คุณหมอสรุปให้ ดูดไขมัน ทำให้แขนเล็กลงได้อย่างไร ทำไมต้อง รัตตินันท์ คลินิก
ดูดไขมันต้นแขน คือ วิธีลดไขมันสะสมบริเวณต้นแขนให้เรียวเล็ก กระชับ และได้รูป เหมาะกับผู้ที่ลดน้ำหนักแล้ว แขนยังใหญ่หรือหย่อนคล้อย โดยแพทย์จะใช้เทคนิค 360 Body Contouring พร้อมยกกระชับผิว ปรึกษาฟรี ที่ รัตตินันท์ คลินิก
เหตุผลที่ไขมันสะสมบริเวณต้นแขน เป็นเพราะอะไร
ต้นแขนใหญ่ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิง และมักแก้ได้ยากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย เพราะเกี่ยวข้องทั้ง ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งรวมกันจนทำให้ไขมันสะสมตรงนี้มากเป็นพิเศษ
1) ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ผู้หญิงสะสมไขมันต้นแขนง่ายกว่า
ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทในการ เก็บพลังงานเป็นไขมัน บริเวณ ต้นแขน สะโพก และต้นขา ทำให้ผู้หญิงมีแนวโน้มสะสมไขมันตรงต้นแขนมากกว่าผู้ชายตามธรรมชาติ
2) กรรมพันธุ์และรูปร่างแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนมีโครงสร้างหรือยีนที่ทำให้เผาผลาญไขมันบริเวณต้นแขนได้ช้ากว่า มีแนวโน้มเก็บไขมันที่แขนมากเป็นพิเศษ ปัจจัยนี้ทำให้แม้จะผอมลง แต่แขนก็ยังดูใหญ่กว่าส่วนอื่นอยู่ดี
3) ไลฟ์สไตล์และอาหาร ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
การใช้ชีวิตแบบนั่งทำงานทั้งวัน ไม่ค่อยขยับแขน หรือทานอาหารแคลอรี่สูง ไขมันสูงทำให้บริเวณต้นแขนสะสมไขมันเร็วขึ้น เพราะแทบไม่ได้ถูกใช้งาน
4) ไขมันต้นแขน ลดยากเป็นพิเศษ
ถึงจะออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างดี แต่ไขมันบริเวณต้นแขนมักเป็นจุดที่ลดช้ากว่าต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก ทำให้หลายคนรู้สึกว่าพยายามแล้วแต่ไม่เห็นผล
เช็กอย่างไรว่าแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือไขมัน
การเช็กว่า แขนใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ หรือไขมัน สำคัญมาก เพราะวิธีแก้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าแขนใหญ่จากไขมันต้อง ลดไขมัน แต่ถ้าใหญ่จากกล้ามเนื้อ ต้องลดการใช้งานกล้ามเนื้อบางส่วน ปรับการออกกำลังกาย และนี่คือวิธีเช็กง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีประเมินแบบแพทย์ใช้จริงในคลินิก
1. บีบผิวบริเวณต้นแขน
บีบผิวบริเวณต้นแขน เป็นวิธีง่ายที่สุด และค่อนข้างแม่นยำ ซึ่งถ้าบีบแล้ว หยิบเนื้อได้เยอะ นิ่ม ฟู แปลว่าไขมันเยอะ เป็นต้นแขนใหญ่แบบไขมัน หรือถ้าบีบได้น้อย แข็ง เป็นก้อนตัน ๆ นั่นมาจากกล้ามเนื้อ จุดสังเกต คือ คนที่ออกกำลังกาย ใช้งานแขนเยอะ (เล่นเวท, แบกของ, ว่ายน้ำ) มักบีบได้น้อยกว่า
2. ยกแขนแล้วเกร็งดูรูปทรง
ยกแขนแล้วเกร็งดูรูปทรง ทุกคนสามารถลองยกแขนข้างลำตัว หรือหงายแขนขึ้นแล้ว เกร็งแขน ถ้าเวลาที่เกร็ง แขนขึ้นรูปชัดเป็นปีก หรือกล้ามเนื้อนูน หมายความว่ากล้ามเนื้อใหญ่ แต่ถ้าไม่เกร็งก็ยังดูใหญ่ ฟู นิ่ม อาจมาจากไขมัน
3. วัดรอบแขนตอนเกร็ง และ ไม่เกร็ง
วัดรอบแขนตอนเกร็ง และ ไม่เกร็ง โดยการใช้สายวัดรอบแขน (ต้นแขนส่วนที่กว้างที่สุด) ถ้ารอบแขนตอนเกร็ง เพิ่มขึ้นชัดเจน แปลว่ากล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าแทบไม่ต่าง มาจากไขมันเป็นหลัก
4. ดูความเป็นคลื่นหรือเปลือกส้มของผิว
ดูความเป็นคลื่นหรือเปลือกส้มของผิว ซึ่งลักษณะผิวช่วยบอกได้ดีมาก เพราะถ้าหากมีผิวลอน คล้าย cellulite มาจากไขมัน หรือถ้าผิวเรียบเนียน แต่แขนดูแน่น แปลว่ามาจากกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อ
5. สังเกตไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
สังเกตไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ถ้าเล่นเวทแขนบ่อย ดันพื้น บริหารหัวไหล่-ต้นแขน มักใหญ่จาก กล้ามเนื้อ หรือถ้าหากน้ำหนักขึ้นง่าย กินของหวาน อาหารมันบ่อย ไม่ค่อยออกกำลังกาย มักจะแขนใหญ่จากไขมัน
6. ใช้เครื่องมือประเมินแบบมืออาชีพ
ใช้เครื่องมือประเมินแบบมืออาชีพ ถ้าหากต้องการผลชัวร์จริง ๆ แพทย์มักใช้ 3D Body Scan หรือ Body Mapping ช่วยแยกปริมาณไขมันและกล้ามเนื้อได้ชัดเจน รวมไปถึงเครื่อง Ultrasound (อัลตร้าซาวด์ไขมัน) จะเห็นเลยว่าไขมันอยู่กี่มิลลิเมตร กล้ามเนื้อหนาแค่ไหน เป็นวิธีที่แม่นสุด เพราะดูโครงสร้างจริงใต้ผิว เหมาะสำหรับคนที่อยากตัดสินใจว่าจะ ดูดไขมันต้นแขน ลดกล้ามเนื้อแขน หรือทำควบคู่กัน
ดูดไขมันต้นแขน คืออะไร?
การ ดูดไขมันแขน (Arm Liposuction) คือ กระบวนการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณต้นแขนออก โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่สามารถช่วยลดขนาดของต้นแขน ช่วยปรับรูปทรงของแขนให้ดูเรียวขึ้น
ที่ รัตตินันท์ คลินิก การดูดไขมันต้นแขน ทำโดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ซึ่งมีการใช้เทคนิคทันสมัย ทำให้ผู้เข้ารับบริการได้รับผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย การดูดไขมันแขน เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วน
เปรียบเทียบการดูดไขมันต้นแขน กับ การลดต้นแขนวิธีอื่น
เมื่อเปรียบเทียบการดูดไขมันต้นแขนกับวิธีการลดต้นแขนอื่นๆ มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ดังนี้
การดูดไขมันต้นแขน
- ข้อดี: ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ลดได้ยาก เป็นการกำจัดไขมันถาวรในบริเวณที่ทำการรักษา
- ข้อเสีย: ต้องการการพักฟื้นหลังการรักษา มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม
การออกกำลังกาย
และควบคุมอาหาร
- ข้อดี: เป็นวิธีธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม และไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง
- ข้อเสีย: ต้องใช้เวลาและความอดทน ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนและไม่สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้
การใช้ยาเมโสแฟต (Mesofat)
หรือการสลายไขมันด้วยคลื่น RF
- ข้อดี: ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องการการพักฟื้น และสามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ
- ข้อเสีย: ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำหลายครั้ง และอาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่าการดูดไขมัน
การเลือกวิธีการลดต้นแขนควรพิจารณาจากความต้องการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และสุขภาพร่างกายของผู้เข้ารับบริการ การปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
ดูดไขมันต้นแขน ที่ไหนดี ทำไมต้องที่ รัตตินันท์ คลินิก
ปัญหาต้นแขนใหญ่ ไขมันสะสม ทำให้ใส่เสื้อแบบไหนก็ไม่มั่นใจ แม้ว่าจะผอมแค่ไหน แขนก็ยังดูตัน ไม่กระชับ จนหลายคนรู้สึกไม่กล้าใส่แขนกุดหรือชุดรัดรูป เมื่อออกกำลังกายก็อาจทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น ส่วนควบคุมอาหารก็ลดได้ยากมาก เพราะ ต้นแขน เป็นหนึ่งในจุดดื้อที่ลดช้าที่สุดของร่างกาย
ด้วยเหตุนี้ การ ดูดไขมันต้นแขน จึงกลายเป็นตัวช่วยยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร็ว ได้แขนเรียวขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงฟื้นตัวแรก ๆ
แต่คำถาม คือ ดูดไขมันต้นแขนที่ไหนดี? ที่ปลอดภัย แผลสวย แขนเรียวอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นคลื่น? หนึ่งในคลินิกที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก คือ รัตตินันท์ คลินิก และนี่คือเหตุผลที่ที่นี่กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการดูดไขมันต้นแขนแบบมืออาชีพ
STEP 1 : Personalised Consultation ประเมินต้นแขนเฉพาะบุคคล | ผลลัพธ์ที่ดีเริ่มจากการประเมินที่แม่นยำ เพราะต้นแขนของแต่ละคนต่างกัน ทั้งปริมาณไขมัน โครงสร้าง และความหย่อนคล้อยของผิว ที่ รัตตินันท์ คลินิก มีการประเมินต้นแขนอย่างละเอียด โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น 3D Body Scan/Body Mapping เพื่อวิเคราะห์ว่าแขนใหญ่เป็นเพราะไขมันหรือกล้ามเนื้อ ดูความหย่อนคล้อยของผิว Mapping ไขมันว่าอยู่ส่วนไหนมากเป็นพิเศษ ออกแบบตำแหน่งการดูด จุดเก็บรายละเอียด และระดับการกระชับที่จำเป็นต้องทำ หลังจากนั้นจะมีการวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอธิบายปัญหาแบบเข้าใจง่าย และออกแบบแขนให้เหมาะกับสรีระของแต่ละคนจริง ๆ |
STEP 2 : Precision Fat Removal & Quality ดูดไขมันต้นแขนอย่างละเอียด | ต้นแขนเป็นบริเวณที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เพราะใกล้กับเส้นประสาทและเส้นเลือด และเป็นโซนที่ต้องปั้นทรงให้สมูธเพื่อไม่ให้เป็นคลื่น โดยที่รัตตินันท์ คลินิกมีการใช้เทคโนโลยี MicroAire PAL เป็นระบบสั่นแตกไขมันโดยไม่ใช้ความร้อน ช่วยในเรื่องของบวมช้ำน้อย บวมน้อย ฟื้นตัวเร็ว และปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อ โดยที่แพทย์จะเลือกหัวดูดตามเนื้อเยื่อของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ละเอียดที่สุด Precision Harvesting คือ การเก็บไขมันคุณภาพดี สำหรับผู้ที่อยากนำไขมันไปเติมส่วนอื่นในอนาคต Micro-Sculpting คือ เทคนิคปั้นแขนเฉพาะบุคคล เน้นความเรียว สมส่วน เก็บงานละเอียดบริเวณ ด้านหลังต้นแขน ใต้ต้นแขน จุดที่เกิดปีกแขนง่าย พร้อมเทคนิคซ่อนแผลอย่างแนบเนียน |
STEP 3 : Dual-Energy Skin Tightening ยกกระชับผิวหลังดูดไขมัน | ต้นแขน ถือว่าเป็นจุดที่ผิวหย่อนง่าย หลังดูดไขมันถ้าหากไม่ยกกระชับจะเสี่ยงเป็นคลื่นหรือย้วย ซึ่งการยกกระชับผิวหลังดูดไขมัน เป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนเลือกที่นี่ BodyTite (RF Energy) ยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนชั้นแรก J-Plasma (RF + Helium Plasma) พลังงานพลาสมาเย็น ทำให้ผิวหดตัวทันที ให้ผลลัพธ์ผิวเรียบ ตึง กระชับ เหมาะสำหรับ คนที่สะสมไขมันต้นแขนนาน คนอายุ 30+ ผิวเริ่มหย่อนจากน้ำหนักขึ้นลง ผลลัพธ์ที่ได้คือแขนเรียว เนียน ไม่เป็นคลื่น |
STEP 4 : Aftercare to Maintain Result ดูแลหลังทำอย่างครบวงจร | เพื่อให้แขนเข้าที่สวย และลดความเสี่ยงผลข้างเคียง รัตตินันท์ คลินิกจัดเต็มการดูแลหลังทำแบบ All-in-One 1. โปรแกรมลดบวม/รอยช้ำ 2. ชุดกระชับมาตรฐาน USA – Lipo Elastic 3. การติดตามผลระยะยาวจนกว่าแขนจะเข้าที่ 4. Set ยาครบ: ยาฆ่าเชื้อ / ยาลดบวม / ยาแก้ปวด 5. พยาบาลวิชาชีพทำแผล–ตัดไหม 6. เซตอุปกรณ์ทำแผลปลอดเชื้อ 7. ฉายแสงลดบวม 2 ครั้ง (มูลค่า 3,000 บาท) 8. มื้ออาหารหลังทำ 9. พยาบาลออนไลน์ดูแลตลอดช่วงพักฟื้น |
ทีมแพทย์ดูดไขมัน
ที่ รัตตินันท์ คลินิก
เตรียมตัวอย่างไรก่อนดูดไขมันต้นแขน
- ตรวจสุขภาพ & แจ้งประวัติให้แพทย์ครบถ้วน
- งดบุหรี่–แอลกอฮอล์อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนทำ
- หยุดยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่าย
ดูแลตัวเองอย่างไร หลังดูดไขมันต้นแขน
หลังจากการดูดไขมันเสร็จสิ้น ผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลและติดตามผลอย่างใกล้ชิด แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตนเองหลังการรักษา เช่น การสวมชุดกระชับหลังการผ่าตัด การพักผ่อนให้เพียงพอ และการรับประทานยาเพื่อลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ
ระยะเวลาการฟื้นตัวจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ภายในไม่กี่วันหลังการรักษา แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือยกของหนักในช่วงแรก ๆ
สรุป ดูดไขมันต้นแขน คืออะไร ดีไหม?
ดูดไขมันต้นแขน คือ การกำจัดไขมันเฉพาะส่วนบริเวณต้นแขน ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องของรูปร่างให้แก่ผู้ที่เข้ารับบริการ พร้อมทั้งคำแนะนำในการรักษารูปร่างหลังการดูดไขมันต้นแขน ราคาเริ่มต้น 49,000 บาท
หลังจากการ ดูดไขมันต้นแขน การรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานเป็นสิ่งสำคัญ คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษามีดังนี้
- การควบคุมอาหาร = หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลมากเกินไป เพื่อป้องกันการสะสมไขมันใหม่
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ = การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายกระชับและรักษารูปร่างที่ดีไว้
- การดื่มน้ำมาก ๆ = น้ำช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีและลดการสะสมของไขมันในร่างกาย
การดูแลตัวเองให้ดีหลังการดูดไขมันจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ได้นานและทำให้คุณมีรูปร่างที่สมส่วนและแข็งแรง
การดูดไขมันแขน ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมนอกจากเรื่องของทีมแพทย์หรือคลินิก แล้วก็ยังมีเรื่องสภาพผิวของผู้เข้ารับการรักษาเองด้วย ถ้าผิวยังมีความยืดหยุ่นดีมากอยู่ ก็จะทำให้ได้เรียวแขนใหม่ที่สวยงามสมบูรณ์ ขั้นตอนการดูดไขมันแขน ไม่ซับซ้อน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันต้นแขน
ราคา ดูดไขมันแขน ที่รัตตินันท์ คลินิก เริ่มต้น 49,000 บาท
การดูดไขมันต้นแขนจะทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ ทำให้คุณไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการทำ หลังการรักษาอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่สามารถควบคุมได้ด้วยยาบรรเทาปวด
ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ภายใน 1-2 วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนักเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์
ผลลัพธ์ของการดูดไขมันต้นแขนถือว่าถาวร ตราบใดที่รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ ไขมันจะไม่กลับมาสะสมในบริเวณนี้
รอยแผลเป็นจะมีขนาดเล็กมากและมักจะจางลงตามเวลา เมื่อดูแลอย่างถูกต้อง รอยแผลเป็นจะไม่เป็นที่สังเกตได้ชัด
ควรงดยาแอสไพรินและอาหารเสริมบางชนิดก่อนการรักษา และควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อการรักษา
การดูดไขมันเป็นการปรับรูปทรงเฉพาะจุด ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก จึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบางจุดที่ต้องการกำจัด
นักเขียนบทความสุขภาพ รัตตินันท์ คลินิก ทำหน้าที่ ค้นคว้าและตรวจสอบงานวิจัยล่าสุด ทั้งเรื่องผิวหนัง สารออกฤทธิ์ เลเซอร์ และศัลยกรรมความงาม เพื่อนำความรู้ที่ซับซ้อนเหล่านั้นมา แปลให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย ถูกต้อง และเชื่อถือได้ เป้าหมายหลักคือการทำให้ข้อมูลทุกชิ้นที่คลินิกสื่อสารออกไปนั้น มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ (Evidence-based) เพื่อให้คุณผู้อ่านสามารถ ตัดสินใจเลือกการดูแลผิวหรือหัตถการได้อย่างมั่นใจและเหมาะสม โดยไม่ถูกชี้นำเกินจริง และเข้าใจถึงกลไกที่แท้จริงเบื้องหลังผลลัพธ์นั้น ๆ