การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่ความตั้งใจส่วนบุคคล แต่ยังมีปัจจัยทางชีวภาพ ฮอร์โมน พฤติกรรม และสภาพแวดล้อมที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้ได้ง่าย
ด้วยความซับซ้อนนี้เอง การปรึกษาแพทย์ จึงเป็นอีกทางเลือก เพราะคุณหมอจะสามารถประเมินสุขภาพของคุณได้อย่างละเอียด วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน
การควบคุมน้ำหนักคืออะไร?
หลายคนอาจนึกถึงการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน แต่จริง ๆ แล้ว การควบคุมน้ำหนัก คือการดูแลน้ำหนักของเราให้เหมาะสมกับร่างกาย และรักษาไว้ให้ได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ลดแล้วหยุด แต่คือการค่อย ๆ ปรับการใช้ชีวิต เช่น การกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อน เพื่อให้สุขภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ…ต้องเป็นวิธีที่เราทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
ควบคุมน้ำหนัก ต่างจากการลดน้ำหนักอย่างไร?
- การลดน้ำหนัก คือการพยายามให้น้ำหนักลดลงในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น อดอาหารเยอะ ๆ หรือออกกำลังกายหนักมาก เพื่อให้เห็นผลเร็ว
- การควบคุมน้ำหนัก จะเน้นการดูแลตัวเองให้ได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องรีบ ไม่ต้องฝืน แต่เน้นให้สุขภาพดีขึ้นและน้ำหนักคงที่อย่างยั่งยืน
ถ้าจะเริ่มควบคุมน้ำหนักด้วยตัวเอง ต้องทำอะไรบ้าง?
การควบคุมน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเราเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัว
- 1. กินอาหารให้สมดุล
ไม่ต้องอดอาหาร แค่เลือกกินให้ดีขึ้น เช่น เพิ่มผัก ผลไม้ ลดของมัน ของหวาน ของเค็ม และดื่มน้ำให้เพียงพอ - 2. ขยับตัวมากขึ้น
ไม่ต้องถึงกับไปฟิตเนสทุกวัน แค่เดินบ่อยขึ้น ขึ้นบันไดแทนลิฟต์ หรือหาเวลายืดเส้นยืดสายบ้าง ก็ช่วยได้มาก - 3. ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ
เช่น พยายามนอนให้พอ ลดความเครียด หรือสังเกตตัวเองว่าเรากินเพราะหิวจริง ๆ หรือเพราะเบื่อ/เครียด - 4. ใส่ใจสุขภาพใจด้วย
สุขภาพจิตที่ดีส่งผลต่อการกิน การนอน และพลังใจในการดูแลตัวเอง อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนใจ หรือพูดคุยกับคนที่เข้าใจ - 5. ติดตามความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักทุกวัน แต่ลองจดว่าเรากินอะไรบ้าง หรือวันนี้รู้สึกยังไง จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น - 6. ขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่ไหว
เราไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวเสมอไป การมีคนช่วยให้คำแนะนำหรือให้กำลังใจ เช่น เพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญ ก็ช่วยให้เดินต่อได้ง่ายขึ้น
เปรียบเทียบ การควบคุมน้ำหนักด้วยตัวเอง vs มีแพทย์ช่วยดูแล
การดูแลน้ำหนักตัวเองให้เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลายคนก็อาจลังเลว่าจะเลือกทำเองดี หรือเข้าโปรแกรมที่มีทีมแพทย์ดูแล ลองดูข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบกันก่อน
การควบคุมน้ำหนักด้วยตัวเอง
ข้อดี
- ยืดหยุ่นกว่า เลือกวิธีที่ชอบได้เลย จะกินแบบไหน ออกกำลังตอนไหน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของเรา
- ประหยัดงบ ไม่ต้องเสียค่ายา ค่าปรึกษา หรือค่าสมาชิกโปรแกรมใด ๆ
- ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เราจะเริ่มเข้าใจร่างกายของตัวเองมากขึ้น และรู้ว่าร่างกายตอบสนองกับอะไรได้ดี
ข้อเสีย
- ขาดข้อมูลที่แม่นยำ บางทีเราอาจเชื่อคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ตรงกับความจริง หรือไม่เหมาะกับตัวเรา
- ไม่ได้ตรวจสุขภาพก่อนเริ่ม ถ้ามีโรคแอบแฝง เช่น ไขมันในเลือด หรือฮอร์โมนผิดปกติ อาจทำให้ลดน้ำหนักไม่ได้ผลหรือเสี่ยงต่อสุขภาพ
- ขาดแรงจูงใจและกำลังใจ ทำคนเดียว บางทีเจออุปสรรคก็หมดไฟง่าย
- เสี่ยงโยโย่ ถ้าใช้วิธีหักดิบ เช่น อดอาหาร ออกกำลังหักโหม น้ำหนักอาจลดเร็วแต่กลับมาขึ้นใหม่เร็วกว่าเดิม
เข้าโปรแกรมควบคุมน้ำหนักกับทีมแพทย์
ข้อดี
- ปลอดภัยกว่า แพทย์จะตรวจร่างกาย ประวัติสุขภาพ และออกแบบแผนเฉพาะตัว ทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างเหมาะสมและไม่เสี่ยง
- ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย หรือปรับพฤติกรรม ทีมแพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะกับเรา
- ดูแลครบทุกด้าน บางโปรแกรมยังช่วยเรื่องการจัดการความเครียด การนอนหลับ และสุขภาพใจ
- มีการติดตามผลเป็นระยะ มีคนคอยเช็กและช่วยปรับแผน ทำให้ไม่หลุดเป้าหมายง่าย
- มีตัวช่วยทางการแพทย์ เช่น การใช้ยา หรือในบางกรณีที่เหมาะสม อาจมีทางเลือกเรื่องผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ
ข้อเสีย
- มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ต้องเผื่อทั้งค่าตรวจ ค่าปรึกษา และค่ายาต่าง ๆ
- อาจไม่ยืดหยุ่นมาก อาจต้องทำตามแผนเป๊ะ ๆ เช่น เวลากิน เวลาออกกำลัง
- อาจรู้สึกพึ่งพาทีมแพทย์มากเกินไป ถ้าไม่ได้เรียนรู้ควบคู่ พอจบโปรแกรมอาจกลับไปมีพฤติกรรมเดิม
เลือกวิธีควบคุมน้ำหนักแบบไหนดี ที่เหมาะกับเรา
- งบประมาณ
- สุขภาพตอนนี้
- ความตั้งใจ และวินัยของตัวเอง
- เคยลองทำเองแล้วได้ผลหรือยัง?
- สุขภาพแข็งแรงดี
- มีความรู้เรื่องอาหารและการออกกำลังการในระดับหนึ่ง
- มีวินัยพอสมควร
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน
- เคยลองลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้วไม่ได้ผล
- ต้องการดูแลอย่างจริงจังและปลอดภัย
ทำไมต้อง “โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก” ที่ Rattinan Clinic?
เพราะ รัตตินันท์ คลินิก เข้าใจร่างกายคุณ
เราไม่ได้โฟกัสแค่ตัวเลขบนตาชั่ง แต่ วิเคราะห์ระบบเผาผลาญ ฮอร์โมน และพฤติกรรมการกิน ของคุณแบบเฉพาะบุคคล
รัตตินันท์ คลินิกมีแพทย์ดูแลใกล้ชิดตลอดโปรแกรม
ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและโภชนาการ เราออกแบบโปรแกรมที่เหมาะกับสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายของคุณจริง ๆ
ช่วยให้คุณ ลดได้จริง โดยไม่ต้องทรมาน
ไม่ใช่แค่การอดอาหาร แต่คือการเรียนรู้วิธี กินให้เป็น พอดีกับร่างกายของคุณ ไม่โยโย่ ไม่เครียด ไม่เสียมวลกล้ามเนื้อ
มีหลายทางเลือก
- โปรแกรมควบคุมอาหาร
- โปรแกรม Balance Hormones
- ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะสำหรับผู้ที่เหมาะสม
“โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก” ที่ Rattinan Clinic เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่น้ำหนักขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
หากคุณพบว่าการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถลดน้ำหนักได้แม้จะพยายามแล้ว โปรแกรมของเราจะช่วยคุณปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ผู้ที่ทานน้อยแล้วแต่น้ำหนักไม่ลง
- ผู้ที่เคยลองควบคุมเองแล้วล้มเหลวหลายรอบ
หากคุณเคยลองวิธีการต่างๆ และยังไม่สำเร็จ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะตัว
- ผู้ที่สนใจ “ยาคุมหิว” หรือ “ยา ปรับฮอร์โมนเพื่อลดน้ำหนัก” แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
เราพร้อมให้คำแนะนำและกำหนดการรักษาที่เหมาะสมให้กับคุณ เพื่อให้การลดน้ำหนักได้ผลอย่างยั่งยืน
โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก ที่ รัตตินันท์ คลินิก พร้อมช่วยให้คุณก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก พร้อมกับคำแนะนำจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการเข้าโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก ออกแบบเฉพาะคุณ
1. ตรวจสุขภาพวิเคราะห์ฮอร์โมนและระบบเผาผลาญ
ตรวจเลือด วัดองค์ประกอบร่างกายแบบ 3 มิติ
2. พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
3. วางแผนแบบเฉพาะบุคคล
รวมถึงโภชนาการ กิจกรรม และการใช้ยาเฉพาะกรณี
4. ติดตามผลอย่างใกล้ชิดทุกเดือน
ตรวจร่างกายซ้ำ ปรับแผนยา/อาหารตามผลลัพธ์จริง
5.โค้ชโภชนาการและพฤติกรรม
เพื่อให้การลดน้ำหนัก กลายเป็นนิสัยสุขภาพ ที่ยั่งยืน ด้วยการปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายที่เหมาะสม พร้อมติดตามและปรับแผนให้เหมาะกับคุณ เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายและคงผลในระยะยาว
รายละเอียดโปรแกรมลดน้ำหนัก คุมหิว ระยะเวลา 3 เดือน
ระยะเวลา
12 สัปดาห์ (3 เดือน 3 เฟส)
เป้าหมาย
- ปรับการทำงานของระบบเผาผลาญ (Metabolic Reset)
- เปลี่ยนวงจรความอยากอาหาร (Appetite Signal Rewire)
- ลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน โดยไม่โยโย่
- ดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด และใช้ยาปรับสมดุลความหิว
Phase 1 เริ่มต้น (Week 0-4)
- ตรวจสุขภาพ, วางแผนเฉพาะบุคคล
- ปรับฮอร์โมนคุมหิวเฟสแรก
- ตรวจ 3D Body Scan
Phase 2 ปรับสมดุล (Week 5-8)
- ปรับฮอร์โมนคุมหิวสู่เฟส 2
- ตรวจ Body Scan ซ้ำ (ดู % ไขมัน)
- สร้างนิสัยสุขภาพ, โค้ชจิตวิทยา
Phase 3 ยั่งยืน (Week 9-12)
- ปรับฮอร์โมนคุมหิวสู่เฟส 3
- ตรวจสุขภาพซ้ำ, ติดตามผลลัพธ์
- ปรับแผนสำหรับระยะ Maintenance
แพ็กเกจโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก Rattinan Clinic
Reset
ปรับสมดุลความหิวและจังหวะร่างกาย
- ระยะเวลา 1 เดือน
- คุมน้ำหนัก 1 ด้าม
- ลดน้ำหนัก 1-3%
- 3D Body Scan 1 ครั้ง
- พบแพทย์ 1 ครั้ง
Control
ออกแบบแผนเฉพาะตัวเพื่อปรับพฤติกรรม
- ระยะเวลา 2 เดือน
- คุมน้ำหนัก 3-4 ด้าม
- ลดน้ำหนัก 3-6%
- 3D Body Scan 2 ครั้ง
- พบแพทย์ 2 ครั้ง
Transform
เปลี่ยนทั้งระบบเผาผลาญเพื่อรูปร่างยั่งยืน
- ระยะเวลา 3 เดือน
- คุมน้ำหนัก 6-9 ด้าม
- ลดน้ำหนัก 6-15%
- 3D Body Scan 3 ครั้ง
- พบแพทย์ 3 ครั้ง
- ปรึกษาพฤติกรรม รายเดือน
บริการเสริม RF / Morpheus8