เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ให้ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ วันนี้ รัตตินันท์คลินิก ขอนำเสนอ ข้อควรรู้สำหรับทุกท่านที่มาทำการ ดูดไขมัน ที่รัตตินันท์คลินิก หากท่านตัดสินใจทำที่คลินิกอื่น กรุณาสอบถามที่แพทย์และคลินิกที่ท่านทำ เนื่องจากแต่ละคลินิกอาจมีคำแนะนำแตกต่างกันไป
1. การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก
ข้อนี้สำคัญมากๆ หลายคนเข้าใจผิดว่าการดูดไขมันคือการลดน้ำหนัก ที่จะทำให้ได้รับหุ่นผอมเพรียวในระยะเวลาที่รวดเร็วอย่างในหนังหรือละคร แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่คิด การดูดไขมันจะช่วยลดสัดส่วนได้ เนื่องจากเป็นการเอาเซลล์ไขมันออกจากร่างกายในบริเวณที่ไม่สามารถลดได้จากการควบคุมอาหารตามปกติ อาจเนื่องจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ อีกทั้งเราไม่สามารถดูดไขมันได้ในหลายๆ บริเวณของร่างกาย
การดูดไขมัน จะทำให้กระชับสัดส่วนขึ้น น้ำหนักอาจเปลี่ยนลงบ้าง เพราะไขมันจะเบากว่าที่เห็นมาก และในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก อาจจะเห็นน้ำหนักขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเนื่องจากอาการบวมอักเสบ การลดน้ำหนักตามหลังการดูดไขมัน เป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้ภาพรวมดูสวยมากขึ้นอีกมาก และหลายๆ คนก็ทำดูดไขมัน ก่อนการเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก เพื่อตัวเองจะได้มีกำลังใจในการลด
สำหรับผู้ที่น้ำหนักเกินมากๆ อ้วนมากๆ อาจจะพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่ให้ผลดีกว่า ถาวรกว่า เช่น การ ผ่าตัดลดความอ้วน
2. งดยา อาหารเสริมบางชนิด และงดการสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ 2 อาทิตย์
งดยา อาหารเสริมบางชนิด
เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน โดยงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดบางชนิด ยารักษาอาการซึมเศร้า เนื่องจากในการดูดไขมันจำเป็นต้องให้ยาชาที่ชื่อว่า ยา ไลโดเคน (lidocaine) ในขนาดที่สูง จึงอาจเกิดปฏิกริยากับยากลุ่มนี้ได้ หากไม่แน่ใจกรุณาติดต่อกับรัตตินันท์คลินิกได้ก่อน
อาหารเสริมบางชนิด ก็มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดได้ เช่น น้ำมันปลาหรือวิตามิน E ดังนั้นจึงควรหยุดก่อนการทำประมาณ 1-2 อาทิตย์ เพื่อลดการเขียวช้ำ ทำให้ฟื้นตัวง่าย
งดการสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดใดๆ ถือว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการหายของแผล ทำให้หายช้า แผลไม่ติด ทั้งนี้รวมถึงการใช้นิโคตินหรือ บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีสารนิโคตินแบบเดียวกัน หากท่านไม่สามารถหยุดบุหรี่ได้ก่อนและหลังทำ ควรจะต้องทราบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการสูบบุหรี่
ตรวจสอบรายชื่อยาที่ควรหลีกเลี่ยงเบื้องต้นได้ ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม : เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน กับ 10 ข้อควรรู้ เพื่อสวยอย่างปลอดภัย
3. แจ้งแพทย์ตามตรง ถึงเรื่องโรคประจำตัว
การแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงโรคประจำตัวในอดีตหรือปัจจุบัน เป็นการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ที่สำคัญมากจริงๆ อย่ากังวลว่าหากพูดไปมากๆหมอจะไม่ทำให้ ความปลอดภัยจากการผ่าตัดสำคัญกว่ามาก โดยเฉพาะศัลยกรรมความงาม ที่อาจถือว่าไม่ได้สำคัญหรือเร่งด่วนอะไร
ยกตัวอย่างโรคไทรอยด์เป็นพิษ ที่หลายคนอาจคิดว่าไม่เกี่ยวและเป็นมานานแล้ว ยาก็ทานไม่มีอาการใดๆ แต่ทราบหรือไม่ว่าโรคนี้มีผลกับยาชาที่ใช้โดยตรง ทั้งกลุ่มที่ไทรอยด์ต่ำและไทรอยด์สูง สามารถทำให้ยาชาที่ใช้กลับเป็นพิษขึ้นมาได้ เนื่องจากขัดขวางการขับยาชาออกจากร่างกายตามปกติ แต่ถ้าสามารถควบคุมไทรอยด์ให้อยู่ในระดับปกติ ติดต่อกัน 2 เดือนขึ้นไป ก็ถือว่าปลอดภัยแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง
4. ควรวางแผนการเดินทางหรือทำงานหลังการดูดไขมัน
โดยปกติ การดูดไขมันในจำนวนพื้นที่ไม่มาก ถือว่าไม่อันตรายอะไร แต่ก็ควรมีการเตรียมตัวโดยหลีกเลี่ยงการขึ้นเครื่องบินนานๆ (นานกว่าหกชั่วโมง) ทันทีหรือนั่งรถนานๆ เช่น ขับรถจากกรุงเทพกลับบ้านที่ขอนแก่นโดยไม่หยุดพัก เป็นต้น
ปกติคำแนะนำแบบนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานของการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดทุกรายการ ไม่เฉพาะการ เตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน เท่านั้นเพราะการที่นั่งเครื่องบินนานๆ ทำให้ขาไม่ขยับและบวมได้ รวมทั้งอาจมีลิ่มเลือดสะสม ทำให้อุดตันตามส่วนต่างๆ ในชื่อที่เราคุ้นเคยว่า economy class syndrome ระยะเวลาที่ปลอดภัยคือประมาณ 7 วันหลังการ ดูดไขมัน จะมากกว่านี้หรือสั้นกว่านี้อาจจะต้องขึ้นกับคนไข้และแพทย์ร่วมตัดสินใจ
เช่น ในบางราย บ้านอยู่เชียงใหม่ สามารถกลับได้เลย เพราะระยะเวลานั่งนิ่งๆ แค่ 1 ชั่วโมง แต่การตีรถจากกรุงเทพไปสุราษฎร์รวดเดียว อาจจะเริ่มไม่ปลอดภัย ยกเว้นทราบความเสี่ยงและจัดการได้เหมาะสมเช่นหยุดรถบ่อยๆ เพื่อลงเดิน
เราอาจยกเว้นให้ในบางคน เช่น ที่รัตตินันท์คลินิกมีแอร์โฮสเตสมาเป็นลูกค้าจำนวนมาก ทำให้ทราบว่ากลุ่มนี้ไม่สามารถลางานได้นานๆ เหมือนคนอื่นๆ และมีความรู้เรื่อง Economy class syndrome เป็นอย่างดี ประกอบกับการขึ้นเครื่องบินเพื่อทำงาน คนกลุ่มนี้แทบจะเดินตลอดเวลา จึงถือว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ แม้จะเป็นการบินที่ยาวนานก็ตาม
5. เตรียม ชุดกระชับ ก่อนดูดไขมัน ให้เรียบร้อยและนำมาด้วย
สำหรับรัตตินันท์คลินิกเอง หากไม่มี ชุดกระชับ ก่อนการดูดไขมัน เราจะขออนุญาติเลื่อนเคสออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัยหรือคนไข้ต้องซื้อใหม่ก่อนการทำดูดไขมันอีกหนึ่งชุด เราไม่แนะนำให้ทำแล้วจะขอกลับไปใส่ที่บ้าน
ชุดกระชับ มีประโยชน์อย่างมากในช่วง 24 – 36 ชั่วโมงแรกหลังทำ โดยมีหน้าที่ในการกดทับไม่ให้เลือดออกและทำให้การหายของแผลเป็นไปอย่างเรียบร้อย รวดเร็ว ชุดกระชับที่ดี ต้องมีความยืดได้อย่างมาก เพราะในวันแรกจะต้องคลุมทับแผ่นซึมซับอีกชั้นทำให้แน่นมากกว่าตอนลอง ชุดกระชับราคาถูกๆ มักยืดออกมาไม่ได้ หรือ ไม่มีตัวปรับหรือซิปให้ขยายและหดได้
การทำแล้วไม่ใส่ชุดกระชับทันทีจะมีข้อเสียมาก อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมา รวมทั้งอาการหน้ามืดเป็นลมจากการปรับความดันของร่างกายก่อนหลังลุกนั่ง
อ่านเพิ่มเติม
6. เลือกคลินิกดูดไขมัน ที่ยินดีให้พบแพทย์อย่างสะดวก
เราควร เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ด้วยการเข้าพบและปรึกษาแพทย์ผู้ทำ พยายามหลีกเลี่ยงคลินิกที่จะให้พบแต่เซลล์ หรือพนักงานขายและเรียกร้องการมัดจำเงินก่อนการพบแพทย์ หรือ การปรึกษาทางโทรศัพท์แล้วกระดดนขึ้นเตียงทันทีโดยไม่ต้องมีการ เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ใดๆ การพบแพทย์ที่จะทำการดูดไขมัน ทำให้เราสามารถสอบถามสิ่งต่างๆ ที่สงสัย แพทย์เองสามารถประเมินได้ว่าสามารถทำการดูดไขมันได้หรือไม่ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เหมาะที่จะทำ หรือทำแล้วสวย เพราะคนที่ดูดไขมันไม่ได้จริงๆ ก็มี
แพทย์เองสามารถประเมินความคาดหวังได้ ว่าการดูดไขมันนั้นๆ สามารถให้สิ่งที่คนไข้ต้องการได้หรือไม่ และอาจนำเสนอทางเลือกอื่นๆ ที่ดีกว่า (ถึงแม้คนไข้จะไม่เลือกก็ตาม) เช่น การผ่าตัดกระเพาะลดความอ้วน ในคนไข้ที่อ้วนมากแต่เข้าใจผิดคิดว่าดูดไขมันจะทำให้ผอมเร็วกว่าวิธีอื่นๆ
อ่านรีวิวเกี่ยวกับรัตตินันท์คลินิก จากคนไข้ก่อนหน้านี้ ได้ ที่นี่
7. ไขมันที่ดูดออกมาสามารถนำไปเติมส่วนอื่นๆ ได้
ไขมันที่ถูกดูดออกจากร่างกายของเราในเทคนิคพิเศษ อาจจะสามารถถูกนำกลับมาฉีดเพื่อเสริมร่างกายบางส่วนของเราได้ เช่น บริเวณที่เกิดการแหว่งหรือเป็นหลุมจากสาเหตุต่างๆ หรือเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก คาง หรือแก้ม เป็นต้น สำหรับการเติมบริเวณนม ปัจจุบันทางคลินิกไม่แนะนำ เพราะไม่ใช่วิธีมาตรฐานที่ทางการแพทย์ยอมรับ เหมาะสำหรับในบางกรณีเท่านั้น รวมทั้งอัตราการตายของไขมันค่อนข้างสูง ใส่ไป 300 ซีซี อาจจะเหลือเพียงครึ่งเดียว เวลาดูรีวิวเรื่องฉีดนมด้วยไขมัน จำเป็นต้องดูรูป 12 เดือนหลังทำดีกว่า เพราะรูปการฉีดหลังทำทันที ที่ไหนก็ดูดีไปหมด
ที่สำคัญ เราอาจจะต้องทราบว่า การที่เซลล์ไขมันตายนั้น จะมีหินปูนขนาดเล็กๆ มาเกาะเสมอ ปกติจะไม่มีปัญหาอะไร และไม่เปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งใดๆ แต่จะเกิดปัญหาสับสนได้ หากต้องไปทำการตรวจเอกซ์เรย์เต้านม เพราะภาพที่ได้มีความคล้ายคลึงกันกับมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นมาก ทำให้อาจจะถูกขอให้ตรวจซ้ำอีกสามเดือน ในการตรวจเต้านมทุกครั้งแบบนี้ไปตลอดชีวิต ถือเป็นข้อเสียสำคัญและยังไม่ถือเป็นวิธีมาตรฐานแต่อย่างใด
อ่านเพิ่มเติมบทความเรื่อง เสริมหน้าอกด้วยไขมัน โดย อ.นพ จงดี อาวเจนพงษ์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลได้
ไขมันที่ฉีดเข้าไป เกิดหินปูนสะสม
8. ควรศึกษาเทคนิคการดูดไขมันให้ดี
การดูดไขมันสามารถทำได้หลายวิธี เราควรศึกษาเพื่อเปรียบเทียบวิธีการดูดไขมันต่างๆ เพื่อหาวิธีที่ถูกใจ และคุ้มค่า หรือว่าดีกับเราที่สุด เช่น Vaser อาจจะดูดได้เยอะกว่า บอดี้ไทด์ BodyTite แต่ BodyTite จะสามารถกระชับผิวได้ไปในครั้งเดียว แต่ Vaser ไม่สามารถทำได้ เป็นต้น รวมถึงศึกษาวิธีการดูดไขมันของแต่ละคลินิก ว่ามีความปลอดภัย และมีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ แพทย์มีความเชี่ยวชาญหรือไม่ เป็นต้น ดูเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้
9. การดูดไขมันมีผลข้างเคียง
การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างหนึ่ง คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ให้มีผลข้างเคียง แม้บางคลินิกจะมีเทคนิค และความปลอดภัยทำให้ไม่เกิดผลกระทบระยะยาว แต่ในระยะสั้นก็ยังมี เช่น อาการบวมช้ำ หลังการทำ ซึ่งต้องทำใจยอมรับให้ได้ เป็นต้น
10. การดูดไขมันต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่
การดูดไขมันนั้นต้องใช้ระยะเวลา และนอกจากความสามารถของแพทย์ แล้วการดูแลหลังการดูดไขมัน และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องไปหายาอื่นๆ มาทาหรือนวด โดยเฉพาะยาจีนชุดที่มีราคาแพง ที่นิยมทานก่อนและหลังการทำศัลยกรรม โดยเชื่อว่าทำให้หายบวมเร็ว ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่บอกว่าได้ผล การหายบวมเร็วหรือช้าวัดไม่ได้ในคนเดียวกัน เพราะเราไม่ทราบว่าถ้าไม่กินจะหายบวมช้ากว่าหรือไม่
ดูดไขมันน่อง หลังทำอดใจรอแป๊ปก็ขาสวยแล้วแบบนี้ คนไข้ส่งมาจากทางบ้าน
จากประสบการณ์ของแพทย์ที่นี่ พบว่าการที่สามารถทำให้น้ำ และเลือดที่คั่งค้างจากการดูดไขมัน ไหลออกอย่างสะดวกเป็นการลดการบวมช้ำที่ดีที่สุดแล้ว หากเป็นหน้าท้องที่รัตตินันท์คลินิกแนะนำให้ใส่ท่อระบายทุกราย เพราะทำให้น้ำที่คั่งค้าง ออกอย่างรวดเร็วและจะนำออก 1 วันหลังทำที่คลินิก ถือเป็นการติดตามผลหลังดูดไขมันครั้งแรก
ระบายเลือดและน้ำคั่งหลังดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อลดการบวมช้ำ
โดยทั่วไปจะเห็นผลราวๆ 2 อาทิตย์หลังทำและจะได้ผลดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเยื้อเนื่อต่างๆ ทำการซ่อมแซมใหม่ยาวนานตลอด 6 -8 เดือน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่ควรไม่ทำอะไรซ้ำ ทำได้ดีที่สุด คือ ออกกำลังกายลดน้ำหนักเพิ่มเติมได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก่อนที่จะตัดสินใจทำการดูดไขมัน เราก็ควรจะศึกษารายละเอียดต่างๆ และเปรียบเทียบอย่างรอบคอบ รวมถึงขอคำปรึกษาจากแพทย์ถึงความเสี่ยงต่างๆ เนื่องจากร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ก่อนที่จะทำการดูดไขมัน
อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน ในไทยและเอเชียแปซิฟิค
เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันมากว่า 24 ปี