หากคุณกำลังกังวลว่าทำไมหน้าอกถึงดูไม่เหมือนเดิม นั่นอาจเป็นเพราะมาจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ การตั้งครรภ์ หรือการลดน้ำหนัก ทำให้หน้าอกเริ่มหย่อนคล้อย สูญเสียความตึงกระชับที่เคยมี วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องยกกระชับหน้าอก หรือ Mastopexy ผ่านประสบการณ์ของทีมแพทย์มาเล่าให้ฟัง พร้อมเทคนิคเฉพาะที่ Rattinan Clinic ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอน
ยกกระชับหน้าอก คืออะไร
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ยกกระชับหน้าอก (Mastopexy) ไม่ใช่การ “เสริมหน้าอก” แต่อย่างใด แต่ว่าเป็นศัลยกรรมที่มุ่งเน้นการปรับรูปทรงและตำแหน่งของหน้าอกที่มีอยู่แล้วให้กลับมาตั้งสวยเหมือนเดิม
จากประสบการณ์ที่คลินิก เราพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าต้อง “เสริม” ก่อนจึงจะสวยได้ แต่จริง ๆ แล้ว การยกกระชับอาจเป็นคำตอบที่เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกเพียงพอ แต่เพียงแค่อยากให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
สาเหตุที่ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย
มาดูสาเหตุกันก่อนว่าทำไมหน้าอกถึงเปลี่ยนไป เพื่อที่เราจะได้เข้าใจว่าการยกกระชับจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
1. อายุที่มีการเปลี่ยนแปลง
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและเอ็นยึดรั้งธรรมชาติจะค่อย ๆ หย่อนลง รวมถึงคอลลาเจนในผิวหนังที่ลดลง ทำให้หน้าอกสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย
2. การตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ระหว่างตั้งครรภ์ หน้าอกจะขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมให้นมบุตร หลังจากหย่านม ขนาดหน้าอกจะลดลง แต่ผิวหนังที่ยืดออกไปแล้วมักไม่กลับมาตึงเหมือนเดิม
3. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
เมื่อน้ำหนักลดลงเร็ว เนื้อเยื่อไขมันในหน้าอกจะหายไป แต่ผิวหนังที่ยืดออกไปแล้วจะไม่กลับมาตึงตามสัดส่วนใหม่
4. พันธุกรรม
บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังและเอ็นรั้งหย่อนง่ายกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่สามารถป้องกันได้
ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก (Breast Ptosis Grade)
ในทางการแพทย์ เราจะแบ่งระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอกออกเป็น 4 ระดับ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสม ดังนี้
Grade 0 (ปกติ)
หัวนมอยู่เหนือหรือในระดับเดียวกับรอยพับใต้หน้าอก (Inframammary fold)
Grade I (หย่อนเล็กน้อย)
หัวนมอยู่ในระดับรอยพับใต้หน้าอก แต่ยังสูงกว่าส่วนล่างสุดของหน้าอก
Grade II (หย่อนปานกลาง)
หัวนมอยู่ต่ำกว่ารอยพับใต้หน้าอก แต่ยังอยู่เหนือส่วนล่างสุดของหน้าอก
Grade III (หย่อนมาก)
หัวนมอยู่ในระดับส่วนล่างสุดของหน้าอกหรือต่ำกว่า และชี้ลงด้านล่าง
สำคัญ การประเมินระดับความหย่อนคล้อยต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแต่ละคนมีรูปร่างและสัดส่วนที่แตกต่างกัน
ยกกระชับหน้าอก เหมาะกับใคร และ ไม่เหมาะกับใคร
ใครบ้างที่เหมาะกับการยกกระชับหน้าอก
- คนที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย ทุกระดับ (Grade I-III) ที่อยากได้หน้าอกกระชับขึ้น
- หัวนมและบริเวณรอบหัวนมอยู่ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับสัดส่วนของร่างกาย
- หัวนมที่ใหญ่เกินสัดส่วน และต้องการปรับขนาดให้เหมาะสม
- ไม่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก แต่อยากให้รูปทรงสวยขึ้น
- หน้าอกไม่สมมาตรกัน และต้องการปรับให้เท่ากัน
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการยกกระชับหน้าอก
- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรรอให้หย่านมอย่างน้อย 6 เดือน
- วางแผนจะมีลูกในอนาคตอันใกล้ การตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อรูปทรงหน้าอกที่ได้รับการผ่าตัด
- มีโรคประจำตัวที่รุนแรง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้
- มีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการผ่าตัด
- มีประวัติการสูบบุหรี่ ควรหยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
เทคนิคการยกกระชับหน้าอก เฉพาะที่รัตตินันต์ คลินิก
ที่คลินิกของเรา เรามีเทคนิคการยกกระชับหน้าอกหลายแบบ โดยจะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เทคนิคพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Lift)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยน้อยมาก (Grade I)
ทำการตัดผิวหนังรูปพระจันทร์เสี้ยวเล็ก ๆ เหนือหัวนม ข้อดีคือแผลเป็นน้อย แต่ปรับได้น้อยเช่นกัน เหมาะกับคนที่ต้องการปรับเล็กน้อย
เทคนิคโดนัท (Donut Lift)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย (Grade I-II)
ตัดผิวหนังรอบ ๆ หัวนมเป็นวงกลม แผลเป็นจะอยู่รอบขอบหัวนมเท่านั้น เทคนิคนี้ให้ผลการปรับได้มากกว่า Crescent แต่ยังคงแผลเป็นน้อย
เทคนิคอมยิ้ม (Lollipop Lift)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยปานกลาง (Grade II)
รอยแผลจะมีลักษณะเหมือนอมยิ้ม คือวงกลมรอบหัวนมต่อด้วยเส้นตรงลงมาถึงรอยพับใต้หน้าอก สามารถปรับรูปทรงได้ดีและลดขนาดหัวนมได้ด้วย
เทคนิคสมอเรือ (Anchor Lift)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก (Grade III)
เป็นเทคนิคที่ครอบคลุมที่สุด รอยแผลจะมีรูปร่างคล้ายสมอเรือ ประกอบด้วยวงกลมรอบหัวนม เส้นตรงลงมา และเส้นโค้งตามรอยพับใต้หน้าอก สามารถปรับแก้ได้มากที่สุด
เทคนิค Dual Plane (การรวมกับเสริมหน้าอก)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการทั้งยกกระชับและเพิ่มขนาด
เป็นการรวมเทคนิคยกกระชับเข้ากับการเสริมหน้าอก เหมาะสำหรับคนที่หน้าอกเหี่ยวย่นมากและต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย
| เทคนิค | ระดับความหย่อนคล้อย | ตำแหน่งแผลเป็น | ระยะเวลาผ่าตัด | ระยะฟื้นตัว |
| Crescent Lift | Grade I | เหนือหัวนม | 1-2 ชั่วโมง | 7-10 วัน |
| Donut Lift | Grade I-II | รอบหัวนม | 1.5-2.5 ชั่วโมง | 10-14 วัน |
| Lollipop Lift | Grade II | รอบหัวนม + เส้นตรง | 2-3 ชั่วโมง | 14-21 วัน |
| Anchor Lift | Grade III | รูปสมอเรือ | 2.5-3.5 ชั่วโมง | 21-28 วัน |
| Dual Plane | ทุก Grade + ต้องการขนาดใหญ่ขึ้น | ขึ้นกับเทคนิคที่ใช้ | 3-4 ชั่วโมง | 21-30 วัน |
ยกกระชับหน้าอก ต่างกับ เสริมหน้าอกอย่างไร
เราพบว่าคำถามนี้ได้ถูกถามกันบ่อยมากเวลาผู้รับบริการเข้ามาปรึกษาที่คลินิก และยังเป็นข้อสงสัยที่สำคัญ เพราะหลายคนไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่
- เน้นปรับรูปทรงและตำแหน่ง
- ใช้เนื้อเยื่อที่มีอยู่แล้ว
- ไม่เพิ่มขนาดหน้าอก
- เหมาะกับคนที่มีหน้าอกเพียงพอแล้ว
- ลดความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอม
- เน้นเพิ่มขนาดและปริมาตร
- ใช้ Implant หรือไขมันตัวเอง
- ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น
- เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าอกใหญ่ขึ้น
- ต้องมีการติดตามระยะยาว
ยกกระชับหน้าอก พร้อมเสริมหน้าอกได้ไหม
ได้แน่นอน นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า เทคนิค Dual Plane (เทคนิคการเสริมหน้าอก) ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยแล้วยังต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย โดยจะทำการยกกระชับพร้อมกับใส่ Implant ในขั้นตอนเดียวกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ผู้เคยรับบริการหลายคนพึงพอใจทั้งรูปทรงและขนาด
ข้อดีของการยกกระชับหน้าอกแบบผ่าตัด
- ผลลัพธ์ยั่งยืนและเด่นชัด สามารถปรับปรุงรูปทรงหน้าอกได้อย่างชัดเจน
- ปรับได้ตามสัดส่วน ศัลยแพทย์สามารถปรับรูปทรงให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
- ปรับขนาดหัวนมได้ด้วย หากหัวนมใหญ่เกินไป สามารถลดขนาดให้เหมาะสมในขั้นตอนเดียวกัน
- แก้ปัญหาไม่สมมาตร สามารถปรับให้หน้าอกทั้งสองข้างดูเท่ากันมากขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจ หลายคนรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองหลังได้รับการผ่าตัด
ยกกระชับหน้าอก แบบไม่ผ่าตัดทำได้ไหม
มีคนถามเรื่องนี้กันเยอะมากเช่นกัน เพราะใครก็อยากได้ผลดี ๆ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่เราต้องซื่อสัตย์กันว่า
ข้อจำกัดของการกระชับหน้าอกแบบไม่ผ่าตัด
- ผลลัพธ์จำกัด สามารถช่วยได้เล็กน้อยเท่านั้น
- ไม่ถาวร ผลจะค่อย ๆ หายไปตามเวลา
- เหมาะกับความหย่อนคล้อยเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เหมาะกับ Grade II-III
- ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ได้
- ไม่สามารถปรับขนาดหัวนมได้ จำกัดเฉพาะการกระชับผิวหนัง
วิธีไม่ผ่าตัดที่มีอยู่ ได้แก่ การใช้เลเซอร์ เครื่องพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ หรือ คลื่นวิทยุ (RF) แต่ผลลัพธ์จะจำกัดมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
ข้อจำกัดของการกระชับหน้าอกแบบผ่าตัด
เพื่อความเป็นธรรม ต้องบอกข้อจำกัดของการผ่าตัดด้วย เช่น
- มีแผลเป็น แม้จะพยายามทำให้น้อยที่สุด แต่ก็จะมีแผลเป็นอยู่
- ระยะฟื้นตัว ต้องพักฟื้นและระมัดระวังตัว 2-4 สัปดาห์
- ความเสี่ยงจากการผ่าตัด แม้จะน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดทั่วไป
- ค่าใช้จ่าย สูงกว่าการรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- อาจต้องแก้ไขซ้ำ ในบางกรณีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
น.ต.นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง
ในการทำศัลยกรรมเสริมความงามที่ รัตตินันท์ คลินิก น.ต.นพ. จตุพร เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการมากมาย ท่านมีความสามารถเฉพาะทางด้านศัลยกรรมหน้าอก และมุ่งมั่นในการให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมาเพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดของผู้รับบริการ
ปรัชญาในการรักษา “ความสวยที่แท้จริงคือความสวยที่เข้ากับตัวคุณเอง ไม่ใช่การเลียนแบบใครเป็นแบบอย่าง”
ยกกระชับหน้าอก ราคาเท่าไหร่?
ราคาการยกกระชับหน้าอกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- เทคนิคที่ใช้ เทคนิคที่ซับซ้อนกว่าจะมีราคาสูงกว่า
- ความยุ่งยากของแต่ละกรณี การแก้ไขที่ซับซ้อนใช้เวลาและทักษะมากกว่า
- การรวมกับการรักษาอื่น เช่น การเสริมหน้าอกพร้อมกัน
หัตถการผ่าตัดยกกระชับ | ราคาเริ่มต้น |
ตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck | 290,000 บาท |
Belt lipectomy | 500,000 บาท |
ยกกระชับหน้าอก | 70,000 - 180,000 บาท |
ยกกระชับหน้าอกแผลแบบพระจันทร์คว่ำ level1 | 150,000 บาท |
ยกกระชับหน้าอกแผลแบบโดนัท level2 | 175,000 บาท |
ยกกระชับหน้าอกแผลแบบอมยิ้ม | 180,000 บาท |
ยกกระชับหน้าอกแผลแบบตัวที level3 | 180,000 บาท |
ผ่าตัดหนัง ยกกระชับแผ่นหลัง (Bra Line Back Lift) | 220,000 บาท |
ผ่าตัดหนัง ยกกระชับต้นแขน (Arm lift) | 220,000 บาท |
ผ่าตัดหนัง ยกกระชับต้นขา (Inner Thigh Lift) | 220,000 บาท |
ผ่าตัดหนังบั้นท้าย (Buttock lift) | 250,000 บาท |
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
- หยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ทำการตรวจสุขภาพทั่วไปตามที่แพทย์แนะนำ
- เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่ายสำหรับหลังผ่าตัด
- ให้มีผู้ช่วยดูแลในช่วงแรกหลังผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์
ดูแลตัวอย่างไรหลังรับการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
- ควรใส่ชั้นในที่ทางคลินิกเตรียมให้ หรือสวมเสื้อชั้นในแบบ Support Bra ไม่มีโครง อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อป้องกันการแยกของแผล
- รักษาแผลให้สะอาดและแห้งตามคำแนะนำ ไม่ควรให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ ในกรณีที่แผลผ่าตัดปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ
- พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบและรับคำแนะนำจากแพทย์
- พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำเพราะจะทำให้หน้าอกตึงและอาจส่งผลต่อแผลผ่าตัด อาจนอนหนุนหมอนสองสามใบเพื่อให้ศีรษะและลำตัวช่วงบนอยู่สูงเพื่อลดอาการบวม 2-3 สัปดาห์แรก
- ทานยาตามแพทย์สั่งเพื่อลดอาการปวดและการติดเชื้อที่ไม่พึงประสงค์
- แจ้งแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ
- ไม่ยกของหนักและไม่ควรยกแขนสูงในช่วง 7 วันแรก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบของแผลผ่าตัด
- ควรพักรักษาตัวที่บ้าน 2 สัปดาห์และสามารถกลับไปทำงานปกติได้
- ควรงดออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ แต่สามารถเดินเบา ๆ เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
- แผลผ่าตัดมักจะแดงและนูนเล็กน้อยในช่วง 1-3 เดือนแรก และจางลงในเวลา 6-12 เดือน จึงควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างการพักฟื้น
- ทานอาหารสุขภาพ งดอาหารที่มีโซเดียมสูงเพราะอาจทำให้อาการบวมแย่ลง รับประทานไฟเบอร์และดื่มน้ำมาก ๆ
ยกกระชับหน้าอก ทำไมต้องรัตตินันท์ คลินิก
- เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1999 ภายใต้แนวคิด The Aesthetic Wisdom
- ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดได้ทุกเทคนิค ออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน
- มาตรฐานความปลอดภัยผ่านการรับรองจาก AACI 3 ปีซ้อน
- การดูแลแบบใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ปรึกษา วิเคราะห์สาเหตุและปัญหา การผ่าตัด ไปจนถึงติดตามผล
- การให้คำปรึกษาที่ซื่อสัตย์ ไม่ชักจูงให้ทำมากเกินความจำเป็น ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงให้กังวล
- การติดตามผลระยะยาว เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ให้บริการแบบส่วนตัว สัมผัสได้ถึงการผ่อนคลายทุกชั่วขณะ
FAQs คำถามที่พบบ่อย
การยกกระชับหน้าอกสามารถแก้ไขปัญหาดังนี้
- หน้าอกหย่อนคล้อยทุกระดับ (Grade I-III)
- หัวนมที่อยู่ต่ำเกินไป
- หัวนมที่ใหญ่เกินสัดส่วน
- หน้าอกที่ไม่สมมาตรกัน
- ผิวหนังหน้าอกที่ยืดหย่อน
การยกกระชับหน้าอกให้ผลลัพธ์ที่ดีมากสำหรับคนที่มีปัญหาเหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยแต่มีเนื้อเยื่อเพียงพอ ผลลัพธ์จะคงอยู่นาน แต่ต้องรับทราบถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงด้วย
ระยะฟื้นตัวขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้
- Crescent/Donut Lift: 7-14 วัน
- Lollipop Lift: 14-21 วัน
- Anchor Lift: 21-28 วัน
โดยทั่วไปจะสามารถกลับไปทำงานได้ใน 1-2 สัปดาห์ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก 4-6 สัปดาห์
ปกติจะเป็น Day Case Surgery คือทำเสร็จกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน หรืออาจต้องค้างคืนหนึ่งคืนในกรณีที่เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และสภาพร่างกายของผู้รับบริการ
แผลเป็นจากการยกกระชับหน้าอกจะค่อย ๆ จางลงตามเวลา
- 1-3 เดือนแรก แผลจะมีสีแดงและค่อนข้างเด่น
- 6 เดือน แผลเริ่มจางลงและแบนเรียบ
- 1-2 ปี แผลจะจางมากขึ้นและกลมกลืนกับผิวหนังธรรมชาติ
การดูแลแผลที่ถูกต้องและการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลแผลเป็นจะช่วยให้แผลสวยขึ้น ทั้งนี้ คลินิกเรามีบริการเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นให้ฟรีในแผน aftercare
การยกกระชับอาจทำให้หน้าอกดูเล็กลงเล็กน้อย เพราะมีการตัดผิวส่วนเกินและจัดรูปทรงใหม่ หากต้องการคงขนาดหรือเพิ่มขึ้น อาจพิจารณาการรวมกับการเสริมหน้าอก
ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ใน 7-10 วัน สำหรับงานที่ไม่ต้องใช้แรงมาก หากงานต้องยกของหนักหรือออกแรงมาก อาจต้องพักนาน 2-3 สัปดาห์ ทีมแพทย์จะให้คำแนะนำตามลักษณะงานของแต่ละคน
การยกกระชับเพียงอย่างเดียวไม่ควรทำให้หน้าอกรู้สึกแข็ง เพราะไม่มีการใส่วัตถุแปลกปลอมเข้าไป ในช่วงแรกอาจรู้สึกตึงจากการบวมและการปรับตัวของเนื้อเยื่อ แต่จะค่อย ๆ นิ่มและเป็นธรรมชาติขึ้น
การยกกระชับหน้าอกเป็นศัลยกรรมที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย โดยมีเทคนิคที่หลากหลายให้ศัลยแพทย์เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน ที่ Rattinan Clinic เราให้ความสำคัญกับการปรึกษาที่ละเอียดและการวางแผนการรักษาที่เป็นรายบุคคล
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล และเข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของการรักษาอย่างครบถ้วน เราแนะนำให้ปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ
แหล่งอ้างอิง
- American Society of Plastic Surgeons – Breast Lift Guidelines
- International Society of Aesthetic Plastic Surgery – Mastopexy Techniques
คำเตือน ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ควรใช้แทนการปรึกษาศัลยแพทย์ การตัดสินใจรับการรักษาควรทำหลังจากได้รับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรงเท่านั้น
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ