หนอกคอ คืออะไร?
หนอกคอ หรือ หนอกหลัง (Buffalo Hump) เป็นภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันอยู่ในช่วงบริเวณด้านหลังของคอ ทำให้เกิดการกระจุกตัวขึ้นเป็นก้อนที่มองเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้รูปลักษณ์ของคอด้านหลังเปลี่ยนแปลงได้ คนรอบข้างสามารถเห็นและรับรู้ได้ง่าย โดยภาวะนี้อาจไม่มีอาการเจ็บปวดแต่ส่วนใหญ่มักมองเห็นได้ชัดเจน
ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของบุคคลได้ สาเหตุหลักมักเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนคอร์ติซอล การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตามวัย ที่สำคัญ การมีหนอกหลังหรือติ่งเนื้อที่คออาจเป็นสัญญาณเตือนให้ระวังเรื่องปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาหัวใจและหลอดเลือด ที่ควรระมัดระวังและได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
สาเหตุที่ทำให้เกิด หนอกคอ คืออะไร?
- การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ในระยะเวลานาน : การใช้ยาในกลุ่มนี้เป็นเวลานานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไขมันสะสมในหนอกคอ เนื่องจากผลข้างเคียงของยาสเตียรอยด์อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- พฤติกรรมการก้มมองจอโทรศัพท์หรือนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง : การก้มหลังเป็นเวลานานหรือนั่งอยู่ในท่าทีที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันในหนอกคอ
- อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมอื่น ๆ : การได้รับบาดเจ็บในบริเวณคอจากกิจกรรมเช่นกีฬาอาจส่งผลให้ร่างกายสร้างเยื่อไขมันเพื่อปกป้องกระดูกสันหลัง
- ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด : การทานยาลดความอ้วนหรือยาต้านเอชไอวีอาจมีผลทำให้เกิดการสะสมไขมันในหนอกคอ
- โรคที่เป็นสาเหตุ : บางโรคเช่น โรคกระดูกพรุนและโรคอ้วนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหนอกคอ
- วัย : ในบางกรณีสตรีที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนอาจเจอปัญหานี้
- คอร์ติซอลสูงผิดปกติ : ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงเกินปกติอาจเป็นสาเหตุของการสะสมไขมันในหนอกคอ
ผลกระทบของหนอกคอต่อสุขภาพและชีวิตประจำวัน
วิธีการรักษาหนอกคอ
การออกกำลังกายลดหนอกคอ
ท่าที่ 1 : ท่า YWTL
ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อและกระดูกในบริเวณหลังและไหล่ เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง จากนั้นทำตามลำดับ
- ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะเป็นรูป Y
- ลดแขนลงแล้วยกตั้งเฉียงสูงเป็นรูป W
- กางแขนออกเป็นรูป T โดยหันฝ่ามือขนานกับพื้น
- สุดท้ายลดแขนลงในระดับเอวและกางออกด้านข้างเป็นรูป L ในมุม 90 องศา ทำท่านี้ช้า ๆ พร้อมหายใจลึก ๆ เป็นเวลา 30 วินาที ท่านี้จะช่วยปรับปรุงท่าทางและลดการสะสมไขมันในบริเวณคอและไหล่
ท่าที่ 2 : ท่ายืดกล้ามเนื้อส่วนสะบักและหลัง
ยืดแขนทั้งสองข้างไปด้านหลัง ใช้มือขวาจับข้อมือซ้ายแล้วดึงให้ตึง รักษาท่านี้ไว้ 30 วินาที จากนั้นเงยหน้าขึ้นและค้างไว้อีก 30 วินาที ท่านี้จะช่วยเปิดหน้าอกและยืดกล้ามเนื้อที่เกร็งจากการก้มหน้าใช้โทรศัพท์หรือทำงาน
ท่าที่ 3 : ท่ายืดกล้ามเนื้อข้างลำตัว
ยืดแขนขวาแนบกับผนัง หันหน้าไปทางขวาพร้อมเอียงศีรษะ ค้างไว้ 15 วินาที แล้วสลับข้าง ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านข้างของคอและลำตัว ลดความตึงเครียดในบริเวณที่อาจมีการสะสมไขมัน
ท่าที่ 4 : ท่า 5 นาทีก่อนนอน
ก่อนนอนหรือก่อนใช้โทรศัพท์ ให้นอนราบแล้วใช้มือเท้าคางพยุงศีรษะ เชิดหน้าขึ้นและแอ่นหลังเล็กน้อย ค้างท่านี้ไว้ 5 นาที ท่านี้จะช่วยลดความเมื่อยล้าสะสมจากกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวัน และช่วยปรับสมดุลของกล้ามเนื้อคอและหลัง การทำท่านี้เป็นประจำจะช่วยป้องกันการสะสมไขมันและปรับปรุงท่าทางโดยรวม
การฉีดสลายไขมันหนอกคอ
การฉีด สลายไขมันหนอกคอ เป็นวิธีการรักษาที่ใช้สารเฉพาะในการทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมในบริเวณหนอกคออย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การป้องกันหนอกคอ ทำอย่างไร?
การควบคุมน้ำหนักและอาหาร รักษา BMI ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 18.5-22.9 kg/m² หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เลือกรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด ลดอาหารแปรรูป น้ำตาล และแป้งแระแน ควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้เหมาะสม
การออกกำลังกายเฉพาะ 4 ท่า ท่า YWTL ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและไหล่ ทำ 30 วินาที ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบักและหลังโดยยืดแขนหลังตัว ทำ 30 วินาที ท่ายืดกล้ามเนื้อข้างลำตัวโดยแนบแขนกับผนัง ทำข้างละ 15 วินาที และท่า 5 นาทีก่อนนอนโดยนอนราบเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดความเมื่อยล้าสะสม
การดูแลท่าทางในชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงการก้มหน้าใช้โทรศัพท์เป็นเวลานาน จัดท่านั่งและท่ายืนให้ถูกต้อง ใช้หมอนรองคอที่เหมาะสม เปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ระหว่างทำงาน และออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
การตรวจสุขภาพและจัดการโรคประจำตัว ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดปีละครั้ง ตรวจสมดุลฮอร์โมนตามความเหมาะสม ควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือด รักษาภาวะไทรอยด์ให้คงที่ หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์ระยะยาวโดยไม่จำเป็น และเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างบริเวณคออย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
สรุป หนอกคอ คืออะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร หายจริงไหม?
หนอกคอ หรือ Buffalo Hump คือ การสะสมไขมันในบริเวณด้านหลังของคอ ทำให้เกิดก้อนนูนที่มองเห็นได้ชัด ส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพ แม้ไม่เจ็บปวด แต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมนคอร์ติซอล การใช้ยาสเตียรอยด์ หรือโรคประจำตัวอื่นๆ และยังส่งผลให้เกิดหลังค่อม ปวดหลัง สิว อารมณ์ไม่คงที่ และปัญหาระบบฮอร์โมน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หนอกคอ
หนอกคอเกิดจากการสะสมไขมันผิดปกติเนื่องจากความผิดปกติของฮอร์โมนคอร์ติซอล การใช้ยาสเตียรอยด์ระยะยาว การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตามวัย หรือปัจจัยพันธุกรรม กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
หนอกคอหายได้จริงหากรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ระยะเวลาขึ้นอยู่กับวิธีรักษา การดูดไขมันและ Liposlim ให้ผลเร็วภายใน 1-2 เดือน การฉีดสลายไขมันต้องทำ 3-6 ครั้ง ผลจะเห็นภายใน 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ที่สำคัญต้องแก้ไขสาเหตุต้นตำหรับด้วยเพื่อป้องกันการกลับมา
หนอกคอหายได้จริงหากรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ระยะเวลาขึ้นอยู่กับวิธีรักษา การดูดไขมันและ Liposlim ให้ผลเร็วภายใน 1-2 เดือน การฉีดสลายไขมันต้องทำ 3-6 ครั้ง ผลจะเห็นภายใน 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ที่สำคัญต้องแก้ไขสาเหตุต้นตำหรับด้วยเพื่อป้องกันการกลับมา
หากแก้ไขสาเหตุต้นตำหรับและดูแลตัวเองดี โอกาสกลับมาเป็นน้อยมาก การดูดไขมันและ Liposlim ทำลายเซลล์ไขมันถาวร แต่ต้องควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงยาสเตียรอยด์ ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ หากไม่ดูแลตัวเอง อาจเกิดขึ้นใหม่ได้
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย