

โดย นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์
By Suthipong Treeratana, M.D.
ดูดไขมัน (Liposuction) คือ การขจัดไขมันเฉพาะจุดออก เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หรือในบริเวณที่ไม่สามารถเอาออกได้ด้วยวิธีอื่นๆ ได้ และไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่อย่างใด ดังนั้นการหวังว่า Liposuction แล้วผอม คงเป็นเรื่องเกินจริงนะครับ ในยุคใหม่ เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำลงมาก สามารถเลือกทำโดยยาชาอย่างเดียวในบริเวณน้อยๆ เช่น ดูดไขมันเหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้า พุง หน้าท้อง แผ่นหลัง ดูดไขมัน ราคาเหมา หรือที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คือ ส่วนต่างๆ ทดแทนการฉีดฟิลเลอร์





ส่วนไหนบ้างที่นิยม ดูดไขมัน
ดูดไขมันคางหรือเหนียง (Chin & Jowls)
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการ ยกกระชับหน้า โดยการดูไขมันส่วนที่มีการสะสมไขมันเกินออกมาอย่างเห็นได้ชัด แก้ยาก หรือคนที่มีปัญหาคางหนาเป็นชั้น และกรอบหน้าไม่ชัดเจนทำให้ดูมีอายุเกินวัย Bodytite ก็ผลิตอุปกรณ์ขนาดเล็กลงมาอีกรุ่น เรียกกว่า Necktite โดยเฉพาะ สามารถทำการรักษาบริเวณดังกล่าว โดย ดูดไขมันคาง ได้อย่างจำเพาะเจาะจง
อ่านบทความเพิ่มเติม ..
การฉีดไขมันหน้า Fat Grafting เทรนศัลยกรรมมาแรง 2020

Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันหน้าอก (Breast)
ลดส่วนเกินบริเวณหน้าอก โดยเฉพาะเพศชายที่เป็นเต้านมแบบ Gynecomastia ซึ่งบางรายนอกจาก เต้านมโต แล้วยังมีปัญหาหย่อนคล้อยด้วย การ ดูดไขมันหน้าอก แบบนี้มักจะทำร่วมกับการ ตัดต่อมเต้านม เพื่อไม่ให้หัวนมพุ่งออกมาและแบนราบ ใส่เสื้อยืดได้มั่นใจ
Gynecomastia จะเป็นชื่อเรียกของภาวะ เต้านมโตในเพศชาย ที่มีต่อมน้ำนมเติบโตด้วยพร้อมกันกับไขมัน ดังนั้นการดูดไขมันอย่างเดียว จะเอาออกทั้งหมดจนแบนราบไม่ได้ เนื่องจากต่อมน้ำนม (breast tissue) จะแข็งและเหนียวกว่า จำเป็นต้องตัดออก ผ่านแผลเล็กๆ ที่ปานนม
อ่านบทความเพิ่มเติม
ผู้ชายมีนม ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย โดย นพ สุรินท์นาถ เจริญจิตต์

ดูดไขมันหลังคอ หรือ หนอกหลัง (Buffalo hump)
ส่วนเกินบริเวณท้ายทอย ส่วนใหญ่มาจากฮอร์โมน ยาบางตัวบางชนิด ซึ่งสามารถทำการรักษาได้ด้วยการดูดไขมันผ่านแผลเล็กๆ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
หากสนใจ เรื่องดูดไขมันคอ ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งหนึ่งที่ผมทำบ่อยๆ
คลิ๊กอ่านเพิ่มเติม ด้านล่างได้เลย!
ดูดไขมันแผ่นหลัง (Back)
เป็นส่วนที่มีไขมันล้นออกมาบริเวณบราหรือเวลาใส่เสื้อเกาะอก ทำให้ล้นทั้งหลังส่วนล่าง และใต้รักแร้
Previous
Next
ดูดไขมันต้นแขน (Arms)
เนื่องจากแขนที่ห้อยลง มักจะต้องแก้ไขด้วยการตัดหนังร่วมด้วย ซึ่งแม้จะทำให้แขนกระชับแต่แผลเป็นที่แขนค่อนข้างอยู่นาน การใช้ Bodytite ดูดไขมันต้นแขน จึงแทบจะเป็นทางเลือกเดียว ของคนที่แขนใหญ่และห้อย
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันหน้าท้อง (Abdomen)
หน้าท้องเป็นส่วนที่มีไขมันสะสมปริมาณมาก นิยมทำเพื่อลดขนาดลง ร่วมกับส่วนเอวหรือส่วนอื่น การดูดไขมันหน้าท้อง สามารถทำ Sexy Line, สร้าง Six Pack ให้ชัด พร้อมกันไปด้วย
ไขมันหน้าท้อง เป็นส่วนที่คนนิยมมากที่สุดบริเวณหนึ่ง แต่ก็ซับซ้อนและผลการรักษาอาจจะไม่แน่นอน เนื่องจากปัญหาหนังหย่อนคล้อย จนเป็นริ้วๆ หลังการ ดูดไขมันหน้าท้อง
อ่านต่อนะครับ หากสนใจข้อมูลเชิงลึก
หน้าท้องย้วยเป็นคลื่น จะดูดไขมันหรือตัดหนังหน้าท้องดี
Previous
Next
ดูดไขมันสะโพก (Hips)
ก้น ปีกสะโพกใหญ่เกินขนาด สะดุดตาเกินไป ลดได้ไม่ยาก ซึ่งทำได้โดย การดูดไขมันสะโพก จะทำให้ใส่เสื้อเอวต่ำได้มั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้ทำให้มองจากด้านหลังเหมือนก้นจะเล็กลง
ดูดไขมันเอว (Waist)
หากไม่มีเอว อยากมีเอว S สามารถทำการดูดไขมันเอวเฉพาะจุดเพื่อสร้างเอวเอสได้ และมักนิยมทำพร้อมกับการ ดูดไขมันหน้าท้อง เนื่องจากใส่ชุดกระชับแบบเดียวกัน ใช้แผลร่วมกันได้เลย ดูดไขมันเอว ก็มักนิยมในกลุ่มผู้ชายที่มีห่วงยางหรือพุง มักนิยมเรียกบริเวณนี้ว่า ดูดไขมัน Love handles
อ่านบทความเพิ่มเติม
ดูดไขมันเอว สร้างเอวคอด เอวเอส เล็กทันใจ
Previous
Next
ดูดไขมันขา (Legs)
หรือดูดไขมันต้นขา ต้นขาใหญ่ลดขนาดได้ โดยปกตินิยมแบ่งเป็น 4 ส่วน หรือทำแบบ ดูดไขมันรอบขา เลยทีเดียว ก็ขาเล็กสมใจ
- ด้านนอกทั้งสองข้าง (Outer sides thigh)
- ด้านหน้าทั้งสองข้าง (Front of thighs)
- ด้านในทั้งสองข้าง (Inner sides thigh)
- ด้านหลังทั้งสองข้าง (Back of thighs)
หากยังไม่จุใจ ลองคลิกไปที่บทความ

ดูดไขมันน่อง (Calves & Ankles)
แก้ปัญหาน่องโตอย่างได้ผล ปรับน่องให้กระชับเข้ารูป แต่ต้องมาตรวจดูก่อน ว่าน่องโตจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ หากเกิดจากกล้ามเนื้อ การดูดไขมันน่อง จะไม่ได้ผล เสียเงินเปล่า
นอกจากนี้ยังมีการโุดไขมันที่นิยมกัน ก็คือ ดูดไขมันเหมาทั้งตัว Liposuction เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปร่างหลายจุดพร้อมกัน รวมถึงการ ดูดไขมันหน้า ลดสัดส่วนบริเวณกรอบใบหน้าให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น
อ่านบทความ
10 สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับการดูดไขมันหน้า
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ใครที่เหมาะกับการดูดไขมันบ้าง
- คนที่มีรูปร่างปกติ หรือ ท้วมเล็กน้อย แล้วมีไขมันบางส่วนมากเกินไป คนอ้วนมาก ไม่ได้เหมาะกับการดูดไขมันอย่างที่ทุกคนคิด
- มีไขมันบางส่วนในร่างกายมากจนดูเด่นชัด เช่น เหนียง หนอก หน้าท้อง ต้นขา อาจจะเกิดจากยาหรือโรคประจำตัวบางอย่าง ซึ่งที่คลินิกเคย ดูดไขมัน แก้ไขปัญหาไขมันสะสมบริเวณหนอก จากการทานยาสเตียรอยด์รักษาปวดข้อ หรือไขมันหน้าท้องสะสมที่เกิดจากการฉีดอินซูลินซ้ำๆ เป็นเวลาหลายปี
- คนที่ผ่านการลดน้ำหนัก แต่ไขมันหรือผิวบางส่วนยังห้อยย้อยและไม่กระชับ
- คนที่ไม่มีไขมันส่วนเกินให้ดูด แต่ต้องการกระชับผิวอย่างเดียวเช่นหน้าท้องห้อย หรือท้องแขนห้อย และยังไม่อยากตัดผิวหนังส่วนเกินออก
- ผู้สูงอายุที่มีปัญหาผิวหย่อยคล้อย ผิวเสียจากอายุมาก
- คนที่คิดอยากตัดหนังหน้าท้อง แต่ไม่แน่ใจเรื่องการพักฟื้นหลังผ่า และอยากจะใช้วิธีที่เบากว่า ไม่ต้องนอน รพ. และฟื้นตัวเร็วกว่า ก็ดูดไขมัน Bodytite ได้เช่นกัน
- โรคบางโรคที่ต้องอาศัยการดูดไขมัน เพื่อการรักษา เช่นก้อนเนื้องอกไขมันหรือ Lipoma บางชนิด ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดแผลกว้างโดยใช้เพียงการดูดออกก็เพียงพอ หรือ โรคที่ผู้เขียนเจอหลายครั้งจากคนไข้ทั้งไทยและต่างประเทศจนทราบว่าเป็น “โรค” ที่เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในต่างประเทศ คือโรค Lipedema (เขียนคล้ายกันมาก)
[วิดีโอ ทำไมก่อนดูดไขมันต้องเช็ค BMI ]
ทำไมคนอ้วนไม่ควรดูดไขมัน (คำแนะนำจากแพทย์)
การดูดไขมัน (Liposuction) เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ปกติ ต้องการจะมีสัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการที่จะมีสัดส่วนในแบบที่ต้องการ และมีบริเวณที่มีการสะสมของไขมันที่กำจัดได้ยาก แม้จะมีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม
ดังนั้น การดูดไขมันไม่ได้เป็นการรักษาโรคอ้วน มีการจำกัดปริมาณไขมันที่ดูดได้ และจุดที่ดูดได้ ไม่ใช่ว่าดูดไขมันทั้งตัว ต้องอาศัยการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น ปรับพฤติกรรมการกิน กินอาหารให้ครบห้าหมู่ ไดเอ็ต ออกกำลังกาย จะช่วยได้ดีกว่าในระยะยาว
บางส่วนของร่างกายจะไม่สามารถดูดไขมันได้ เช่น ไขมันช่องท้อง ทำให้ถึงลดไปได้บ้างแต่ส่วนพุงยังคงยื่นจากท้อง อาจไม่ถึงกับแบนราบทันที (ขึ้นกับน้ำหนักตัว) ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เด็ดขาด ต่างจากการผ่าตัดตัดกระเพาะ
อีกทั้ง คนอ้วนมีส่วนระดับอันตรายในการศัลยกรรมทุกชนิดอยู่ 5 ระดับ โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายเกิน 35 ขึ้นไป ควรเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแทนการดูดไขมัน เรื่องการเลือกสถานที่และแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา
การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก เป็นทางเลือกในการลดความอ้วน ที่มีอยู่หลายวิธี เช่น ใส่บอลลูน รัดกระเพาะ ตัดกระเพาะแบบสลีฟ ผ่าตัดแบบบายพาส หรือการลดขนาดกระเพาะแบบไร้แผลหน้าท้อง (เทคนิคใหม่ปี 2021) ที่เรียกว่า Overstitch ที่เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้ ปรับพฤติกรรมการกินไปจากเดิมให้มีสุขภาพดีขึ้น หายจากโรคประจำตัวบางอย่างได้ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การผ่าตัดกระเพาะคล้ายกัยศัลยกรรมในปัจจุบัน ใช้วิธีส่องกล้องซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่เจ็บมาก และรักษาตัวไม่นาน
[วิดีโอ ทำไมคนอ้วน ถึงไม่เหมาะและไม่ควรดูดไขมัน]
โดยโรค Lipedema นี้มีตั้งแต่เป็นน้อยๆ จนถึงเป็นมากๆ ลักษณะคือมีความผิดปกติของไขมันที่โตเฉพาะต้นขาจนถึงน่อง พบได้ประมาณ 11% ของผู้หญิง เป็นโรคที่เจอเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น เกิดจากทั้งระบบฮอร์โมนที่รวน หรือเกิดจากพันธุกรรม
ในต่างประเทศหากเป็นระยะรุนแรง เริ่มมีอาการปวดขาร่วมด้วย สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลทำการดูดไขมันออกไปได้ เพราะเป็นวิธีการรักษาเดียวของโรคนี้
ก่อนทำการรักษาจำเป็นต้องมีการตรวจหลายอย่าง เพื่อแยกโรคอื่นๆที่คล้ายกัน เช่นโรคที่เกี่ยวกับท่อน้ำเหลืองออกไปก่อน เพราะการรักษาจะเป็นคนละแบบกันและยิ่งเอาโรคที่เกี่ยวกับท่อน้ำเหลืองของขา (Lymphedema) ไปทำการดูดไขมันต้นขา ยิ่งทำให้อาการรุนแรงและแย่ลงได้

Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันทั้งตัว มีกี่วิธี อะไรบ้าง?
การดูดไขมันในปัจจุบันนิยมแบ่ง และเรียกตามชื่อเครื่องมือที่ช่วยทำการดูดไขมันครับ เช่น
- Bodytite
- Vaser
- Bodyjet
- เลเซอร์หรือ smart lipo
- เครื่องสั่น PAL ของ microaire
รีวิว ข้อดี ข้อเด่น ข้อเสีย ตามความถนัดของแพทย์แต่ละท่านและถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกันเช่น bodytite เน้นกระชับ Bodyjet เน้นเก็บไขมันมาฉีด เพราะเชื่อว่าดูดด้วยน้ำเซลล์ไขมันตายน้อย ส่วน vaser lipo (vaser liposuction) และ Microaire เน้นดูดออกปริมาณมาก
บางทีจึงจะเห็นแพทย์บางท่านใช้อุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนคำถามที่ว่าอะไรดีที่สุด จริงๆแล้วคงไม่มี เพราะส่วนสำคัญของการดูดไขมันออกมาให้ดี คือประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำ เพราะเรื่องนี้เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน ทำบ่อย แบบเดียวกับการทำอาหาร ปาเป้าหรือยิงธนู ความแม่นยำไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ที่ดีอย่างเดียว แต่ต้องอดทนฝึกฝนทำซ้ำๆหลายๆครั้ง จนเก่งขึ้นทีละน้อยและดีขึ้น
ตอนที่ผมทำถึงเคสที่ 500 เมื่อหลายปีก่อนตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ปรากฏว่าเมื่อทำต่อไปอีกกลับพบความท้าทายใหม่ๆไม่มีวันจบ ไม่ว่าจะเจอคนไข้ที่มีลักษณะ รูปร่าง ข้อจำกัดในการทำงานแตกต่างกันไป คนไข้งานแก้ที่ซับซ้อนหรือมีความต้องการใหม่ๆเช่นการดูดไขมันให้เห็นลายกล้ามเนื้อชัดๆหรือที่เรียกว่า Hi definition liposuction
ดูดไขมัน Bodytite คือ อะไร

เนื่องจากผู้เขียนชอบใช้ Bodytite เป็นพิเศษ และทดลองใช้อุปกรณ์มาหลายชนิดจนมาลงตัวที่การ ดูดไขมัน Bodytite ร่วมกับ Microaire PAL จึงจะขอลงรายละเอียดอุปกรณ์ทั้งสองที่ถนัดที่สุดมากหน่อยนะครับ หากสนใจอยากทราบเรื่องอื่นๆ จะมีอีกบทความแยกออกไป ไม่งั้นบทความนี้มันจะยาวเกินเหตุ
Bodytite คือ เทคโนโลยี ที่มีชื่อเสียงด้านการกระชับผิวและถูกนำมาใช้ร่วมกับการดูดไขมันสมัยใหม่ เพื่อให้แก้ปัญหาทั้งสองอย่าง คือ การมีไขมันส่วนเกินและการที่ผิวหย่อยคล้อย เนื่องจากคลื่นวิทยุ Radiofrequency Wave หรือ RF ที่ใช้สามารถกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยทำให้ผิวกระชับมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการดูดไขมันในบางราย ที่มีปัญหาหลังดูดแล้วห้อยหนักกว่าเดิม
RF ที่เป็นพลังงานหลักของการทำงาน จะช่วยทั้งการสลายไขมันและการกระชับผิว หลังจากละลายด้วย RF แล้ว ก็สามารถใช้อุปกรณ์อื่นๆ ดูดออกได้ง่ายขึ้น ปัญหาของการที่ผิวไม่กระชับ คือปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งของการดูดไขมัน ดังนั้นหากไม่อยากจะตัดหนังส่วนเกินออกหลังจากการดูดไขมัน การใช้ Bodytite คือทางเลือกที่สำคัญและจำเป็นมาก
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
[ชมวิดีโอ อธิบายเรื่อง Bodytite]
ข้อดีของการดูดไขมันแบบ BodyTite
- ฺBodyTite ใช้เทคโนโลยี RFAL ( Radio Frequency Assisted Liposuction ) ที่ช่วยทำให้ผิวกระชับ เรียบตึง ไปพร้อมกับการดูดไขมัน เนื่องจากคลื่นวิทยุจะไปช่วยกระตุ้นผิวในการสร้างคอลลาเจน
- ฺBodyTite เมื่อทำแล้ว แผลมีขนาดเล็ก เนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็ก
- BodyTite มีเครื่องมือวัดอุณหภูมิ และหน้าจอแสดงอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยป้องกันการไหม้ที่ผิวผู้ป่วยขณะดูดไขมัน และสามารถตั้งหยุด เพื่อไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินไปจนเกินอันตรายต่อผู้ป่วยได้ด้วย
- เลือดออกน้อย
- หลัง ดูดไขมัน BodyTite ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัว สามารถกลับบ้านได้ทันที
วิธีดูดไขมันแบบ Microaire PAL®
อุปกรณ์ดูดไขมันคุณภาพสูงที่หลายคลินิกให้ความสนใจกันมากโดยเฉพาะช่วงปี 2020 ที่มีการโฆษณาอุปกรณ์นี้กันมากขึ้น ทั้งด้านผลลัพธ์หลังที่ออกมาสวยงาม ไม่ต้องใช้ความร้อน ไม่เจ็บหลังทำ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ และใช้งานง่ายในหลายบริเวณ
PAL (Power-Assisted Liposuction) ใช้วิธีการสั่นสะเทือนเพื่อดูดไขมันออกมาจากร่างกาย สอดเข็มเข้าไปในชั้นไขมันในบริเวณที่ต้องการลดสัดส่วน แล้วดึงส่วนที่ไม่ต้องการออกมา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้มากยิ่งกว่าเดิม ฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติเพราะความถี่ในการสั่นช่วยให้ดูดไขมันได้ดีขึ้น อีกทั้งผลของการสั่นด้วยเครื่องไมโครแอร์ ช่วยให้แพทย์สามารถใช้หัวแคนนูล่า (Cannulas, เข็มดูด) ที่มีปลายทู่ได้ ซึ่งปลอดภัยกว่า โดยหัวมีสองแบบที่นิยมใช้กัน คือ
- เข็มหัวปลายแหลม ไม่ต้องออกแรงมาก ซอกเข้าไปในร่างกายดูดไขมันได้ดีกว่า แต่มีความเสี่ยงในการทิ่มทะลุชั้นกล้ามเนื้อ
- เข็มหัวปลายทู่ ปลอดภัยกว่า แต่แพทย์ออกแรงมากกว่าปกติ มีโอกาสล้าได้ คนไข้อาจรู้สึกเจ็บกว่าเดิม เพราะหัวใหญ่กว่าปลายแหลม
ระบบสั่นสะเทือนจากเครื่อง Microaire PAL จะช่วยให้ใช้หัวปลายทู่ได้ดีขึ้น เบาแรงหมอ และลดความเจ็บของคนไข้ในระหว่างดูดไขมันลง

Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ข้อดีของการ ดูดไขมัน แบบ BodyTite ร่วมกับ MicroAire PAL
ผู้เขียนเลือกใช้เทคโนโลยี Microaire PAL มาใช้ร่วมกับการ ดูดไขมันต้นแขน Bodytite เนื่องจากต้องการให้ไขมันออกมากกว่าปกติเพราะ การใช้บอดี้ไทท์อย่างเดียวในบางบริเวณ ไม่สามารถกำจัดไขมันออกหมดได้ อีกทั้งต้องการทำ Fat equalization เพื่อให้ไขมันเรียบอย่างที่กล่าวตอนต้น
- Microaire PAL ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุด ผลิตในสหรัฐอเมริกา โดยใช้ระบบสั่นสะเทือน (PAL – Power Assisted Liposuction) ที่ได้รอบของการสั่นมากกว่าใช้มืออย่างเดียว
- ลดความล้าของการทำงานของศัลยแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน Microaire โดยเฉพาะในบริเวณที่แข็งและเหนียว เช่น ไขมันบริเวณหลัง หรือบริเวณที่มีการดูดไขมันมาก่อน และต้องการดูดซ้ำ หรือแก้ไข ซึ่งบริเวณเหล่านี้จำเป็นต้องมี Microaire มาช่วย
- MicroAire PAL มีหัวดูดที่หลากหลาย และเหมาะกับการใช้งานมากขึ้นในหลายตำแหน่งของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหัวดูดแบบ spatula ที่เหมาะกับการดูดคาง หรือหัวดูดที่งอได้สำหรับการทำร่อง Six Packs โดยเฉพาะ ซึ่งในแง่ของการออกแบบแล้ว คงไม่มีเทคโนโลยีไหนเทียบได้
- การดูดไขมัน Microaire ยังเป็นมาตรฐานที่แพทย์ในสหรัฐอเมริการใช้มากที่สุด
- รัตตินันท์คลินิก มีการดูดไขมันมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เราจึงมี Microaire สำรองไว้ถึงสามเครื่อง อีกทั้งยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมให้กับ Microaire ในประเทศไทย

ดูดไขมัน Bodytite และ Vaser Liposuction ต่างกันอย่างไร
เครื่องดูดไขมันทั้ง 2 แบบนั้น ถูกออกแบบมาใช้คนละอย่าง จุดประสงค์ไม่เหมือนกัน ซึ่งเครื่องเวเซอร์ ( Vaser Liposuction ) เน้นการดูดออกเยอะ ส่วน BodyTite เน้นกระชับผิว บางคนเลยใช้ร่วมกันเสีย ซึ่งอันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะทั้งคู่ต่างทำให้เกิดความร้อนกับเนื้อเยื่อ ถ้าหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำ หรือควบคุมเครื่องให้ดี อาจมีโอกาสทำให้ผิวหนังไหม้ได้
เมื่อมีคนค้นพบว่าการ ดูดไขมันเวเซอร์ ( Vaser Liposuction ) อย่างเดียว กลับไม่ได้แก้ปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อย จึงมีการคิดค้น ดูดไขมัน Bodytite ขึ้นมาหลังจากการค้นพบการใช้คลื่นวิทยุและความร้อนในการกระชับผิว
รัตตินนท์ ใช้แบบ Bodytite กระชับผิวก่อน จากนั้นจะใช้เครื่อง MicroAire PAL ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระบบสั่น (Power Assisted Liposuction) และเป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานใช้ร่วมในการดูดไขมัน
นอกจากจะช่วยให้ดูดไขมันออกได้ปริมาณมาก ได้รูปร่างที่สวยงาม และมีความเรียบของผิวแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดผิวหนังไหม้ บุ๋ม ได้ดีอีกด้วย
Bodytite และ Vaser Liposuction ต่างกันอย่างไร
โดย นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์

ทำไมต้อง ดูดไขมัน ที่รัตตินันท์คลินิก
- รัตตินันท์คลินิก เปิดให้บริการศัลยกรรมด้านดูดไขมัน ในประเทศไทย มานานกว่า 21 ปี
- ดูแลศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เรื่องการปรับรูปร่าง เป็นเทรนเนอร์ที่สอนการใช้เครื่องทั้ง Bodytite และ Microaire ในประเทศไทย
- ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากต่างประเทศเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
- “Certified Operating Room” รับรองมาตรฐานห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ จากกระทรวงสาธารณสุข
- พร้อมให้คำปรึกษาลูกค้า โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์
- สถานที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ได้มาตรฐานทางการแพทย์
- มีบริการลดไขมันหลายจุด ราคาศัลยกรรมชัดเจน มีให้เลือกทั้งแบบนับจุด และราคาเหมาส่วน ไม่ชาร์จเพิ่มภายหลัง
- เดินทางสะดวกสบาย คลินิกอยู่ใกล้ BTS, MRT รถประจำทาง อาคารมีที่จอดรถให้ลูกค้า

ดูดไขมันที่ไหนดี พิจารณาจากอะไรบ้าง?
ก่อนการดูดไขมัน เป็นคำถามสำคัญ และดูดไขมันถือเป็นศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่ต้องดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางเท่านั้น ถ้าเลือกสถานที่ไม่ดี อาจกลายเป็นปัญหาที่ตามมาหลายเรื่อง ทั้งผลลัพธ์ออกมาไม่สวยตามที่ต้องการ สร้างความไม่พอใจ จนต้องเสียเงินไปแก้ไขในสถานที่อื่น ซึ่งเคสแก้ไขเกิดบ่อยมากในวงการนี้ การดูดไขมันที่ไหนดี จึงเป็นคำถามคาใจหลายคนที่ต้องการเลือกหาคลินิกที่ไว้ใจได้ มีเช็คลิสต์ 5 ข้อใหญ่ๆ ที่ใช้ในการพิจารณาที่ศัลยกรรมดูดไขมันดังนี้
เวลาป่วย ไม่สบาย ส่วนใหญ่ก็อยากจะรักษากับหมอที่มีฝีมือเป็นที่รู้จักดีทั่วจังหวัด มีประวัติการรักษาประสบความสำเร็จมาหลายเคส แม้จะเป็นในคลินิกเล็กๆ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจกว่าหมอจบใหม่ในโรงพยาบาล
เรื่องการศัลยกรรมเสริมความงามก็ไม่ต่างกัน ผลลัพธ์หลังทำจะสวยหรือไม่ขึ้น ปลอดภัยแค่ไหน อยู่กับฝีมือแพทย์เกิน 90% ควรเลือกหมอที่ได้รับความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ สร้างผลงานมาหลายเคส จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ยิ่งขึ้น
แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านหลายปี ศึกษาด้านเทคนิค และผ่านประสบการณ์จริงมานับไม่ถ้วน จะเข้าใจปัญหาและความรู้สึกของคนไข้ดีกว่า มีเทคนิคที่ได้ผลลัพธ์ดีสุด เจ็บน้อย แผลเล็ก ซ่อนแผลให้เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษา
คลินิกเสริมความงามก็ถือเป็นธุรกิจหนึ่ง ที่เปิดให้บริการจำนวนมาก มีการแข่งขันมากขึ้น สภาพเศรษฐกิจที่มีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ผลกำไรลดลงจนต้องลดต้นทุนแข่งกัน ส่วนใหญ่เลือก หาวิธีประหยัดต้นทุนในหลายด้านลงเพื่อให้มีกำไร
เช่น คุณภาพของการบริการ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน จ้างแพทย์ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือ พนักงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ เป็นต้น ส่งผลให้ด้านบริการ และคุณภาพ อาจไม่ดีเท่าคลินิกที่เปิดมานาน
อย่างไรก็ตาม มีคลินิกไม่น้อยที่เปิดและดูแลโดยแพทย์ คำนึงถึงผลลัพธ์หลังการรักษา และความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อวิชาชีพ จึงไม่มีเหตุผลที่จะลดคุณภาพการบริการใดๆ ลง ดูน่าเชื่อถือกว่า ยิ่งเปิดมานานโดยไม่มีประวัติเสียหาย ได้รับรางวัลมากมาย ยิ่งดูน่าเชื่อถือได้เรื่องบริการและคุณภาพ
รางวัล The Most Bodytite User 2019 มีเคสมากที่สุดในประเทศไทย
อย่างเป็นทางการ จากบริษัทผู้ผลิต bodytite / Best Clinic 2017-2019 สามปีติดกัน
(จาก whatclinic.com เว็บไซด์ทีมีคนหาคลินิกมากที่สุดในโลก)
สถานที่ต้อนรับ และดำเนินการทำศัลยกรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถเห็นสถานที่ได้ในโซเชียล หรือเว็บไซต์หลักของคลินิก
บางคลินิกเลือกถ่ายภาพหมอที่มีโปรไฟล์แน่น ภาพสถานที่ต้อนรับแขกสวยงาม แต่พอไปถึงที่จริง กลับทำนัดให้ไปศัลยกรรมที่อื่นนอกคลินิก อาจเพราะสถานที่จริงคับแคบ จึงต้องไปดูดไขมันที่อื่น ซึ่งถ้าเป็นอาคารเช่าที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเป็นสถานเสริมความงาม จะเสี่ยงเป็นอันตรายมาก ควรปฏิเสธไป ซึ่งเป็นสิทธิ์ของตัวเราเอง
ระหว่างเข้าห้องศัลยกรรม ลองสังเกตอุปกรณ์ที่ใช้ว่ามีความสะอาดมากน้อยแค่ไหน ตรงตามที่โฆษณาไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าเครื่องมือไม่สะอาดพอ มีผลมากที่จะเกิดการติดเชื้อหลังทำเสร็จ และถ้าอุปกรณ์ไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่สวยงามตามที่ต้องการ
ทุกคลินิกจะเลือกภาพ Before/After ที่สวยสุดมาเป็นตัวอย่างเสมอ ทำให้วิธีการเอาไขมันออกดูจะกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ จนสร้างความรู้สึกว่า แบบไหนก็คล้ายๆ กัน ในความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าทุกเคสจะออกมาสวยเหมือนกันหมด จึงควรเข้าใจเรื่องพื้นฐานในการดูดไขมันอยู่บ้าง ซึ่งวิธีที่นิยมใช้ในไทย มี 5 วิธี ที่มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป
- Vaser (UAL) ใช้ความร้อนค่อนข้างสูง ไขมันออกเยอะ ได้รับความนิยมในไทยจากตัวเครื่องที่ราคาถูกกว่าหลายวิธี แต่ผลจากความร้อนทำให้ค่อนข้างเจ็บ มีโอกาสเบิร์น หย่อนคล้อย มากกว่าวิธีอื่น
- Bodytite (RFAL) คุมความร้อนดี ลดโอกาสผิวไหม้ ลดความเจ็บปวด คลื่น RF ช่วยกระชับผิวระหว่างทำ แต่ไขมันออกจากร่างกายน้อยย
- Laser Lipo (LAL) ใช้ความร้อนจากเลเซอร์ ถึงคุมพลังงานได้ แต่โดยพื้นฐานไม่ค่อยต่างจากเวเซอร์มากนัก
- Waterjet ใช้พลังแรงดันน้ำ ถึงจะเหมือนนุ่มนวล ดึงไขมันกลับมาใช้เสริมส่วนอื่น แต่ในทางปฎิบัติไม่ค่อยต่างจากวิธีอื่น และได้ปริมาณน้อย
- MicroAire (PAL) ใช้พลังการสั่น กระตุ้นให้ไขมันไหลออกมา
การผสมผสานสองเครื่องมือเป็นเรื่องที่นิยมขึ้น แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าร่วมกันอย่างไร เช่น Vaser พร้อมกับ Bodytite ถึงทางทฤษฎีน่าจะมีแต่ข้อดี แต่ในทางปฏิบัติ จะมีเรื่องการสะสมความร้อนในชั้นผิวหนังจากเครื่องมือทั้งสองประเภท มีโอกาสเป็นอันตรายได้เช่นกัน
บางเครื่องมือใช้ร่วมกันได้ ที่รัตตินันท์คลินิกที่มีประสบการณ์ดูดไขมันมานาน เลือกใช้ Bodytite ที่เน้นกระชับผิว แต่มีปัญหาเรื่องปริมาณไขมัน เมื่อใช้ร่วมกับ Microaire PAL ที่เป็นเครื่องสั่น โดยไม่สร้างความร้อน ช่วยเพิ่มปริมาณ จะทำให้ดูดไขมันในปริมาณที่ต้องการและกระชับผิว
คลินิกที่ดีควรจริงใจกับการให้ข้อมูลลูกค้า มีการให้ข้อมูลความรู้เฉพาะทาง ตอบคำถามในสิ่งที่คนสนใจ คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญผ่านโซเชียลและโลกออนไลน์ เป็นการแสดงความเอาใจใส่ต่อลูกค้าที่เห็นได้ชัดกว่า
ทางรัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เข้าใจดีถึงลูกค้าที่ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับดูดไขมัน เราจึงมีข้อมูลเรื่องศัลยกรรมในเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเสมอมา
ดูดไขมันเสร็จ ยังไม่จบ บริการที่ได้มาตรฐานต้องมีการติดตามผลหลังทำ 1-2 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด จึงควรดูสิ่งที่ได้หลังจากการดูดไขมันด้วยว่าจะได้รับอะไร บางสถานพยาบาล เลือกตัดส่วนหลังบริการออกเพื่อลดราคาลง หรืออาจคิดค่าบริการเพิ่มภายหลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรสอบถามให้ดีก่อนใช้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
ที่รั รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ คิดค่าใช้จ่ายตามที่ตกลงกันไว้ และมีของแถมหลายอย่างที่จำเป็นต้องใช้หลังดูดไขมัน
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040

คิดให้ดีก่อนดูดไขมันราคาถูก! ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง
- หลายคนยังเข้าใจผิดว่า ดูดไขมัน ต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก ด้วยวิธีไหน ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์เข้ามาร่วมด้วย
- หากไม่ศึกษาให้ดี อาจเสี่ยงต่อเคสมือลองของแพทย์จบใหม่ เนื่องจากไม่เข้าใจสรีระของคนไข้ดีพอ ทำให้มีโอกาสที่จะดูดไขมันออกมาแล้ว ผลลัพธ์ไม่สวยตามแบบที่ต้องการ
- เสี่ยงเจอเคสที่ต้องแก้ภายหลัง ต้องแก้ซ้ำ ซึ่งมีราคาแพง ใช้เวลานานในการทำมากกว่าครั้งแรก เนื่องจากอาจเกิดผังผืดบริเวณที่เคยดูดไขมันมาแล้ว
- อาจชาร์จราคาเพิ่มภายหลัง ซึ่งการ ดูดไขมันราคาถูก มักมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยเฉพาะแบบ”จุด” จึงควรสอบถามให้ละเอียด
- ตรวจเช็คสถานที่ การบริการ ความปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมาก ควรตรวจสอบให้ดีก่อน
- ดูดไขมันราคาถูก ในบางสถานที่นั้นเลือกใช้เทคโนโลยีทุนต่ำ หรือเป็น เครื่องดูดไขมัน รุ่นเก่ามือสอง
- ‘ทำเร็วแข่งกับเวลา’ บางสถานประกอบการ’ ทำการเช่าห้องดูดไขมัน ซึ่งต้องทำแข่งกับเวลา เน้นทำเร็ว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดสูง

ดูดไขมันอันตรายไหม ?
การดูดไขมันในปัจจุบันก้าวหน้า และปลอดภัยมากขึ้น จนทำให้การ ดูดไขมันไม่อันตราย มีการใช้ยาชาเข้ามาผสมกับน้ำเกลือ ฉีดให้คนไข้ก่อนทำเพื่อลดความเจ็บ ซึ่งน้ำจะช่วยแยกไขมันออกจากกันได้ง่ายขึ้น ทำให้ดูดง่ายขึ้น หากมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- ความรู้เรื่องการบรรเทาความเจ็บ ระหว่างทำการและหลังทำดูดไขมัน
- ความรู้เรื่องที่ว่าต้องใส่ชุดกระชับ หลังทำดูดไขมันเสร็จแล้ว ทำให้ป้องกันผิวไม่เรียบเป็นคลื่นได้
- ความรู้เรื่องลดผลข้างเคียงหรือผลแทรกซ้อนอื่นๆ หลังทำ
- ความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยีมาเสริม เช่น Bodytie (ดูดไขมันด้วยบอดี้ไทท์ ) vaser liposuction (ดูดไขมันด้วยเวเซอร์) Bodyjet (ดูดไขมันด้วยน้ำเกลือ) และอื่นๆ
ทำให้การ ดูดไขมัน ในปัจจุบัน ลดการพึ่งยาสลบไปได้เกือบทั้งหมด สามารถทำแบบยาชาเฉพาะที่ได้ ลดอาการแทรกซ้อนลงและผลการรักษาดีกว่าเดิมขึ้นมาเยอะมาก
จนเราเรียกว่าการดูดไขมันยุคใหม่ คือ เจ็บน้อย ช้ำน้อย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล และไม่ต้องให้เลือดหลังทำ (ใช่แล้วครับ เมื่อก่อน หลังการดูดไขมัน เราต้องให้เลือดกันเลยทีเดียว จาก ประสบการณ์ ดูดไขมัน pantip)
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันเจ็บไหม ?
การใส่ยาชาใต้ผิวในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน แม้จะมีสูตรที่ตายตัวคือการใส่ยาชา Lidocaine hydrochloride ตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมไปจนถึง 1,000 มิลลิกรัมต่อลิตรที่เราเรียกว่าสูตร Dr Klien’s แต่จากประสบการณ์พบว่าหมอที่ทำ กลับได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันและผมมักได้รับคำปรึกษาบ่อยๆ ว่าใส่ไปแล้วทำไมไม่ค่อยชา
ตอนหลังถึงพบว่าแม้การใส่ยาที่ดูเหมือนง่าย ก็จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝน ให้การใส่นั้นเข้าไปในชั้นลึกได้จริงๆ จนยาแทรกเข้าไปในชั้นไขมันทุกชั้น ซึ่งอาจจะไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่เริ่มทำ หรือไม่มีประสบการณ์กลับไม่ค่อยได้ผล เราเลยได้ยินข่าวว่าทำแล้วเจ็บมาก อยู่บ่อยครั้ง
การใส่ยาชานั้น หากทำได้ดีจริงๆ เราสามารถใช้เพียงยาชาทำศัลยกรรมได้แทบทุกส่วน ตั้งแต่ Moh’s surgery ที่เป็นการผ่าตัดแผลกว้างบนใบหน้า จนกระทั่งถึงการทำ เส้นเลือดขอด ได้โดยไม่เจ็บเลย ส่วนที่เจ็บมากที่สุด น่าจะเป็นเจ็บตอนใส่ยาชานี่แหละครับ จะมีความรู้สึกเจ็บเหมือนโดนคนหยิกที่ผิวแรงๆ ระหว่างทำจะมีความเจ็บเหลือประมาณเบอร์ 2/10 เท่านั้น คือพอทนได้ และการรู้สึกชาจะยาวนานต่อ 6-8 ชั่วโมง
อาการเจ็บในวันที่สองอาจจะมากขึ้นหน่อย และจะลดลงอย่างรวดเร็วในวันที่สาม จากประสบการณ์ที่โดนอาจารย์ดูดหน้าท้องให้ตัวเอง เมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะอยากทราบว่ามันรู้สึกยังไง พบว่าอาการระบมที่หน้าท้องในวันที่สอง คล้ายๆ การไปซิทอัพสัก 500 ครั้ง ในวันก่อนหน้าแล้วตื่นมาพร้อมกับอาการระบมที่หน้าท้อง จนก้มผูกเชือกหรือใส่รองเท้าจะลำบาก แต่เวลานั่งทำงานเฉยๆ จะไม่ค่อยรู้สึกอะไร
ดูดไขมันด้วยยาชาหรือยาสลบดี ?
อีกวิธีนอกเหนือจากการใช้ยาชาคือ การใช้ยานอนหลับหรือยาสลบร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ต้องการดูดไขมันในปริมาณที่มากขึ้น เช่น ท้องหรือรอบขา ก็สามารถทำได้โดยปลอดภัยหากทำโดยศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากมีการพัฒนายานอนหลับที่ออกฤทธิ์สั้น ผลข้างเคียงน้อยลง ทำให้ตื่นไวกว่ายารุ่นเก่าๆ
การพัฒนาการดมยาสลบแบบที่เรียกว่า TIVA เป็นอีกทางเลือกในการทำดูดไขมัน เพราะไม่ใช่การสลบแบบหลับลึกเหมือนการผ่าตัดใหญ่ คนไข้หายใจได้เอง ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ทำให้ตื่นไว มีการใช้ยารุ่นใหม่ๆ เช่น ยาลดอาการปวด และทำให้หลับสบายแบบไม่ฝันร้าย อีกทั้งไม่กดการหายใจ
อีกทั้งเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้แพทย์เลือกอุปกรณ์ที่ช่วยในการดูดไขมันให้ดีขึ้นได้ โดยมีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ละอย่างก็มีจุดเด่น-จุดด้อย เช่น Bodytite (บอดี้ไทท์) vaser liposuction (เวเซอร์) Endolaser (เลเซอร์) Microaire PAL (เครื่องสั่นก่อนดูด) หรือ BodyJet (การดูดไขมันด้วยน้ำ ที่นำเสนอการดูดไขมันที่เซลล์ตายต่ำ เพื่อนำมาฉีดต่อ)
[คลิกดู วิดีโอ หมอดมยาหรือวิสัญญีแพทย์สำคัญอย่างไร]
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
การเตรียมตัวก่อน ดูดไขมัน ราคาเหมา 2020
- งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin สองอาทิตย์ก่อนการทำ
- งดอาหารเสริม และยาตัวอื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งสามารถหารายละเอียดได้ โดยติดต่อคลินิกโดยตรง
- ไม่จำเป็นต้องโหมลดน้ำหนักก่อนการดูดไขมัน เพราะไม่ได้ทำให้ง่ายขึ้นแต่อย่างใด
- งดสูบบุหรี่สองอาทิตย์ก่อนการทำ ดูดไขมัน ด้วย Bodytite + Microaire PAL การสูบบุหรี่ทำให้แผลหายช้า และอาจจะเกิด complication หรือผลแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่เลือกใช้ยานอนหลับร่วมด้วย เสมหะจะมากกว่าปกติ และเกิดปัญหาระหว่างการทำได้ .. *มีงานวิจัยพบว่า แต่ละวันที่งดสูบบุหรี่ลง จะช่วยลดเสมหะลงได้มาก ไม่ว่าจะงดเพียง 3 หรือ 5 วันก่อนผ่าก็ตาม
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีการแพ้ยา หรือใช้ยาชนิดใดอยู่ เนื่องจากยาบางชนิดมีผล อย่าง แอสไพริน หรือยาแก้ปวดบางชนิด อาหารเสริมบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น น้ำมันปลา หรือน้ำมันตับปลา หรือวิตามินซี
- หากติดเชื้อ HIV และได้รับยาจน undetectable แล้วกรุณาสอบถามแพทย์โดยตรง
[ วิดีโอ การดูดไขมันขา .. ไม่น่ากลัวอย่าที่คิด ]
ขั้นตอนการดูดไขมัน
ในปัจจุบันจะมีขั้นตอนการทำดังนี้
- การใส่ยาชาใต้ผิว ยาชานี้จะมีการผสมด้วยน้ำเกลือและสารต่างๆที่ช่วยในการชาให้นานขึ้น และเลือดออกน้อย
- การใช้อุปกรณ์ทั้ง Laser, VASER, Bodytite ทำการละลายไขมันหรือกระชับผิวก่อน
- การดูดไขมันที่เหลือ ซึ่งอาจจะเกิดจากการทำขั้นตอนที่สองที่ไขมันออกไม่หมด
- ทำการทำ highlight สร้าง sexy line หรือ contour ต่างๆ
- ขั้นตอนทำให้หลุมหรือการดูดที่ผ่านมาทั้งหมดยังไม่เรียบพอ เรียบขึ้น เนียนขึ้น ขั้นตอนนี้เรียกว่า fat equalization
การทำ Fat equalization เพื่อให้เรียบนี้ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์แบบสั่นที่เรียกว่า Microaire PAL เพื่อการกระจายไขมันที่ยังไม่เรียบออก เป็นวิธีใหม่ที่ได้รับการยอมรับในหมู่ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ทำการดูดไขมัน ซึ่งเป็นผลงานของ Dr Simeon H. Wall และถูกตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำแบบ Plastic Reconstruction Surgery (PRS) ตั้งแต่ปี 2016
(References : อ่านงานวิจัยเรื่อง Fat Equalization ได้ที่ Simeon H Wall Jr 1, Michael R Lee, Separation, Aspiration, and Fat Equalization: SAFE Liposuction Concepts for Comprehensive Body Contouring, Plastic Reconstruction Surgery, 2016 Dec; 138(6) : 1192-1201)
[คลิกดู วิดีโอ ขั้นตอนการดูดไขมันขา ด้วยเครื่อง BodyTite+MicroAire PAL]
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
การดูแลตัวเองหลัง ดูดไขมัน
- ทำแผลวันละครั้ง ตามคำแนะนำ
- ควรกลับบ้านพักผ่อน และควรเริ่มเดินทันทีเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดอุดตันที่ขา และบริเวณอื่นๆ ที่ทำการดูดไขมันมา และเพื่อช่วยระบายของเสียออกจากแผล
- งดการอาบน้ำ สามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป หลังจากที่ทำการติดพาสเตอร์กันน้ำ ควรใช้พาสเตอร์กันน้ำติดแผลก่อนอาบน้ำทุกครั้ง ผู้ป่วยบางท่านอาจมีอาการแพ้ อาจใส่เฉพาะว่าก่อนอาบน้ำก็พอ ไม่ต้องใส่ตลอดเวลา
- อย่าให้แผลโดนแดด เพราะอาจจะทำให้แผลเกิดสีคล้ำหรือดำได้
- ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ใน 3 วันแรก และหลังจากนั้นใส่เพียงวันละ 12 ชม. เป็นเวลาอีก 1 เดือน ป้องกันการเกิดก้อน ผิวไม่เรียบที่เรียกว่า ซีโรมา
- ใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการ ดูดไขมัน BodyTite เสมอเพื่อให้ผิวกระชับได้เร็วขึ้น
- หากมีแผลด้านใน บริเวณขา พยายามไม่ให้แผลโดนปัสสาวะ เพี่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดกิจกรรมหนัก เพื่อป้องกันแผลเปิดสักระยะ สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ส่วนออกกำลังกายหนัก ทำได้หลังทำไป 2 อาทิตย์
- งดทานของเค็ม และแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดองเพื่อให้แผลหายได้เร็วขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และทางคลินิกอย่างเคร่งครัด
- หากมีอาการที่ไม่แน่ใจให้โทรเข้ามือถือคุณหมอได้โดยตรง 24 ชม. ซึ่งหมายเลขจะใส่ไว้ในคำแนะนำหลังการผ่าตัด ทั้งอุปกรณ์ทำแผล ใบคำแนะนำ ยาหลังการศัลยกรรมจะเตรียมใส่ไว้ในกระเป๋าที่แถมไว้ให้แล้ว

ต้องงดอาหารอะไรบ้างหลังการดูดไขมัน
- งดอาหารประเภท สุกๆ ดิบๆ ของหมักดอง โดยเฉพาะหลังการดูดไปแล้ว 48 ชั่วโมง เนื่องจากหลังผ่าตัดใหม่ๆ ภูมิต้านทานโรคจะลดลง การทานอาหารประเภทนี้อาจทำให้ท้องเสีย หรือลามกลายเป็น ติดเชื้อรุนแรง
- แนะนำให้ทานอาหารแบบ low carbohydrate (แป้งน้อย) ในช่วง 2 อาทิตย์แรกเพื่อช่วยลดอาการบวม ซึ่งจะช่วยได้มาก เนื่องจากไกลโคเจนหรือแป้ง จะชอบอุ้มน้ำและอาจจะทำให้บวมได้ง่าย รวมทั้งงดอาหารเค็ม ลดโซเดียมลงในช่วงแรกๆ
- หากบวมมากอาจจะต้องได้ยาขับปัสสาวะไปทานบ้าง 1-2 วัน

Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ผลแทรกซ้อนที่สำคัญของการ ดูดไขมัน
ผลแทรกซ้อนที่สำคัญและอาจจะพบบ่อยๆ มีดังนี้
- การได้รับยาชาเกินขนาดจนเกิดพิษ ซึ่งเกิดจากการพยายามดูดไขมันในปริมาณมากเกินไป และใช้ยาชาในปริมาณมากเกิน หรือในคลินิกไม่มีระบบคุณภาพที่ควบคุมการผสมยาชาเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เช่น ปกติเราใช้ 1% Lidocaine เจ้าหน้าที่คลินิกทุกแห่งที่ผู้เขียนไปสอน มักจะนิยมจำว่าจะใช้ยาผสมกี่ขวดซึ่งมันผิด เพราะควรจำเป็นมิลลิกรัมแทน เนื่องจากอาจจะเกิดการหยิบยาผิดเอา 2% lidocaine มาผสมแทน (จาก 1% เป็น 2% จะได้ยาเป็นสองเท่าทันที แม้ได้สี่ขวดเท่ากัน) อาการของคนไข้ที่ได้ยาชาเกินขนาดคือปากชา ลิ้นชา เวียนศีรษะ ชัก และอาจจะเสียชีวิตได้
- อาการตกเลือด ซึ่งเกิดจากการหลายสาเหตุตั้งแต่การใส่ยาชาที่ไม่ยาจริง หยุดเลือดออกไม่ได้ การใช้อุปกรณ์ดูดไม่ได้ขนาด และใหญ่เกินไป หรือการใส่ชุดกระชับที่ไม่พอดี
- การบวม เกิดจากการใช้พลังงานในการดูดไขมันปริมาณมาก จุดเดียว หรือมีการทำลายของชั้นระบบน้ำเหลือง และใส่ชุดกระชับที่แน่นเกินและนานเกินไป
- ดูดแล้วแหว่ง ไม่เรียบ เป็นก้อน มีสาเหตุเกิดจากทั้งฝีมือการดูด อุปกรณ์ที่ใช้ (หากใจร้อนใช้เข็มดูดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ เพราะอยากดูดออกเสร็จเร็วๆ จะเจอบ่อย) และสุดท้ายเกิดจากการใช้เครื่องดูดไขมันที่ให้ความร้อนทั้งหลาย เช่น VASER , BODYTITE , LASER , J PLAMA ทั้งหลายแล้วอาจจะควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดีพอ
- การทะลุไปโดนอวัยวะอื่นๆ ในกรณีดูดหน้าท้อง ซึ่งโอกาสเกิดน้อยมากแต่นานๆ ทีจะได้ยินข่าว จนเกิดความตกใจ สาเหตุเกิดจากแพทย์อย่างเดียว ที่ใช้อุปกรณ์ผิด ใช้เข็มดูดไขมันใน direction ที่ผิด ร่วมกับการที่คนไข้มีไขมันช่องท้องมากจนหน้าท้องโค้งสูงจนเกิดจากทะลุง่าย อีกทั้งทุกรายที่เกิดมักจะเกิดกับคนไข้ที่ดมยาสลบทั้งสิ้น ในคนไข้ที่ทำการดูดไขมันด้วยยาชาจะไม่เกิด เพราะมนุษย์จะมีการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นรีเฟลกซ์ตามธรรมชาติ หากมีอะไรสะกิดกล้ามเนื้อหน้าท้อง เตือนเราให้เราทราบก่อนที่จะทะลุ
- ไขมันอุดตันเส้นเลือดหรือ Fat embolism เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ในการผ่าตัดทางสูติกรรม และศัลยกรรมกระดูก ในการดูดไขมันเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ ยิ่งกว่าโอกาสถูกรถชนในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการใช้ negative pressure ดูดออกไป ไม่ใช่การผลักออก แบบเดียวกับการฉีดไขมันซึ่งเกิดบ่อยกว่า ทั้งการฉีดไขมันใบหน้าหรือการฉีดไขมันเข้าที่ก้น (brazilian butt lift)
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันผิวเป็นคลื่น หรือ ผิวไม่เรียบ จะแก้ไขได้ไหม ?
โดยปกติแล้ว .. กลไกของผิวหนังจะมีการขยายตัวออกหากน้ำหนักเพิ่มขึ้น การขยายตัวจะไม่มีที่สิ้นสุดและขยายได้เรื่อยๆไม่จำกัด แม้จะมีน้ำหนักมากถึง 400 กิโลกรัมก็ตาม และผิวหนังบางจุดจะมีการยึดติดกับโครงสร้างภายใน ทำให้เกิดการม้วนพับเป็นชั้นๆ ลอนๆ โดยผิวหนังเหล่านี้ จะหดตัวกลับมาได้หลังลดน้ำหนัก อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามน้ำหนักที่ค่อยๆลดลงและใช้เวลาหลายเดือน แต่หากผิวนั้นมีการยืดขยายเกินข้อจำกัด ก็จะไม่กลับมาเป็นปกติและทิ้งผิวที่ย่นพับเป็นชั้นๆคลื่น ตามแรงโน้มถ่วงของโลก
แต่การดูดไขมันออกไป ซึ่งเป็นการลดปริมาณไขมันใต้ผิวแบบฉับพลันทันที ทำให้ผิวหนังไม่มีการปรับตัวทัน จึงเกิดเป็นริ้วๆ คลื่นๆ ในช่วงแรกได้ ทำให้อาจจะต้องมีวิธีแก้ไข อีกสาเหตุหนึ่งของการที่ผิวเป็นคลื่น คือการดูดไขมันจากเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิด ดูดไขมันผิวเป็นคลื่น
สาเหตุที่ ผิวเป็นคลื่นหลังการดูดไขมัน
การเกิดรอยจากการไม่กระชับผิวหลังดูดไขมันเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากไขมันหายไปในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ผิวหนังยุบตัวตามรอยว่าง อาจกระชับได้เองตามสภาพร่างกาย อายุ เพศ และไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน แต่ถ้ามีการกระชับผิวหลังดูดไขมันจะช่วยได้ระดับหนึ่ง
อีกกรณี คือ คนที่อ้วนมานาน ทำให้มีไขมันสะสมเยอะ เมื่อลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เซลล์ไม่ทันหดตัว ส่งผลให้หนังดูหย่อนบ้าง แต่คนที่อ้วนไม่นาน ผิวหนังอาจหดตัวกลับมาเข้ารูปได้
ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการดูดแบบให้เกลี้ยงจนไม่เหลือไขมัน หมอบางท่านอาจจัดให้ตามคำขอ แต่ผลลัพธ์ออกมา ทำให้ลูกค้าบางราย ดูดไขมันผิวกลายเป็นคลื่นได้ ต้องดูดให้พอดีดูเป็นธรรมชาติ และไม่ตื้นมากเกินไปจนใกล้ระดับผิว
การสลายไขมันในร่างกาย อาจจะต้องใช้ความร้อนเข้าช่วยในระดับที่พอดี เครื่องมือบางชนิดไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ดี และบางกรณีเกิดไขมันยุบตัวจากความร้อนของเครื่องมือหลายประเภทเกินไป คือทำหลายๆเครื่องรวมกัน เพราะกลัวจะเอาออกไม่หมดและแต่ละเครื่องก็ทำให้เกิดความร้อนสะสม แพทย์ไม่ชำนาญพอในการควบคุมความร้อน ทำให้ไขมันที่เหลือในร่างกายบางส่วนตาย จนเหลือไขมันในร่างบางส่วนที่ดูดไม่หมด จนกลายเป็นริ้ว
ดูดไขมันขาหนักมือมากไปจนบุ๋มเป็นแถบ
ร่วมกับเครื่องมือที่ให้ความร้อนมากจนไหม้
การดูดไขมันเหมือนงานฝีมือ ช่างแกะสลักต้องใช้อุปกรณ์ให้เหมาะกับการแกะ ผลงานถึงออกมาสวย ไม่เลือกอุปกรณ์ที่ใหญ่เกินไปเพื่อเน้นความรวดเร็ว เคยมีกรณีแพทย์หรือบางคลินิก เลือกอุปกรณ์ใหญ่เกินไปเน้นปริมาณ เพื่อทำให้เสร็จเร็วๆ จะได้รับลูกค้าเพิ่ม แล้วอ้างลูกค้าเรื่องริ้วรอยหลังดูดไขมันเป็นเรื่องปกติ สักพักก็กลับมาสวย แต่หลังดูดเป็นเดือนแล้วไม่หาย ต้องมาหาวิธีแก้ภายหลัง
การใส่ชุดกระชับควรจะต้องเป็นชุดที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมันโดยเฉพาะ ตัวอย่างที่เจอบ่อย คือคิดว่าชุด support เวลาปวดหลัง ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับชุดกระชับท้องสามารถใช้งานแทนกันได้ ซึ่งผิด เพราะรอยตะเข็บจะทำให้เกิดริ้วได้
การแก้ไข ดูดไขมันผิวเป็นคลื่น หรือ ผิวไม่เรียบ
ถ้าผิวหนังเป็นรอยจากปริมาณไขมันที่ลดลงไปมาก ผิวจะกลับมาดูเรียบเนียนได้ แต่อาจต้องใช้เวลา ใช้การบริหารเฉพาะจุดเข้าช่วยให้กระชับ ซึ่งอาจกินเวลาหลายเดือนหรือเป็นปี
กรณีรอยย่นบางส่วนของร่างกายจากผิวหนังที่มากเกินไป อาจไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ง่าย (ขึ้นกับอายุ และสภาพอ้วนที่นานเป็นสิบปี) ต้องตัดหนังเพื่อให้เข้ารูปยิ่งขึ้น เช่น ตัดหนังหน้าท้อง หรือ ตัดหนังบางส่วนออกไป เพื่อให้กระชับเข้ารูปได้เร็ว หากเกิดจากการดูดที่ไม่เท่ากันจะยากสุด เพราะจะต้องดูดซ้ำบริเวณข้างๆ หรือฉีดไขมันกลับเข้าไปใหม่ในบริเวณที่บุ๋มมากผิดปกติ
ดูดไขมันผิวเป็นคลื่น บางทีก็แก้ไม่ได้
การผ่านการดูดไขมันกับบางเทคนิค ที่หลังดูดแล้วเกิดพังผืดขึ้นเยอะมาก จนเกาะตัวหนา การแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิมทำได้ยาก ดูดไขมันซ้ำหรือกระชับผิวภายหลังก็อาจไม่ช่วยอะไรมาก พังผืดที่เกิดขึ้น มาจากพลังงานความร้อนที่ใช้มากเกินไปแล้วปล่อยไว้นานจนกระทั่งเกิดการหายของแผล และทำให้เกิดพังผืดแบบถาวร
ในบางครั้งลูกค้าเองอาจจะจำแทบไม่ได้ว่าไปดูดไขมันมานานแล้ว เกินสิบปี จนหมอเริ่มทำการดูดไขมันบริเวณเดิมอีกครั้ง กลับพบว่าไขมันมีลักษณะแข็งมาก me.shอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไม่ได้เมื่อสอบถามจึงเริ่มจำได้ว่าเคยดูดไขมันมาก่อนจริงๆ
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เลือกใช้วิธีดูดไขมันแบบ Bodytite กระชับผิวก่อน จนได้ที่ก็เปลี่ยนอุปกรณ์ระบบสั่น PAL (Power Assisted Liposuction) เพื่อทำให้ดูดออกเยอะ แก้จุดอ่อนของบอดี้ไทท์ โดยรวมจะดูดไขมันได้ในปริมาณที่เหมาะสมแล้วยังกระชับผิว ที่เราไม่เลือกดูดไขมัน Vaser ร่วมกับ Bodytite เพราะควบคุมความร้อนสะสมยาก อาจสูงเกินจนไหม้และผิวบุ๋มลงจนกลายเป็นคลื่นไม่เรียบได้
การดูดไขมันที่ดีให้สวย ต้องได้ความเรียบเนียนมาด้วย ลูกค้าดูดไขมันได้รับความพึงพอใจ ซึ่งทาง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ ตลอด 22 ปีที่ผ่านมา
Before / After หลังการดูดไขมัน รีวิว









Previous
Next
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
ดูดไขมันทั้งตัว ไม่ใช่ทางเลือกในการลดน้ำหนัก
“ดูดไขมัน” จะถูกมองว่าเป็นทางลัดในการลดน้ำหนักอยู่เสมอ เพราะปริมาณไขมันในร่างกาย สัมพันธ์กับน้ำหนักที่ลดลงโดยตรง ทำให้สาวๆ หลายคนสนใจเรื่องนี้เพราะเข้าใจว่าเป็นวิธีลดหุ่นอย่างรวดเร็ว ยิ่งลดแบบทั้งตัวก็น่าจะทำให้ผอมได้เร็ว
แพทย์จะเน้นย้ำเสมอว่า “ศัลยกรรมดูดไขมัน เน้นเรื่องความสวยงามเป็นสำคัญ” ลดไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย เพื่อปรับลดไขมันสะสมบางส่วนในร่างกายให้ดูเข้ารูปมากขึ้น สร้างความมั่นใจในการเผยสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักที่ถูกวิธี เพราะน้ำหนักสามารถกลับมาเพิ่มได้ทุกเวลา แต่สำหรับคนหุ่นท้วมอยู่หน่อยๆ ถ้ามองเรื่องผลลัพธ์หลังทำ ไม่มีวิธีไหนที่เผาผลาญไขมันสะสมไปได้อย่างรวดเร็วเท่าการดูดไขมัน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนส่วนใหญ่ ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา จากการเรียน ทำงาน ธุรกิจส่วนตัว ทำให้ไม่มีเวลาดูแลรูปร่าง แต่อาจมีเหตุให้ต้องลดน้ำหนักในเวลาสั้นๆ เช่น
- ให้ใส่ชุดสวยๆ ได้ทันก่อนออกงานสำคัญ
- อยากลดสัดส่วนตัวเอง เปลี่ยนลุคและภาพลักษณ์ดูดีขึ้น
- ใส่ชุดว่ายน้ำ ไปเที่ยวทะเล
- มีงานต้องออกสื่อ ถ่ายแบบ ขึ้นเวทีแสดง
- สมัครงาน ที่ต้องใช้รูปร่างเป็นเกณฑ์ตัดสิน
- ใส่ชุดเจ้าสาวก่อนงานแต่ง
วิธีลดน้ำหนักแบบรวดเร็วที่มีหลายวิธี แต่ทางลัดที่ไม่มีความเสี่ยงมาก คงไม่พ้นดูดไขมัน ด้วยหลายสาเหตุสนับสนุน
- ไขมันส่วนเกินออกจากร่างทันที ในปริมาณหลายลิตร
- ฟื้นตัวเร็ว ไม่ค่อยมีอาการบวมหรือผลข้างเคียงภายหลัง
- ไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงจากยา
- ไม่ต้องเสี่ยงกับโยโย่
- ปลอดภัยเพราะมีแพทย์ดูแล มีการติดตามผลหลังทำ
ถ้าคิดจะดูดไขมันทั้งตัว สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ ด้านปริมาณไขมันที่ออกจากร่างกาย ที่เอาออกได้อย่างจำกัด
ศัลยกรรมดูดไขมัน มีการเสียเลือดบางส่วนไปบ้าง ผลจากการสูญเสียของเหลวบางส่วนในร่างกายในเวลาอันสั้น ทำให้มีผลข้างเคียงต่อระบบการทำงานของร่างกาย ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะระวังในจุดนี้เป็นพิเศษ และนัดทำหลายครั้งเพื่อลดความเสี่ยงลง
ดูดไขมันแค่ไหนถึงปลอดภัย ? ตามไกด์ไลน์ที่ใช้มาหลายปี ปริมาณไขมันที่ดูดออก จะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 3.5 – 5 ลิตร ต่อวัน โดยไม่ขึ้นกับดัชนีมวลกายของคนไข้ ในบางรัฐของอเมริกาเคยมีกฎหมายที่จำกัดไม่ให้ดูดไขมันเกิน 4 ลิตรต่อวัน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา
แม้ว่าเครื่องมือในปัจจุบันจะทันสมัยขึ้น และไม่ค่อยมีเคสที่เป็นอันตรายถึงชีวิตกับคนไข้ดูดไขมัน แต่การเสียของเหลวในร่างกายทีละมากๆ ยังคงเป็นเรื่องระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
จึงเป็นเหตุผลที่ว่า คนอ้วนมากๆ ไม่เหมาะที่จะดูดไขมัน การลดน้ำหนักที่ดี ให้ได้ผลยั่งยืน ควรให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเป็นสำคัญ กรณีเสี่ยงที่จะมีโรคประจำตัวและอยู่ในเกณฑ์โรคอ้วน อาจพิจารณา การผ่าตัดกระเพาะ แทน ซึ่งเป็นวิธีปรับพฤติกรรมการรับประทานที่ให้ผลลัพธ์แบบถาวรยิ่งกว่า
เดิมทีการดูดไขมันก็พอมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่การดูดแบบทั้งตัว ถ้าแพทย์ขาดประสบการณ์ ไม่เข้าใจสภาพร่างกายของผู้เข้ารับการรักษาที่ดีพอ อาจทำให้คนไข้พบปัญหาหลายเรื่อง
- การดูดไขมันวันเดียว จะต้องยาชาผสมน้ำเกลือใช้ปริมาณมาก เช่น น้ำหนัก 60 กิโลกรัม ต้องใช้น้ำเกลือราวๆ 20% ของน้ำหนักตัว ซึ่งมีความเสี่ยงน้ำท่วมปอด
- ความเจ็บปวดหลังทำเสร็จ และอาการบวม หลังทำที่มากกว่าปกติ
- ผลลัพธ์อาจไม่สวยแบบที่ต้องการ
- อาจมีริ้วรอยคลื่น ก้อนแข็งๆ แบบก้อนซีโรม่า ตามจุดต่างๆ
- เสียของเหลวปริมาณมากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (Cosmetic Surgeon) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารรัตตินันท์คลินิก
รัตตินันท์คลินิก (Rattinan Clinic) คลินิกให้บริการด้านการดูดไขมัน ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศมาตั้งแต่ พ.ศ.2542 นำทีมโดย นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง (Cosmetic Surgeon) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารรัตตินันท์คลินิก ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ฝึกอบรมการดูดไขมันด้วยบอดี้ไทท์ ( Asia-Pacific BodyTite® Certified Trainer ) และเป็นเทรนเนอร์สอนดูดไขมันด้วยเครื่อง MicroAire® PAL ให้แก่แพทย์ท่านอื่นๆ ในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงทำให้คลินิกแห่งนี้มีผู้สนใจจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ารับบริการด้านการดูดไขมันมากกว่า 11,000 เคส (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2563)
ด้วยคอนเซปต์การให้บริการของคลินิก ที่รับ “ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล” ร่วมกับทีมงานแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นๆ อีกนับ 10 ท่าน เพื่อให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การดูดไขมันเฉพาะส่วน ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง ในคนไข้ที่มีเฉพาะไขมันส่วนเกินไปจนถึงการผ่าตัดลดน้ำหนักอีกหลากหลายวิธี ทั้งการใส่บอลลูนลดน้ำหนัก, ผ่าตัดกระเพาะแบบ Sleeve, การผ่าตัดแบบ Overstitch หรือการผ่าตัดแบบ Bypass ในคนไข้อ้วน รวมไปถึงการผ่าตัดหนังที่ยืดทุกส่วนของร่างกาย (body lifting) ด้วย
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 22 ปี


[ชมวิดีโอ วิธีเดินทางไปรัตตินันท์คลินิก จาก BTS ศาลาแดง]
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการดูดไขมัน Bodytite
ควรดูตามความเหมาะสม ถูกไปก็เสี่ยงกับปัญหาที่ตามมาโดยเฉพาะเคสแก้ไข ที่เสียเงินเพิ่มอีกรอบ แพงไปก็เกินความจำเป็น ซึ่งมีลูกค้าสอบถามที่รัตตินันท์คลินิกให้รับเคสแก้ไขบ่อยครั้ง ที่ต้องพิจารณาหลักๆ คือ
[คลิกอ่านเพิ่มเติม : ราคา ดูดไขมัน เขาคิดกันยังไง]
การดูดไขมันด้วยเครื่องบอดี้ไทท์ ถูกออกแบบมาให้เจ็บน้อยกว่าและฟกช้ำน้อยกว่าเครื่องดูดไขมันแบบอื่นๆ เพราะการที่มีหัวแบบ bipolar สองหัว โดยหัวหนึ่งอยู่ที่ผิว
นอกจากทำหน้าที่เป็น เซนเซอร์รับรู้และปรับพลังงานอัตโนมัติแล้ว ยังสามารถปรับระดับความลึกของการดูดได้ โดยไม่เดาสุ่ม จึงไม่ไปโดนอวัยวะสำคัญหรือกล้ามเนื้อใต้ผิว ซึ่งทำให้เจ็บและช้ำนาน
Bodytite เป็นเครื่องเดียวที่มี built in sensor ติดอยู่และเป็นสาเหตุสำคัญที่แพทย์ของรัตตินันท์คลินิกเลือกใช้ เพราะการใช้พลังงานความร้อน โดยหวังผลจะกระชับ อาจจะมีข้อเสียร้ายแรงนั่นคือการไหม้ เพราะพลังงานมากเกินไป เรื่องการปรับพลังงานของเครื่องอัตโนมัติ จากเซนเซอร์ที่หัวของเครื่อง ซึ่งติดกับผิวโดยตรง นับเป็นจุดเด่นด้านความปลอดภัยอย่างมาก
ใช้ลดน้ำหนักบางส่วนได้ แต่แพทย์ไม่แนะนำ เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับสัดส่วนให้เข้ารูปมากกว่า น้ำหนักที่ลดไป 2-5 กิโลกรัมในแต่ละครั้ง สามารถกลับคืนมาได้ขึ้นกับพฤติกรรมการรับประทาน อีกทั้งการลดไขมันมากเกินไปในแต่ละครั้ง เสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ถือเป็นจุดเด่นของ bodytite เลย ซึ่งเครื่องอื่นๆจะทำไม่ได้ นอกจากการกระชับผิวในร่างกายแล้วยังมีหัวพิเศษ สำหรับกระชับคางทีเรียกว่า Necktite หรือกระชับกรอบหน้าที่เรียกว่า Factite รวมถึงอุปกรณ์ตัวใหม่ในตระกูลนี้ ที่เรียกว่า Accutite สำหรับกระชับถุงใต้ตาโดยเฉพาะที่กำลังจะนำเข้ามาวางตลาด จึงถือว่า ดูดไขมันต้นขา , ดูดไขมันต้นแขน Bodytite เป็นผู้นำเครื่องการกระชับผิวอย่างแท้จริง
ปกติหลังการดูดไขมัน Bodytite, ดูดไขมันต้นขา ก็สามารถเดนกลับบ้านได้เลย และใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ โดยไม่ต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว ในกรณีที่ใช้ยานอนหลับร่วมด้วย ก็นอนพักในคลินิกครบสามชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ยังไม่แนะนำให้ขับรถกลับบ้านเอง ในกรณีทั่วๆไป ลางานเพียงสองวันคือวันทำและอีกวันที่กลับมาล้างแผล ก็เพียงพอ สำหรับการพักฟื้น
สรุปเรื่องดูดไขมัน
การ ดูดไขมัน ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง ทำได้ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเราประเมินความเสี่ยงได้ ใช้หลักการที่ถูกต้อง ทำน้อยๆ ไม่ต้องทำหลายจุดในคราวเดียว อีกทั้งทำควบคู่กับการออกกกำลังกายและควบคุมอาหาร จะได้ผลดีมากครับ จาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน
Tel : 086-570-7040, 086-323-4040