วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติ มีวิธีไหนบ้าง แบบไหนเหมาะกับเรา

ปัญหาเหนียงย้อย คางสองชั้น ได้กลายเป็นปัญหาที่หลายคนต้องการหาทางแก้ไข เพื่อลดเหนียงที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของตนเอง นับว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพบเจอเพราะเหนียงสามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยต่าง ๆ ทำให้วิธีการแก้ไขต้องใช้วิธีที่เหมาะสมกับสาเหตุที่เกิดเหนียง การลดเหนียงที่มีผลลัพธ์มีประสิทธิภาพนั้น ต้องเริ่มจากการหาสาเหตุของเหนียงที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากเหนียงที่เกิดจากการกล้ามเนื้อและผิวหนังหยุดทำงานอย่างเหมาะสมแล้ว ยังมีเหนียงที่มีก่อกำเนิดจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย

ในกรณีที่ต้องการลดเหนียงอย่างธรรมชาติ มีวิธีหลายรูปแบบที่สามารถลองทำได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม การผสมผสานวิธีต่าง ๆ ก็อาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ ทางที่ดีที่สุดคือการเริ่มต้นด้วยการหาสาเหตุของเหนียงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติได้หลายวิธี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีลดเหนียงต่าง ๆ และเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เหนียง คือ ลักษณะที่มีถุงไขมันสะสมอยู่ใต้คางทำให้เกิดลักษณะคางสองชั้นหรือ DOUBLE CHIN นั้นเป็นผลมาจากการสะสมไขมันในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดขึ้นพร้อมกับความหย่อนคล้อยของผิวหนังในช่วงวัยต่าง ๆ นอกจากนี้เหนียงยังพบได้ทั้งที่ผู้ชายและผู้หญิงทุกช่วงวัย สำหรับเหนียงนั้นไม่ได้ถูกตีความว่าเป็นโรคแต่เพียงเพียงอาการที่ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจและทำให้ใบหน้าดูไม่มีคมชัดเสมอไปด้วย

นอกจากนี้พฤติกรรมต่าง ๆ ก็มีบทบาทในการเกิดเหนียงด้วย เช่นการบริโภคอาหารมาก ๆ และขาดการออกกำลังกาย การก้มหน้าอยู่เป็นประจำ เช่นการใช้เวลานานในการใช้โทรศัพท์ และอื่น ๆ นอกจากนี้มีผู้ที่มีแนวโน้มเกิดเหนียงมาจากลักษณะทางพันธุกรรม การรับรู้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดเหนียงได้ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่นการรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการดูแลผิวหนัง ย่อมมีผลที่ดีต่อการป้องกันและลดการเกิดเหนียงอย่างมีประสิทธิภาพ

การลดเหนียงโดยวิธีธรรมชาติสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งผลิตภัณฑ์เสริมความงามหรือกระบวนการผ่าตัดทางเคมี หลายวิธีง่าย ๆ ที่สามารถนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดเหนียงได้ และวิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติมีหลายวิธีดังนี้

• การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในร่างกาย ทำให้เกิดการลดลงของโครงของแก้มและเหนียงได้ การเลือกกิจกรรมที่เป็นทรรศนะและท่านอนหรือยืนในการออกกำลังกายอาจช่วยในการลดลงของเหนียง
• การเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ: การเคลื่อนไหวตลอดวันช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ลดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณแก้มและเหนียง การเลือกใช้บันทึกหรือบันทึกยาวช่วงเวลาที่นั่งนานหรือยืนนาน ๆ สามารถช่วยลดการสะสมไขมันในพื้นที่นี้
• การเลือกอาหารที่ดี: การบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำและมีปริมาณผักและผลไม้เพียงพอสามารถช่วยลดการสะสมไขมันในแก้มและเหนียงได้ ลดการบริโภคอาหารแปลกปลอมและเครื่องดื่มที่มีความหวานสูงเป็นการสนับสนุนสุขภาพผิวหน้า
• การดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอต่อวันช่วยเผาผลาญไขมันและขับสารพิษออกจากร่างกาย น้ำมีบทบาทสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าและช่วยในกระบวนการลดลงของเหนียง
• การนอนหลับอย่างเพียงพอ: การนอนหลับเพียงพอช่วยเพิ่มการผลักดันระบบภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การไม่ได้นอนพอทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นบูรณะตัวเองได้ในระดับที่ดี

การลดเหนียงโดยวิธีธรรมชาติไม่ใช่เรื่องที่ทำแล้วเห็นผลได้ทันที มันต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะเห็นผล และต้องปฏิบัติตามวิธีอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากใครที่ลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติแล้วไม่เห็นผลและต้องการลดเหนียงแบบเห็นผลเร็ว เรามีวิธีลดเหนียงด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เห็นผลทันทีหลังทำ แต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้นดูกันเลย

วิธีลดเหนียงด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์มีหลายวิธีด้วยกันดังนี้

เมโสแฟตเหนียงเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดปัญหาไขมันบริเวณเหนียงใต้คางอย่างที่มองเห็นผลได้รวดเร็ว วิธีนี้ใช้การฉีดตัวยาที่ช่วยในกระบวนการสลายไขมันในบริเวณเนื้อเยื่อเหนียงใต้คาง ผลลัพธ์ที่ต้องการสามารถเห็นได้ในระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากการทำกระบวนการนี้ โดยไขมันที่ถูกฉีดจะเริ่มที่จะละลายลงประมาณ 10-15% ในขอบเขตของพื้นที่ที่ถูกฉีด และจะเริ่มแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 5-7 วัน

การติดตามผลลัพธ์ในระยะยาวกำลังมีความสำคัญ โดยควบคุมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน ผลลัพธ์ที่ได้จะสามารถรักษาไว้ได้นานถึง 2-3 เดือน โดยขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพทั่วไปของแต่ละบุคคล หากต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและคงทนนาน การทำกระบวนการนี้ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้การฉีดให้ถูกต้องและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยในขั้นตอนนี้

การทำโบท็อกซ์เพื่อลดเหนียงไม่ได้เป็นการยับยั้งไขมัน แต่เป็นกระบวนการยกกระชับที่ช่วยปรับรูปร่างใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า “โบท็อกซ์ลิฟท์” เพื่อผลลัพธ์ที่เหนียงลดลงและใบหน้ามีความกระชับมากขึ้น ในกระบวนการนี้ หมอจะฉีดโบท็อกซ์ไปที่บริเวณกรอบหน้าและใต้คาง เพื่อลดแรงดึงของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการยกกระชับที่สวยงาม การใช้เทคนิคนี้ร่วมกับการฉีดเมโสแฟตจะเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงหน้าและลดเหนียงใต้คางอีกด้วย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่พึงพอใจอย่างสูงสุด

THERMAGE FLX เป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการยกกระชับผิวและลดไขมันอย่างเป็นมาตรฐาน ด้วยการใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุแบบ MONOPOLAR RF ที่สามารถทำให้ผิวหนังเรียบและลดเหนียงได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้ทำการส่งพลังงานไปยังชั้นผิวชั้นบนโดยตรง จนถึงชั้นไขมันทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านไขมันสะสมที่บริเวณใต้คาง ผิวหนังหย่อนคล้อย หรือมีเหนียงห้อยมีหนอกคอหรือคางสองชั้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการออกแบบ THERMAGE FLX ที่ทันสมัย การผ่าตัดไม่จำเป็นและผู้รับบริการสามารถเพลิดเพลินไปกับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเผชิญกับความไม่สะดวกของการฟื้นตัวนาน ๆ จากการผ่าตัด

ด้วย THERMAGE FLX คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สามารถเห็นได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับผิวที่เพิ่มขึ้น ลดเหนียงอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณที่คุณต้องการ ซึ่งทำให้ THERMAGE FLX เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการผิวหนังที่ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับผิวหนัง คาง หรือไขมัน ทางเลือก THERMAGE FLX ก็คือการลงทุนที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน

HIFU (HIGH-INTENSITY FOCUSED ULTRASOUND) เป็นนวัตกรรมทางความงามที่ก้าวหน้าในการยกกระชับและปรับรูปหน้า ด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีพลังงานสูง ที่สามารถลงทะเบียนความร้อนลึกลงไปในผิวหนังในทุก ๆ ชั้น โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งทำให้เกิดการหดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหนังที่ตึงกระชับขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดเหนียงที่พบใต้คางได้ตั้งแต่การทำครั้งแรก และผลลัพธ์จะเป็นที่เห็นได้ชัดเจนภายใน 2-3 เดือน การทำ HIFU ULTRAFORMER III สามารถทำได้ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อรักษาสภาพผิวหนังให้คงทนและมีความกระชับอย่างต่อเนื่อง

ULTHERA SPT เป็นเทคโนโลยีที่มีลักษณะคล้ายกับ HIFU แต่มีพลังงานที่ถูกส่งออกเป็นเส้นใหญ่กว่า ทำให้มีความสามารถที่จะลงลึกถึงผิวชั้น SMAS อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่พบกับปัญหาเหนียงใต้คางที่หย่อนคล้อย และต้องการกระชับผิวหนังโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลังจากทำการรักษาด้วย ULTHERA SPT ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ประมาณ 30% จะเปลี่ยนแปลงไปทันที และผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะปรากฏตัวภายในระยะเวลา 2-3 เดือน ไม่เพียงเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีนี้ยังมีความยืดหยุ่นและคงทนไว้ได้นานถึง 1-2 ปี

ด้วย ULTHERA SPT คุณสามารถปรับเปลี่ยนลักษณะของใบหน้าของคุณให้กระชับและสมบูรณ์ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาเหนียงใต้คางที่คุณต้องการแก้ไขให้ดูดีและอ่อนเยาว์ขึ้น

COOLSCULPTING เหนียง เป็นกระบวนการลดไขมันที่ใช้ความเย็นเพื่อทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่ต้องการ การดำเนินการนี้นำเสนอการให้ความเย็นที่ -11°C เป็นเวลา 35 นาที ทำให้เซลล์ไขมันแช่แข็งและต่อมานวดเพื่อกระตุ้นการตายของเซลล์ไขมัน หลังจากที่ COOLSCULPTING เสร็จสิ้น ร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายอย่างธรรมชาติ และสามารถลดปริมาณเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ได้รับการรักษา โดยสามารถลดลงได้ถึง 25% ในแต่ละครั้ง

ผลลัพธ์ของการลดเหนียงจะเริ่มปรากฏในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังจากทำการรักษา และจะมีผลเต็มที่ในระยะเวลา 3 เดือนเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรักษาและรักษาตนเองด้วยการออกกำลังกายและการบำบัดเพื่อส่งเสริมกระบวนการลดไขมันอย่างเต็มที่ และควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพสุขภาพและความต้องการส่วนตัวของคุณ

การดูดไขมันเพื่อลดเหนียงใต้คางเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณดังกล่าว วิธีนี้ต้องการความชำนาญและความเชี่ยวชาญจากแพทย์ที่มีประสบการณ์เพียงพอ เนื่องจากการดูดไขมันใต้คางมีความซับซ้อน และต้องระวังการทำให้เส้นเลือดที่มีอยู่ในบริเวณนี้ถูกทำลาย การทำกระบวนการนี้ต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการ โดยเฉพาะในการลดความบวมช้ำและการกดทับหลอดลมที่อาจเกิดขึ้น การเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในด้านนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ข้อดีของการดูดไขมันเพื่อลดเหนียงใต้คางคือการลดไขมันส่วนเกินที่อาจส่งผลต่อลักษณะหน้าใบหน้าและความเปลี่ยนแปลงที่มีความสมดุลในลักษณะทรงหน้า อย่างไรก็ตาม ควรระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น บวมช้ำหรือแผลเล็ก ซึ่งต้องให้เวลาในการฟื้นตัว ในทำนองเดียวกับกระบวนการทางการแพทย์ทุกประการ การตัดสินใจเรียกใช้การดูดไขมันเพื่อลดเหนียงใต้คางควรพิจารณาอย่างรอบคอบและประเมินความเหมาะสมของวิธีการนี้ต่อบุคคลแต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องเหนียงใต้คาง และต้องการลดสามารถดูวิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติ และวิธีลดเหนียงแบบทางการแพทย์ได้ซึ่งทั้งสองแบบสามารถลดเหนียงได้จริง แต่การทำแบบธรรมชาติอาจจะเห็นผลช้าหน่อยแต่หากปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาได้ แต่หากใครที่ไม่สามารถทำตามแบบธรรมชาติได้ แบบทางการแพทย์สามารถช่วยให้คุณมีใบหน้าที่เรียวสวยงามไร้เหนี่ยงหย่อนยานได้เช่นกัน