ก่อปัญหา ไม่มีอาการไม่สะดวกสบาย และไม่ส่งผลต่อการให้นม
  2. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรรอให้คลอดและเลิกให้นมเสียก่อน เพื่อให้หัวนมกลับสู่สภาวะปกติ

จำเป็นต้องรักษา หัวนมบอด ทุกคนไหม?

ไม่จำเป็นต้องรักษาหัวนมบอดทุกคน โดยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

  1. หัวนมบอดระดับ 1 ที่ไม่ก่อปัญหา
  • หัวนมสามารถดึงออกได้เมื่อถูกกระตุ้น
  • ไม่ส่งผลต่อการให้นม หรือสุขภาพในด้านอื่น
  • ผู้ป่วยไม่มีความเป็นห่วงด้านจิตใจ
  1. หัวนมบอดระดับ 2 ที่ไม่ส่งผลต่อการให้นม
  • ไม่มีปัญหาเฉพาะเจาะจง
  • ไม่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน
  1. หัวนมบอดระดับ 3 ที่รุนแรง
  2. มีปัญหาการให้นม
  3. มีอาการอักเสบหรือการติดเชื้อพังผืด

การตัดสินใจ รักษาหัวนมบอด นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ควรพิจารณาจากระดับความรุนแรง ผลกระทบต่อสุขภาพ และความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ควรรีบผ่าตัดหากไม่มีปัญหาจริง แต่หากส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

สรุป หัวนมบอด คืออะไร จำเป็นต้องรักษาทุกคนไหม?

หัวนมบอด (Inverted Nipple) คือ ภาวะที่หัวนมหดตัวหรือบุ๋มเข้าไปในลานหัวนม แทนที่จะยื่นออกมาภายนอกตามปกติ ภาวะนี้สามารถเกิดจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ โครงสร้างท่อน้ำนมที่ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด พังผืดที่รั้งหัวนม การอักเสบ การผ่าตัด หรือในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งเต้านม หัวนมบอดแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่บอดเล็กน้อยที่สามารถดึงออกได้ ไปจนถึงบอดรุนแรงที่ไม่สามารถดึงออกเลย

เกี่ยวกับการรักษา ไม่จำเป็นต้องรักษาหัวนมบอดทุกคน โดยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต หากหัวนมบอดระดับ 1 หรือ 2 ที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาการให้นม ไม่มีการติดเชื้อบ่อย และผู้ป่วยไม่มีความเป็นห่วง ไม่จำเป็นต้องรักษา 

อย่างไรก็ตาม หากหัวนมบอดระดับ 3 ที่รุนแรง ส่งผลต่อการให้นมอย่างมีนัยสำคัญ มีการติดเชื้อบ่อย ๆ หรือส่งผลต่อความมั่นใจและจิตใจ ควรพิจารณารักษา มีวิธีการรักษาหลากหลาย ตั้งแต่วิธีธรรมชาติด้วยการกระตุ้นด้วยมือ ใช้อุปกรณ์ช่วย ไปจนถึงการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์ถาวร ดังนั้น การตัดสินใจรักษาควรขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ส่วนบุคคล และควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด