เมื่อเวลาผ่านไป ใบหน้าของเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ แก้มที่เคยอิ่มเอิบค่อย ๆ ตก ขอบหน้าที่เคยคมชัดเริ่มเลือนราง และริ้วรอยที่ไม่เคยมีก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากผิวชั้นนอกเท่านั้น แต่มาจากชั้นลึกภายใน ที่เรียกว่าชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ค้ำจุนใบหน้าของเรา
หลายคนมองหาวิธีที่จะช่วยยกกระชับใบหน้าให้กลับมาตึงกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และกลับไปใช้ชีวิตได้ทันที โปรแกรม Ulthera จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะสามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยตรง ให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและยาวนาน โดยไม่ต้องผ่าตัด
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Ulthera อย่างครบถ้วน ตั้งแต่หลักการทำงาน จุดเด่น ข้อจำกัด ไปจนถึงวิธีเลือกคลินิกที่เหมาะสม พร้อมตอบทุกคำถามที่คุณอาจมีก่อนตัดสินใจ
คุณหมอสรุปให้ โปรแกรม Ulthera คืออะไร ทำไมต้อง รัตตินันท์ คลินิก
Ulthera คือเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูง (High-Intensity Focused Ultrasound: HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวชั้นลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์จะดึงยกเมื่อทำการผ่าตัดยกหน้า
จุดเด่นที่สำคัญของ Ulthera คือ เทคโนโลยี SPT (See-Plan-Treat) ที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวหนังในระดับลึกผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์ วางแผนการยิงอย่างแม่นยำ และส่งพลังงานไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย ทำให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุลและเป็นธรรมชาติ
ทำไมต้องเลือกรัตตินันท์ คลินิก?
ที่รัตตินันท์ คลินิก เรามุ่งเน้นการใช้เครื่อง Ulthera ของแท้จากบริษัท MERZ เยอรมนี เท่านั้น พร้อมทีมแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้อง และมีประสบการณ์ในการวางแผนพลังงานเฉพาะบุคคล เราไม่ได้แค่ยิงตามจำนวนไลน์ แต่เราวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าของคุณอย่างละเอียด เพื่อออกแบบแผนการยิงที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสำหรับคุณ
นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย การดูแลก่อน ระหว่าง และหลังการทำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจ
Ulthera คืออะไร?
Ulthera เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA (Food and Drug Administration) ของสหรัฐอเมริกา สำหรับการยกกระชับผิวหน้าและคอโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยไม่ต้องใช้มีดหรือเข็ม
ต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ ที่อาจทำงานเพียงชั้นผิวชั้นนอกหรือชั้นกลาง Ulthera สามารถส่งพลังงานเข้าถึงความลึกถึง 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้น SMAS ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของใบหน้า การกระตุ้นชั้นนี้จะช่วยให้เกิดการยกตัวจากรากฐาน ทำให้ผลลัพธ์ยาวนานและชัดเจนกว่าการทำเพียงผิวชั้นนอก
ประวัติและความน่าเชื่อถือ
Ulthera ได้รับการพัฒนาและทดสอบทางคลินิกมานานกว่า 15 ปี มีการศึกษาวิจัยและการใช้งานจริงในหลายประเทศทั่วโลก โดยได้รับการรับรองว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ปัจจุบัน Ulthera ถูกผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท MERZ จากเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และความงาม
ทำไม 'ความหย่อนคล้อย' ถึงลดความมั่นใจในทุกวัย?
ความหย่อนคล้อยของใบหน้าไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเท่านั้น แต่มันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความมั่นใจของเราในหลาย ๆ ด้าน
ผลกระทบต่อความมั่นใจ
- การรับรู้ของตัวเอง เมื่อมองกระจก และเห็นใบหน้าที่ไม่ตึงกระชับเหมือนเดิม หลายคนรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของตัวเองเปลี่ยนไป ไม่ใช่ “ตัวเอง” ที่คุ้นเคย สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอผู้คนหรือถ่ายรูป
- ความรู้สึกว่าแก่กว่าวัยจริง ผิวที่หย่อนคล้อยมักทำให้ดูแก่กว่าอายุจริง แม้ว่าจะยังรู้สึกอ่อนเยาว์และมีพลังภายใน แต่ภาพลักษณ์ภายนอกกลับไม่สะท้อนความรู้สึกนั้น สิ่งนี้อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการทำงาน การสังสรรค์ และการใช้ชีวิตประจำวัน
- การเปรียบเทียบกับรูปภาพในอดีต เมื่อเปิดดูรูปเก่า ๆ และเห็นใบหน้าที่เคยตึงกระชับ ขอบหน้าที่เคยคมชัด หลายคนรู้สึกอยากได้ความมั่นใจนั้นกลับคืนมา โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แค่อยากให้ใบหน้ากลับมาดูสดใสและมีชีวิตชีวาเหมือนเดิม
- ผลกระทบต่อการถ่ายรูปและโซเชียลมีเดีย ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญ การมีใบหน้าที่หย่อนคล้อยอาจทำให้หลายคนไม่อยากถ่ายรูป หรือต้องใช้ฟิลเตอร์และแอปแต่งรูปอยู่เสมอ ซึ่งอาจลดความมั่นใจในการแสดงตัวตนที่แท้จริง
สาเหตุของความหย่อนคล้อย
- อายุที่เพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลงตามธรรมชาติ
- แรงโน้มถ่วง ดึงผิวและเนื้อเยื่อให้หย่อนลงเรื่อย ๆ
- แสงแดด แสง UV ทำลายคอลลาเจนและเร่งการชรา
- การสูญเสียน้ำหนัก อาจทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
- พันธุกรรม บางคนมีแนวโน้มที่จะมีผิวหย่อนคล้อยเร็วกว่าคนอื่น
การเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของความหย่อนคล้อยจะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสม และ Ulthera เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของโปรแกรม Ulthera
เทคโนโลยี Ulthera ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูง (HIFU) ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อส่งความร้อนเข้าสู่จุดเป้าหมายในชั้นผิวชั้นลึก โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
กระบวนการทำงาน
- การส่งคลื่นอัลตราซาวนด์ เครื่อง Ulthera จะส่งคลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูงเข้าสู่ผิวในความลึกที่ต้องการ (1.5 มม., 3.0 มม., และ 4.5 มม.) โดยผิวชั้นนอกจะไม่ได้รับความเสียหาย
- การสร้างจุดความร้อนเฉพาะจุด (Thermal Coagulation Points) พลังงานที่ส่งเข้าไปจะสร้างความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ในจุดเล็ก ๆ ที่เฉพาะเจาะจง ความร้อนนี้จะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัวทันที (Immediate Contraction) และกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่
- การสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) หลังจากได้รับความร้อน ร่างกายจะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ คอลลาเจนใหม่นี้จะช่วยยกและกระชับผิวจากภายใน ทำให้ผลลัพธ์ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
การทำงานใน 3 ชั้นผิวหนังคลิก
Ulthera มีหัวยิง (Transducer) ที่แตกต่างกัน 3 แบบ เพื่อทำงานในชั้นผิวที่แตกต่างกัน
- หัวยิงความลึก 1.5 มม. (Superficial Dermis)
- ทำงานในชั้นผิวชั้นนอก (Epidermis และ Superficial Dermis)
- เหมาะสำหรับการปรับผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยตื้น ๆ
- ใช้กับบริเวณที่ผิวบาง เช่น รอบดวงตา หน้าผาก
- หัวยิงความลึก 3.0 มม. (Deep Dermis)
- ทำงานในชั้นผิวชั้นกลาง (Deep Dermis)
- ช่วยกระชับผิว ลดริ้วรอยปานกลาง
- เหมาะสำหรับการทำทั่วใบหน้า เพื่อเพิ่มความกระชับโดยรวม
- หัวยิงความลึก 4.5 มม. (SMAS Layer)
- ทำงานในชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ลึกที่สุด
- ให้ผลการยกกระชับที่ชัดเจนและยาวนานที่สุด
- เหมาะสำหรับการยกแก้มที่ตก ยกขอบหน้า และกระชับคอ
การใช้หัวยิงหลายความลึกร่วมกันจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยแพทย์จะเลือกใช้หัวยิงและจำนวนไลน์ที่เหมาะสมกับปัญหาและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน
โปรแกรม Ulthera ช่วยเรื่องอะไร
Ulthera สามารถช่วยแก้ปัญหาหลาย ๆ ด้านของใบหน้าและคอที่เกี่ยวข้องกับความหย่อนคล้อยและการสูญเสียคอลลาเจน
ปัญหาที่ Ulthera ช่วยได้
- แก้มตก (Sagging Cheeks) ช่วยยกแก้มที่เริ่มหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้ากลับมาอิ่มเอิบมากขึ้น
- ขอบหน้าไม่ชัด (Loss of Jawline Definition) ช่วยให้ขอบหน้าคมชัดขึ้น ลดปัญหา Jowl (แก้มตกมารวมตัวที่บริเวณขากรรไกร)
- คางซ้อน (Double Chin) ช่วยกระชับบริเวณใต้คาง ลดความหย่อนคล้อยที่ทำให้เกิดคางซ้อน
- คอหย่อนคล้อย (Neck Laxity) ช่วยกระชับผิวคอที่หย่อนคล้อย ลดริ้วรอยบนคอ ทำให้คอดูเรียวและเรียบเนียนขึ้น
- คิ้วตก (Brow Ptosis) ช่วยยกคิ้วที่เริ่มตก ทำให้ดวงตาดูกระจ่างใสและเปิดกว้างขึ้น
- ริ้วรอยรอบปาก (Perioral Lines) ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก เช่น ริ้วรอยยิ้ม (Nasolabial Folds) และริ้วรอยจากมุมปากลงคาง (Marionette Lines)
- ผิวขาดความยืดหยุ่น (Loss of Skin Elasticity) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่นและความกระชับ
- รูปหน้าที่เปลี่ยนไป (Facial Contour Changes) ช่วยปรับโครงหน้าให้กลับมาชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูเรียวและมีสัดส่วนที่ดีขึ้น
โปรแกรม Ulthera เหมาะกับใคร
Ulthera เหมาะกับผู้รับบริการที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
- อายุ 30-65 ปี ที่เริ่มเห็นสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย แต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด
- ผิวหย่อนคล้อยระดับเบาถึงปานกลาง หากผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดยกหน้าแทน
- ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
- มีผิวที่มีความยืดหยุ่นอยู่พอสมควร เพราะผลลัพธ์จะชัดเจนกว่าในผู้ที่ผิวยังไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป
- ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใด
- ต้องการการดูแลในระยะยาว เพื่อชะลอการชราและรักษาความอ่อนเยาว์
- มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการทำ
โปรแกรม Ulthera คืออะไร? แค่ชื่อก็เปลี่ยนความคิดเรื่อง 'ยกหน้า'
ชื่อ “Ulthera” มาจากคำว่า “Ultrasound Therapy” ซึ่งสะท้อนถึงเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการรักษา คือคลื่นอัลตราซาวนด์ แต่สิ่งที่ทำให้ Ulthera โดดเด่นกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ คือความสามารถในการ “มองเห็น” ชั้นผิวภายใน และ “วางแผน” การส่งพลังงานอย่างแม่นยำ ก่อนที่จะ “ยกกระชับ” จริง
ก่อนหน้านี้ การยกหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดมักถูกมองว่าให้ผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ยาวนาน แต่ Ulthera ได้เปลี่ยนแปลงความคิดนั้น ด้วยความสามารถในการเข้าถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์จะดึงยกเมื่อทำการผ่าตัด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนและยาวนานกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ทำงานเพียงชั้นผิวชั้นนอก
จากการเจ็บตัว มาเป็นการลงทุนเพื่อผิวสวยแบบชาญฉลาด
เทคโนโลยี Ulthera SPT มองเห็น–วางแผน–ยกกระชับ อย่างแม่นยำ
SPT (See-Plan-Treat) คือหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี Ulthera ที่ทำให้แตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ
S – See (มองเห็น) ด้วยเทคโนโลยี Ultrasound Imaging แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวหนังในระดับลึกผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์ เหมือนการทำอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ทั่วไป สามารถเห็นโครงสร้างของผิว ชั้นไขมัน และชั้น SMAS ได้อย่างชัดเจน
P – Plan (วางแผน) จากภาพที่เห็น แพทย์สามารถวิเคราะห์และวางแผนว่าจะส่งพลังงานไปยังความลึกเท่าไหร่ บริเวณไหน และใช้พลังงานระดับใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
T – Treat (ยกกระชับ) หลังจากวางแผนแล้ว แพทย์จะส่งพลังงานอัลตราซาวนด์เข้าสู่จุดเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว
เทคโนโลยี SPT ทำให้การทำ Ulthera ไม่ใช่แค่การยิงพลังงานเข้าไปตามจำนวน แต่เป็นการปรับแต่งเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง โดยอิงจากโครงสร้างใบหน้าที่ไม่เหมือนกันของแต่ละคน
ยกกระชับที่ 'ใช่' ต้องเจาะจงถึงชั้น SMAS
ชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) คือชั้นเยื่อพังผืดที่อยู่ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อใบหน้า มีความลึกประมาณ 4.5 มิลลิเมตรจากผิวชั้นนอก ชั้นนี้เปรียบเสมือน “โครงสร้างค้ำจุน” ของใบหน้า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ชั้น SMAS จะค่อย ๆ หย่อนคล้อยลง ทำให้ผิวหน้าที่อยู่เหนือชั้นนี้ตามหย่อนคล้อยลงมาด้วย
เมื่อทำการผ่าตัดยกหน้า ศัลยแพทย์จะดึงยกและตรึงชั้น SMAS นี้โดยตรง เพื่อให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ Ulthera เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการส่งพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นนี้
นี่คือเหตุผลว่าทำไม Ulthera จึงให้ผลการยกกระชับที่ชัดเจนและยาวนานกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ทำงานเพียงชั้นผิวชั้นนอก (Epidermis) หรือชั้นกลาง (Dermis) เท่านั้น การกระตุ้นชั้น SMAS จะให้ผลลัพธ์ที่ยกตัวจากรากฐาน ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมชาติและมีโครงสร้างที่ชัดเจน
เปรียบเทียบความลึกของเทคโนโลยีต่าง ๆ
- ครีมบำรุง: ทำงานที่ผิวชั้นนอก (0.1-0.5 มม.)
- เลเซอร์ทั่วไป: ทำงานที่ชั้นผิว (0.5-1.5 มม.)
- RF (Radiofrequency) เช่น Thermage: ทำงานที่ชั้นผิวชั้นกลาง (1.5-3.0 มม.)
- Ulthera: ทำงานได้ถึงชั้น SMAS (4.5 มม.)
ใครบ้างควรทำ โปรแกรม Ulthera? แล้วคุณอยู่ในกลุ่มนั้นไหม?
การตัดสินใจว่า Ulthera เหมาะกับคุณหรือไม่ ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิว อายุ ความต้องการ และความคาดหวัง
คุณเหมาะกับ Ulthera หาก
- มีผิวหย่อนคล้อยระดับเบาถึงปานกลาง หากผิวเพิ่งเริ่มหย่อนคล้อย หรือหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง Ulthera จะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่หากผิวหย่อนคล้อยมากหรือมีผิวส่วนเกิน อาจต้องพิจารณาวิธีอื่น
- อายุระหว่าง 30-65 ปี ช่วงอายุนี้ผิวยังมีความยืดหยุ่นพอสมควร และสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ชัดเจน
- ผิวมีความยืดหยุ่นอยู่บ้าง (Good Skin Elasticity) หากผิวยังมีความยืดหยุ่น ผลลัพธ์จะดีกว่าผิวที่เสื่อมสภาพมากหรือแห้งกร้านเกินไป
- ไม่ต้องการผ่าตัดหรือพักฟื้น หากคุณต้องการวิธีที่สะดวก ไม่มีแผล และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ทันที Ulthera เป็นตัวเลือกที่ดี
- ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จาก Ulthera จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันที ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ต้องการดูแลระยะยาว Ulthera เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวในระยะยาว ป้องกันการหย่อนคล้อยเพิ่มเติม และชะลอการชรา
- มีสุขภาพโดยรวมดี ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้าม เช่น โรคผิวหนังอักเสบรุนแรง หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
สัญญาณที่บอกว่าคุณอาจต้องการ Ulthera
- เมื่อมองกระจก สังเกตว่าแก้มเริ่มตกหรือไม่อิ่มเอิบเหมือนเดิม
- ขอบหน้าไม่ชัดเจน หรือเริ่มมี Jowl (แก้มตกมารวมตัวที่ขากรรไกร)
- คางเริ่มซ้อน หรือบริเวณใต้คางเริ่มหย่อนคล้อย
- คอเริ่มมีริ้วรอยหรือหย่อนคล้อย
- คิ้วเริ่มตก ทำให้ดวงตาดูหนักหรือเศร้า
- เมื่อถ่ายรูป ใบหน้าดูไม่คมชัดหรือมีเงาบริเวณที่ผิวหย่อนคล้อย
- รู้สึกว่าดูแก่กว่าอายุจริง แต่ยังไม่ต้องการผ่าตัด
ใครที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำโปรแกรม Ulthera
แม้ว่า Ulthera จะเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัย แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ หรืออาจไม่เหมาะสมกับการทำ Ulthera
กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์
- ผู้ที่มีโลหะหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในบริเวณใบหน้าหรือคอ เช่น แผ่นโลหะจากการผ่าตัด เกลียวยึดกระดูก หรือ Pacemaker
- ผู้ที่มีฟิลเลอร์แบบถาวรหรือกึ่งถาวร หากมีฟิลเลอร์ในบริเวณที่จะทำ ควรแจ้งแพทย์ เพราะความร้อนจาก Ulthera อาจส่งผลต่อฟิลเลอร์
- ผู้ที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ ควรรอ 2-4 สัปดาห์หลังฉีดก่อนทำ Ulthera เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนผลลัพธ์
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณที่จะทำ เช่น สิวอักเสบรุนแรง ผื่นแพ้ หรือแผลเปิด
- ผู้ที่มีประวัติแผลเป็นผิดปกติ (Keloid) อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นผิดปกติหลังทำ
- หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ทำ Ulthera ในช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัย
- ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น Lupus, Scleroderma ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรระวัง หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสภาพสุขภาพของตัวเอง หรือไม่แน่ใจว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรนัดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ แพทย์จะประเมินสภาพผิว ประวัติสุขภาพ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ข้อดี ข้อเสียของโปรแกรม Ulthera มีอะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจทำ Ulthera สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัด เพื่อให้คุณมีความคาดหวังที่สมจริงและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
ข้อดีของโปรแกรม Ulthera
- เข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์จะดึงยกเมื่อทำการผ่าตัดยกหน้า
- เทคโนโลยี SPT มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างผิวและวางแผนการยิงได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีการใช้มีดหรือเข็ม จึงไม่มีแผล ไม่มีรอยแทง และไม่มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
- ไม่ต้องพักฟื้น (Minimal Downtime) สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ทันทีหลังทำ อาจมีอาการแดงและบวมเล็กน้อย แต่จะหายในไม่กี่ชั่วโมง
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นค่อย ๆ ในช่วง 2-3 เดือน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและไม่เหมือนทำอะไรมา
- ผลลัพธ์ยาวนาน ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ 1-2 ปี เพราะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
- ได้รับการรับรองจาก FDA ผ่านการทดสอบทางคลินิกและได้รับการรับรองว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- เหมาะกับทุกสีผิว สามารถทำได้กับผู้รับบริการทุกสีผิว ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าหรือดำคล้ำหลังทำ
- ทำได้หลายบริเวณ ทั้งใบหน้า คอ และบริเวณ Décolletage (หน้าอกส่วนบน)
ข้อเสียของโปรแกรม Ulthera
- ผลลัพธ์ไม่ทันที ต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์เพื่อเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และต้องรอ 2-3 เดือนเพื่อเห็นผลลัพธ์เต็มที่ หากต้องการผลลัพธ์ทันที Ulthera อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม
- อาจรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ แม้จะไม่เจ็บมาก แต่อาจรู้สึกแสบร้อนหรือปวดเล็กน้อยในบางบริเวณ โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางหรือใกล้กระดูก เช่น ขากรรไกร หรือหน้าผาก
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ แต่เมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ยาวนานและเข้าถึงชั้น SMAS ได้ ก็ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก หากผิวหย่อนคล้อยมากหรือมีผิวส่วนเกินจำนวนมาก Ulthera อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเพียงพอ ในกรณีนี้ การผ่าตัดยกหน้าอาจเหมาะสมกว่า
- ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว และการดูแลหลังทำ บางคนอาจเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมาก ในขณะที่บางคนอาจเห็นผลน้อยกว่า
- อาจต้องทำซ้ำ หากต้องการรักษาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง อาจต้องทำซ้ำทุก 1-2 ปี ซึ่งเป็นต้นทุนระยะยาว
- ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ การวางแผนพลังงานและการยิงที่ถูกต้องต้องอาศัยความชำนาญ หากทำโดยผู้ที่ขาดประสบการณ์ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี หรืออาจเกิดผลข้างเคียง
ทำ Ulthera บริเวณไหนได้บ้าง ใช้กี่ไลน์
Ulthera มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ยกกระชับได้หลายบริเวณของใบหน้าและคอ ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละคน
บริเวณที่นิยมทำ Ulthera
- ใบหน้าทั้งหมด (Full Face)
- ครอบคลุมแก้ม ขอบหน้า ขมับ และหน้าผาก
- จำนวนไลน์: ประมาณ 300-600 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยรวม
- แก้มล่างและขอบหน้า (Lower Face & Jawline)
- เน้นบริเวณแก้มตก Jowl และขอบหน้า
- จำนวนไลน์: ประมาณ 200-400 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีปัญหาแก้มตก ขอบหน้าไม่ชัด
- คอ (Neck)
- ยกกระชับผิวคอที่หย่อนคล้อย
- จำนวนไลน์: ประมาณ 200-300 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีคอหย่อนคล้อย มีริ้วรอยบนคอ
- คิ้ว (Brow Lift)
- ยกคิ้วที่ตก ทำให้ดวงตาดูกระจ่างใส
- จำนวนไลน์: ประมาณ 100-200 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีคิ้วตก หนังตาตก
- ใต้คาง (Submental Area)
- กระชับบริเวณใต้คางที่หย่อนคล้อย ลดคางซ้อน
- จำนวนไลน์: ประมาณ 100-200 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีคางซ้อนจากผิวหย่อนคล้อย
- Décolletage (หน้าอกส่วนบน)
- กระชับผิวบริเวณหน้าอกส่วนบน ลดริ้วรอย
- จำนวนไลน์: ประมาณ 200-300 ไลน์
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยในบริเวณนี้
จำนวนไลน์ที่ใช้
จำนวนไลน์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
- ขนาดและโครงสร้างใบหน้า ใบหน้าที่ใหญ่กว่าอาจต้องใช้ไลน์มากกว่า
- ระดับความหย่อนคล้อย ผิวที่หย่อนคล้อยมากกว่าอาจต้องใช้ไลน์มากกว่า
- บริเวณที่ทำ การทำหลายบริเวณจะใช้ไลน์มากกว่าการทำแค่บริเวณเดียว
- เป้าหมายของการรักษา หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาก อาจต้องใช้ไลน์มากกว่า
คำแนะนำ แพทย์จะประเมินและแนะนำจำนวนไลน์ที่เหมาะสมหลังจากตรวจสอบสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าของคุณ อย่าเลือกคลินิกที่ให้ไลน์น้อยเกินไปเพียงเพราะราคาถูก เพราะอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และก็ไม่ควรใช้ไลน์มากเกินความจำเป็น เพราะอาจเพิ่มความเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น
เช็กลิสต์ 5 เรื่องที่หลายคนสงสัยก่อนตัดสินใจทำโปรแกรม Ulthera
ก่อนตัดสินใจทำ Ulthera มีคำถามบางอย่างที่ผู้รับบริการมักถามเสมอ มาดูคำตอบกันเลย
โปรแกรม Ulthera เจ็บไหม?คลิก
นี่คือคำถามที่ผู้รับบริการถามบ่อยที่สุด ความจริงคือ Ulthera มีความรู้สึกไม่สบายมากกว่าเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ เช่น Thermage เนื่องจากคลื่นอัลตราซาวนด์ส่งพลังงานเข้าสู่ความลึกถึงชั้น SMAS
ความรู้สึกระหว่างทำ
- รู้สึกแสบร้อนแบบสั้น ๆ ในแต่ละช็อต
- อาจรู้สึกปวดเล็กน้อยในบริเวณที่ผิวบางหรือใกล้กระดูก เช่น ขากรรไกร หน้าผาก และขมับ
- ระดับความเจ็บอยู่ที่ประมาณ 4-6 จาก 10 ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วิธีลดความเจ็บปวด
- ทายาชาเฉพาะที่ก่อนทำ (แนะนำ)
- รับประทานยาแก้ปวดก่อนทำ (หากแพทย์แนะนำ)
- พูดคุยกับแพทย์ระหว่างทำ หากรู้สึกเจ็บมาก แพทย์สามารถปรับระดับพลังงานได้
ข่าวดี ที่รัตตินันท์ คลินิก เราใช้เทคนิคที่ช่วยลดความเจ็บปวด และแพทย์จะคอยสอบถามความรู้สึกของคุณอยู่เสมอระหว่างทำ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
โปรแกรม Ulthera ทำแล้วบวมกี่วัน?คลิก
หลังทำ Ulthera คุณอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่จะไม่รุนแรงและหายเร็ว
Timeline ของอาการบวม
วันแรก (0-24 ชั่วโมง)
- อาจมีอาการบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบาง เช่น รอบดวงตา แก้ม
- ผิวอาจแดงและรู้สึกอุ่นเล็กน้อย
- อาจรู้สึกตึงหรือชาบริเวณที่ทำ
วันที่ 2-3
- ความบวมจะลดลงอย่างมาก
- บางคนอาจยังรู้สึกตึงหรือมีความรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย
วันที่ 4-7
- อาการบวมจะหายเกือบหมด
- ผิวกลับสู่สภาพปกติ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความบวม
- ผิวบาง ๆ มักบวมง่ายกว่าผิวหนา
- การใช้พลังงานระดับสูงอาจทำให้บวมมากกว่า
- บางคนมีแนวโน้มที่จะบวมง่ายกว่าคนอื่น
วิธีลดความบวม
- ประคบเย็นในวันแรก (ไม่ควรประคบนานเกิน 15 นาทีต่อครั้ง)
- นอนหัวสูงในคืนแรก
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็มและแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 2-3 วันแรก
สิ่งสำคัญ ความบวมจาก Ulthera ไม่รุนแรงเหมือนการผ่าตัด และส่วนใหญ่แล้วคนรอบข้างจะไม่สังเกตเห็น คุณสามารถกลับไปทำงานได้ในวันถัดไป
โปรแกรม Ulthera กี่วันถึงจะเห็นผล?คลิก
การเปลี่ยนแปลงจาก Ulthera เป็นกระบวนการที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันที นี่คือสิ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
Timeline ของผลลัพธ์
ทันทีหลังทำ (วันแรก)
- อาจรู้สึกว่าผิวตึงกระชับขึ้นเล็กน้อยจากการที่คอลลาเจนเดิมหดตัว
- นี่เป็นเพียงผลเบื้องต้น ยังไม่ใช่ผลลัพธ์จริง
2-3 สัปดาห์หลังทำ
- เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รูปหน้าดูกระชับขึ้นบ้าง
- กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่เริ่มทำงาน
1-2 เดือนหลังทำ
- เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้น
- ผิวกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- แก้มที่เคยตกเริ่มยกขึ้น ขอบหน้าชัดเจนขึ้น
2-3 เดือนหลังทำ (Peak Results)
- นี่คือช่วงที่คุณจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่
- ผิวกระชับที่สุด รูปหน้าชัดเจนที่สุด
- คอลลาเจนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจะช่วยค้ำจุนผิวจากภายใน
3-6 เดือนหลังทำ
- ผลลัพธ์ยังคงดีอยู่และมีเสถียรภาพ
- บางคนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเล็กน้อย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วของผลลัพธ์
- อายุ ผู้ที่อายุน้อยกว่ามักเห็นผลเร็วกว่า เพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า
- สภาพผิว ผิวที่มีสุขภาพดีและมีความยืดหยุ่นจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
- ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเองหลังทำจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
- จำนวนไลน์ที่ใช้ การใช้ไลน์ที่เพียงพออาจให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
คำแนะนำ อดทนรอผลลัพธ์และอย่าเพิ่งตัดสินในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะยังไม่ใช่เวลาที่จะเห็นผลลัพธ์จริง หากคุณอยากเห็นผลทันที Ulthera อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม
โปรแกรม Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?คลิก
หนึ่งในข้อดีของ Ulthera คือผลลัพธ์ที่ยาวนาน เนื่องจากเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ไม่ใช่แค่การยกชั่วคราว โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์จาก Ulthera สามารถคงอยู่ได้ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- อายุ ผู้รับบริการที่อายุน้อยกว่ามักจะได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เพราะร่างกายยังสามารถรักษาระดับคอลลาเจนได้ดีกว่า
- สภาพผิวเริ่มต้น หากผิวยังไม่หย่อนคล้อยมาก ผลลัพธ์มักจะอยู่ได้นานกว่า
- การดูแลผิวหลังทำ
- การใช้ครีมกันแดดทุกวัน (SPF 30+)
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีคุณภาพ เช่น Retinol, Vitamin C, Peptides
- การทำทรีตเมนต์เสริมเป็นระยะ เช่น Laser Resurfacing
- ไลฟ์สไตล์
- การสูบบุหรี่ ทำลายคอลลาเจนและทำให้ผลลัพธ์สั้นลง
- การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวแห้งและเร่งการชรา
- การนอนหลับ การนอนพอจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดี
- ความเครียด ความเครียดสูงส่งผลต่อสุขภาพผิว
- อาหาร การกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการชรา
- การป้องกันแสงแดด แสง UV เป็นสาเหตุหลักที่ทำลายคอลลาเจน การใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นมาก
- กระบวนการชราตามธรรมชาติ แม้หลังทำ Ulthera ร่างกายก็ยังมีกระบวนการชราต่อเนื่อง แต่ Ulthera จะช่วยชะลอกระบวนการนี้ลง
การทำซ้ำ หลายคนเลือกที่จะทำ Ulthera ซ้ำอีกครั้งหลังจาก 1-2 ปี เพื่อรักษาผลลัพธ์และต่อต้านการชราอย่างต่อเนื่อง การทำซ้ำยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวยังคงตึงกระชับ
โปรแกรม Ulthera ต้องทำบ่อยไหม?คลิก
“ไม่” ไม่ต้องทำบ่อย นี่คือหนึ่งในข้อดีของ Ulthera เมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่น ๆ ที่อาจต้องทำทุก 3-6 เดือน
ความถี่ที่แนะนำ
- ครั้งแรก ทำครั้งเดียว แล้วรอดูผลลัพธ์เต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
- การทำซ้ำ ทุก 1-2 ปี หรือเมื่อเริ่มเห็นว่าผลลัพธ์เริ่มจางลง
- การดูแลรักษา (Maintenance) บางคนเลือกทำ Boost-up ด้วยไลน์น้อยกว่าครั้งแรก หลังจาก 12-18 เดือน
เปรียบเทียบความถี่กับทรีตเมนต์อื่น
- Botox/Filler ต้องทำทุก 3-6 เดือน
- Laser Resurfacing ต้องทำหลายครั้ง เว้นระยะ 4-6 สัปดาห์
- RF (Thermage) ต้องทำทุก 1-2 ปี (คล้าย Ulthera)
- Thread Lift ต้องทำทุก 1-2 ปี
ทำไมไม่ต้องทำบ่อย? เพราะ Ulthera กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง คอลลาเจนใหม่นี้จะค่อย ๆ สร้างขึ้นและคงอยู่ได้นานกว่าการทำทรีตเมนต์ที่ให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว
โปรแกรม Ulthera เหมาะกับส่วนไหนของใบหน้า?
Ulthera สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณของใบหน้าและคอ โดยแต่ละบริเวณจะมีเป้าหมายและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
บริเวณที่เหมาะสมและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- แก้มและโหนกแก้ม (Cheeks & Midface)
- ปัญหา แก้มตก แก้มไม่อิ่มเอิบเหมือนเดิม
- ผลลัพธ์ ยกแก้มให้กลับมาอิ่มเอิบ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- จำนวนไลน์ 150-250 ไลน์
- ขอบหน้า (Jawline)
- ปัญหา ขอบหน้าไม่ชัด มี Jowl (แก้มตกมารวมตัวที่ขากรรไกร)
- ผลลัพธ์ ทำให้ขอบหน้าคมชัด ลด Jowl ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- จำนวนไลน์ 150-250 ไลน์
- คอ (Neck)
- ปัญหา คอหย่อนคล้อย มีริ้วรอยบนคอ (Turkey Neck)
- ผลลัพธ์ กระชับผิวคอ ลดริ้วรอย ทำให้คอดูเรียวและเรียบเนียน
- จำนวนไลน์ 200-300 ไลน์
- ใต้คาง (Submental Area)
- ปัญหา คางซ้อน ผิวใต้คางหย่อนคล้อย
- ผลลัพธ์ กระชับบริเวณใต้คาง ลดคางซ้อน (หากเกิดจากผิวหย่อนคล้อย ไม่ใช่ไขมัน)
- จำนวนไลน์ 100-150 ไลน์
- คิ้ว (Brow)
- ปัญหา คิ้วตก ทำให้ดวงตาดูหนักหรือเศร้า
- ผลลัพธ์ ยกคิ้ว ทำให้ดวงตาดูกระจ่างใสและเปิดกว้างขึ้น
- จำนวนไลน์ 100-150 ไลน์
- หน้าผาก (Forehead)
- ปัญหา ริ้วรอยบนหน้าผาก ผิวหน้าผากหย่อนคล้อย
- ผลลัพธ์ ปรับผิวหน้าผากให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยตื้น ๆ
- จำนวนไลน์ 100-150 ไลน์
- Décolletage (หน้าอกส่วนบน)
- ปัญหา ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยบนหน้าอก
- ผลลัพธ์ กระชับผิว ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- จำนวนไลน์ 200-300 ไลน์
การเลือกบริเวณที่จะทำ
แพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาของคุณ แล้วแนะนำบริเวณที่ควรทำเป็นอันดับแรก หลายคนเลือกทำ Full Face + Neck เพื่อผลลัพธ์ที่สมดุลและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีใกล้เคียง ความต่างที่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ในตลาดมีเทคโนโลยียกกระชับผิวหลายประเภท การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
|
เทคโนโลยี |
หลักการทำงาน |
ความลึก |
ผลลัพธ์ |
ความสะดวกสบาย |
ระยะเวลาพักฟื้น |
ราคา |
|
Ulthera |
คลื่นอัลตราซาวนด์กระตุ้นชั้น SMAS |
4.5 มม. (ลึกที่สุด) |
เห็นผลใน 2-3 เดือน ยาวนาน 1-2 ปี |
อาจรู้สึกเจ็บปานกลาง |
ไม่ต้องพักฟื้น |
สูง |
|
Thermage FLX |
คลื่นความถี่วิทยุ (RF) กระตุ้นชั้นลึก |
3.0 มม. |
เห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ ยาวนาน 1-2 ปี |
สะดวกสบายกว่า Ulthera |
ไม่ต้องพักฟื้น |
สูง |
|
Thread Lift |
การร้อยไหม ยกผิวทางกายภาพ |
ชั้นใต้ผิว |
เห็นผลทันที ยาวนาน 1-2 ปี |
อาจบวมช้ำ 3-7 วัน |
พักฟื้น 3-7 วัน |
ปานกลาง-สูง |
|
HIFU ทั่วไป |
คลื่นอัลตราซาวนด์ (ไม่มี SPT) |
3.0-4.5 มม. |
ผลลัพธ์อาจไม่สม่ำเสมอ |
ขึ้นกับเครื่อง |
ไม่ต้องพักฟื้น |
ต่ำ-ปานกลาง |
|
Laser Tightening |
เลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน |
1.5-2.0 มม. |
ต้องทำหลายครั้ง ผลค่อย ๆ ดีขึ้น |
สะดวกสบาย |
ไม่ต้องพักฟื้น |
ปานกลาง |
จุดเด่นของ Ulthera เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น:
- เข้าถึงชั้น SMAS ได้ลึกที่สุด
- มีเทคโนโลยี SPT ที่มองเห็นและวางแผนได้แม่นยำ
- ได้รับการรับรองจาก FDA เฉพาะเรื่องยกหน้าและคอ
- ผลลัพธ์ยาวนานและเป็นธรรมชาติ
- มีการศึกษาวิจัยและใช้งานจริงมานานกว่า 15 ปี
ใช้กี่ไลน์ถึงจะเห็นผล? น้อยไปไม่ดี เยอะไปก็เจ็บเปล่า
การใช้จำนวนไลน์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ใช่ว่ายิ่งมากยิ่งดี แต่ต้องเหมาะสมกับปัญหาและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน
จำนวนไลน์ที่แนะนำตามบริเวณ
Full Face (ใบหน้าทั้งหมด) 300-600 ไลน์
- ครอบคลุมแก้ม ขอบหน้า หน้าผาก และขมับ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยรวม
Lower Face + Jawline 200-400 ไลน์
- เน้นบริเวณแก้มล่าง Jowl และขอบหน้า
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเฉพาะบริเวณนี้
Neck (คอ) 200-300 ไลน์
- กระชับผิวคอที่หย่อนคล้อย
- มักทำร่วมกับใบหน้าเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุล
Brow Lift (คิ้ว) 100-200 ไลน์
- ยกคิ้วและบริเวณรอบดวงตา
- อาจทำร่วมกับใบหน้าเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนไลน์
- ขนาดและโครงสร้างใบหน้า ใบหน้าที่ใหญ่กว่าหรือมีพื้นที่มากกว่าจะต้องใช้ไลน์มากกว่า
- ระดับความหย่อนคล้อย ผิวที่หย่อนคล้อยมากกว่าอาจต้องใช้ไลน์มากกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- เป้าหมายของการรักษา หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาก อาจต้องใช้ไลน์มากกว่าการรักษาแบบ Maintenance
- ประสบการณ์ของแพทย์ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวางแผนการยิงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยจำนวนไลน์ที่เหมาะสม
คำเตือน
- อย่าเลือกเพียงเพราะราคาถูก คลินิกที่เสนอไลน์น้อยมากในราคาถูก อาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่คุณคาดหวัง
- อย่าใช้มากเกินไป การใช้ไลน์มากเกินความจำเป็นอาจเพิ่มความเจ็บปวดและค่าใช้จ่าย โดยไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากนัก
ให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินและแนะนำจำนวนไลน์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ปัจจัยที่ทำให้ราคา Ulthera แตกต่างกันในแต่ละคลินิก
ราคาของ Ulthera แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละคลินิก บางแห่งอาจเสนอราคาที่ต่ำมาก ในขณะที่บางแห่งมีราคาสูง การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
เครื่องแท้จาก MERZ เยอรมนี vs เครื่องเทียบ/ปลอมคลิก
นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาแตกต่างกัน
เครื่อง Ulthera ของแท้
- ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท MERZ จากเยอรมนี
- มีการลงทะเบียนและรับรองจาก FDA
- หัวยิงทุกอันมีเลขซีเรียลที่สามารถตรวจสอบได้
- ใช้งานได้เพียงครั้งเดียวต่อหัวยิง (Single-use)
- มีระบบ SPT ที่มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์
เครื่องเทียบหรือ HIFU ทั่วไป
- ผลิตโดยบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ MERZ
- อาจไม่มี FDA approval
- ไม่มีระบบ SPT หรือมีแต่คุณภาพต่ำกว่า
- อาจใช้หัวยิงซ้ำได้ (ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย)
- ราคาถูกกว่ามาก แต่ผลลัพธ์อาจไม่เท่ากัน
วิธีตรวจสอบเครื่องแท้
- ขอดูเลขซีเรียลของหัวยิงที่จะใช้กับคุณ
- ตรวจสอบว่าหัวยิงถูกเปิดใช้ครั้งแรกต่อหน้าคุณหรือไม่
- สอบถามว่าคลินิกเป็นผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจาก MERZ หรือไม่
- ขอดูใบรับรองหรือเอกสารจากบริษัท MERZ
แพทย์ผู้ทำการรักษาคลิก
แพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำ Ulthera จะทำให้ผลลัพธ์ดีกว่าและปลอดภัยกว่า
แพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ที่ผ่านการอบรม
- มีความรู้เรื่องโครงสร้างผิวหนังและใบหน้าอย่างลึกซึ้ง
- สามารถวางแผนการยิงที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล
- สามารถจัดการกับภาวะแทรกซ้อนได้หากเกิดขึ้น
- ค่าบริการอาจสูงกว่า แต่คุ้มค่ากับความปลอดภัยและผลลัพธ์
พนักงานหรือผู้ปฏิบัติการที่ขาดประสบการณ์
- อาจขาดความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้าอย่างลึกซึ้ง
- การวางแผนการยิงอาจไม่เหมาะสม ทำให้ผลลัพธ์ไม่สมดุล
- อาจไม่สามารถจัดการกับภาวการณ์ที่ไม่คาดคิดได้
- ค่าบริการอาจถูกกว่า แต่มีความเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่ไม่ดี
คำถามที่ควรถาม
- แพทย์ผู้ทำเป็นแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ที่ผ่านการอบรมหรือไม่?
- มีประสบการณ์ในการทำ Ulthera มากี่ปี?
- มีผลงานหรือรีวิวจากผู้รับบริการหรือไม่?
เทคนิควางแผนพลังงานเฉพาะบุคคล (SPT)คลิก
การใช้เทคโนโลยี SPT อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความชำนาญและเวลา
คลินิกที่ใช้ SPT อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ใช้เวลาในการวิเคราะห์โครงสร้างผิวของแต่ละคนอย่างละเอียด
- วางแผนการยิงที่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่แค่ยิงตามจำนวนไลน์
- ปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณและแต่ละคน
- ผลลัพธ์ออกมาสมดุลและเป็นธรรมชาติ
- ค่าบริการอาจสูงกว่า แต่คุ้มค่ากับคุณภาพ
คลินิกที่ยิงแบบมาตรฐาน
- อาจยิงตามจำนวนไลน์โดยไม่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล
- ใช้พลังงานแบบเดียวกันกับทุกคน
- ประหยัดเวลา แต่ผลลัพธ์อาจไม่เหมาะสมที่สุด
- ค่าบริการอาจถูกกว่า
บริการหลังทำที่มีมาตรฐานคลิก
การดูแลหลังทำเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ดีและยาวนาน
คลินิกที่มีบริการหลังทำที่ดี
- มีการนัดติดตามผล
- ให้คำแนะนำการดูแลผิวหลังทำอย่างละเอียด
- พร้อมให้คำปรึกษาหากมีปัญหาหรือคำถาม
- มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการ
- ค่าบริการอาจรวมอยู่ในราคา
คลินิกที่ขาดการดูแลหลังทำ
- ทำเสร็จแล้วไม่มีการติดตาม
- ไม่มีคำแนะนำการดูแลที่ชัดเจน
- ยากที่จะติดต่อหากมีปัญหา
- ค่าบริการอาจถูกกว่า แต่ขาดการดูแล
ราคาโดยประมาณ
- Ulthera ของแท้ 50,000-150,000 บาท (ขึ้นอยู่กับบริเวณและจำนวนไลน์)
- HIFU ทั่วไป 15,000-40,000 บาท (ถูกกว่ามาก แต่ไม่ใช่ Ulthera แท้)
คำแนะนำ อย่าเลือกเพียงเพราะราคาถูก ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเครื่อง ความชำนาญของแพทย์ และการดูแลที่ครบวงจร เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับ
ทำไมต้อง โปรแกรม Ulthera ที่รัตตินันทน์ คลินิก?
การเลือกคลินิกสำหรับการทำ Ulthera เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะผลลัพธ์และความปลอดภัยขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์และมาตรฐานของคลินิกเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่ควรเลือกรัตตินันท์ คลินิก
- ใช้เครื่อง Ulthera ของแท้จาก MERZ เยอรมนีเท่านั้น เราให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัย ทุกหัวยิงที่ใช้เป็นของแท้ มีเลขซีเรียลที่สามารถตรวจสอบได้ และใช้เพียงครั้งเดียวต่อผู้รับบริการหนึ่งคน
- ทีมแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ แพทย์ของเรามีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างผิวหนังและใบหน้า สามารถวิเคราะห์และวางแผนการยิงที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุลและเป็นธรรมชาติที่สุด
- การใช้เทคโนโลยี SPT อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราใช้เวลาในการมองเห็นโครงสร้างผิวของคุณผ่านหน้าจอ วิเคราะห์อย่างละเอียด และวางแผนการยิงที่เจาะจงตรงปัญหา ไม่ใช่แค่ยิงตามจำนวนไลน์
- การปรับแต่งพลังงานเฉพาะบุคคล แพทย์จะปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับผิวของคุณ บริเวณที่ทำ และเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- มาตรฐานความปลอดภัยที่ผ่านการตรวจสอบ รัตตินันท์ คลินิกดำเนินงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด เรามีระบบการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- การดูแลก่อน ระหว่าง และหลังการทำอย่างใกล้ชิด
- ก่อนทำ ปรึกษาและประเมินอย่างละเอียด วางแผนที่เหมาะสม
- ระหว่างทำ แพทย์คอยดูแลและปรับแต่งตลอดกระบวนการ
- หลังทำ ติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
- ความโปร่งใสและซื่อสัตย์ เราให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวัง ข้อจำกัด และความเสี่ยง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน
- ประสบการณ์ยาวนานตั้งแต่ปี 1999 รัตตินันท์ คลินิกมีประสบการณ์ในการดูแลผิวพรรณและความงามมายาวนานกว่า 25 ปี เราได้พัฒนาความชำนาญและเทคนิคอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลที่สร้างความมั่นใจ
- ความเป็นส่วนตัวและการให้เกียรติ เราเข้าใจว่าการดูแลความงามเป็นเรื่องส่วนตัว เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการทุกท่าน ตั้งแต่ห้องปรึกษาส่วนตัว ไปจนถึงการดูแลที่เป็นความลับ
ทีมแพทย์รักษาผิวพรรณ
รัตตินันท์ คลินิก
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์
ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ
พญ. นฤมล วิเชียร
แพทย์หญิง
พญ. จุฑามาศ ตันคุณากร
แพทย์โรคผิวหนัง
นพ. ศศินทร์ ตรีรัตน์
นายแพทย์
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรม Ulthera
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การทำ Ulthera เป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือกรดแรง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองผิว
- หลีกเลี่ยงการอาบแดดหรือใช้เครื่องอบแทนนิ่ง ผิวที่โดนแดดอาจอ่อนไหวมากขึ้นและมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์อื่น ๆ บนใบหน้า เช่น การทำเลเซอร์ การฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ (หากเพิ่งฉีด ควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์)
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้ โดยเฉพาะยาต้านการอักเสบ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือวิตามินที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการช้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 2-3 วันก่อนทำ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมและช้ำ
ในวันที่ทำ
- ล้างหน้าให้สะอาด อย่าใช้ครีมหรือเครื่องสำอางใด ๆ
- รับประทานอาหารตามปกติ อย่าอดอาหาร เพราะอาจทำให้รู้สึกเวียนหัว
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สะดวกสบาย เสื้อที่เปิดกว้างหรือมีกระดุมจะสะดวกกว่าเสื้อที่ต้องสวมผ่านศีรษะ
- มาให้ตรงเวลา เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวและทายาชา
- แจ้งแพทย์หากมีความกังวลหรือคำถาม อย่าลังเลที่จะสอบถามสิ่งที่สงสัย
ขั้นตอนการทำโปรแกรม Ulthera
การทำ Ulthera มีขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดผิวหน้า (5-10 นาที)
ขั้นตอนแรกคือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อเตรียมผิวสำหรับการรักษา และเพื่อให้หัวยิงสามารถสัมผัสกับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 2: ทายาชาเฉพาะที่ (30-45 นาที)
สำหรับการลดความเจ็บปวดระหว่างทำ แพทย์จะทายาชาเฉพาะที่ (Topical Anesthetic) บนบริเวณที่จะทำ และทำการผลักยาชาด้วยเครื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์
ขั้นตอนที่ 3: ลบยาชาและวาดแนวการยิง (5-10 นาที)
หลังจากยาชาซึมเข้าผิวแล้ว แพทย์จะลบยาชาออก และใช้เจลอัลตราซาวนด์ทาบนผิวเพื่อให้หัวยิงสามารถส่งพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นแพทย์จะวาดแนวบนใบหน้าเพื่อกำหนดบริเวณและทิศทางการยิง
ขั้นตอนที่ 4: การมองเห็นและวางแผนด้วย SPT (5-10 นาที)
แพทย์จะใช้หัวยิง Ulthera มองเห็นโครงสร้างผิวของคุณผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ความลึกของชั้นผิว ตำแหน่งของชั้น SMAS และวางแผนว่าจะส่งพลังงานไปยังจุดใดบ้าง ในระดับพลังงานเท่าไหร่
ขั้นตอนที่ 5: เริ่มยิง Ulthera (30-90 นาที)
แพทย์จะเริ่มยิง Ulthera ตามแผนที่วางไว้ แต่ละช็อตจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วินาที คุณจะรู้สึกแสบร้อนแบบสั้น ๆ ในแต่ละช็อต ระยะเวลาทั้งหมดขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและจำนวนไลน์
ระหว่างทำ แพทย์จะคอยสอบถามความรู้สึกของคุณอยู่เสมอ หากรู้สึกเจ็บมาก สามารถแจ้งแพทย์ได้ เพื่อปรับระดับพลังงานให้เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 6: ลบเจลและทำความสะอาด (5 นาที)
หลังจากยิงเสร็จ แพทย์จะลบเจลอัลตราซาวนด์ออก ทำความสะอาดผิวหน้า และทาครีมบำรุงและครีมกันแดด
ขั้นตอนที่ 7: พักผ่อนและรับคำแนะนำ (5-10 นาที)
หลังทำเสร็จ คุณจะได้พักผ่อนสักครู่ และแพทย์หรือพยาบาลจะให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำ พร้อมนัดหมายติดตามผล
ระยะเวลาทั้งหมด: ประมาณ 1.5-3 ชั่วโมง (รวมเวลาทายาชา)
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Ulthera
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและยาวนานขึ้น
ภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- ผิวอาจแดงและรู้สึกอุ่น คล้ายกับผิวที่โดนแดดเบา ๆ อาการนี้จะหายภายใน 2-4 ชั่วโมง
- อาจบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบาง เช่น รอบดวงตา
- ประคบเย็น ถ้าต้องการ แต่ไม่ควรประคบนานเกิน 15 นาทีต่อครั้ง
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงน้ำร้อนมาก ไม่ควรอาบน้ำร้อนจัด อบไอน้ำ หรือซาวน่า
- นอนหัวสูง เพื่อลดความบวม
- ไม่ควรออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนมาก
ใน 1 สัปดาห์แรก
- ใช้ครีมกันแดดทุกวัน (SPF 30 ขึ้นไป) นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
- ทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid หรือ Peptides
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือกรดแรง ๆ ในช่วง 3-7 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์อื่น ๆ บนใบหน้า เช่น เลเซอร์ Chemical Peel หรือ Microneedling
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายใน
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และอาหารเค็ม เพื่อลดความบวม
ใน 2-4 สัปดาห์
- ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- สามารถเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงปกติได้
- หลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ ควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มปรากฏ
ในระยะยาว (3-6 เดือน)
- ใช้ครีมกันแดดทุกวันอย่างสม่ำเสมอ นี่คือกุญแจสำคัญในการรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีคุณภาพ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
- ดูแลสุขภาพโดยรวม นอนหลับพอ กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะทำลายคอลลาเจน
- นัดติดตามผลกับแพทย์ ตามที่คลินิกแนะนำ
อาการที่ควรติดต่อแพทย์
- แดงหรือบวมที่ไม่หายภายใน 5-7 วัน
- เกิดแผลพุพอง (Blister)
- ปวดมากผิดปกติ
- เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
- ผิวมีอาการผิดปกติ เช่น ดำคล้ำ หรือเกิดแผลเป็น
โปรแกรม Ulthera ทำร่วมกับอะไรได้บ้างเพื่อผลลัพธ์ที่มากขึ้น
Ulthera สามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่น ๆ เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้สมบูรณ์และตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลายมากขึ้น
การทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่น
- Ulthera + Botox
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับพร้อมลดริ้วรอยลึก
- วิธีทำ: ควรทำ Ulthera ก่อน รอ 2 สัปดาห์ แล้วค่อยฉีด Botox หรือฉีด Botox ก่อน รอ 2-4 สัปดาห์ แล้วค่อยทำ Ulthera
- ผลลัพธ์: Ulthera ยกกระชับผิว ขณะที่ Botox ช่วยลดริ้วรอยลึกจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา
- Ulthera + Filler
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับและเติมเต็มส่วนที่บุ่ม
- วิธีทำ: ควรทำ Ulthera ก่อน รอ 2-4 สัปดาห์ แล้วค่อยฉีด Filler หรือฉีด Filler ก่อน รอ 2-4 สัปดาห์ แล้วค่อยทำ Ulthera
- ผลลัพธ์: Ulthera ยกกระชับโครงสร้างใบหน้า ขณะที่ Filler ช่วยเติมเต็มบริเวณที่บุ่ม เช่น แก้มที่บุ๋ม ร่องแก้ม ริ้วรอยลึก
- Ulthera + Thermage FLX
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับในหลายระดับความลึก
- วิธีทำ: สามารถทำทั้งสองอย่างในวันเดียวกัน หรือทำห่างกัน 2-4 สัปดาห์
- ผลลัพธ์: Ulthera กระตุ้นชั้น SMAS (4.5 มม.) ขณะที่ Thermage กระตุ้นชั้น Dermis (3.0 มม.) ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ในหลายชั้นผิว
- Ulthera + Laser Resurfacing
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับพร้อมปรับผิวให้เรียบเนียน ลดจุดด่างดำ
- วิธีทำ: ควรทำ Ulthera ก่อน รอ 4-6 สัปดาห์ แล้วค่อยทำ Laser Resurfacing
- ผลลัพธ์: Ulthera ยกกระชับผิว ขณะที่ Laser ช่วยปรับสีผิว ลดจุดด่างดำ และทำให้ผิวเรียบเนียน
- Ulthera + PRP (Platelet-Rich Plasma)
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับและปรับปรุงคุณภาพผิว
- วิธีทำ: สามารถทำ PRP หลัง Ulthera ได้ทันที หรือทำห่างกัน 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์: Ulthera กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก ขณะที่ PRP ช่วยเสริมการฟื้นตัวและปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
คำแนะนำ ก่อนตัดสินใจทำหลายทรีตเมนต์ร่วมกัน ควรปรึกษากับแพทย์เพื่อออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด แพทย์จะประเมินสภาพผิว ความต้องการ และแนะนำลำดับและระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำแต่ละทรีตเมนต์
โปรแกรม Ulthera มีผลข้างเคียงไหม
Ulthera เป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยมาก เมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เครื่องของแท้ อย่างไรก็ตาม เหมือนกับทรีตเมนต์ทางการแพทย์ทั่วไป ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยและเป็นปกติ
- ผิวแดง (Erythema): อาจมีอาการแดงเล็กน้อยหลังทำ จะหายภายใน 2-4 ชั่วโมง
- บวม (Swelling): อาจบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบาง จะหายภายใน 1-3 วัน
- ชา (Numbness): อาจรู้สึกชาหรือตึงในบริเวณที่ทำ จะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
- อ่อนไหวต่อการสัมผัส (Tenderness): อาจเจ็บเมื่อแตะบริเวณที่ทำ จะหายภายใน 3-5 วัน
- รู้สึกแน่นหรือตึง: บางคนอาจรู้สึกว่าผิวตึงหรือแน่นในช่วงแรก เป็นปกติและจะค่อย ๆ หายไป
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่อาจเกิดขึ้น
- ช้ำ (Bruising): พบได้น้อย อาจเกิดในบริเวณที่มีหลอดเลือดใกล้ผิว จะหายภายใน 7-10 วัน
- อาการผิดปกติของเส้นประสาท: พบได้น้อยมาก อาจรู้สึกชาหรือรู้สึกผิดปกติที่เส้นประสาท จะหายภายใน 2-4 สัปดาห์
- ผิวไม่สม่ำเสมอ: หากการยิงไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ผิวไม่เรียบ แต่พบได้น้อยมากเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
- แผลพุพอง (Blister): พบได้น้อยมาก อาจเกิดหากใช้พลังงานสูงเกินไปหรือผิวอ่อนไหวมาก
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก (Rare)
- การบาดเจ็บของเส้นประสาท: พบได้น้อยมาก อาจเกิดหากการยิงไม่ถูกต้อง
- การเกิดแผลเป็น (Scarring): พบได้น้อยมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นผิดปกติ
- การติดเชื้อ: พบได้น้อยมาก หากมีการดูแลความสะอาดไม่ดี
- ผลลัพธ์ที่ไม่สมดุล: อาจเกิดขึ้นหากการวางแผนไม่ดีหรือแพทย์ขาดประสบการณ์
วิธีลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและใช้เครื่องของแท้
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ
- แจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวอย่างครบถ้วน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนและหลังทำอย่างเคร่งครัด
- หากมีอาการผิดปกติ ติดต่อแพทย์ทันที
สิ่งสำคัญ ผลข้างเคียงส่วนใหญ่จาก Ulthera เป็นอาการชั่วคราวและจะหายไปเอง การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมาก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ulthera (FAQs)
Ulthera และ Thermage เป็นเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน
- Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ เข้าถึงชั้น SMAS (4.5 มม.) เหมาะกับการยกกระชับที่ต้องการผลลัพธ์ในชั้นลึก อาจรู้สึกเจ็บมากกว่า
- Thermage ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF) ทำงานที่ชั้น Dermis (3.0 มม.) เหมาะกับการกระชับผิวและปรับรูปหน้า สะดวกสบายกว่า
การเลือกขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคุณ หากมีผิวหย่อนคล้อยมาก Ulthera อาจเหมาะสมกว่า หากต้องการกระชับผิวและความสะดวกสบาย Thermage อาจเหมาะสมกว่า แพทย์จะแนะนำวิธีที่เหมาะสมหลังจากประเมินสภาพผิวของคุณ
ไม่ เพราะ Ulthera ทำงานโดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างค่อย ๆ ไม่ใช่การยกหรือดึงทางกายภาพ ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติและไม่เหมือนทำอะไรมา คนรอบข้างจะสังเกตว่าคุณดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น แต่ไม่รู้ว่าคุณทำอะไรไป
ส่วนใหญ่แล้ว การทำครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ 1-2 ปี หากต้องการรักษาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้หลังจาก 1-2 ปี
ได้ Ulthera ปลอดภัยและเหมาะสมกับผู้รับบริการทุกสีผิว รวมถึงผิวสองสี เพราะคลื่นอัลตราซาวนด์ไม่ส่งผลกระทบต่อเม็ดสีผิว (Melanin) ซึ่งต่างจากเลเซอร์บางประเภทที่อาจมีความเสี่ยงกับผิวสองสี
ได้ คุณสามารถแต่งหน้าได้ทันทีหลังทำ แต่แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมของสารระคายเคือง และควรทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
ได้ Ulthera เหมาะสมกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หลายคนเลือก Ulthera เพราะไม่ต้องผ่าตัดและสามารถกลับไปทำงานได้ทันที
Ulthera ช่วยกระชับผิวใต้คางที่หย่อนคล้อย ซึ่งอาจช่วยลดคางซ้อนที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย แต่ไม่ได้เป็นวิธีลดไขมัน หากคางซ้อนเกิดจากไขมันส่วนเกิน อาจต้องพิจารณาวิธีอื่น เช่น การดูดไขมัน หรือการละลายไขมัน
แนะนำให้มาตรวจติดตามผลกับแพทย์ประมาณ 1 เดือนและ 3 เดือนหลังทำ เพื่อประเมินผลลัพธ์และให้คำแนะนำการดูแลผิวที่เหมาะสม
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 24-48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นสามารถกลับไปออกกำลังกายได้ตามปกติ
หากรอผลลัพธ์เต็มที่ (3 เดือน) แล้วยังรู้สึกว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ควรปรึกษากับแพทย์ แพทย์อาจแนะนำให้
- ทำ Ulthera ซ้ำด้วยจำนวนไลน์ที่เพิ่มขึ้น
- ทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่น เช่น Filler
- ปรับเปลี่ยนแผนการดูแลผิวระยะยาว
บทสรุป
Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการเข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ผ่านการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูงและเทคโนโลยี SPT ที่มองเห็นและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ การเลือกทำ Ulthera ควรเริ่มจากการปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม
ที่รัตตินันท์ คลินิก เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ Ulthera ที่ดีให้กับคุณ ด้วยทีมแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ และการดูแลที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่สร้างความมั่นใจและยาวนาน
พร้อมเริ่มต้นเส้นทางสู่ผิวที่กระชับและอ่อนเยาว์แล้วหรือยัง?
นัดหมายเพื่อปรึกษากับแพทย์ของเราได้แล้ววันนี้ เพื่อไขข้อกังวลว่า Ulthera เหมาะสมกับคุณหรือไม่ และออกแบบแผนการดูแลที่จะช่วยให้คุณบรรลุความงามที่คุณปรารถนา ด้วยการดูแลที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะคุณคู่ควรกับการดูแลที่ดีที่สุด
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ