English
Chinese
Indonesian
ในยุคที่ทุกวินาทีมีค่าต่อภาพลักษณ์ การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดกลายเป็นทางเลือกที่คนยุคใหม่เลือกก่อนการผ่าตัด โปรแกรม Ulthera คือเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง แค่ครั้งเดียว คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัวหลังทำ คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะคืนความมั่นใจในฉบับที่ดีที่สุดของคุณ
ทำไม 'ความหย่อนคล้อย' ถึงลดความมั่นใจในทุกวัย?
ภาพลักษณ์ภายนอกคือสิ่งแรกที่สะท้อนตัวตนในทุกมิติของชีวิต และเมื่อผิวหน้าสูญเสียความกระชับ ไม่เพียงแต่ใบหน้าจะเปลี่ยน แต่ความมั่นใจภายในก็สั่นคลอนตามไปด้วย ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ความหย่อนคล้อยที่เกิดจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินทำให้โครงหน้าดูเปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว หลายคนเริ่มรู้สึกไม่กล้าถ่ายรูป ไม่กล้าเข้าสังคม และไม่กล้ามองตัวเองในกระจก หากคุณรู้สึกแบบนั้น คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และนี่คือเหตุผลที่ โปรแกรม Ulthera ถูกออกแบบมาเพื่อดึงความมั่นใจของคุณกลับคืนมาแบบไม่ต้องผ่าตัด
โปรแกรม Ulthera คืออะไร? แค่ชื่อก็เปลี่ยนความคิดเรื่อง 'ยกหน้า'
ลองจินตนาการถึงการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องพึ่งเข็ม ไม่ต้องมีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น นั่นแหละคือสิ่งที่ โปรแกรม Ulthera ทำได้จริง เทคโนโลยี Ulthera หรือชื่อเต็มว่า Ultherapy คือระบบยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (Focused Ultrasound) ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า แตกต่างคือ อัลเทอร่า ไม่ต้องผ่าตัด และได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ อัลเทอร่า กลายเป็นชื่อที่เปลี่ยนความคิดเรื่อง ‘ยกหน้า’ ไปตลอดกาล
จากการเจ็บตัว มาเป็นการลงทุนเพื่อผิวสวยแบบชาญฉลาด
เทคโนโลยี Ulthera SPT มองเห็น–วางแผน–ยกกระชับ อย่างแม่นยำ
เพราะใบหน้าแต่ละคนมีความต่าง การยกกระชับจึงไม่ควรใช้สูตรเดียวกันกับทุกคน นี่คือเหตุผลที่เทคโนโลยี SPT หรือ See–Plan–Treat ของ โปรแกรม Ulthera จึงถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมีชั้นเชิง ด้วยการแสดงผลแบบ Real-Time Visualization แพทย์สามารถ “เห็น” ชั้นผิวจริงผ่านหน้าจออัลตราซาวด์ ขณะเดียวกันก็สามารถ “วางแผน” พลังงานอย่างแม่นยำ และ “รักษา” ได้อย่างตรงจุดที่สุด
ข้อดีของ SPT ไม่ใช่แค่แม่นยำ แต่ยังช่วยลดจำนวนช็อตที่ใช้ให้น้อยลงโดยไม่ลดประสิทธิภาพ
ทำให้การรักษาเจ็บน้อยลง เหมาะกับคนที่กลัวความรู้สึกเจ็บแต่ยังอยากเห็นผลชัดเจน Ulthera SPT จึงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการยกกระชับที่ทั้งปลอดภัย อ่อนโยน และได้ผลจริงในทุกมิติของผิวหน้า
ยกกระชับที่ 'ใช่' ต้องเจาะจงถึงชั้น SMAS
การยกกระชับที่ได้ผลจริงต้องลึกถึงต้นตอของปัญหา และชั้น SMAS คือคำตอบนั้น ชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้าแบบผ่าตัด นี่คือสิ่งที่ทำให้โปรแกรม Ulthera แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น โปรแกรม HIFU หรือ โปรแกรม Thermage เพราะ อัลเทอร่าสามารถส่งพลังงานลงลึกถึง SMAS ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และทำได้ด้วยความแม่นยำระดับมิลลิเมตร
ผลลัพธ์คือการยกกระชับที่เห็นได้ชัด กรอบหน้าชัด ผิวแน่นขึ้น และความอ่อนเยาว์ที่รู้สึกได้จริง โดยไม่ต้องเสียเวลาฟื้นตัวหรือเจ็บตัวเกินจำเป็น เพราะเมื่อการรักษาลงถูกชั้น ผลลัพธ์ก็ยิ่งน่าพึงพอใจ และอยู่ได้นานกว่า
ใครบ้างควรทำ โปรแกรม Ulthera? แล้วคุณอยู่ในกลุ่มนั้นไหม?
หากคุณกำลังส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด Ulthera อาจเป็นคำตอบที่คุณรอคอย เทคโนโลยีนี้เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือริ้วรอยเริ่มมาเยือน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คอลลาเจนเริ่มลดลงตามธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวหย่อนมากก่อนค่อยทำ โปรแกรม Ulthera เพราะยิ่งเริ่มเร็ว โอกาสในการคงความอ่อนเยาว์ก็ยิ่งสูง เหมาะกับคนที่เคยทำ HIFU แล้วไม่เห็นผล หรือไม่สะดวกผ่าตัดศัลยกรรม อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอในแบบที่เป็นธรรมชาติ ไม่ฝืน ไม่ปลอม แค่เป็นคุณในเวอร์ชันที่ดีกว่า
ใครที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำโปรแกรม Ulthera
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะ เช่น โรคผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะฝังอยู่ในร่างกายใกล้บริเวณที่รักษา
โปรแกรม Ulthera เจ็บไหม? ทำแล้วบวมกี่วัน คำถามยอดฮิตก่อนตัดสินใจ
“จะเจ็บไหม?” คือคำถามแรกที่ผู้สนใจโปรแกรม Ulthera ถามแทบทุกคน และคำตอบคือ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แม้พลังงานจะลงลึกถึงชั้น SMAS แต่ด้วยเทคโนโลยี SPT และเทคนิคแพทย์เฉพาะทางในปัจจุบัน ทำให้ความรู้สึกระหว่างทำอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ยาชาเฉพาะจุดก่อนเริ่มการรักษาเทคนิคของรัตตินันท์ ซึ่งสามารถลดความรู้สึกไม่สบายลงได้ถึง 70%
หลังทำ อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึงผิวเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและแนวขากรรไกร แต่ทั้งหมดนี้มักหายไปในเวลาไม่เกิน 3 วัน และไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบไม่สะดุด ไม่ต้องลางาน ไม่ต้องใส่ผ้าปิดแผล ทำแล้วออกไปใช้ชีวิตต่อได้ทันที นับเป็นข้อเสียของ โปรแกรม Ulthera ที่ยอมรับได้
โปรแกรม Ulthera ผลลัพธ์จริงอยู่ได้นานแค่ไหน ต้องทำบ่อยไหม
โปรแกรม Ulthera ไม่ใช่แค่ยกกระชับชั่วคราว แต่คือการลงทุนให้กับผิวในระยะยาว หลังทำ คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์บางส่วนทันทีจากการหดตัวของเนื้อเยื่อ และในช่วง 2–3 เดือนถัดมา ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผิวจะดูแน่น เต่งตึง และอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ข่าวดีคือคุณไม่จำเป็นต้องทำบ่อย ๆ การทำเพียงปีละครั้งก็สามารถรักษาผลลัพธ์ได้นานถึง 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ไม่ต้องจองคอร์สหลายครั้ง ไม่ต้องเสียเวลาเข้าคลินิกบ่อย ๆ แค่ครั้งเดียว ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนความรู้สึกในทุกครั้งที่คุณมองตัวเองในกระจก
โปรแกรม Ulthera เหมาะกับส่วนไหนของใบหน้า?
โปรแกรม Ulthera ไม่ได้เหมาะแค่กับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยเท่านั้น แต่ยังออกแบบมาให้ตอบโจทย์เฉพาะจุดในใบหน้าที่หลายคนมองข้าม เช่น บริเวณใต้ตาที่บางและบอบบาง หน้าผากที่มักมีรอยพับจากการแสดงสีหน้า หรือแนวกรอบหน้าที่ต้องการความคมชัดขึ้นอีกนิด
บริเวณยอดนิยมที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัด ได้แก่
- กรอบหน้าและคาง – ช่วยเก็บเหนียง ลดความหย่อนคล้อย ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
- แก้มและแนวขากรรไกร – ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและชัดเจน
- หน้าผากและคิ้ว – ยกหางคิ้ว ลดหนังตาตก เปิดดวงตาให้สดใส
- ใต้ตา – ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย ทำให้ดวงตาดูไม่อ่อนล้า
- ลำคอ – ลดรอยพับและความหย่อนยานของผิวบริเวณคอ
การเลือกทำ อัลเทอร่า แบบเฉพาะจุดหรือทั่วใบหน้าควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับปัญหาเฉพาะบุคคล และส่งเสริมภาพรวมของใบหน้าอย่างกลมกลืน
เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีใกล้เคียง ความต่างที่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
| เทคโนโลยี | พลังงานที่ใช้ | ข้อดีเด่น | เหมาะกับผิวแบบไหน | ระยะเวลาเห็นผล | ผลลัพธ์อยู่นาน | ประเทศต้นกำเนิด | ลึกถึงชั้นผิว | ระดับความเจ็บ |
| Ulthera | Focused Ultrasound (มีภาพ Real-Time) | เจาะจงถึง SMAS, ปลอดภัย, เห็นผลจริง | ผิวเริ่มหย่อนคล้อย อายุ 30+ | เริ่มเห็นใน 1 เดือน ชัดใน 2–3 เดือน | 12–18 เดือน | สหรัฐอเมริกา (FDA) | SMAS | ปานกลางถึงต่ำ (ใช้ยาชาช่วย) |
| HIFU | Focused Ultrasound (ไม่มีภาพ Real-Time) | ราคาเข้าถึงง่าย | ผิวหย่อนเล็กน้อย ไม่ต้องการเจาะจงลึก | 1–2 เดือน | 6–12 เดือน | เกาหลี/จีน | ใต้ชั้นผิวกลาง | ปานกลาง |
| Thermage | Radiofrequency (RF) | กระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้า | ผิวบาง หย่อนน้อย | 2–4 เดือน | 12 เดือน | สหรัฐอเมริกา | ชั้นกลางของผิว | ปานกลาง-สูง (เจ็บร้อนลึก) |
| Morpheus8 | RF + Microneedle | แก้หลุมสิว ผิวไม่สม่ำเสมอ | ผิวมีรอยหลุม/ไม่เรียบ | 1 เดือนขึ้นไป | 6–12 เดือน | สหรัฐอเมริกา | Dermis ลึก | ปานกลาง-สูง (ใช้เข็ม) |
| Ultraformer III | HIFU รุ่นใหม่ | ยิงหลายชั้นได้ | ผิวเริ่มหย่อน, ต้องการราคากลาง | 1–2 เดือน | 6–12 เดือน | เกาหลีใต้ | ชั้นกลางถึงลึก | ปานกลาง |
| Oligio / Volnewmer | RF รุ่นใหม่ | ราคาเข้าถึงง่าย | ผิวไม่หย่อนมาก, ต้องการผิวเนียน | 2–3 เดือน | 6–9 เดือน | เกาหลี | ชั้นผิวระดับกลาง | ต่ำ-ปานกลาง |
แม้ในตลาดความงามจะมีหลายเทคโนโลยียกกระชับผิว แต่ อัลเทอร่า ยังคงยืนหนึ่งในเรื่องของความลึก ความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ มาดูความต่างที่เห็นภาพชัดเจนกัน
- Ulthera vs HIFU ทั้งสองใช้คลื่นเสียงโฟกัส แต่ HIFU ไม่มีภาพ Real-Time Visualization ทำให้ความแม่นยำต่ำกว่า และยิงพลังงานไม่เสถียรเท่า Ulthera
- Ulthera vs Thermage Thermage ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ที่ลงลึกระดับกลาง เหมาะกับผิวไม่หย่อนคล้อยมาก ในขณะที่ Ulthera ลงลึกถึง SMAS ซึ่งให้ผลลัพธ์ยกกระชับที่เด่นชัดกว่า
- Ulthera vs Morpheus8 Morpheus8 ใช้เข็มเจาะร่วมกับ RF เหมาะกับหลุมสิวและผิวไม่สม่ำเสมอ แต่ไม่สามารถยกกระชับโครงสร้างใบหน้าได้เท่า Ulthera
- Ulthera vs Ultraformer III Ultraformer เป็น HIFU รุ่นใหม่ที่ยิงได้หลายระดับความลึก แต่ยังไม่มีระบบแสดงภาพในระหว่างทำ ทำให้ไม่แม่นยำเท่า Ulthera
- Ulthera vs Oligio หรือ Volnewmer เทคโนโลยี RF สายเกาหลีที่มีราคาย่อมเยา แต่ยังขาดการรับรองในระดับสากลเทียบเท่า Ulthera ที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ มาแล้ว
สุดท้าย การเลือกเทคโนโลยีควรพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ต้องการ โครงสร้างใบหน้า และความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา เพราะยิ่งเทคโนโลยีดี และคนที่ใช้แม่น ผลลัพธ์ก็จะดีแบบไม่ต้องลุ้น
ใช้กี่ไลน์ถึงจะเห็นผล? น้อยไปไม่ดี เยอะไปก็เจ็บเปล่า
จำนวนไลน์ (Lines) ที่ใช้ใน Ulthera คือหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์โดยตรง แต่หลายคนเข้าใจผิดว่า “ยิ่งเยอะยิ่งดี” ซึ่งไม่จริงเสมอไป เพราะการยิงมากโดยไม่แม่นยำ อาจทำให้เกิดความร้อนสะสม เจ็บตัวโดยไม่จำเป็น และไม่เข้าชั้นผิวเป้าหมาย
การใช้ไลน์ที่มีประสิทธิภาพควรพิจารณาจากโครงสร้างหน้าเฉพาะบุคคล เช่น บางคนอาจต้องใช้ 300–500 ไลน์ สำหรับกรอบหน้าและเหนียง แต่บางคนเพียง 200 ไลน์ก็เพียงพอ หากยิงลงถูกจุดอย่างแม่นยำภายใต้เทคโนโลยี SPT ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์
ดังนั้น แทนที่จะถามว่าควรใช้กี่ไลน์ ลองถามว่า “แพทย์ของคุณมีความแม่นยำแค่ไหน?” เพราะจำนวนไลน์ที่เหมาะสมควรมาจากการวิเคราะห์และวางแผนอย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่ยิงให้ครบจบตามโปรโมชัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคา Ulthera แตกต่างกันในแต่ละคลินิก
ราคาของการทำ Ulthera ในแต่ละคลินิกสามารถแตกต่างกันได้อย่างมีนัยสำคัญ และไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนไลน์เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่ลึกและซับซ้อนกว่านั้น
เครื่องแท้จาก MERZ เยอรมนี vs เครื่องเทียบ/ปลอม
เครื่องแท้ได้รับการรับรองจาก MERZ และมีระบบตรวจสอบ Certificate แสดงผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัย ในขณะที่เครื่องเทียบอาจให้พลังงานไม่เสถียรและเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
แพทย์ผู้ทำการรักษา
ประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ส่งผลต่อความแม่นยำในการยิงพลังงาน หากยิงผิดชั้นผิว ผลลัพธ์อาจไม่ชัดหรือเกิดอาการเจ็บโดยไม่จำเป็น แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่ผ่านการอบรมจาก MERZ โดยตรงจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา
เทคนิควางแผนพลังงานเฉพาะบุคคล (SPT)
คลินิกที่ใช้ระบบ SPT (See-Plan-Treat) และวิเคราะห์ใบหน้าก่อนทำจริง จะสามารถวางแผนจำนวนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าแม้ใช้ไลน์ไม่มาก
บริการหลังทำที่มีมาตรฐาน
บางคลินิกมีระบบติดตามผล นัดตรวจซ้ำ หรือให้คำแนะนำหลังทำอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้คือส่วนเสริมที่สะท้อนคุณภาพ ไม่ใช่แค่ต้นทุนเพิ่ม แต่คือการดูแลผิวของคุณอย่างครบถ้วน
สุดท้าย อย่าดูแค่ราคาโปรโมชัน แต่ให้มองว่าเงินที่คุณจ่ายกำลังแลกกับความปลอดภัย ความแม่นยำ และความมั่นใจในผลลัพธ์แบบยั่งยืนหรือไม่ เพราะของดี ไม่ควรเสี่ยงราคาถูก
ทำไมต้อง โปรแกรม Ulthera ที่รัตตินันทน์ คลินิก?
ในยุคที่ทุกคลินิกต่างโฆษณาว่าใช้เครื่องแท้และแพทย์เชี่ยวชาญ อะไรคือความแตกต่างที่ทำให้รัตตินันทน์คลินิกเป็นตัวเลือกที่คนไข้แนะนำต่อมากที่สุด?
- แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่ทำเองทุกเคส ที่นี่ ทุกเคสจะดำเนินการโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่ผ่านการอบรมเทคนิค โปรแกรม Ulthera SPT โดยตรง
- เทคนิคลดเจ็บเฉพาะของคลินิก พัฒนาโปรโตคอลการผลักยาชาและใช้พลังงานที่เหมาะสมกับแต่ละโครงหน้า ทำให้ผู้รับบริการหลายรายยืนยันว่าเจ็บน้อยกว่าที่อื่นอย่างชัดเจน
- รับประกันเครื่องแท้ ตรวจสอบได้ด้วย Certificate และ QR Code ได้รับใบรับรองจาก MERZ พร้อมระบบสแกน QR Code ตรวจสอบประวัติการใช้งานจริง
- รีวิวจริงจากเคสจริง ไม่จ้างหน้าม้า รีวิวในเพจและ Google Review มาจากผู้ใช้บริการจริงที่มีประสบการณ์ตรง ไม่ได้มาจากการตลาดจ้างรีวิว
- ดูแลหลังทำครบถ้วน นัดติดตามผลหลังทำฟรี พร้อมคำแนะนำการดูแลตัวเองเฉพาะบุคคล เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานที่สุด
โปรแกรม Ulthera ที่รัตตินันทน์จึงไม่ใช่แค่ความสวยภายนอก แต่คือประสบการณ์การดูแลอย่างมีมาตรฐานระดับแพทย์ผิวหนัง ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอน
ทีมแพทย์รักษาผิวพรรณ
ที่ รัตตินันท์ คลินิก
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์
แพทย์หญิง
ฝึกอบรมเฉพาะทางด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย
พญ. นฤมล วิเชียร
แพทย์หญิง
ปริญญาโทสาขาตจวิทยา
พญ. จุฑามาศ ตันคุณากร
ตจแพทย์
วุฒิบัตรสาขาตจวิทยา
โปรแกรม Ulthera ทำร่วมกับอะไรได้บ้างเพื่อผลลัพธ์ที่มากขึ้น
แม้ อัลเทอร่า จะให้ผลลัพธ์อย่างโดดเด่นด้วยตัวเอง แต่การทำร่วมกับเทคโนโลยีหรือหัตถการอื่น ๆ อย่างเหมาะสมสามารถเสริมประสิทธิภาพให้ยิ่งชัดเจนและคงอยู่นานขึ้น โดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายและปัญหาผิวของแต่ละคน เช่น
- Ulthera + Botox Ulthera ยกกระชับจากภายใน ส่วน Botox ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยตื้นลง เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ใบหน้าอ่อนเยาว์ครบวงจร
- Ulthera + Filler Ulthera ยกผิวขึ้น แต่ไม่เติมเต็มความลึก Filler จะช่วยเติมในส่วนที่ขาด เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือขมับ ให้ใบหน้าดูเต็มอิ่มและสมดุล
- Ulthera + Morpheus8 หรือเลเซอร์ ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดรอยหลุมสิว หรือรูขุมขนที่กว้าง ควบคู่กับการยกกระชับโครงสร้างจากภายใน
การเลือกทำควบคู่แบบใดควรผ่านการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อออกแบบแผนการรักษาแบบ Personalization อย่างแท้จริง เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่ “ทำให้หน้าเรียวขึ้น” แต่คือการคืนความสมดุลแบบธรรมชาติที่ยั่งยืน
ข้อควรรู้ก่อนและหลังทำโปรแกรม Ulthera
เพื่อให้ผลลัพธ์จากการทำ Ulthera คุ้มค่าและยาวนานที่สุด การเตรียมตัวและดูแลหลังทำอย่างถูกวิธีคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ก่อนทำโปรแกรม Ulthera
- หลีกเลี่ยงการใช้สารผลัดเซลล์ผิวหรือเลเซอร์แรง ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีประวัติโรคเริม หรือผื่นผิวหนังเฉียบพลัน ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- ควรงดรับประทานยากลุ่มต้านการอักเสบบางชนิด เช่น แอสไพริน ก่อนทำ 1-2 วัน เพื่อป้องกันรอยช้ำ
หลังทำโปรแกรม Ulthera
- อาจรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเบา ๆ บริเวณที่ทำ ซึ่งมักหายไปภายใน 3 วัน
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น อบซาวน่า หรือทำเลเซอร์อื่น ๆ ซ้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- สามารถล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมกันแดดและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ควรบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ยิ่งชัดเจน
การดูแลก่อนและหลังทำถือเป็น “ตัวคูณ” ของผลลัพธ์ หากทำถูกจุดและมีวินัยในการดูแลต่อเนื่อง ผลลัพธ์จะอยู่นานและดูเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์
บทสรุป
โปรแกรม Ulthera ไม่ได้มาแทนที่ศัลยกรรม แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ฉลาด ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ สำหรับผู้ที่อยากยกกระชับผิวโดยไม่ต้องพักฟื้น ในยุคที่ความประทับใจแรกเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที การมีใบหน้าชัด กรอบหน้าคม และผิวแน่นแบบไร้รอยแผล จึงกลายเป็น “การลงทุน” ที่ตอบโจทย์ทั้งงานและชีวิตส่วนตัว
อย่ารอให้ผิวหย่อนจนต้องเริ่มจากศูนย์ อัลเทอร่า คือโอกาสในการย้อนวัยให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งความเจ็บไว้เบื้องหลัง
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ