หน้าตอบ ขาดวอลลุ่ม ไม่ได้แค่ทำให้หน้าดูโทรม แต่ยังส่งผลให้เราดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส แม้พักผ่อนเพียงพอ บางคนอาจไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือ สัญญาณแรกของผิวที่เริ่มโรย แต่ข่าวดีคือ มีวิธีเติมเต็มแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม แค่เข้าใจโครงสร้างผิว ก็เริ่มฟื้นฟูหน้าให้กลับมาเต็มได้แล้ว
หน้าตอบคืออะไร? ทำไมทำให้ดูโทรมเกินวัย
หน้าตอบ คือภาวะที่ใบหน้าบางส่วนขาดวอลลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณขมับ แก้มล่าง หรือใต้ตา เกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง กระดูกใบหน้าทรุดตัวลง หรือคอลลาเจนลดตามวัย ผลคือใบหน้าจะดูแบน หรือมีมุมลึกอย่างเห็นได้ชัด จนเหมือนคนอดนอนตลอดเวลา
ปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวกับอายุเสมอไป บางคนอายุยังน้อยแต่พันธุกรรมหรือรูปร่างผอมก็ทำให้หน้าตอบได้ และเมื่อองค์ประกอบบนใบหน้าขาดสมดุล อารมณ์ที่สะท้อนออกมาก็มักดูเศร้า เหนื่อยล้า ไม่สดใส จากภายนอก มันคือความโทรม แต่จากภายใน… มันคือความมั่นใจที่ค่อย ๆ หายไปโดยไม่รู้ตัว
ตาโหล เบ้าตาลึก หนึ่งในสัญญาณของใบหน้าขาดวอลลุ่ม
หลายคนอาจคิดว่า ตาโหล เป็นแค่ปัญหานอนน้อย หรือเหนื่อยล้า แต่ความจริงแล้ว ตาโหลและเบ้าตาลึก คือสัญญาณแรก ๆ ของ การสูญเสียวอลลุ่มบริเวณใต้ตา ซึ่งส่งผลถึงภาพรวมของใบหน้าอย่างชัดเจน
เมื่อเบ้าตาดูลึก จะทำให้ใบหน้าดูโทรม เศร้า หรือเหมือนคนป่วย ยิ่งในคนที่มีแก้มตอบ หรือหน้าตอบร่วมด้วย ใบหน้าจะดูซูบเกินวัย ขาดเสน่ห์ และความสดใส
ในแง่ของ การวิเคราะห์องค์ประกอบใบหน้า บริเวณ ใต้ตา – แก้มกลาง – ขมับ เป็นจุดสำคัญของ Volume Triangle ถ้า 3 จุดนี้ขาดวอลลุ่ม ใบหน้าจะดูแบน ขาดความอวบอิ่ม
การเติมเต็มในจุดเล็ก ๆ อย่างใต้ตา จึงส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าสดใสขึ้น พร้อมปลุกความสดชื่นให้ดวงตาอีกครั้ง
แก้มตอบ แก้ยังไง? ตัวเลือกที่มีมาตรฐานและเห็นผลได้เลย
แก้มตอบ ขาดวอลลุ่ม ไม่ใช่แค่ปัญหาความงามเล็ก ๆ แต่มันเปลี่ยนภาพลักษณ์โดยรวมให้ใบหน้าดูซูบ ซีด และดูเหนื่อย ปัจจุบันเรามีทางเลือกหลายแบบที่ช่วยเติมเต็มจุดนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้นนานหรือผ่าตัด
1. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid)
ใช้สารเติมเต็มเนื้อนุ่มฉีดบริเวณแก้มกลางหรือข้างแก้ม ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูแน่นขึ้นทันที เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาแก้มตอบเล็กน้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6–18 เดือน และสามารถเติมเพิ่มได้เรื่อย ๆ
- ข้อดี เห็นผลไว / ไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อสังเกต ถ้าฉีดเยอะ อาจต้องใช้เทคนิคการวางชั้นที่แม่นยำ เพื่อไม่ให้ดูบวม
ดูรายละเอียดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่นี่
2. Radiesse (CaHA Filler)
สารเติมเต็มที่เสริมและกระตุ้นคอลลาเจนในตัว เนื้อฟิลเลอร์แน่น กระจายตัวดี เหมาะกับผู้ที่มีโครงหน้าเล็ก หรือผิวบาง Radiesse จะให้ผลลัพธ์ทันที และดีขึ้นต่อเนื่องใน 1–3 เดือนหลังฉีด
- ข้อดี กระตุ้นคอลลาเจน / ผลลัพธ์นาน 12–24 เดือน
- ข้อสังเกต ไม่สามารถสลายได้ด้วยเอนไซม์เหมือน HA จึงต้องใช้แพทย์เฉพาะทาง
3. Fat Grafting (เติมไขมันตัวเอง)
ดูดไขมันจากหน้าท้องหรือต้นขา แล้วฉีดกลับเข้าบริเวณแก้มที่ตอบ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานหลายปีในบางคน
- ข้อดี ใช้ไขมันตัวเอง / ไม่มีสารแปลกปลอม
- ข้อสังเกต ต้องพักฟื้น / ปริมาณไขมันอาจสลายบางส่วนหลังฉีด
อ่านเพิ่มเติม เติมไขมันหน้า
สรุปแบบเร็ว
ทางเลือก |
ระยะเห็นผล | ระยะเวลาคงอยู่ | ต้องผ่าตัด? |
เหมาะกับใคร |
HA Filler | ทันที | 6–18 เดือน |
ไม่ |
ต้องการปรับจุดเล็ก ๆ |
Radiesse | ทันทีและดีขึ้นเรื่อย ๆ | 12–24 เดือน |
ไม่ |
ต้องการผลนาน ไม่เติมบ่อย |
Fat Grafting | 1–2 สัปดาห์ | ถาวรบางส่วน |
จำเป็น |
อยากได้ผลระยะยาว ใช้ของตัวเอง |
วิธีเลือกเทคนิคให้เหมาะกับรูปหน้าและวัย
การฟื้นฟูหน้าตอบ ขาดวอลลุ่ม ไม่ใช่เรื่องของ เติมให้เยอะ แต่คือ เติมให้ใช่ เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีโครงสร้าง กล้ามเนื้อ และปริมาตรผิวที่แตกต่างกัน การเลือกเทคนิคที่เหมาะสม จึงต้องคำนึงถึงทั้ง รูปหน้า และ ช่วงวัย อย่างสมดุล
เลือกตามโครงสร้างใบหน้า
- หน้าเรียวยาว / ผอมกรอบ เหมาะกับ Radiesse หรือ Fat Transfer เพื่อให้เนื้อแน่นขึ้นในแนวแก้มและขมับ
- หน้าเล็ก ผิวบาง / มีร่องเล็กน้อย HA Filler แบบเนื้อนุ่มจะช่วยเติมผิวให้เต็มขึ้นโดยไม่บวมเกินไป
- เบ้าตาลึก ใต้ตาดำ / แก้มแบน ฟิลเลอร์ใต้ตาและแก้มกลาง ช่วยปรับลุคให้ดูสดใสขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึกหรือแก้มตอบ โดยแพทย์จะประเมินให้เหมาะกับแต่ละราย
เลือกตามวัย
- อายุ 25–35 ปี มักมีการยุบตัวเล็กน้อย เริ่มเติมเฉพาะจุดได้ เช่น ใต้ตา ขมับ หรือแก้ม
- อายุ 35–45 ปี วอลลุ่มเริ่มลดหลายตำแหน่ง ควรวางแผนเติมแบบโครงสร้าง
- อายุ 45 ปีขึ้นไป การเสื่อมถอยของไขมันและกระดูกใบหน้าชัด ควรใช้เทคนิคผสม เช่น HA + Radiesse หรือร่วมกับ Energy-based Devices เพื่อกระตุ้นการยกกระชับผิว
เติมไม่ใช่แค่ให้เต็ม แต่ต้อง ฟื้นคืนความสมดุลของใบหน้า
บางครั้งการเติมแค่จุดเดียว เช่น ขมับ หรือใต้ตา อาจเปลี่ยนภาพรวมใบหน้าได้เลย แพทย์จึงต้องออกแบบการรักษาโดยวิเคราะห์ใบหน้าเป็นหลัก มากกว่าการตั้งใจเลือกวิธีแบบเฉพาะเจาะจง
FAQs คำถามที่หลายคนสงสัย ก่อนเติมเต็มหน้าตอบ
หน้าตอบมักเกิดจากคอลลาเจนลดลง ไขมันใต้ผิวหายไป หรือโครงหน้าทรุดตัวตามวัย บางคนพันธุกรรมก็มีผลนะ ถ้าเริ่มรู้สึกว่าหน้าโทรมง่าย แต่งหน้ายาก หรือดูเหนื่อยแม้พักพอ นั่นแหละสัญญาณว่าควรเริ่มฟื้นฟูได้แล้ว
ขึ้นอยู่กับชนิดที่ใช้เลยค่ะ ถ้าเป็น HA Filler จะอยู่ได้ประมาณ 6–18 เดือน ส่วน Radiesse อยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่า ถ้าฉีดในตำแหน่งที่ไม่ขยับบ่อย และดูแลดี ก็อาจไม่ต้องเติมบ่อยเลยค่ะ
อันนี้เจอบ่อยมาก วิธีแก้คือเลือกเทคนิคที่ วางชั้นลึก และใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับผิวของคุณ ไม่เน้นเติมปริมาณเยอะ แต่เติมแบบออกแบบเฉพาะบุคคล ที่สำคัญ ต้องมือหมอที่เข้าใจ รูปและชั้นผิวหน้า ไม่ใช่แค่เติมให้เต็มค่ะ
HA Filler เติมแล้วเห็นผลได้เลย เนื้อนิ่ม สลายได้ เหมาะกับคนเริ่มต้นหรืออยากได้ลุคธรรมชาติ ส่วน Radiesse เติมแล้วแน่น กระชับ และกระตุ้นคอลลาเจนในตัว เหมาะกับคนที่อยากเห็นผลระยะยาว โดยไม่ต้องเติมบ่อยค่ะ
ได้ค่ะ เรียกว่า Fat Grafting เป็นการดูดไขมันจากหน้าท้องหรือต้นขามาเติมหน้า ข้อดีคือธรรมชาติและใช้ของตัวเอง แต่ผลอาจไม่เท่ากันในทุกคน เพราะไขมันบางส่วนอาจสลายไป ต้องใช้เทคนิคแม่นยำและฟื้นตัวนานกว่าฟิลเลอร์ค่ะ
เลือกคลินิกที่เปิดเผยข้อมูลชัดเจน ใช้ฟิลเลอร์แท้ทุกกล่อง ตรวจสอบ Lot ได้ และมีเคสก่อน–หลังที่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญคือแพทย์ต้องวิเคราะห์หน้าเป็น ไม่ใช่แค่ฉีดตามตำรา เพราะผลลัพธ์ที่ดีคือ “ความพอดีเฉพาะคุณ” ค่ะ
การเติมเต็มหน้าตอบ ไม่ใช่เรื่องของความงามเพียงผิวเผิน แต่มันคือการคืนมิติให้ใบหน้า คืนความมั่นใจให้กับคุณอีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะเริ่มสังเกตเห็นปัญหา หรือรู้สึกว่าอยากปรับอะไรบางอย่าง แค่เริ่มต้นด้วยการประเมินโครงหน้าแบบละเอียด แล้วให้แพทย์ช่วยออกแบบการดูแลในแบบที่เหมาะกับคุณที่สุด
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ