Rattinan Medical Center

คลินิกดูดไขมัน ผ่าตัดกระเพาะ เสริมความงาม

  • หน้าแรก
  • บริการของเรา
    • ดูดไขมัน
      • ดูดไขมันหน้าท้อง
      • ดูดไขมันต้นขา
      • ดูดไขมันต้นแขน
      • ดูดไขมันน่อง
      • ดูดไขมันเหนียง
      • ดูดไขมันเอว
      • ดูดไขมัน Six Pack
      • ดูดไขมัน Sexy Line
      • ดูดไขมันหนอก
      • ดูดไขมันหน้า แก้ม
      • ฉีดไขมัน
    • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
    • เย็บกระเพาะ Overstitch
    • ตัดหนังหน้าท้อง
    • ศัลยกรรมร่างกาย
      • Gynecomastia รักษาหน้าอกผู้ชาย
      • เสริมสะโพก เสริมก้น
      • ปลูกผม FUE
      • เสริมหน้าอก
      • ตกแต่งเลเบีย
    • ศัลยกรรมใบหน้า
      • ร้อยไหม
      • ดึงหน้า (Facelift)
      • เสริมจมูก
      • เสริมคาง
      • ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
      • ศัลยกรรมหูกาง
    • เลเซอร์เพื่อการรักษา
      • ลบรอยสัก
      • รักษากระ ฝ้า
      • E-Matrix เลเซอร์หลุมสิว
      • 4D Lifting เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า
      • เลเซอร์ กำจัดขน
      • รักษานอนกรน
      • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
      • Ulthera
      • Thermage
      • Shockwave Therapy
    • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
    • รักษาเส้นเลือดขอด
    • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
    • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ
  • บทความ
    • ความรู้ดูดไขมัน
      • ก่อนดูดไขมัน
        • เรื่องควรรู้ก่อนดูดไขมัน
        • การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
        • Bodytite VS Vaser
        • ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
        • ดูดไขมันที่ไหนดี ดูจาก 5 สิ่งนี้
        • ดูดไขมันทั้งตัว กับการลดน้ำหนัก
        • ดูดไขมันแบบจุดละ vs ราคาเหมา
      • การดูแลหลังดูดไขมัน
      • ราคาดูดไขมัน
      • ภาพรีวิวดูดไขมัน
    • บทความสุขภาพ
      • คุยเรื่องศัลยกรรม
      • บทความผ่าตัดถุงใต้ตา
      • คำนวณ BMI
  • รีวิว
  • ทีมแพทย์
  • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
  • Promotion
international@rattinan.comEmail Us
+66 2 2331424Call Us
Sitthi Vorakij Building, 12A fl, Silom Soi 3, Silom Rd, BangkokFind Us
  • ติดต่อสอบถาม
    Tel: 086-570-7040
Official Rattinan International Website
  • หน้าแรก
  • บริการของเรา
    • ดูดไขมัน
      • ดูดไขมันหน้าท้อง
      • ดูดไขมันต้นขา
      • ดูดไขมันต้นแขน
      • ดูดไขมันน่อง
      • ดูดไขมันเหนียง
      • ดูดไขมันเอว
      • ดูดไขมัน Six Pack
      • ดูดไขมัน Sexy Line
      • ดูดไขมันหนอก
      • ดูดไขมันหน้า แก้ม
      • ฉีดไขมัน
    • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
    • เย็บกระเพาะ Overstitch
    • ตัดหนังหน้าท้อง
    • ศัลยกรรมร่างกาย
      • Gynecomastia รักษาหน้าอกผู้ชาย
      • เสริมสะโพก เสริมก้น
      • ปลูกผม FUE
      • เสริมหน้าอก
      • ตกแต่งเลเบีย
    • ศัลยกรรมใบหน้า
      • ร้อยไหม
      • ดึงหน้า (Facelift)
      • เสริมจมูก
      • เสริมคาง
      • ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
      • ศัลยกรรมหูกาง
    • เลเซอร์เพื่อการรักษา
      • ลบรอยสัก
      • รักษากระ ฝ้า
      • E-Matrix เลเซอร์หลุมสิว
      • 4D Lifting เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า
      • เลเซอร์ กำจัดขน
      • รักษานอนกรน
      • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
      • Ulthera
      • Thermage
      • Shockwave Therapy
    • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
    • รักษาเส้นเลือดขอด
    • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
    • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ
  • บทความ
    • ความรู้ดูดไขมัน
      • ก่อนดูดไขมัน
        • เรื่องควรรู้ก่อนดูดไขมัน
        • การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
        • Bodytite VS Vaser
        • ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
        • ดูดไขมันที่ไหนดี ดูจาก 5 สิ่งนี้
        • ดูดไขมันทั้งตัว กับการลดน้ำหนัก
        • ดูดไขมันแบบจุดละ vs ราคาเหมา
      • การดูแลหลังดูดไขมัน
      • ราคาดูดไขมัน
      • ภาพรีวิวดูดไขมัน
    • บทความสุขภาพ
      • คุยเรื่องศัลยกรรม
      • บทความผ่าตัดถุงใต้ตา
      • คำนวณ BMI
  • รีวิว
  • ทีมแพทย์
  • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
  • Promotion
  • Home
Home » มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากอะไร มีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง

มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากอะไร มีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง

โดย น.อ.นพ. ปณต ยิ้มเจริญ

By Panot Yimcharoen, M.D.

Linkedin

มะเร็งกระเพาะอาหาร ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Gastric cancer หรือ stomach cancer ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพบได้บ่อยเป็นลำดับที่ 6 จากโรคมะเร็งทั้งหมด และมีผู้ป่วยใหม่ทั่วโลกสูงถึง 951,594 รายต่อปี คิดเป็น 6.8% ของโรคมะเร็งทั้งหมด ส่วนในประเทศไทย พบมีผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร 4,000 รายต่อปี เป็นลำดับที่ 12 คิดเป็น 2.3% ของโรคมะเร็งทั้งหมด

 

มะเร็งกระเพาะอาหาร คืออะไร?

เริ่มเกิดจากเซลล์ที่อยู่บริเวณเยื่อบุผิวด้านในของกระเพาะอาหารเกิดความผิดปกติกลายเป็นเนื้อร้าย และกระจายผ่านออกมาถึงบริเวณเยื่อบุผิวด้านนอกของกระเพาะอาหาร ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งมีตอนเหตุมาจากจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori) เมื่อเกิดอาการแล้ว มะเร็งจะลุกลามการกระจายตัวไปยังอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ข้างเคียง อาการเริ่มต้นจะไม่รุนแรง มีอาการคล้ายกับ โรคกระเพาะอาหาร และ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร ชนิดนี้มักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี และพบในผู้ชายมากกว่า ผู้หญิง 20 เท่า

มะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหาร อาการเป็นอย่างไร?

อาการเริ่มต้นของมะเร็งกระเพาะอาหาร หรืออาการในระยะแรกนั้น อาจจะไม่แสดงอาการรุนแรง  สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาการของมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นในช่วงแรกมักจะไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัด แต่เมื่อแสดงอาการชัดเจนขึ้น โรคก็มักจะลุกลามไปมากแล้ว ทั้งๆ ที่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ได้

มะเร็งกระเพาะอาหารอาการเริ่มแรก อาจจะรู้สึกอาหารไม่ย่อยหรือ รู้สึกไม่สบายท้อง ท้องอืดหลังรับประทานอาหาร คลื่นไส้เล็กน้อย ความอยากอาหารลดลง มี อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก คล้ายๆ กับ อาการกรดไหลย้อน ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่ มักไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคมะเร็ง แต่ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและหาลักษณะอาการแสดงอื่นๆ ของโรคมะเร็งกระเพาะ ส่วนในกรณีที่ผู้ป่วยอาการลุกลามแล้ว เนื้อร้ายเจริญเติบโตมากขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นจนมีอาการดังต่อไปนี้

  • ปวดหรือจุกที่ลิ้นปี่ แน่นท้องหลังรับประทานอาหาร
  • กลืนอาหารลำบากมากขึ้น
  • ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือเป็นสีดำ
  • อาเจียนติดต่อกันเป็นเวลานาน หรืออาเจียนเป็นเลือด
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ
  • รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียจากภาวะโลหิตจาง
  • มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองเนื่องจากมะเร็งลุกลามไปที่ตับ
  • ท้องบวมจากน้ำในช่องท้อง เนื่องจากมะเร็งลุกลามไปที่เยื่อบุผนังในช่องท้อง

ผ่าตัดกรดไหลย้อน รักษาที่ต้นเหตุไม่ต้องทานยาอีกต่อไป

บทความยอดนิยม
ผ่าตัดกรดไหลย้อนรักษาที่ต้นเหตุไม่ต้องทานยาอีกต่อไป โดย นพ.ปณต ยิ้มเจริญ

โรค มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากอะไร?

สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดมะเร็งหลอดอาหารยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จากการศึกษา เชื่อว่ามีความผิดปกติหลายกลไกร่วมกัน ดังนี้

  1. เกิดความผิดปกติของยีน (gene)
  2. อายุ เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น
  3. เพศ พบว่าผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง
  4. ผู้มีประวัติบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
  5. เชื้อชาติ พบมะเร็งกระเพาะอาหารในคนเอเชีย มากกว่าชนชาติอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออก (eastern Asia) ดังนั้นจึงมีการตรวจคัดกรอง (screening program) ในประเทศเหล่านี้ ซึ่งทำให้สามารถพบโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและลดอัตราการเสียชีวิตได้สูงถึง 40%
  6. อาหาร การรับประทานอาหารปิ้งย่าง หมักดอง อาหารเค็มจัด อาจทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้น ในขณะเดียวกันการรับประทานผัก และผลไม้ก็อาจจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้
  7. การสูบบุหรี่ ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้สูงขึ้น
  8. การติดเชื้อแบคทีเรีย Pylori เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งเมื่อติดเชื้อนี้จะทำให้มีอาการอักเสบและเกิดเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

อาการมะเร็งกระเพาะอาหาร

Cr.www.freepik.com

วิธีตรวจมะเร็งกระเพาะอาหาร 

  1. การซักประวัติและอาการต่างๆ ปัจจัยเสี่ยง การเจ็บป่วยในอดีต และประวัติการรักษาที่ผ่านมา
  2. การตรวจร่างกายทั่วไป
  3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ตรวจวัดความเข้นข้นและความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดเพื่อประเมินภาวะซีด (complete blood count, CBC) การตรวจเลือดในอุจจาระ (fecal occult blood test) เพื่อดูว่ามีเลือดออกในทางเดินอาหารหรือไม่ตรวจการทำงานของตับ (liver function test) การทำงานของไต (renal function test) เป็นต้น
  4. การเอกซเรย์กลืนแป้ง (double-contrast barium swallow) โดยจะให้ผู้ป่วยกลืนน้ำที่ผสม barium ซึ่งเป็นสารทึบรังสี โดยน้ำที่กลืนนั้นจะไปเคลือบที่ผิวของหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร หลังจากนั้นจะทำการเอกซเรย์ตรวจดูความผิดปกติในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร จะทำให้มองเห็นก้อนเนื้อหรือสิ่งแปลกปลอมผิดปกติภายในกระเพาะอาหาร
  5. การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (esophago-gastro-duodenoscope, EGD) ซึ่งเห็นความผิดปกติได้ตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อหาบริเวณที่ผิดปกติและตัดชิ้นเนื้อบริเวณที่สงสัยไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง
  6. การส่องกล้องตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (endoscopic ultrasonography, EUS) โดยให้ผู้ป่วย กลืนเครื่องมือลงไป โดยวิธีการนี้มีข้อดีคือสามารถเห็นชั้นต่างๆของกระเพาะอาหารได้ ทำให้ทราบความลึกของโรคมะเร็งที่ลุกลามที่แน่นอนได้
  7. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของช่องท้อง (computed tomography, CT) โดยการกลืนและฉีดสารทึบรังสี จะทำให้เห็นลักษณะพยาธิสภาพของกระเพาะอาหารชัดเจนขึ้น แต่ไม่สามารถระบุความลึกของก้อนมะเร็งได้ดีเท่ากับการทำ EUS นอกจากนี้การทำ CT ยังสามารถดูการกระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง และอวัยวะอื่นๆในช่องท้อง เช่น ตับ และเยื่อบุช่องท้อง (peritoneum) ได้ด้วย
  8. เอกซเรย์ปอด (chest x-ray) การตรวจสแกนกระดูก (bone scan/ scintigraphy) หรืออาจตรวจด้วย PET/CT scan ซึ่งเป็นการตรวจทั่วทั้งร่างกาย สามารถเห็นพยาธิสภาพที่กระเพาะอาหารได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถตรวจหาการแพร่กระจายของโรคมะเร็งไปได้พร้อมกัน

มะเร็งกระเพาะอาหาร

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร รักษาอย่างไร?

มะเร็งกระเพาะอาหาร รักษาหายไหม? การรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่งของก้อนมะเร็ง ระยะการแพร่กระจายของโรค และสภาพผู้ป่วย การรักษาหลักของมะเร็งกระเพาะอาหารประกอบด้วยการผ่าตัด การรักษาด้วยรังสี และการให้ยาเคมีบำบัด การรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร แบ่งตามระยะของโรค ดังนี้

  1. ผู้ป่วยระยะแรก อาจจะไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก ซึ่งอาจจะมีแค่อาการแน่นท้อง ท้องอืด แสบร้อนกลางหน้าอกคล้ายกรดไหลย้อน หรือจากการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งระยะเริ่มต้นนี้ สามารถรักษาด้วยการผ่าตัด โดยใช้กล้องส่องทางเดินอาหารเข้าไปตัดเฉพาะเยื่อบุกระเพาะอาหารที่ผิดปกติ ซึ่งมีโอกาสหายขาดสูงมาก
  2. ผู้ป่วยระยะที่สอง ที่มะเร็งเริ่มมีขนาดโตขึ้น แต่ยังไม่กระจายไปติดกับอวัยวะข้างเคียง จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นหลัก โดยเป็นการตัดกระเพาะอาหารออก โดยอาจจะผ่าตัดกระเพาะอาหารออกบางส่วน (subtotal gastrectomy) หรือผ่าตัดกระเพาะอาหารออกทั้งหมด (total gastrectomy)ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อน รวมถึงตัดต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงออก และอาจมีการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย
  3. ผู้ป่วยระยะที่สาม ที่มะเร็งลุกลามไปติดอวัยวะข้างเคียง เช่น ในผนังช่องท้อง ซึ่งเมื่อก่อนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด แต่ปัจจุบันสามารถใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับความร้อน มาช่วยในการผ่าตัด (HIPEC: Hyperthermic Intraperitoneal Chemotherapy) ส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดมากขึ้น
  4. มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะสุดท้าย หรือระยะมะเร็งกระจายไปอวัยวะอื่น ๆ เช่น ปอด ตับ ระยะนี้ไม่สามารถผ่าตัดและไม่สามารถรักษาให้หายขาด แพทย์มักพิจารณาให้การรักษาด้วยเคมีบำบัด เพื่อควบคุมโรคและลดอาการของโรค
  5. การฉายรังสีรักษาและยาเคมีบำบัด แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารขั้น 1 บีหรือ ขั้นสูงกว่า (มะเร็งลุกลามไปที่ผนังกระเพาะอาหารมากขึ้น หรือมีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง) การรักษาที่ใช้การฉายรังสีรักษาและยาเคมีบำบัดร่วมด้วยจะได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น
บทความน่าสนใจ !  แพ้แอลกอฮอล์ กินเหล้าแล้วหน้าแดง-ตัวแดงเกิดจากอะไร เสี่ยงมะเร็งจริงหรือไม่?

ผ่าตัดกะเพาะลดน้ำหนัก

อ่านบทความเพิ่มเติม
ผ่าตัดกระเพาะอาหาร เสี่ยงหรือไม่ เขาทำกันอย่างไร

หลังการรักษาโดยการตัดกระเพาะอาหารออก ผู้ป่วยจะไม่มีกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กที่ถูกผ่าตัดไปต่อกับหลอดอาหารโดยตรง แทนกระเพาะอาหาร ซึ่งมีผลทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลง ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยการทานน้อยลงแต่ทานบ่อยขึ้น

นอกจากนี้เมื่อไม่มีกระเพาะอาหารจะทำให้การย่อยอาหารลำบากมากขึ้น เพราะไม่มีน้ำย่อย จึงจำเป็นต้องเคี้ยวให้นานขึ้น เพื่อให้อาหารมีโมเลกุลเล็กเพียงพอต่อการดูดซึมที่ลำไส้เล็ก เนื่องจากลำไส้เล็กจะสามารถดูดซึมอาหารได้เมื่อมีโมเลกุลขนาดเล็ก หลังจากปรับพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวและรับประทานได้มากขึ้น เพราะลำไส้เล็กจะเกิดการขยายตัว และสามารถรับอาหารได้มากขึ้น นอกจากนี้ คือควรพักผ่อนให้เพียงพอ และติดตามการรักษาตามแพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง

bodytite-rattinan

บทความน่าสนใจ
คิดให้ดี! ดูดไขมันทั้งที ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง?

บทความยอดนิยม

  • หัวล้าน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร จะมีเส้นผมเหมือนเดิมไหมหัวล้าน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร จะมีเส้นผมเหมือนเดิมไหม
  • ผมร่วงหลังคลอด เกิดจากอะไร ผมจะคืนมามั้ยผมร่วงหลังคลอด เกิดจากอะไร ผมจะคืนมามั้ย
  • เรอบ่อย เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณบอกโรคอะไรบ้าง?เรอบ่อย เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณบอกโรคอะไรบ้าง?

Filed Under: บทความสุขภาพทั่วไป Tagged With: กรดไหลย้อน, ผ่าตัดกรดไหลย้อน, ผ่าตัดกระเพาะ

Rattinan Clinic
Rattinan Medical Center
(รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์)
5 Sitthi Vorakit, Building 12A,
Soi Phiphat, Silom, Bang Rak 10500
Bangkok

วันและเวลาทำการ

วันจันทร์ - วันเสาร์
เวลา 10.00 น. - 20.00 น.
วันอาทิตย์ หยุดทำการ
สอบถามข้อมูลบริการ :
086-570-7040 , 086-323-4040
ติดต่อเรื่องทั่วไป : 02-233-1424-5

Our Working Hours

We open Monday - Saturday from 10.00 AM.-08.00PM.
Close on Sunday and some public holidays.

Telephone : +66 22331424, +66 22331425
E-Mail: international@rattinan.com
WhatsApp : +66 917767741
Skype : +66 863234040

บริการของเรา

  • ดูดไขมัน
  • ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
  • Ulthera
  • Thermage FLX
  • รักษาเต้านมโตผู้ชาย Gynecomastia
  • รีแพร์กระชับจุดซ่อนเร้น
  • ตัดหนังหน้าท้อง
  • miraDry ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
  • รักษาเส้นเลือดขอด
  • ผ่าตัดกรดไหลย้อน
  • Tesla Former เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ

บริการดูดไขมัน

  • ดูดไขมันหน้าท้อง
  • ดูดไขมันต้นขา
  • ดูดไขมันต้นแขน
  • ดูดไขมันน่อง
  • ดูดไขมันเหนียง
  • ดูดไขมันเอว
  • ดูดไขมัน Six Pack
  • ดูดไขมัน Sexy Line
  • ดูดไขมันหนอก
  • ดูดไขมันหน้า แก้ม

ติดตามเราได้ที่

Like Us

พูดคุยกับเราได้ที่

ติดตามพวกเราผ่านไลน์

© 2021 Rattinan Clinic | TOS/Privacy Policy | Sitemap