หากพูดถึงปัญหาผิวหน้าที่ทุกคนมักพบเจอบ่อยครั้ง คงหนีไม่พ้นเรื่องของ หลุมสิว อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ลดความมั่นใจ ซึ่งหลุมสิวมักเกิดจาก การอักเสบของสิวที่ลุกลามลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังแท้ จนทำให้เนื้อเยื่อผิวเสียหาย และไม่สามารถสมานตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดพังผืดหรือรอยบุ๋ม ที่เรามองเห็นเป็นหลุมสิวนั่นเอง
ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการ ตัดพังผืดหลุมสิว อีกหนึ่งวิธีช่วยรักษาหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น
ตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision) คืออะไร?
ตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision) คือ เทคนิคการรักษาหลุมสิวลึก ที่เกิดจากพังผืดใต้ผิวหนัง โดยใช้เข็มปลายทู่เข้าไปตัดพังผืดที่รั้งผิวไว้ให้เป็นหลุม ทำให้ผิวบริเวณนั้นเด้งขึ้น และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้นในระยะยาว
หลักการของการตัดพังผืด
การตัดพังผืด หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Subcision คือ เทคนิคการรักษาหลุมสิวโดยตรงที่เข้าไปจัดการกับต้นตอของหลุม ซึ่งก็คือ พังผืดที่ดึงรั้งผิวไว้จากด้านล่าง โดยเป้าหมายของการตัดพังผืด คือ ตัดเส้นพังผืดที่รั้งผิวให้เป็นหลุม กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ในบริเวณนั้น และทำให้ผิวค่อย ๆ เด้งขึ้น เรียบเนียนขึ้นในระยะยาว
โดยวิธีการตัดพังผืดหลุมสิว จะมีเทคนิคการใช้เข็มปลายทู่ตัดพังผืดที่ยึดผิวไว้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่
หลุมสิวแบบไหน? ที่เหมาะกับการตัดพังผืด
Rolling Scar (หลุมแบบคลื่นหรือร่องตื้นยาว)
สิวประเภทนี้จะมีลักษณะผิวยุบเป็นคลื่นหรือร่องยาว ๆ ไม่ชัดเป็นหลุมจุด ๆ ซึ่งเกิดจากพังผืดใต้ผิวที่ดึงรั้งให้เกิดความไม่เรียบ เหมาะมากกับการตัดพังผืด เพราะการตัดจะช่วยปลดล็อกพังผืดให้ผิวเด้งขึ้น
Boxcar Scar (หลุมขอบชัด แบนลึก)
สิวประเภทนี้จะมีลักษณะของสิวชนิดนี้จะหลุมเป็นทรงเหลี่ยมหรือวงรี ขอบค่อนข้างชัดเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนแบบเป็นแผ่น มีพังผืดประกอบบางส่วน เหมาะกับการตัดพังผืด และการทำ Picosecondlaser เพื่อช่วยการกระตุ้นผิวใหม่
หลุมสิวแบบไหน? ที่ไม่เหมาะกับการตัดพังผืด
Ice Pick Scar (หลุมแคบ ลึก คล้ายรูเข็ม)
สิวประเภทนี้มีลักษณะแคบและลึกมาก เหมือนรูเจาะ โดยเกิดจาก การทำลายเนื้อเยื่อผิวอย่างรุนแรง ไม่เน้นพังผืด แนะนำให้ทำ TCA CROSS หรือ เลเซอร์เฉพาะจุด (Picosecondlaser) ร่วมด้วย
ตัดพังผืดหลุมสิว ด้วย Skinpen
SkinPen คือเทคโนโลยี Microneedling (ไมโครนีดลิ่ง) หรือการใช้เข็มขนาดเล็กจำนวนมากจิ้มลงไปในผิวหนังชั้นตื้นและลึกอย่างควบคุม เพื่อทำลายพังผืดที่ดึงรั้งผิวจากภายใน พร้อมกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น
SkinPen จึงทำหน้าที่ตัดพังผืดอย่างอ่อนโยน โดยไม่ต้องใช้เข็มใหญ่หรือผ่าตัด ขอแนะนำให้ตัดพังผืดด้วย SkinPen อาจต้องทำซ้ำประมาณ 3–6 ครั้ง ห่างกันทุก 4–6 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเคสที่มีหลุมสิวหลายตำแหน่ง
จุดเด่นของการ ตัดพังผืดหลุมสิว ด้วย SkinPen
- แผลเล็ก ไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่มีเลือดออกมากหรือบวมช้ำ
- กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม
- ปลอดภัยกับทุกสีผิว เหมาะแม้แต่กับผู้ที่มีผิวคล้ำ
- เสี่ยงรอยดำต่ำ เมื่อเทียบกับเลเซอร์บางประเภท
- เสริมผลลัพธ์ได้ดี เมื่อใช้ร่วมกับ PRP หรือเลเซอร์อื่น ๆ เช่น Pico Laser
ขั้นตอน การตัดพังผืดหลุมสิว ทำอย่างไร?
1. ประเมินผิวโดยแพทย์
- วิเคราะห์ชนิดของหลุมสิว (Boxcar, Rolling, Ice Pick)
- พิจารณาความลึก ความกว้าง และตำแหน่งของหลุม
- วางแผนจุดที่จะทำการตัดพังผืด
2. ทำความสะอาดและฉีดยาชาเฉพาะจุด
- ใช้ ยาชาเฉพาะที่ เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ
- แพทย์จะรอจนมั่นใจว่าผิวชาเพียงพอ
3. ตัดพังผืดหลุมสิว ด้วย SkinPen
- ใช้เข็มขนาดเล็กมากเจาะผิวหนังเพื่อสร้างบาดแผลเล็ก ๆ ที่ควบคุมได้
- กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนและรอยแผลดูจางลง
4. กดประคบเย็นป้องกันรอยช้ำ
- หลังทำจะมีเลือดซึมเล็กน้อย / อาจมีรอยช้ำ
- แพทย์จะกดประคบเย็นและอาจให้ยาทาเพื่อลดรอยบวมช้ำ
ข้อดีของ การตัดพังผืดหลุมสิว
1. แก้ไขปัญหาหลุมสิวได้ตรงจุด
การตัดพังผืด คือ การเข้าไปจัดการกับพังผืดใต้ผิวหนังที่ยึดรั้งผิวหนังไว้ ทำให้หลุมสิวไม่สามารถเติมเต็มหรือเด้งกลับมาได้เอง เปรียบเสมือนการปลดล็อกพังผืด และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อให้ผิวเด้งขึ้นและเรียบเนียนขึ้น
2. ผลลัพธ์ที่เห็นผลและคงทน
หลังจากมีการตัดพังผืด 1-2 ครั้ง หลุมสิวจะเริ่มตื้นขึ้นและผิวจะดูเนียนเรียบขึ้น ซึ่งจะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวฟื้นตัวดีขึ้นในระยะยาว และผลลัพธ์จะคงทนถาวรมากกว่าการรักษาด้วยครีมทั่วไป
3. ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
ตัดพังผืด ไม่เพียงแค่ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่ยัง กระตุ้นผิวให้เกิดการสมานตัว จึงช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนขึ้นและลดรอยแผลเป็นจากสิวได้
4. Subcision เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ลึกและรุนแรง
หลุมสิวแบบ Boxcar และ Rolling ซึ่งมีพังผืดยึดเกาะใต้ผิว มักตอบสนองดีต่อการตัดพังผืด โดยสามารถเห็นผลที่ชัดเจนเมื่อทำหลายครั้ง เช่น 2–3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
5. ไม่มีแผลเป็นถาวร
การตัดพังผืดทำโดยการใช้เข็มปลายทู่เข้าไปใต้ผิว ทำให้แทบไม่เกิดแผลภายนอก หลังการรักษา, ผิวอาจมีรอยช้ำหรือบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปใน 1–2 สัปดาห์
6. ทำควบคู่กับการรักษาวิธีอื่น ๆ ได้
การตัดพังผืดสามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น เลเซอร์ (Fractional, CO2, Picosecond) หรือ PRP (Platelet Rich Plasma) เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และเร่งให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
ข้อควรระวังของ การตัดพังผืดหลุมสิว
1. ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การตัดพังผืด ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการใช้เข็มปลายทู่เข้าไปใต้ผิวหนังต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น เส้นเลือดแตก, รอยแผลเป็น หรือ การตัดพังผืดผิดจุด
2. หลังทำอาจมีอาการบวมและรอยช้ำ
หลังการตัดพังผืด อาจเกิดการบวม, รอยช้ำ, หรือเลือดซึมเล็กน้อย ในช่วง 3–7 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะเกาแผลเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือบาดเจ็บเพิ่มเติม
3. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อสิวอักเสบ
หากคุณมี สิวอักเสบหรือมีการติดเชื้อ การทำ Subcision อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ควรรักษาสิวให้หายก่อนแล้ว ค่อยทำ Subcision เพื่อป้องกันไม่ให้การรักษาซับซ้อน
4. ต้องระมัดระวังในกรณีของผู้ที่มีปัญหาผิวบอบบาง
คนที่มีผิวบอบบางหรือมีอาการแพ้ง่ายควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา เพราะการตัดพังผืดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ แนะนำให้ทำการทดสอบการแพ้หรือทดสอบการใช้เข็มก่อน
5. การรักษาผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ
การติดเชื้อ เป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากไม่รักษาความสะอาดหลังทำการรักษา ควรใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาลดการอักเสบตามคำแนะนำของแพทย์หลังจากการรักษา
6. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
หลังทำการตัดพังผืด ผิวจะบอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำจากแสงแดด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงอย่างเคร่งครัดในช่วง 2–3 สัปดาห์หลังการรักษา
วิธีดูแลตัวเองหลัง ตัดพังผืดหลุมสิว
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือบีบแผล
หลังจากการตัดพังผืด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือบีบแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเกิดรอยแผลเป็น อย่าลืม ล้างมือให้สะอาด ก่อนแตะต้องใบหน้า
2. ใช้เย็นช่วยลดบวม
หลังการรักษา อาจมีอาการบวมและรอยช้ำ ที่บริเวณที่ทำการรักษา ประคบเย็น ด้วยผ้าชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นในช่วง 1–2 วันแรก หลังจากนั้นบวมจะเริ่มหาย
3. ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
แพทย์อาจให้ ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาลดการอักเสบ เพื่อลดการติดเชื้อและอาการบวม
ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
4. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าช่วงแรก
หลังการตัดพังผืดควร หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพราะการใช้เครื่องสำอางอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตันรูขุมขน หากจำเป็นต้องแต่งหน้า ควรเลือกเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมันและไม่ทำให้เกิดการอุดตัน
5. หลีกเลี่ยงการออกแดด
แสงแดดอาจทำให้ผิวที่เพิ่งรักษามาบอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 2–3 สัปดาห์หลังการรักษา และ ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50+ ทุกวัน
6. ไม่ขัดถูหรือแกะเกา
ห้าม ขัดถูหรือแกะเกา บริเวณที่ทำการรักษา แม้ว่าจะมีรอยแผลหรือสะเก็ดผิว เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นถาวร
7. พักผ่อนให้เพียงพอ
หลังการตัดพังผืด ควรให้ร่างกายพักผ่อนเพียงพอ เพื่อช่วยกระบวนการฟื้นตัวของผิวและการสร้างคอลลาเจนใหม่ งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าร้อนหรือเหงื่อออกมาก เช่น การออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 1-2 วันแรก
8. ดูแลผิวหลังบวมและช้ำ
เมื่ออาการบวมและรอยช้ำลดลง ควรเริ่ม ใช้สกินแคร์บำรุง เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่ระคายเคือง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น ครีมที่มีวิตามิน C หรือ Retinol
ตัดผังพืดหลุมสิว Skinpen ร่วมกับ Picosecond Laser ได้ไหม?
การตัดผังพืดหลุมสิว ร่วมกับ Picosecond Laser สามารถทำร่วมกันได้เป็นอย่างดี โดยจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ในบริเวณที่ได้รับการรักษา โดยช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ซึ่ง Subcision จะช่วยแก้ไขหลุมสิวที่ลึก แต่ในบางกรณีอาจทิ้ง รอยดำหรือรอยแดง ไว้จากสิวที่เคยอักเสบ
โดยเฉพาะการใช้ SkinPen ร่วมกับ Picosecond Laser เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการรักษาหลุมสิว โดยเฉพาะในกรณีที่มีหลุมสิวลึกและรอยแผลเป็นจากสิว เพราะทั้งสองเทคนิคช่วยเสริมประสิทธิภาพกันในการฟื้นฟูผิวอย่างรวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่ยาวนาน
สรุป ตัดพังผืดหลุมสิว คืออะไร?
สรุป ตัดพังผืดหลุมสิว คือ การรักษาหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นและจางลงโดยการใช้ปากกาเข้าไปตัดพังผืดใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลุ่มสิวตื้นขึ้น ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังรักษารอยแตกของผิวหนังได้อีกด้วย
อีกทั้งการ ตัดพังผืดหลุมสิว สามารถทำร่วมกับ Picosecond Laser ได้ เพราะทั้งสองโปรแกรมนี้จะช่วยรักษาผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน กระตุ้นคอลลาเจน เพื่อผิวกระจ่างใส
ที่ รัตตินันท์ คลินิก เรามีตัวเลือกการรักษาหลุมสิวที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและสภาพผิวของแต่ละคน โดยการรักษาของเรามีทั้งทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด และเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวเลือก การรักษาหลุมสิว ที่รัตตินันท์ คลินิก
-
Microneedling (SkinPen)
เป็นใช้เข็มเล็ก ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียน
เหมาะกับ : หลุมสิวตื้นถึงปานกลาง
-
Picosecond Laser (PicoLaser)
เลเซอร์ที่ปล่อยพลังงาน ช่วยลดรอยแดงและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เหมาะกับ : หลุมสิวลึก และรอยแผลเป็นที่มีสี
-
ฟิลเลอร์หลุมสิว
เติมเต็มหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์ที่สามารถเติมเต็มร่องหลุมสิวให้ตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เหมาะกับ : หลุมสิวที่มีความลึกมาก
ปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มการรักษา
- เพื่อประเมินสภาพผิว อย่างละเอียด และเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ
- วางแผนการรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามความต้องการ
- การดูแลหลังการรักษาอย่างครบถ้วน
ที่ รัตตินันท์ คลินิก เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ดูแลตลอดการรักษา เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์หลากหลายสาขา ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัยสูงและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้รับรองมาตรฐานจาก AACI สหรัฐอเมริกา ด้านศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก 2 ปีซ้อน รวมถึงรางวัลจาก WhatClinic ด้านบริการลูกค้ายอดเยี่ยมระดับสากล เป็นปีที่4 จากลูกค้ากว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง