ดูดไขมันเจ็บไหม?
คำถามที่มักเกิดขึ้นก่อนการตัดสินใจสำคัญ และเป็นหนึ่งในความกังวลอันดับต้น ๆ ของผู้ที่กำลังพิจารณาปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น ซึ่งในความเป็นจริง “ความเจ็บ” จากการ ดูดไขมัน มักถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง บางคนอาจจินตนาการไปไกลจากประสบการณ์ของคนรอบข้าง หรือข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน
หลายครั้งสิ่งที่คิดว่าเจ็บ กลับเป็นเพียงความรู้สึกตึง บวม หรือไม่สบายตัวในช่วงฟื้นตัว ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถดูแลและจัดการได้ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ในด้านศัลยกรรมความงาม
เสียงสะท้อนจากผู้เคยเข้ารับบริการจริงจำนวนมากยืนยันตรงกันว่า ความเจ็บไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจทำกับคลินิกที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ทีมแพทย์ชำนาญการ และการวางแผนฟื้นตัวอย่างเป็นขั้นตอน
บทความนี้จะพาคุณเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับการดูดไขมัน ทั้งการเข้าใจขั้นตอนโดยละเอียด ความรู้สึกจริงของผู้เคยผ่านประสบการณ์ และแนวทางการลดความเจ็บปวดอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ ภายใต้มาตรฐานการดูแลระดับพรีเมียม
การดูดไขมันแต่ละแบบ เจ็บไม่เท่ากัน คืออะไร?
ในโลกของการดูแลรูปร่างด้วยเทคนิคการดูดไขมัน “ความเจ็บ” ไม่ได้มีคำตอบเดียว เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนล้วนขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ โดยเฉพาะ รูปแบบของการระงับความรู้สึก และ เทคโนโลยีที่ใช้ในการดูดไขมัน
เพื่อให้คุณสามารถวางแผนได้อย่างมั่นใจ เราขอพาคุณทำความเข้าใจแบบละเอียดว่า “ดูดไขมันแบบไหนเจ็บน้อย เจ็บมาก และแตกต่างกันอย่างไร”
1. ดูดไขมันแบบใช้ ยาชาเฉพาะที่
การดูดไขมัน แบบใช้ยาชาเฉพาะที่เหมาะสำหรับบริเวณเล็ก เช่น เหนียง ต้นแขน หรือหน้าท้องบางจุด ผู้รับบริการจะรู้สึกตัวระหว่างทำ แต่จะไม่มีอาการเจ็บจากบริเวณที่ฉีดยาชา
อย่างไรก็ตาม อาจมีความรู้สึกตึงหรือรู้สึกดึงระหว่างทำ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่รับมือได้ และไม่กระทบต่อความปลอดภัย จุดเด่นคือ ฟื้นตัวไว ไม่ต้องนอนพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด
2. ดูดไขมันแบบ ดมยาสลบ
การดูดไขมันแบบดมยาสลบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันหลายตำแหน่ง หรือดูดในบริเวณกว้าง เช่น หน้าท้อง หลัง ต้นขา ผู้รับบริการจะไม่รู้สึกตัวระหว่างทำเลย จึงไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ ขณะทำ
หลังฟื้นจากการดมยา อาจมีอาการตึงหรือบวมได้บ้าง แต่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสบายสูง และมีทีมวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดกระบวนการ
3. เทียบเทคโนโลยีดูดไขมันต่าง ๆ
เทคโนโลยีที่ใช้มีผลต่อความรู้สึก ขณะและหลังดูดไขมันอย่างมาก โดยเฉพาะความร้อนหรือคลื่นพลังงานที่ใช้ละลายไขมันก่อนดูดออก
-
Vaser (Ultrasound)
ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงช่วยสลายไขมัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสูง เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว
-
BodyTite (RFAL – คลื่นความถี่วิทยุ)
ใช้ความร้อนช่วยให้ผิวกระชับทันทีระหว่างดูด เจ็บน้อยแต่รู้สึกอุ่น ๆ
-
J-Plasma / Renuvion (Cold Plasma + RF)
เทคโนโลยีระดับสูงที่ให้ผลยกกระชับแบบทันที ระหว่างทำผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บ (ใช้ยาชา/ดมยา) เจ็บหลังทำเล็กน้อย และมักไม่เกิดรอยฟกช้ำมาก
รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง + ดูดไขมัน Sexy Line ด้วยยาชาเฉพาะที่
รีวิวดูดไขมันต้นขา ด้านนอก ด้วยยาชาเฉพาะที่
รีวิวดูดไขมันน่อง วิธีลดน่องโต ด้วยยาชาเฉพาะที่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความเจ็บ
แม้การดูดไขมันจะเป็นหัตถการที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนรู้สึกได้ก็อาจแตกต่างกันไป ซึ่งความเจ็บที่หลายคนกังวลนั้น ไม่ได้เกิดจากการสุ่มเสี่ยง แต่เกิดจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ที่หากวางแผนอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความรู้สึกไม่สบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ตำแหน่งที่ดูดไขมัน
บริเวณของร่างกายที่เลือกทำ มีผลต่อระดับความรู้สึกเป็นอย่างมาก
- เหนียงและต้นแขน เป็นบริเวณที่เนื้อเยื่อไม่หนา การสอดท่อดูดไขมันจึงต้องอาศัยความแม่นยำสูง หากทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ มักไม่เจ็บมาก และฟื้นตัวเร็ว
- หน้าท้อง, หลัง, ต้นขา เป็นบริเวณที่มีปริมาณไขมันมากกว่า และอาจต้องใช้เทคนิคเสริม เช่น คลื่นความร้อนเพื่อช่วยให้ผิวกระชับ ทำให้รู้สึกตึงหรือเมื่อยหลังทำมากกว่าบริเวณอื่น
สิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่บริเวณที่ทำ แต่คือการวางแผนอย่างเหมาะสมกับสรีระของแต่ละบุคคล เพื่อให้เจ็บน้อยและเห็นผลชัด
2. เทคนิคที่ใช้ในการดูดไขมัน
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการลดความเจ็บระหว่างและหลังการทำ
- เทคโนโลยีที่ช่วยละลายไขมันก่อนดูด เช่น Vaser, BodyTite, J-Plasma, Renuvion ช่วยให้ดูดออกได้ง่าย ลดการกระทบกระเทือนของเนื้อเยื่อโดยรอบ
- ยิ่งเทคโนโลยีมีความอ่อนโยนต่อร่างกายมากเท่าไร ก็ยิ่งลดโอกาสเกิดอาการบวมช้ำและลดความรู้สึกไม่สบายได้มากเท่านั้น
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปริมาณไขมัน คือหัวใจของความปลอดภัย และความสบายในระยะฟื้นตัว
3. ความชำนาญของศัลยแพทย์
ปัจจัยที่ไม่สามารถแทนที่ด้วยเครื่องมือใด ๆ ได้ คือ มือและสายตาของแพทย์
- แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะรู้จังหวะ แรง และทิศทางในการสอดท่อดูดไขมัน ลดการกระทบต่อเส้นประสาทและหลอดเลือด
- ไม่เพียงลดความเจ็บ แต่ยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม สมส่วน และเรียบเนียน โดยไม่ต้องแก้ไขภายหลัง
ที่รัตตินันท์ คลินิก ศัลยแพทย์ทุกท่านเป็นแพทย์เฉพาะทาง และมีการออกแบบเฉพาะบุคคลในทุกเคส เพื่อให้ได้ทั้งผลลัพธ์ที่สวยงาม และการฟื้นตัวเต็มที่
วิธีลดความเจ็บ ก่อน–ระหว่าง–หลังดูดไขมัน
เพราะความสวยไม่ควรมาพร้อมความเจ็บโดยไม่จำเป็น การดูดไขมันในปัจจุบันจึงพัฒนาไปสู่มาตรฐานใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ
และสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ของคุณแตกต่างอย่างแท้จริง คือ การวางแผนอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ก่อนเริ่ม–ระหว่างทำ–จนถึงการฟื้นตัว โดยมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการดูแลในทุกมิติ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า ความรู้สึกเจ็บจะถูกลดลงให้น้อยที่สุด พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
การวางแผนล่วงหน้าคือหัวใจสำคัญของความสบาย
- ก่อนทำ ทีมแพทย์จะประเมินสุขภาพโดยละเอียด ทั้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และระดับความไวต่อความเจ็บของแต่ละบุคคล
- มีการแนะนำเรื่องอาหาร การงดยา อาหารเสริม และการจัดการความเครียดก่อนวันนัดอย่างมืออาชีพ
- หากมีความวิตกกังวล ทีมแพทย์อาจพิจารณายาคลายกังวลหรือให้คำปรึกษาร่วม เพื่อให้คุณเข้าสู่ห้องผ่าตัดด้วยความมั่นใจสูงสุด
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดทั้งความเจ็บและระยะเวลาฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน
2. ยาที่ใช้ระหว่างหัตถการ
ประสบการณ์ระหว่างทำ สามารถควบคุมได้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่เหมาะสม
- ในกรณีที่ทำเฉพาะจุดหรือบริเวณเล็ก เช่น เหนียง หรือต้นแขน จะใช้ ยาชาเฉพาะที่ ที่ออกฤทธิ์ไวและลดความรู้สึกได้อย่างตรงจุด
- สำหรับการดูดไขมันหลายตำแหน่งพร้อมกัน หรือบริเวณกว้าง เช่น หน้าท้อง ต้นขา จะใช้ วิธีดมยาสลบแบบควบคุมโดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งให้ความสบายระดับสูงสุด
- ยาทุกชนิดที่ใช้ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันตามน้ำหนักตัว ภาวะสุขภาพ และความปลอดภัยเฉพาะบุคคล เพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียง และลดความเสี่ยงจากความเจ็บที่ไม่จำเป็น
ระบบการให้ยาและการดูแลจากทีมวิสัญญีเป็นสิ่งที่แสดงถึงมาตรฐานระดับพรีเมียมที่แท้จริง
3. การดูแลหลังทำเพื่อบรรเทาอาการ
เพราะการฟื้นตัวที่ดี คือจุดเริ่มต้นของผลลัพธ์ที่สมบูรณ์
- หลังทำ จะมีการให้ยาแก้ปวด ยาลดบวม และการประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์
- แนะนำให้ใส่ชุดกระชับที่ออกแบบพิเศษ เพื่อช่วยให้ผิวแนบกระชับ ลดอาการตึง และช่วยควบคุมการฟื้นตัวให้มีประสิทธิภาพ
- มีบริการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เช่น นัดตรวจประเมินหลังทำหลายช่วงวัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ที่รัตตินันท์ คลินิก เรามี Aftercare ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ไม่เพียงเพื่อบรรเทาความเจ็บ แต่เพื่อส่งมอบผลลัพธ์อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด
เพราะความเจ็บ ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวลอีกต่อไป เมื่อทุกขั้นตอนถูกวางแผนและดูแลด้วยความใส่ใจระดับพรีเมียม การดูดไขมันจะกลายเป็นประสบการณ์ที่พร้อมพาคุณก้าวสู่รูปร่างใหม่อย่างมั่นใจและสง่างาม
เคสแก้ดูดไขมัน แก้รอยบุ๋ม-มีพังผืดเกือบทั้งตัว จากการเลือกใช้เครื่องดูดไขมันที่มีความร้อนสูงเกินไป ดูแลเคสโดย คุณหมอหนึ่ง สุทธิพงษ์ อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน
รีวิวดูดไขมัน ด้วยเทคนิคฉีดยาชาเฉพาะที่ สวยอย่างปลอดภัยในเวลาเร่งด่วน
- เติมไขมันหน้าเด็ก ด้วยไขมันตัวเอง ลดอายุผิว ใบหน้าละมุน เทคนิคจากประเทศเกาหลี
รีวิวดูดไขมันแขน ออกเป็นลิตร แต่ไม่เจ็บเลย!
ดูดไขมันในปัจจัยต่าง ๆ เจ็บไหม
ดูดไขมันพักฟื้นกี่วัน?
หนึ่งในคำถามที่สำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจดูดไขมัน คือ ต้องพักฟื้นนานไหม? ความจริงคือ ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังดูดไขมันไม่ได้ยาวนานอย่างที่หลายคนกังวล หากคุณได้รับการดูแลที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรก และนี่คือแนวทางการพักฟื้นอย่างละเอียด ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณวางแผนชีวิตได้อย่างมั่นใจ
ดูดไขมันพักฟื้นกี่วัน?
1. วันแรก เจ็บ ตึง บวม — แต่ควบคุมได้
หลังเสร็จสิ้นการดูดไขมัน ร่างกายจะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูทันที คุณอาจรู้สึกตึงบริเวณที่ทำ มีอาการบวม หรือรู้สึกเมื่อยล้าเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
สิ่งที่ควรทำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เริ่มใส่ชุดกระชับทันทีตามคำแนะนำของแพทย์
- รับประทานยาตามเวลา
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- งดการเคลื่อนไหวรุนแรง
- งดแอลกอฮอล์หรืออาหารที่ทำให้บวมน้ำ
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือจับบริเวณที่ดูดไขมัน
และ รัตตินันท์ คลินิก ของเรามี After Care เจ้าหน้าที่ติดตามอาการตั้งแต่วันแรก เพื่อดูแลคุณอย่างใกล้ชิด
2. วันที่ 3 – 7 ค่อย ๆ ฟื้นตัว
ในช่วงนี้ อาการบวมและตึงจะค่อย ๆ ลดลง คุณสามารถขยับตัวได้คล่องขึ้น
สิ่งที่ต้องใส่ใจที่สุดคือ การใส่ชุดกระชับ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผิวแนบกระชับและป้องกันผิวคลื่น
- ควรใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเวลาทำความสะอาด
- เดินเบา ๆ ได้ แต่ยังไม่ควรยืนนานหรือยกของหนัก
- อาบน้ำได้ตามปกติ (หากแพทย์อนุญาต)
การฟื้นตัวในช่วงนี้จะเป็นตัวกำหนดรูปทรงในระยะยาว จึงต้องอาศัยการดูแลอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง
3. 1 สัปดาห์ขึ้นไป กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้
หลังผ่านไป 7 วัน ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
- อาการบวมและช้ำลดลงอย่างชัดเจน
- สามารถกลับไปทำงานในออฟฟิศ หรือเดินทางได้ หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน
- ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ในบางรูปแบบ (หลังประเมินโดยแพทย์)
ผู้รับเข้าบริการจำนวนมากที่ รัตตินันท์ สามารถกลับไปทำงานได้ใน 3–7 วัน ขึ้นกับตำแหน่งที่ทำและเทคนิคที่เลือกใช้
4. ระยะพักฟื้นในแต่ละตำแหน่ง
เพราะแต่ละตำแหน่งมีโครงสร้างของไขมันและผิวที่ต่างกัน ระยะพักฟื้นจึงไม่เท่ากัน
ตำแหน่งที่ดูดไขมัน |
ระยะเวลาพักฟื้นโดยเฉลี่ย |
เหนียง / กรอบหน้า |
1–3 วัน (บวมเล็กน้อย) |
ต้นแขน / ต้นขา |
5–7 วัน (ตึงช่วงแรก) |
หน้าท้อง / หลัง / เอว |
7–10 วัน (ขึ้นกับปริมาณไขมัน) |
ดูดหลายตำแหน่งพร้อมกัน |
10–14 วัน (ฟื้นตัวนานขึ้น) |
การใช้เทคโนโลยีร่วมกับชุดกระชับที่ออกแบบเฉพาะ จะช่วยลดระยะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน
คุณชมพู อทิตา พยัคฆ์ มิสแกรนด์ร้อยเอ็ด 2020 : ดูดไขมัน Sexy Line สร้างร่อง11 หุ่นสวย พร้อมโชว์!
ดูดไขมันที่รัตตินันท์ คลินิก
- ดูแลการดูดไขมันโดย นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (คุณหมอหนึ่ง) ชำนาญการและมีประสบการณ์มากว่า 24 ปี
- ห้องผ่าตัดใหญ่ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข (Certified Operating Room)
- สถานที่ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดเชื้อโควิด-19 จากกรมอนามัย THAISTOPCOVID+
- มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ครบ
- คลินิกที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับสากล American Accreditation Commission International หรือ AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก ด้าน Ambulatory Plastic Surgical Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก แห่งแรกในเอเชีย
ความกลัว…จะกลายเป็นความมั่นใจ
และการดูดไขมัน จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอย่างสง่างาม เพราะที่รัตตินันท์ คลินิก ความสบายใจของคุณ คือส่วนหนึ่งของมาตรฐานที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้ผลลัพธ์ทางกายภาพ
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ