ใครจะคิดว่า โรคเบาหวาน นั้นไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับคนสูงวัยเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสเกิดได้ทั้งเด็ก วัยรุ่น จากผลการวิจัยพบว่าสาเหตุของโรคเบาหวานได้นั้นมาจากการเลือกรับประทานและบวกกับการมีวิถีชีวิตติดด่วนหรือเร่งรีบเกินไป วันนี้เรา มารู้จักกับโรคนี้กันก่อนว่ามีที่มาจากไหน ช่วงท้ายมีวิธีแก้รออยู่ โดยใช้ สมุนไพรแก้เบาหวาน
แน่นอนว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะเป็นโรคเบาหวานที่สร้างความทรมานให้กับคนที่เป็นยิ่งกว่าอะไร เพราะคุณอาจจะต้องงดรับประทานของโปรดและใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากกว่าเดิมหลายเท่าจนคุณอาจจะกลายเป็นโรคประสาท เอาเป็นว่าอย่าชะล่าใจสำหรับหนุ่มสาวที่กำลังมองว่าตัวเองยังอายุน้อยและแข็งแรงอยู่เพราะโลกนี้ไม่เกี่ยวว่ามันจะเกิดขึ้นกับคนประเภทไหนและอายุเท่าไรแต่ใดที่คุณไม่สามารถที่จะดูแลสุขภาพของคุณได้ดี มันจะมายืนคุณแน่
จริง ๆ แล้วโรคเบาหวานเป็นความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอจึงทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูง ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อไปใช้พลังงานภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลินแต่สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นฮอร์โมนอินซูลินจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดร่างกายไม่สามารถที่จะกักเก็บน้ำตาลไว้ได้ก็จึงปล่อยออกพร้อมปัสสาวะได้และเป็นโรคเบาหวานในที่สุด
ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาในระยะยาวจะส่งผลให้หลอดเลือดถูกทำลายลงซึ่งจะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นที่รุนแรงได้เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองโรคไตวายเรื้อรัง โรคอัมพฤกษ์อัมพาตจากเส้นโลหิตสมองตีบ ตาอาจบอดจากเบาหวานขึ้นตาและโรคของหลอดเลือดส่วนปลาย ซึ่งจากการสำรวจประชากรทั่วโลกที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นส่วนใหญ่แล้วประชากรที่เป็นโรคเบาหวานจะเป็นชาวเอเชียถึงสี่ในห้าของประชากรทั่วโลก tag สมุนไพรแก้เบาหวาน
กลับสู่สารบัญ8 สมุนไพรแก้เบาหวาน
เนื่องด้วยเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยงว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ ทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุก็มาจากพฤติกรรมในการรับประทาน ละรวมไปถึง พันธุกรรมด้วย แล้วจะดีกว่าไหม ที่จะหันมาใส่ใจในการเลือกรับประทานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะยกสมุนไพรมาช่วยคุณแก้เบาหวานไปพร้อม ๆ กันด้วย
1. มะเขือพวง สมุนไพรแก้เบาหวาน ในครัว
ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายเมนู ไม่ว่าจะ แกงเขียวหวาน พะแนง หรือแม้แต่ในน้ำพริกซึ่งสรรพคุณของมะเขือพวงก็ไม่ธรรมดาเลยเพราะมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยมและยังช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
2. ขิง
ขิงคือสมุนไพรชั้นดีที่ได้จากธรรมชาติและเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงทราบถึงสรรพคุณของเขาดีเป็นอย่างดี และขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน มีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจึงเหมาะกับผู้ที่กำลังป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน
พร้อมด้วยมีผลการทดลองเปิดเผยว่าหนูที่ใช้ในการทดลองได้รับสารสกัดจากขิงทุก ๆ วัน ตลอดระยะ 5 สัปดาห์ ผลที่ได้คือระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดก็ลดลง แถมยังส่งผลทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
3. ขมิ้น
สมุนไพรสีเหลืองทองชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานได้อีกด้วย
เพราะในขมิ้นนั้นมี Curcumin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ฉะนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเบาหวาน ถ้าหากได้บำรุงด้วย Curcumin เป็นประจำจะทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้นั่นเอง
4. บอระเพ็ด
สำหรับสมุนไพรชนิดนี้ ถือเป็น สมุนไพรแก้เบาหวาน ที่มีรสชาติขมเอามาก ๆ หลายคนถึงไม่ค่อยชอบรับประทานเท่าไหร่ แต่ทราบกันหรือไม่ว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรที่อยู่ในตำรับยาไทยเลยนะ มีสรรพคุณช่วยให้การเจริญอาหาร ลดอาการปวดหัว และยังมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจอีกด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นบอระเพ็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แถมไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายอะไรอีกด้วย แต่สมุนไพรชนิดนี้จะค่อนข้างทานยากหน่อย แต่อย่างลืมว่าหวานเป็นลม ขมเป็นยากันด้วยนะ
5. มะระขี้นก
มะระขี้นกเป็นสมุนไพรที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรงที่ปัจจุบันมีแบบเม็ดจำหน่ายแล้ว จึงเป็นผักที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานมากที่สุด เพราะในมะระขี้นกนั้นจะมีสาร Charantin ที่นอกจากจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก็ยังต้านอาการของโรคเบาหวาน ช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อนนอกจากช่วยในเรื่องการเผาผลาญน้ำตาลในเลือดได้ ถ้าหากใครที่กินมะระขี้นกเป็นประจำก็สามารถชะลอการผิดปกติของไต ช่วยชะลอการเกิดโรคตา อย่างต้อกระจกในผู้ป่วยเบาหวาน
6. ตำลึง
เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี แค่รับประทาน 50กรัม ติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยไปเน้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
7. ชาเขียว (แท้)
ในชาเขียวมีสาร Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ชาเขียวเลยจะเหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานมาก เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลินและยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
8. กระเจี๊ยบเขียว
ผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมีไฟเบอร์สูงแถมยังเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ทำหน้าที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง
สุดท้ายนี้หลังจากที่ได้ 8 สมุนไพรแก้เบาหวาน ไปแล้วก็ลองเลือกเป็นเมนูที่ช่วยในการลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวานด้วยนะคะ
กลับสู่สารบัญ8 สาเหตุการเกิดโรคเบาหวาน
การแสดงออกในการรับประทานอาหารในหมู่ของชาวตะวันตก เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก เค้ก พิซซ่า และของหวานต่าง ๆ ที่ทั้งกลอนเข้างานและระหว่างทำงานอาหารพวกนี้จัดว่ามีไขมันที่สูงเช่นนั้นแน่นอนว่าโรคเบาหวานมันชอบนักแหละ
1.มีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ
ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนแทบจะไม่ได้หยุดพักหายใจให้ท่วมปอดวันๆ มีแต่เรื่องงานในหัวเร่งรีบทำนู่นนี่นั่นไปเสียทุกอย่างทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดโรคเบาหวานเลยถามหา
2.ละเลยในการรับประทานอาหาร
ก็ประมาณว่างเสียเวลาในการทำงานไม่ต้องกินก็ได้รอบนี้ เอาไว้รวบยอดตอนกลางคืนเลยแล้วกัน ทำงานจนลืมกินข้าวปลากินอาหารไม่ตรงเวลานกเบาหวานก็มาหาแน่
3.น้ำที่ได้ไม่เพียงพอ
วันหนึ่งดื่มน้ำไม่ถึง 8 แก้วแก้วเดียวแทบจะไม่ได้ดื่มแบบนี้ตัวชอบของโรคเบาหวานเลยนะ
4.นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะตลอดทั้งวัน
แน่ใจว่าไม่ยอมลุกไปไหนฝากเพื่อนซื้อข้าวมาให้บ้างแหละ ไวน์หวานคนอื่นบ้างแหละ ไม่คิดทำอะไรด้วยตัวเองแบบนี้เบาหวานสิงร่างคุณได้ง่ายมาก
5.ดื่มกาแฟทีหลายแก้ว
บางคนยิ่งมีอายุที่มากขึ้นก็มองว่าการได้รับปริมาณในการรับประทานดื่มก็ต้องมากตาม ลงไปแข็งน้ำอัดลมเครื่องดื่มมึนเมาและตามมาด้วยการสูบบุหรี่นัก คุณคิดว่าจะหลีกเลี่ยงเบาหวานไปได้ไหมล่ะ
6.มีผู้ก่อตั้งหรือพันธุกรรม
ข้อนี้คุณไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หากว่า พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ทวด เป็นผู้ก่อตั้งโอกาสได้รับเชื้อเบาหวานก็มากตาม
7.ติดกินกรุบกรอบ
ระหว่างเรียนหรือทำงาน ต้องมีบ้างแหละ ถุง สองถุง แต่ดูดี ๆ นะ คุณอาจเป็นผู้โชคดีได้ระบบรางวัลที่อยู่ข้างในถุงด้วย นั่นก็คือ เบาหวาน
8.น้ำหนักเกินกิโล
เมื่อมีน้ำหนักมากกว่ามาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วนก็มีโอกาสเสี่ยงสูงมากในการเป็นโรคเบาหวาน
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ 'โรคเบาหวาน'
น้ำตาล
คือ หนึ่งในอนุพันธ์ของคาร์โบไฮเดรส หรือกลุ่มแป้งที่เป็นพลังงานให้กับร่างกาย
คาร์โบไฮเดรสมีหลายอย่างเวลาที่ระวังน้ำตาล บางคนระวังแค่ของหวาน ๆ ระวังแค่ลูกอม หรืออะไรก็ตามแต่ต้องระวังไปถึงแป้งด้วย แป้งก็ถูกจัดว่าเป็นน้ำตาล ผลไม้ก็มีหลายอย่างที่น้ำตาลสูงมาก บางคนลดน้ำหนักด้วยการทานผลไม้แล้วไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะว่าน้ำตาลสูงก็ยังคงต้องอ้วนอยู่ดี
น้ำตาลที่อยู่ใกล้ตัวและเป็นภัยกว่าน้ำตาลทั่วไป คืออะไร
น้ำตาลในกลุ่มนี้เรียกว่า High Fructose Corn Syrup (HFCS) เป็นน้ำตาลฟรุคโตสชนิดพิเศษ ไม่ใช่น้ำตาลธรรมชาติ น้ำตาลชนิดนี้ จริง ๆ ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1966 โดยคนญี่ปุ่น ซึ่งเขาผลิตขึ้นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมด้านอาหาร น้ำตาลชนิดนี้จะมีหวานกว่าน้ำตาลกลูโคส และมีราคาถูกกว่ามากส่วนใหญ่ทำมาจากน้ำตาลอ้อย โดยการผ่านกรรมวิธีจนเข้มข้น ฉะนั้นน้ำตาลชนิดนี้เลยที่เป็นศัตรูอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคขึ้นในปัจจุบันนี้
จุดสังเกตในการเลี่ยง High Fructose Corn Syrup (HFCS)
โดยกลไกของอุตสาหกรรมบางครั้งเขียนน น้ำตาล 0 % หรือ Sugar Free หรืออะไรก็ตามแต่ให้สังเกตด้านล่างด้วยบางทีเขาเขียน คอร์นไซรัป คือมีน้ำตาลข้าวโพด หรือน้ำตาลอ้อย หรืออะไรก็ตามแต่อย่างที่เรียกว่า ไฮฟรุคโตส ตัวนี้ก็เรียกน้ำตาลเหมือนกันและอันตรายยิ่งกว่าเพราะเป็นน้ำตาลที่ถูกผลิตไม่ใช่ได้มาจากธรรมชาติ
น้ำตาล High Fructose Corn Syrup (HFCS)ถูกผสมไว้อยู่ที่ไหนบ้าง
ดังนั้นแล้วในอุตสาหกรรมจะมีอะไรบ้างที่ใส่ High Fructose Corn Syrup (HFCS) ตัวนี้ ขอไล่ไปเลยแล้วกัน เพราะใกล้ตัวมาก เช่น เครื่องดื่มหวาน ๆ เครื่องดื่มน้ำอัดลม นมผงเด็ก บางครั้งพบเจอได้ในซีเรียล ธัญพืช ขนม ใกล้ตัวเข้าไปอีกคือซอสมะเขือเทศ หรือซอสที่เราใช้ในครัวเรือนนี่คือความน่ากลัว ซึ่งคนในปัจจุบันนี้มีปัญหาในเรื่องของน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักเยอะ คุณภาพชีวิตก็จะเสีย น้ำหนักมาก ความอ้วนก็มาเยือน อายุที่เหลืออยู่ก็น้อยลง และมีคุณภาพน้อย
เหตุผลนี้อุตสาหกรรมอาหารถึงใช้ High Fructose Corn Syrup (HFCS) เป็นน้ำตาลกระตุ้นให้ทานแล้วไม่รู้สึกอิ่ม
Reference :
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์