ศัลยกรรมยกกระชับทรวงอก แก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ให้หน้าอกได้สัดส่วน

สารบัญ

หากคุณกำลังกังวลว่าทำไมหน้าอกถึงดูไม่เหมือนเดิม นั่นอาจเป็นเพราะมาจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ การตั้งครรภ์ หรือการลดน้ำหนัก ทำให้หน้าอกเริ่มหย่อนคล้อย สูญเสียความตึงกระชับที่เคยมี วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องยกกระชับหน้าอก หรือ Mastopexy ผ่านประสบการณ์ของทีมแพทย์มาเล่าให้ฟัง พร้อมเทคนิคเฉพาะที่ Rattinan Clinic ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอน

ยกกระชับหน้าอก คืออะไร

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ยกกระชับหน้าอก (Mastopexy) ไม่ใช่การ “เสริมหน้าอก” แต่อย่างใด แต่ว่าเป็นศัลยกรรมที่มุ่งเน้นการปรับรูปทรงและตำแหน่งของหน้าอกที่มีอยู่แล้วให้กลับมาตั้งสวยเหมือนเดิม

จากประสบการณ์ที่คลินิก เราพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าต้อง “เสริม” ก่อนจึงจะสวยได้ แต่จริง ๆ แล้ว การยกกระชับอาจเป็นคำตอบที่เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกเพียงพอ แต่เพียงแค่อยากให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

สาเหตุที่ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย

มาดูสาเหตุกันก่อนว่าทำไมหน้าอกถึงเปลี่ยนไป เพื่อที่เราจะได้เข้าใจว่าการยกกระชับจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

1. อายุที่มีการเปลี่ยนแปลง

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและเอ็นยึดรั้งธรรมชาติจะค่อย ๆ หย่อนลง รวมถึงคอลลาเจนในผิวหนังที่ลดลง ทำให้หน้าอกสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย

2. การตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ระหว่างตั้งครรภ์ หน้าอกจะขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมให้นมบุตร หลังจากหย่านม ขนาดหน้าอกจะลดลง แต่ผิวหนังที่ยืดออกไปแล้วมักไม่กลับมาตึงเหมือนเดิม

3. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

เมื่อน้ำหนักลดลงเร็ว เนื้อเยื่อไขมันในหน้าอกจะหายไป แต่ผิวหนังที่ยืดออกไปแล้วจะไม่กลับมาตึงตามสัดส่วนใหม่

4. พันธุกรรม

บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังและเอ็นรั้งหย่อนง่ายกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่สามารถป้องกันได้

ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก (Breast Ptosis Grade)

ในทางการแพทย์ เราจะแบ่งระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอกออกเป็น 4 ระดับ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสม ดังนี้

ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอกผู้หญิง

Grade 0 (ปกติ)

หัวนมอยู่เหนือหรือในระดับเดียวกับรอยพับใต้หน้าอก (Inframammary fold)

Grade I (หย่อนเล็กน้อย)

หัวนมอยู่ในระดับรอยพับใต้หน้าอก แต่ยังสูงกว่าส่วนล่างสุดของหน้าอก

Grade II (หย่อนปานกลาง)

หัวนมอยู่ต่ำกว่ารอยพับใต้หน้าอก แต่ยังอยู่เหนือส่วนล่างสุดของหน้าอก

Grade III (หย่อนมาก)

หัวนมอยู่ในระดับส่วนล่างสุดของหน้าอกหรือต่ำกว่า และชี้ลงด้านล่าง

สำคัญ การประเมินระดับความหย่อนคล้อยต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแต่ละคนมีรูปร่างและสัดส่วนที่แตกต่างกัน

ยกกระชับหน้าอก เหมาะกับใคร และ ไม่เหมาะกับใคร

ใครบ้างที่เหมาะกับการยกกระชับหน้าอก

  • คนที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย ทุกระดับ (Grade I-III) ที่อยากได้หน้าอกกระชับขึ้น
  • หัวนมและบริเวณรอบหัวนมอยู่ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับสัดส่วนของร่างกาย
  • หัวนมที่ใหญ่เกินสัดส่วน และต้องการปรับขนาดให้เหมาะสม
  • ไม่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก แต่อยากให้รูปทรงสวยขึ้น
  • หน้าอกไม่สมมาตรกัน และต้องการปรับให้เท่ากัน
  • มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการยกกระชับหน้าอก

  • กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรรอให้หย่านมอย่างน้อย 6 เดือน
  • วางแผนจะมีลูกในอนาคตอันใกล้ การตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อรูปทรงหน้าอกที่ได้รับการผ่าตัด
  • มีโรคประจำตัวที่รุนแรง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้
  • มีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการผ่าตัด
  • มีประวัติการสูบบุหรี่ ควรหยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

เทคนิคการยกกระชับหน้าอก เฉพาะที่รัตตินันต์ คลินิก

ที่คลินิกของเรา เรามีเทคนิคการยกกระชับหน้าอกหลายแบบ โดยจะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

เทคนิคการ ยกกระชับหน้าอก มีกี่วิธี ?

เทคนิคพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Lift)

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยน้อยมาก (Grade I)

ทำการตัดผิวหนังรูปพระจันทร์เสี้ยวเล็ก ๆ เหนือหัวนม ข้อดีคือแผลเป็นน้อย แต่ปรับได้น้อยเช่นกัน เหมาะกับคนที่ต้องการปรับเล็กน้อย

เทคนิคโดนัท (Donut Lift)

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย (Grade I-II)

ตัดผิวหนังรอบ ๆ หัวนมเป็นวงกลม แผลเป็นจะอยู่รอบขอบหัวนมเท่านั้น เทคนิคนี้ให้ผลการปรับได้มากกว่า Crescent แต่ยังคงแผลเป็นน้อย

เทคนิคอมยิ้ม (Lollipop Lift)

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยปานกลาง (Grade II)

รอยแผลจะมีลักษณะเหมือนอมยิ้ม คือวงกลมรอบหัวนมต่อด้วยเส้นตรงลงมาถึงรอยพับใต้หน้าอก สามารถปรับรูปทรงได้ดีและลดขนาดหัวนมได้ด้วย

เทคนิคสมอเรือ (Anchor Lift)

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก (Grade III)

เป็นเทคนิคที่ครอบคลุมที่สุด รอยแผลจะมีรูปร่างคล้ายสมอเรือ ประกอบด้วยวงกลมรอบหัวนม เส้นตรงลงมา และเส้นโค้งตามรอยพับใต้หน้าอก สามารถปรับแก้ได้มากที่สุด

เทคนิค Dual Plane (การรวมกับเสริมหน้าอก)

เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการทั้งยกกระชับและเพิ่มขนาด

เป็นการรวมเทคนิคยกกระชับเข้ากับการเสริมหน้าอก เหมาะสำหรับคนที่หน้าอกเหี่ยวย่นมากและต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย

เทคนิค ระดับความหย่อนคล้อย ตำแหน่งแผลเป็น ระยะเวลาผ่าตัด ระยะฟื้นตัว
Crescent Lift Grade I เหนือหัวนม 1-2 ชั่วโมง 7-10 วัน
Donut Lift Grade I-II รอบหัวนม 1.5-2.5 ชั่วโมง 10-14 วัน
Lollipop Lift Grade II รอบหัวนม + เส้นตรง 2-3 ชั่วโมง 14-21 วัน
Anchor Lift Grade III รูปสมอเรือ 2.5-3.5 ชั่วโมง 21-28 วัน
Dual Plane ทุก Grade + ต้องการขนาดใหญ่ขึ้น ขึ้นกับเทคนิคที่ใช้ 3-4 ชั่วโมง 21-30 วัน

ยกกระชับหน้าอก ต่างกับ เสริมหน้าอกอย่างไร

เราพบว่าคำถามนี้ได้ถูกถามกันบ่อยมากเวลาผู้รับบริการเข้ามาปรึกษาที่คลินิก และยังเป็นข้อสงสัยที่สำคัญ เพราะหลายคนไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่

  • เน้นปรับรูปทรงและตำแหน่ง
  • ใช้เนื้อเยื่อที่มีอยู่แล้ว
  • ไม่เพิ่มขนาดหน้าอก
  • เหมาะกับคนที่มีหน้าอกเพียงพอแล้ว
  • ลดความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอม
  • เน้นเพิ่มขนาดและปริมาตร
  • ใช้ Implant หรือไขมันตัวเอง
  • ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น
  • เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าอกใหญ่ขึ้น
  • ต้องมีการติดตามระยะยาว

ยกกระชับหน้าอก พร้อมเสริมหน้าอกได้ไหม

ได้แน่นอน นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า เทคนิค Dual Plane (เทคนิคการเสริมหน้าอก) ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยแล้วยังต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย โดยจะทำการยกกระชับพร้อมกับใส่ Implant ในขั้นตอนเดียวกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ผู้เคยรับบริการหลายคนพึงพอใจทั้งรูปทรงและขนาด

ข้อดีของการยกกระชับหน้าอกแบบผ่าตัด

  • ผลลัพธ์ยั่งยืนและเด่นชัด สามารถปรับปรุงรูปทรงหน้าอกได้อย่างชัดเจน
  • ปรับได้ตามสัดส่วน ศัลยแพทย์สามารถปรับรูปทรงให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
  • ปรับขนาดหัวนมได้ด้วย หากหัวนมใหญ่เกินไป สามารถลดขนาดให้เหมาะสมในขั้นตอนเดียวกัน
  • แก้ปัญหาไม่สมมาตร สามารถปรับให้หน้าอกทั้งสองข้างดูเท่ากันมากขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจ หลายคนรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองหลังได้รับการผ่าตัด

ยกกระชับหน้าอก แบบไม่ผ่าตัดทำได้ไหม

มีคนถามเรื่องนี้กันเยอะมากเช่นกัน เพราะใครก็อยากได้ผลดี ๆ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่เราต้องซื่อสัตย์กันว่า

ข้อจำกัดของการกระชับหน้าอกแบบไม่ผ่าตัด

  • ผลลัพธ์จำกัด สามารถช่วยได้เล็กน้อยเท่านั้น
  • ไม่ถาวร ผลจะค่อย ๆ หายไปตามเวลา
  • เหมาะกับความหย่อนคล้อยเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เหมาะกับ Grade II-III
  • ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ได้
  • ไม่สามารถปรับขนาดหัวนมได้ จำกัดเฉพาะการกระชับผิวหนัง

วิธีไม่ผ่าตัดที่มีอยู่ ได้แก่ การใช้เลเซอร์ เครื่องพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ หรือ คลื่นวิทยุ (RF) แต่ผลลัพธ์จะจำกัดมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัด

ข้อจำกัดของการกระชับหน้าอกแบบผ่าตัด

เพื่อความเป็นธรรม ต้องบอกข้อจำกัดของการผ่าตัดด้วย เช่น

  • มีแผลเป็น แม้จะพยายามทำให้น้อยที่สุด แต่ก็จะมีแผลเป็นอยู่
  • ระยะฟื้นตัว ต้องพักฟื้นและระมัดระวังตัว 2-4 สัปดาห์
  • ความเสี่ยงจากการผ่าตัด แม้จะน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดทั่วไป
  • ค่าใช้จ่าย สูงกว่าการรักษาแบบไม่ผ่าตัด
  • อาจต้องแก้ไขซ้ำ ในบางกรณีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ทีมแพทย์ศัลยกรรมหน้าอก
ที่ รัตตินันท์ คลินิก

น.ต.นพ. จตุพร ซื่อสัตย์
ศัลยแพทย์ตกแต่ง

ศัลยศาสตร์ตกแต่ง
และเสริมสร้าง

น.ต.นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง

ในการทำศัลยกรรมเสริมความงามที่ รัตตินันท์ คลินิก น.ต.นพ. จตุพร เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการมากมาย ท่านมีความสามารถเฉพาะทางด้านศัลยกรรมหน้าอก และมุ่งมั่นในการให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมาเพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดของผู้รับบริการ

ปรัชญาในการรักษา “ความสวยที่แท้จริงคือความสวยที่เข้ากับตัวคุณเอง ไม่ใช่การเลียนแบบใครเป็นแบบอย่าง”

ยกกระชับหน้าอก ราคาเท่าไหร่?

ราคาการยกกระชับหน้าอกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

  • เทคนิคที่ใช้ เทคนิคที่ซับซ้อนกว่าจะมีราคาสูงกว่า
  • ความยุ่งยากของแต่ละกรณี การแก้ไขที่ซับซ้อนใช้เวลาและทักษะมากกว่า
  • การรวมกับการรักษาอื่น เช่น การเสริมหน้าอกพร้อมกัน

หัตถการผ่าตัดยกกระชับ

ราคาเริ่มต้น

ตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck

290,000 บาท

Belt lipectomy

500,000 บาท

ยกกระชับหน้าอก

70,000 - 180,000 บาท

ยกกระชับหน้าอกแผลแบบพระจันทร์คว่ำ level1

150,000 บาท

ยกกระชับหน้าอกแผลแบบโดนัท level2

175,000 บาท

ยกกระชับหน้าอกแผลแบบอมยิ้ม

180,000 บาท

ยกกระชับหน้าอกแผลแบบตัวที level3

180,000 บาท

ผ่าตัดหนัง ยกกระชับแผ่นหลัง (Bra Line Back Lift)

220,000 บาท

ผ่าตัดหนัง ยกกระชับต้นแขน (Arm lift)

220,000 บาท

ผ่าตัดหนัง ยกกระชับต้นขา (Inner Thigh Lift)

220,000 บาท

ผ่าตัดหนังบั้นท้าย (Buttock lift)

250,000 บาท

เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับผ่าตัดยกกระชับหน้าอก

  • หยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • หลีกเลี่ยงยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ทำการตรวจสุขภาพทั่วไปตามที่แพทย์แนะนำ
  • เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่ายสำหรับหลังผ่าตัด
  • ให้มีผู้ช่วยดูแลในช่วงแรกหลังผ่าตัด
  • งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์

ดูแลตัวอย่างไรหลังรับการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก

  • ควรใส่ชั้นในที่ทางคลินิกเตรียมให้ หรือสวมเสื้อชั้นในแบบ Support Bra ไม่มีโครง อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อป้องกันการแยกของแผล
  • รักษาแผลให้สะอาดและแห้งตามคำแนะนำ ไม่ควรให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ ในกรณีที่แผลผ่าตัดปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ 
  • พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบและรับคำแนะนำจากแพทย์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำเพราะจะทำให้หน้าอกตึงและอาจส่งผลต่อแผลผ่าตัด  อาจนอนหนุนหมอนสองสามใบเพื่อให้ศีรษะและลำตัวช่วงบนอยู่สูงเพื่อลดอาการบวม 2-3 สัปดาห์แรก
  • ทานยาตามแพทย์สั่งเพื่อลดอาการปวดและการติดเชื้อที่ไม่พึงประสงค์
  • แจ้งแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ
  • ไม่ยกของหนักและไม่ควรยกแขนสูงในช่วง 7 วันแรก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบของแผลผ่าตัด
  • ควรพักรักษาตัวที่บ้าน 2 สัปดาห์และสามารถกลับไปทำงานปกติได้
  • ควรงดออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ แต่สามารถเดินเบา ๆ เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
  • แผลผ่าตัดมักจะแดงและนูนเล็กน้อยในช่วง 1-3 เดือนแรก และจางลงในเวลา 6-12 เดือน จึงควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างการพักฟื้น  
  • ทานอาหารสุขภาพ งดอาหารที่มีโซเดียมสูงเพราะอาจทำให้อาการบวมแย่ลง รับประทานไฟเบอร์และดื่มน้ำมาก ๆ
ทำไมต้อง 360 body contouring

ยกกระชับหน้าอก ทำไมต้องรัตตินันท์ คลินิก

  • เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1999 ภายใต้แนวคิด The Aesthetic Wisdom
  • ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดได้ทุกเทคนิค ออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน
  • มาตรฐานความปลอดภัยผ่านการรับรองจาก AACI 3 ปีซ้อน
  • การดูแลแบบใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ปรึกษา วิเคราะห์สาเหตุและปัญหา การผ่าตัด ไปจนถึงติดตามผล
  • การให้คำปรึกษาที่ซื่อสัตย์ ไม่ชักจูงให้ทำมากเกินความจำเป็น ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงให้กังวล
  • การติดตามผลระยะยาว เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ให้บริการแบบส่วนตัว สัมผัสได้ถึงการผ่อนคลายทุกชั่วขณะ

FAQs คำถามที่พบบ่อย

การยกกระชับหน้าอกสามารถแก้ไขปัญหาดังนี้

  • หน้าอกหย่อนคล้อยทุกระดับ (Grade I-III)
  • หัวนมที่อยู่ต่ำเกินไป
  • หัวนมที่ใหญ่เกินสัดส่วน
  • หน้าอกที่ไม่สมมาตรกัน
  • ผิวหนังหน้าอกที่ยืดหย่อน

การยกกระชับหน้าอกให้ผลลัพธ์ที่ดีมากสำหรับคนที่มีปัญหาเหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยแต่มีเนื้อเยื่อเพียงพอ ผลลัพธ์จะคงอยู่นาน แต่ต้องรับทราบถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงด้วย

ระยะฟื้นตัวขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้

  • Crescent/Donut Lift: 7-14 วัน
  • Lollipop Lift: 14-21 วัน
  • Anchor Lift: 21-28 วัน

โดยทั่วไปจะสามารถกลับไปทำงานได้ใน 1-2 สัปดาห์ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก 4-6 สัปดาห์

ปกติจะเป็น Day Case Surgery คือทำเสร็จกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน หรืออาจต้องค้างคืนหนึ่งคืนในกรณีที่เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และสภาพร่างกายของผู้รับบริการ

แผลเป็นจากการยกกระชับหน้าอกจะค่อย ๆ จางลงตามเวลา

  • 1-3 เดือนแรก แผลจะมีสีแดงและค่อนข้างเด่น
  • 6 เดือน แผลเริ่มจางลงและแบนเรียบ
  • 1-2 ปี แผลจะจางมากขึ้นและกลมกลืนกับผิวหนังธรรมชาติ

การดูแลแผลที่ถูกต้องและการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลแผลเป็นจะช่วยให้แผลสวยขึ้น ทั้งนี้ คลินิกเรามีบริการเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นให้ฟรีในแผน aftercare

การยกกระชับอาจทำให้หน้าอกดูเล็กลงเล็กน้อย เพราะมีการตัดผิวส่วนเกินและจัดรูปทรงใหม่ หากต้องการคงขนาดหรือเพิ่มขึ้น อาจพิจารณาการรวมกับการเสริมหน้าอก

ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ใน 7-10 วัน สำหรับงานที่ไม่ต้องใช้แรงมาก หากงานต้องยกของหนักหรือออกแรงมาก อาจต้องพักนาน 2-3 สัปดาห์ ทีมแพทย์จะให้คำแนะนำตามลักษณะงานของแต่ละคน

การยกกระชับเพียงอย่างเดียวไม่ควรทำให้หน้าอกรู้สึกแข็ง เพราะไม่มีการใส่วัตถุแปลกปลอมเข้าไป ในช่วงแรกอาจรู้สึกตึงจากการบวมและการปรับตัวของเนื้อเยื่อ แต่จะค่อย ๆ นิ่มและเป็นธรรมชาติขึ้น

การยกกระชับหน้าอกเป็นศัลยกรรมที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย โดยมีเทคนิคที่หลากหลายให้ศัลยแพทย์เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน ที่ Rattinan Clinic เราให้ความสำคัญกับการปรึกษาที่ละเอียดและการวางแผนการรักษาที่เป็นรายบุคคล

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล และเข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของการรักษาอย่างครบถ้วน เราแนะนำให้ปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ


แหล่งอ้างอิง

คำเตือน ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ควรใช้แทนการปรึกษาศัลยแพทย์ การตัดสินใจรับการรักษาควรทำหลังจากได้รับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรงเท่านั้น