ปัจจุบันการ ดูดไขมัน (Liposuction) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการลดไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และใต้คาง ด้วยเทคนิคและเครื่องมือทันสมัย การดูดไขมันช่วยในการปรับสัดส่วนตามต้องการ เพิ่มความมั่นใจในรูปร่าง และเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีไขมันเฉพาะจุดที่กำจัดได้ยาก
ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความรู้จักกับการ ดูดไขมัน ตั้งแต่เทคนิค ข้อดีข้อเสีย การเตรียมตัว และการดูแลหลังทำ
ดูดไขมัน คืออะไร?
การ ดูดไขมัน (Liposuction) คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยี ช่วยปรับรูปร่างให้สมส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดที่กำจัดยาก เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน และใต้คาง ดูดไขมันจึงไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินเพื่อให้ได้สัดส่วนที่ชัดเจนและมีรูปทรงกระชับขึ้น
ดูดไขมันมีกี่วิธี กำจัดไขมันส่วนเกิน
ดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction)
ดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี (Energy-Assisted Liposuction)
เป็นการนำ พลังงาน เข้ามาช่วยให้ไขมันสลายตัวก่อนดูดออก
จุดเด่นคือช่วย ลดการบอบช้ำ ฟื้นตัวเร็วขึ้น และควบคุมรูปร่างได้ดีขึ้น
ดูดไขมันแบบกระชับผิว (Skin-Tightening Liposuction)
เปรียบเทียบ เทคโนโลยีดูดไขมัน คุณสมบัติต่างกันอย่างไร
ดูดไขมันด้วย MicroAire PAL (Power-Assisted Liposuction)
จุดเด่นของ การดูดไขมันด้วย MicroAire PAL
-
หัวดูด สั่นได้สูงถึง 4,000 ครั้งต่อนาที ช่วยให้ไขมันหลุดออกจากเนื้อเยื่อได้ง่าย
-
ทำให้แพทย์ ควบคุมทิศทางได้ดีขึ้น
-
เหมาะกับการดูดไขมันปริมาณเยอะ หรือในจุดที่ไขมันแน่น เช่น หน้าท้อง หลัง ต้นขา หรือหน้าอกผู้ชาย
MicroAire PAL เหมาะกับใคร?
-
คนที่ต้องการดูดไขมันบริเวณใหญ่ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขา แขน
-
คนที่ต้องการ เก็บไขมันไปเติม เช่น เติมหน้า หรือก้น (BBL)
-
คนที่เคยดูดไขมันมาแล้วแต่ยังไม่เรียบ PAL ช่วยเก็บรายละเอียดได้ดี
ข้อดีของการดูดไขมันด้วย MicroAire PAL
-
ทำเร็วขึ้น เจ็บน้อย ฟกช้ำน้อย
-
ผลลัพธ์เรียบสม่ำเสมอ
-
ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นได้ เช่น VASER หรือ BodyTite
-
เหมาะกับการเก็บไขมันที่ยังคงมีคุณภาพดี
จุดเด่นของ การดูดไขมันด้วย MicroAire PAL
-
หัวดูด สั่นได้สูงถึง 4,000 ครั้งต่อนาที ช่วยให้ไขมันหลุดออกจากเนื้อเยื่อได้ง่าย
-
ทำให้แพทย์ ควบคุมทิศทางได้ดีขึ้น
-
เหมาะกับการดูดไขมันปริมาณเยอะ หรือในจุดที่ไขมันแน่น เช่น หน้าท้อง หลัง ต้นขา หรือหน้าอกผู้ชาย
สิ่งที่ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจ ดูดไขมันด้วย MicroAire PAL
-
PAL ไม่ได้ช่วยกระชับผิว ถ้าผิวเริ่มหย่อน ควรทำร่วมกับ BodyTite หรือ J-Plasma
-
มีเสียงและแรงสั่นระหว่างทำ (ไม่เจ็บ ไม่อันตราย แต่บางคนอาจตกใจถ้าไม่รู้มาก่อน)
-
ต้องใช้โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ผลลัพธ์เรียบเนียน
ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro
เหมาะสำหรับคนที่อยากให้รูปร่างกระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่หรือพักฟื้นนาน ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ช่วยให้ไขมันละลายและดูดออกง่ายขึ้น พร้อมกระตุ้นให้ผิวหดตัวทันที
จุดเด่นของการ ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro
- ใช้หัวดูดแบบพิเศษที่ทำงานทั้ง “ใต้ผิว” และ “บนผิว” พร้อมกัน
- คลื่น RF ละลายไขมัน ทำให้ ดูดออกง่ายขึ้น
- พลังงาน RF กระตุ้นผิวให้กระชับ และ สร้างคอลลาเจนใหม่
- ผิวจะหดตัวทันที และค่อยๆ ดีขึ้นต่อเนื่อง 3–6 เดือน
- มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงผิวไหม้
การ ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro เหมาะกับใคร?
-
คนที่มีไขมันเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา คอ หรือหน้าอกผู้ชาย
-
ผู้ที่มีผิวหย่อนนิดๆ และอยากให้ตึงขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด
-
คนที่อยากรูปร่างกระชับขึ้นโดยใช้เวลาพักฟื้นน้อย
ข้อดีของการ ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro
- ดูดไขมัน และ ยกกระชับผิว ในครั้งเดียว
- แผลเล็ก เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย
- ผิวเรียบ ไม่เป็นคลื่นหลังทำ
- ปลอดภัย ด้วยระบบควบคุมพลังงานแบบเรียลไทม์
- บางเคสให้ผลใกล้เคียงการผ่าตัดยกกระชับ แต่หายเร็วกว่าเยอะ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro
- ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก (อาจต้องผ่าตัดแทน)
- ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้าน RF
- อาจมีบวม ฟกช้ำ หรือรู้สึกชาเล็กน้อยหลังทำ (หายได้เองในไม่กี่วัน)
ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth
จุดเด่นของการ ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth
- ปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปสลายไขมันให้เป็นของเหลวก่อน
- ไขมันที่สลายแล้วจะดูดออกได้ง่ายขึ้น โดยไม่ดึงเนื้อเยื่อมาก
- คลื่นเสียงยังช่วยกระตุ้นการหดตัวของผิว ทำให้ ผิวแน่นขึ้นในระดับหนึ่ง
การ ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth เหมาะกับใคร?
- คนที่อยากมีหุ่นชัดๆ เช่น six-pack หรือ sexy line
- คนที่ต้องการทำ 360° liposuction รอบลำตัว
- คนที่เคยดูดไขมันมาแล้วแต่ยังไม่เรียบ (revision case)
- คนที่มีไขมันเฉพาะจุดและผิวเริ่มหย่อนเล็กน้อย
ข้อดีของการ ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth
- บวมช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว
- ปั้นสัดส่วนได้ละเอียด ทั้งไขมันตื้นและลึก
- ผิวมีโอกาสกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เหมาะกับจุดที่ดูดยาก เช่น ต้นขา คาง หลัง หรือหน้าอกผู้ชาย
- ทำได้แม้ไขมันแน่นมาก เช่น เคสดูดซ้ำ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการ ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth
- ถ้าผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องผ่าตัดแทน
- ราคาสูงกว่าเครื่องดูดไขมันทั่วไป
- ต้องทำโดยแพทย์ที่ ชำนาญการใช้คลื่นเสียง (Ultrasound)
- ถ้าทำโดยผู้ไม่มีประสบการณ์ อาจเสี่ยงผิวไม่เรียบ หรือร้อนเกินจนไหม้
J-Plasma (Renuvion)
จุดเด่นของ J Plasma
- ใช้ ก๊าซฮีเลียม ร่วมกับ RF สร้างพลังงาน “พลาสมาเย็น”
- ปล่อยพลังงานใต้ผิวผ่านหัวเครื่องมือขนาดเล็ก ทำให้ผิวหดตัวอย่างแม่นยำ
- คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นเรื่อย ๆ ผิวจะกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
J Plasma เหมาะกับใคร?
- คนที่มีผิวหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง
- คนที่เคยดูดไขมันแล้วแต่ผิวยังไม่แน่น
- คนที่อยากผิวตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
- คนที่ต้องการผลลัพธ์แบบดูธรรมชาติ ไม่โอเวอร์
ข้อดีของ J-Plasma
- ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
- ผิวกระชับขึ้นทันทีบางส่วน และดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 3–6 เดือน
- ใช้ร่วมกับการดูดไขมันได้ เช่น VASER หรือ PAL
- พลังงานเย็นควบคุมได้ดี ลดความเสี่ยงผิวไหม้
- เหมาะกับบริเวณที่ต้องการ “เรียบ ตึง ไม่หย่อน”
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ J Plasma
- ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก (อาจต้องพิจารณาผ่าตัด)
- อาจมีบวม แดง หรือฟกช้ำเล็กน้อยในช่วงแรก
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีโรคบางชนิด เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือตั้งครรภ์
- ต้องทำโดยแพทย์ที่ชำนาญการ เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงาม
IgniteRF
จุดเด่นของ IgniteRF
- รวมเทคโนโลยีหลากหลาย (BodyTite, FaceTite, AccuTite, QuantumRF, Morpheus8) ไว้ในระบบเดียวแบบ “All-in-One”
- ปรับความลึกของพลังงานได้แม่นยำ (0.5–60 mm) ครอบคลุมตั้งแต่การดูดไขมัน ปั้นสัดส่วน ไปจนถึงฟื้นฟูผิว
- ระบบวัดอุณหภูมิและความต้านทานเนื้อเยื่อตลอดเวลา ทำให้การกระชับผิวปลอดภัยและสม่ำเสมอ
IgniteRF เหมาะกับใคร
- คนที่ ไม่อยากผ่าตัดใหญ่ แต่ต้องการผลลัพธ์ระดับศัลยกรรม
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด และ ผิวเริ่มหย่อน
- คนที่ต้องการทั้ง ยกกระชับ และ Contour: เช่นใบหน้า, คาง, แขน, ขา, ท้อง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว เช่น รอยหลุมสิว หรือริ้วรอย รูขุมขนกว้าง
ข้อดีของ IgniteRF
- เครื่องเดียว ครบทั้งดูดไขมัน พร้อม กระชับ และ ฟื้นฟูผิว
- ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักนาน ไม่ต้องกรีดผิวใหญ่
- ผลลัพธ์ชัดเจนและเห็นได้เร็ว ด้วยพลังงาน RF ที่ควบคุมแม่นยำ
- แผลเล็กมาก ใช้ยาชาเฉพาะจุดได้
- มีหัวเฉพาะสำหรับแต่ละบริเวณ: ใบหน้า รอบตา บริเวณใหญ่ ฯลฯ
สิ่งที่ควรรู้ของ IgniteRF
- ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์กับเทคโนโลยี RF แบบลึกและละเอียด
- แม้จะไม่ผ่าตัดใหญ่ แต่ต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลเต็มที่ (ประมาณ 1–3 เดือน)
- ราคาสูงกว่าการใช้เครื่องเดี่ยวทั่วไป
- อาจมีอาการบวม แดง หรือลอกผิวในช่วงแรก แต่หายเป็นปกติในไม่กี่วัน
รวมภาพ Before vs After ดูดไขมัน รัตตินันท์ คลินิก
ดูดไขมัน เหมาะกับใครบ้าง?
การดูดไขมัน (Liposuction) เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดและต้องการปรับรูปร่าง โดยไม่เน้นการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมัน จึงควรอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักมาตรฐาน และมีสุขภาพแข็งแรง การดูดไขมัน ช่วยปรับสัดส่วนให้ชัดเจนโดยกำจัดไขมันในจุดที่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และใต้คาง
รูปร่างแบบไหนเหมาะกับดูดไขมัน
-
มีไขมันสะสมเฉพาะจุด
เช่น หน้าท้อง สะโพก เหนียง ซึ่งลดได้ยากแม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกาย การดูดไขมันจึงช่วยปรับรูปร่างได้ตรงจุด
-
สุขภาพแข็งแรง
มีสุขภาพโดยรวมแข็งแรง ไม่มีโรคที่เพิ่มความเสี่ยงในการทำหัตถการ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง (ถ้ามีสามารถปรึกษาแพทย์ก่อนได้)
-
ผิวยืดหยุ่น
ผิวมีความยืดหยุ่นดี ผิวที่ยืดหยุ่นจะกระชับเข้ารูปง่ายขึ้นหลังทำ สำหรับผู้ที่ผิวยืดหยุ่นน้อย การใช้เทคนิคยกกระชับจะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนหลังทำ เช่น TripleTite และ J Plasma)
-
น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
การดูดไขมันเน้นการปรับรูปร่าง ผู้ที่น้ำหนักปกติแต่มีไขมันเฉพาะจุดจะเห็นผลชัดเจนกว่า (ฺBMI ไม่ควรเกิน 25 ถ้าเกิน สามารถปรึกษาแพทย์ได้)
มีความคาดหวังสมเหตุสมผล การดูดไขมันช่วยปรับรูปร่างและกระชับสัดส่วน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างทั้งหมดหรือทดแทนการควบคุมน้ำหนักได้
ดูดไขมัน ส่วนไหนได้บ้าง
ส่วนที่ดูดไขมันได้
ดูดไขมันช่วงกลางลำตัว
- หน้าท้อง ลดไขมัน ทั้งบนและล่าง ให้หน้าท้องแบนราบขึ้น
- เอว สร้างส่วนเว้าโค้งของเอวอย่างเป็นธรรมชาติ
- ปีกหลัง และ Love Handles ลดไขมันข้างลำตัวที่ทำให้รูปร่างดูไม่ชัด
ดูดไขมันหน้าท้อง
- ไขมันหน้าท้อง มักมีต้นเหตุมาจากการกินแป้ง/น้ำตาลบ่อย ฮอร์โมนอินซูลินสูง ทำให้สะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง และ ผู้หญิงมักสะสมบริเวณนี้หลังคลอด
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
พุงล่างยุบยากแม้ออกกำลังกาย รูปร่างดูไม่สมส่วนแม้น้ำหนักปกติ - ผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้อง
หน้าท้องแบนขึ้น ใส่เสื้อเอวลอยมั่นใจ เอวคอด เห็นสัดส่วนชัดขึ้น
ดูดไขมันส่วนร่อง 11
- ไขมันบัง ร่อง 11 (เส้น Sexy Line) มีลักษณะเป็นไขมันบางๆ ปิดบังกล้ามหน้าท้อง แม้ออกกำลังกายก็ยังไม่เห็นเส้นชัด
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
เพิ่มลุคฟิตแอนด์เฟิร์ม โดยไม่ต้องลดน้ำหนักเยอะ - ผลลัพธ์หลังดูดไขมัน
เห็นร่องหน้าท้อง (V Line) ชัดขึ้น ได้ลุคเฟิร์มเหมือนคนเล่นเวท
ดูดไขมันส่วนขา
- ต้นขาด้านใน ช่วยลดการเสียดสี ให้เรียวขึ้น
- ต้นขาด้านนอก / สะโพก ลดความป่องด้านข้าง ให้ช่วงล่างดูกระชับ
- ต้นขาด้านหน้า-หลัง ปรับทรงขาให้สมดุล
- หัวเข่าด้านใน ช่วยให้ขาดูยาวและได้รูป
- น่องและข้อเท้า เฉพาะกรณีที่เกิดจากไขมัน ไม่ใช่กล้ามเนื้อ
ดูดไขมันต้นขา
- ไขมันต้นขา มักมีสาเหตุมาจาก ฮอร์โมนเพศหญิงกระตุ้นไขมันสะสมช่วงล่าง น้ำหนักขึ้นสะสมที่ขาเป็นอันดับแรก
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
ลดอาการขาเสียด ใส่กางเกงไม่อึดอัด - ผลลัพธ์หลังดูดไขมันต้นขา
ขาเรียว ยืดหยุ่น เดินสบาย ขาเล็กลงโดยไม่ต้องลดน้ำหนักทั้งตัว
ดูดไขมันแขนคืออะไร?
- ต้นแขนด้านในและด้านหลัง เป็น จุดที่ไขมันสะสมมากที่สุด ทำให้แขนดูหย่อน
- รอบแขนโดยรวม เพื่อ ปรับให้แขนได้สัดส่วน ดูเรียวยาวและกล้าสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ
ดูดไขมันต้นแขน
- ไขมันต้นแขน มักมีสาเหตุมาจาก กล้ามเนื้อไม่กระชับ ไขมันสะสมเฉพาะจุด อายุเพิ่ม ผิวหย่อนคล้อย
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
แขนเล็กลง เหนือข้อศอกเรียบ เหมาะกับคนที่แขนใหญ่เฉพาะส่วน
- ผลลัพธ์หลังดูดไขมันต้นแขน
ใส่แขนกุดได้มั่นใจ แขนดูเรียวและแน่นขึ้น
ดูดไขมันนมน้อย
- ไขมันนมน้อย ไขมันใต้รักแร้ มักมีสาเหตุมาจาก ไขมันสะสมจากพันธุกรรม หรือใส่บราแต่กดทับผิดจุด
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
กำจัดไขมันที่สะสมบริเวณรักแร้มากเกินไปจนเกิดเป็นก้อนนูน ทำให้เสียความมั่นใจเวลาใส่เสื้อแขนกุด หรือชุดรัดรูป
- ผลลัพธ์หลังดูดไขมันใต้รักแร้
ใส่แขนกุดได้มั่นใจ บอกลาก้อนไขมันที่ทำให้ไม่มั่นใจ
ดูดไขมันใบหน้า ลำคอ
- ใต้คาง (เหนียง) ลดคางสองชั้น กรอบหน้าชัดขึ้น
- แก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและเล็กลง
- แนวกราม เสริมความชัดของกรอบหน้าให้ดูมีมิติ
- ลำคอ ลดไขมันส่วนเกิน ทำให้คอดูเรียวยาวขึ้น
ดูดไขมันเหนียง
- ไขมันเหนียง มักมีสาเหตุมาจาก กรรมพันธุ์ น้ำหนักตัวเพิ่ม หรือผิวหย่อนตามวัย
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
เพราะขจัดไขมันโดยตรง
- ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเหนียง
กรอบหน้าคม เหนียงหาย หน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ดูดไขมันกรอบหน้า
- ไขมันกรอบหน้า มักมีที่มาจาก ไขมันสะสมจากกรรมพันธุ์ บางคนไม่อ้วนตัว แต่หน้าอ้วนง่าย น้ำหนักขึ้นเล็กน้อยก็ไปสะสมที่แก้ม คาง ใต้คาง ได้ทันที
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
ถ้าแก้มใหญ่ เหนียงเยอะ เพราะ ไขมันสะสมเกินไป การดูดไขมันเท่ากับนำไขมันออกโดยตรง ต่างจากการฉีดแฟต ที่เพียงละลายบางส่วน และอาจต้องฉีดหลายครั้ง
- ผลลัพธ์หลังดูดไขมันกรอบหน้า
เมื่อไขมันออกไป กรอบหน้าจะชัดขึ้นทันที เทคนิคที่ดีจะช่วยกระชับผิวไปด้วย
ดูดไขมัน สำหรับหุ่นผู้ชาย ทำได้ไหม
การดูดไขมันสำหรับผู้ชาย ปรับรูปร่างให้คมชัด มั่นใจมากขึ้น
การดูดไขมันไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิง ผู้ชายจำนวนมากเลือกหัตถการนี้เพื่อเสริมรูปร่างให้ฟิต กระชับ และเห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ออกกำลังกายอย่างไรก็ยังลดได้ยาก
- หน้าท้องและเอว ลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องและ “ห่วงยาง” ข้างลำตัว ช่วยให้ลำตัวดูแบนราบและมีทรง V-shape
- Six-Pack Etching (ดูดไขมันเน้นซิกแพค) เน้นสร้างร่องกล้ามเนื้อหน้าท้องและหน้าอกให้คมชัด
- หน้าอก (Gynecomastia) ลดภาวะเต้านมโตในผู้ชาย ให้หน้าอกแบนราบและได้รูป
- คางและลำคอ ลดเหนียงหรือไขมันใต้คาง เสริมความชัดของกรอบหน้า
- ต้นแขนและต้นขา สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ต้องการปรับให้ดูเฟิร์มขึ้น
ดูดไขมันซิกแพค ปั้นกล้ามชัด
- ซิกแพคถูกไขมันหน้าท้องบดบัง แม้จะมีกล้ามก็ไม่เห็นชัด
- ทำไมดูดไขมันอาจตอบโจทย์ ?
ช่วยขจัดไขมันเฉพาะจุดและเน้นลอนซิกแพคให้ชัดเจนทันที - ผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้อง
หน้าท้องเรียบ มีกล้ามลอนชัด ดูฟิตโดยไม่ต้องออกกำลังกายหนักทุกวัน
ดูดไขมันหน้าอกผู้ชาย
ช่วยแก้ปัญหานมแหลมทะลุเสื้อ หรือภาวะเต้านมโตในผู้ชาย (Gynecomastia) แผลเล็ก ไม่ต้องพักฟื้นนาน ใส่เสื้อยืดได้อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง
ดูดไขมันเอว (Love Handles)
นิยมทำในกลุ่มผู้ชายที่มีห่วงยางรอบเอว มีรูปร่างทรงตรง ไม่มีเอว เอวตัน หรือเอวหนา ดูดไขมันเอวจะช่วยให้มีเอวในเวลาเร่งด่วน
ข้อควรรู้ก่อน ดูดไขมัน
- มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
การดูดไขมันมีความเสี่ยง เช่น บวม ช้ำ การติดเชื้อ หรืออาจมีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน - ต้องดูแลตัวเองหลังทำอย่างเคร่งครัด
จำเป็นต้องสวมชุดกระชับ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงให้แผลอักเสบ การดูแลหลังทำใช้เวลาหลายสัปดาห์จนแผลหายดี - ค่าใช้จ่ายสูง
การดูดไขมันโดยเฉพาะเทคนิคที่ทันสมัยมีค่าใช้จ่ายสูง และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการการดูแลเพิ่มเติม เช่น การฉีดไขมันเติมเต็ม - ไม่ทดแทนการลดน้ำหนัก
การดูดไขมันเน้นปรับสัดส่วน ไม่ใช่การลดน้ำหนัก สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรเน้นการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย - ผลลัพธ์ไม่ถาวรหากไม่ดูแลตัวเอง
หากไม่มีการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันอาจกลับมาสะสมได้ในอนาคต
สรุป การดูดไขมัน มีข้อดี คือ ช่วยปรับรูปร่าง เพิ่มความมั่นใจ และลดไขมันเฉพาะจุด
แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องของการฟื้นตัว ค่าใช้จ่าย และความเสี่ยง ผู้สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมของหัตถการ
ใครบ้างที่อาจไม่เหมาะกับการดูดไขมัน ?
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อหัตถการ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะเลือดออกง่าย
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน
- ผู้ที่มีความคาดหวังไม่ตรงกับผลลัพธ์จริง หากต้องการลดน้ำหนักครั้งใหญ่ ควรหาวิธีอื่นที่เหมาะสมกว่าการดูดไขมัน
ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาทั้งแพทย์ประจำตัวและแพทย์ดูดไขมันเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ เช่นกันกับผู้ที่มีเชื้อ HIV ที่อยู่ในกระบวนการรักษาแล้ว หากแพทย์ประเมินว่าดูดไขมันได้ จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ส่วนตัวเฉพาะเพิ่มเติม
ดูดไขมัน อันตรายไหม
เข้าใจความเสี่ยง พร้อมวิธีลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
การดูดไขมันถือเป็นหัตถการที่ดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด และควรทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน แต่ก็เหมือนการทำหัตถการทางการแพทย์ทั่วไป ที่อาจมีผลข้างเคียงได้บ้างในบางราย
มาทำความเข้าใจว่า “อาการแบบไหนคือเรื่องปกติ” และ “แบบไหนควรรีบแจ้งแพทย์”
อาการที่พบบ่อยหลังดูดไขมัน
- อาการบวม ช้ำ และเจ็บบริเวณที่ดูดไขมัน พบได้แทบทุกเคส และมักค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์
เคล็ดลับดูแลตัวเอง : ใส่ชุดกระชับต่อเนื่อง และทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง - อาการชา หรือรู้สึกแปลกๆ บริเวณที่ทำ
เกิดจากเส้นประสาทเล็ก ๆ ที่ถูกกระทบระหว่างดูดไขมัน มักดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ – 3 เดือน
อาการที่พบไม่บ่อย แต่ควรรู้ไว้
- 1. เลือดคั่งใต้ผิวหนัง (Hematoma)
มีลักษณะเป็นก้อนแข็งหรือบวมแดงใต้ผิว หากไม่ยุบเองใน 1–2 สัปดาห์ หรือเจ็บมาก ควรกลับมาพบแพทย์ - 2. ของเหลวสะสม (Seroma)
บางคนอาจรู้สึกเป็นก้อนนุ่ม ๆ ใต้ผิว เกิดจากน้ำคั่งหลังดูดไขมัน แพทย์สามารถดูดออกได้ และมักหายเองภายในไม่กี่สัปดาห์ - 3. ผิวไม่เรียบ หรือเป็นคลื่น
อาจเกิดจากการดูดไขมันออกไม่สม่ำเสมอ หรือผิวยืดหยุ่นน้อย คลินิกที่ใช้เทคโนโลยียกกระชับ เช่น BodyTite, RF หรือ J-Plasma จะช่วยให้ผิวเนียนขึ้น - 4. ผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน
โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวยืดหยุ่นน้อย หรือดูดไขมันปริมาณมาก เทคนิคที่ดีและการดูแลหลังทำช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ - 5. การติดเชื้อบริเวณแผล
พบได้น้อย หากแผลไม่สะอาด หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ล้างแผลสะอาด ทานยาตามแพทย์ จะช่วยลดโอกาสติดเชื้อ - 6. ภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือด (Fat Embolism)
แม้จะพบได้น้อยมาก แต่เป็นภาวะที่ต้องระวัง หากมีอาการหายใจลำบาก หน้ามืด แน่นหน้าอก ควรพบแพทย์ทันที - 7. การแพ้ยาชา / ยาสลบ
บางรายที่มีประวัติแพ้ยาควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ คลินิกที่มีวิสัญญีแพทย์และทีมช่วยชีวิตพร้อม จะลดความเสี่ยงตรงนี้ได้มาก
เตรียมตัวอย่างไร ก่อนดูดไขมัน
- ก่อนดูดไขมัน ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
- แพทย์จะประเมินสุขภาพและตำแหน่งที่จะดูดไขมัน ควรแจ้งโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม
- ตรวจสุขภาพและงดอาหารก่อนผ่าตัด
- ควรตรวจเลือดและงดน้ำ-อาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนทำ โดยเฉพาะหากต้องวางยาสลบ
- งดยาและผลิตภัณฑ์เสริมบางชนิด
- หยุดยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ และวิตามินอีล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงการเลือดออก
- งดบุหรี่และแอลกอฮอล์
- ควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น
- เตรียมชุดกระชับและพื้นที่พักฟื้น
- ชุดกระชับช่วยลดบวมและให้ผิวเข้ารูป ควรเตรียมชุดและพื้นที่พักฟื้นให้พร้อม
ดูแลตัวเองอย่างไร? หลังดูดไขมัน
ข้อแนะนำหลังดูดไขมัน |
รายละเอียด |
สวมชุดกระชับตามคำแนะนำแพทย์ | ควรใส่ชุดกระชับ 4-6 สัปดาห์ โดยในช่วงแรกใส่ตลอดเวลา (ยกเว้นตอนทำความสะอาด) เพื่อช่วยลดบวมและให้ผิวกระชับเข้ารูป |
หลีกเลี่ยงการยกของหนักและออกกำลังกายหนัก | อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังทำ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลบวม หรือแผลฉีก ควรรอให้แผลหายดีก่อนกลับไปทำกิจกรรมปกติ |
รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ | ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดต้องรับประทานตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และไม่ปรับปริมาณยาเอง |
นอนในท่าที่เหมาะสม | ควรนอนยกศีรษะสูงในช่วง 1-2 วันแรก เพื่อลดอาการบวม และหลีกเลี่ยงการนอนทับบริเวณที่ดูดไขมัน |
รักษาความสะอาดแผล | ทำความสะอาดแผลอย่างระมัดระวังด้วยผ้าสะอาดตามคำแนะนำ หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์และสารเคมีที่เข้มข้น |
ดื่มน้ำมากและทานอาหารที่มีประโยชน์ | ดื่มน้ำช่วยขับของเสีย ควรทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินสูง เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น |
หลีกเลี่ยงแสงแดด | บริเวณที่ทำจะไวต่อแสงแดด จึงควรสวมเสื้อผ้าปกปิดเพื่อป้องกันรอยด่างดำ |
ติดตามอาการและพบแพทย์ตามนัด | ควรพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อตรวจสอบผลการรักษา หากพบอาการผิดปกติ เช่น แผลบวมแดงหรือปวด ควรแจ้งแพทย์ทันที |
ระยะเวลาในการพักฟื้น หลังดูดไขมัน | ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังดูดไขมัน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้ใส่ชุดกระชับตลอดเป็นเวลา 3 วัน |
ดูดไขมัน ไม่ใช่แค่กำจัดไขมัน
- ปรับสัดส่วนเฉพาะจุด ตามลักษณะของแต่ละบุคคล
- เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว
- ดูแลไขมันสะสมที่ลดได้ยาก
- นำไขมันของคุณมาใช้เติมเต็ม
- ฟื้นตัวไวขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- วางแผนการดูแลเฉพาะบุคคล โดยทีมแพทย์
เทคนิคดูดไขมันที่ รัตตินันต์
TripleTite และ J Plasma
การดูดไขมัน และ การยกกระชับผิว ในปัจจุบันพัฒนาไปมาก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทั้งในแง่ของการลดไขมันและการกระชับผิว เทคนิคยอดนิยม เช่น TripleTite และ J Plasma เป็นทางเลือกที่ทันสมัย ปลอดภัย และสามารถตอบโจทย์ผู้เข้ารับบริการที่ต้องการรูปร่างกระชับและเข้ารูปได้ดี
TripleTite คือ การดูดไขมัน ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
TripleTite เป็น การดูดไขมัน ที่ผสานสามเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันและยกกระชับผิว โดยมีสามขั้นตอนหลัก ดังนี้
- BodiTite เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency Technology)
พลังงานคลื่นวิทยุช่วยกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน และลดโอกาสการหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน
- PowerTite ระบบดูดไขมันด้วยพลังงานกล (Power Assisted Liposuction)
ระบบพลังงานกลใช้การสั่นสะเทือนช่วยแยกเซลล์ไขมันจากเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้การดูดไขมันแม่นยำ ลดอาการบวม และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- DermaTite เทคโนโลยีกระชับผิวหย่อน
ช่วยให้หลังดูดไขมันมั่นใจมากขึ้น ผิวไม่ย้วยเนื่องจากสัดส่วนร่างกายลดเร็วเกินไป
ข้อดีของ การดูดไขมัน TripleTite
- ลดการบอบช้ำ ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเทคนิคเดิม
- กระชับผิวได้ดี ลดความเสี่ยงของผิวหย่อนคล้อย
- เหมาะกับการดูดไขมันหลายจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
J Plasma คือ นวัตกรรมการกระชับผิวที่ล้ำสมัย
J Plasma เป็นเทคโนโลยีการกระชับผิวด้วยพลังงานพลาสมาเย็น ใช้ก๊าซฮีเลียมร่วมกับพลังงาน RF ซึ่งช่วยให้ผิวหนังกระชับโดยไม่ทำให้เกิดความร้อนสูง ลดความเสี่ยงการไหม้และผลข้างเคียง
กระบวนการทำงานของ J Plasma
- สร้างพลังงานพลาสมาเย็น พลาสมาเย็นจากก๊าซฮีเลียมช่วยให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจน ทำให้ผิวตึงและกระชับในทันที
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นอกจากการยกกระชับผิวทันที J Plasma ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของ J Plasma
- ช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัดยกกระชับ
- ลดการเกิดแผลและการบวม ฟื้นตัวเร็ว
- เหมาะกับการใช้ร่วมกับการดูดไขมันในบริเวณที่มีผิวหย่อนคล้อย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา
ข้อควรพิจารณา
แม้เทคโนโลยีจะพัฒนา การดูดไขมันยังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานช่วยให้ผลลัพธ์ปลอดภัยและคงทน การดูแลตัวเองหลังการทำก็สำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ ดูดไขมัน (FAQs)
ได้ค่ะ ที่รัตตินันท์ มีบริการให้คำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับ การดูดไขมันเฉพาะบุคคล คุณจะได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการเตรียมตัว ขั้นตอน และผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิค Scarless ที่ใช้ในการดูดไขมันที่ รัตตินันท์ คือ การทำหัตถการที่ให้แผลมีขนาดเล็กมากจนแทบไม่เห็นรอยแผลหลังการหาย ซึ่งจะใช้แคนนูล่าขนาดเล็กมาก ช่วยลดรอยแผล ลดอาการบวมช้ำ และให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน
ควรหยุดรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือน้ำมันปลา และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนทำ นอกจากนี้ควรตรวจสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ
ที่รัตตินันท์ มีทั้งการใช้ยาชาเฉพาะจุดและการวางยาสลบ ขึ้นอยู่กับบริเวณและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ แพทย์จะให้คำแนะนำว่าการใช้ยาชนิดใดเหมาะสมที่สุด
ระยะเวลาพักฟื้นปกติอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนี้สามารถโดนน้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนการออกกำลังกายสามารถเริ่มได้หลังจาก 4-6 สัปดาห์
การดูดไขมันสามารถลดเซลลูไลท์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้กำจัดเซลลูไลท์ทั้งหมด การใช้เทคโนโลยีเสริม เช่น BodyTite หรือ J Plasma จะช่วยกระชับผิวและลดลักษณะเซลลูไลท์ได้ดียิ่งขึ้น
แนะนำให้นวดประมาณ 5-10 ครั้ง โดยการนวดช่วยกระตุ้นการสลาย seromas และลดอาการบวม นวดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้การฟื้นตัวดีขึ้น
ราคาเริ่มต้นสำหรับการดูดไขมันขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณไขมันที่ต้องการดูดออก โดยปกติจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไป
ที่ รัตตินันท์ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูงครบครัน เพื่อให้ผลลัพธ์การดูดไขมันออกมาดีที่สุด
แพทย์จะทำแผลขนาดเล็กในจุดที่มองไม่เห็นง่าย เช่น บริเวณซอกขา หรือใต้เสื้อผ้า เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลที่เห็นชัดหลังทำ
ใช่ค่ะ บริเวณเล็ก ๆ หรือ ในกรณีที่ต้องการดูดไขมันเฉพาะจุดสามารถทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะจุดได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์จะประเมินความเหมาะสมของการใช้ยาชาแต่ละชนิดในแต่ละกรณี
โดยทั่วไป แนะนำให้ดูดไขมันออกประมาณ 4-5 ลิตรในครั้งเดียว เพื่อความปลอดภัย แพทย์จะประเมินและให้คำแนะนำตามปริมาณไขมันที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
หากเป็นการดูดไขมันในบริเวณเล็ก ๆ สามารถเดินทางกลับได้ แต่ถ้าเป็นบริเวณใหญ่แนะนำให้พักฟื้นที่คลินิกหรือพักโรงแรมใกล้เคียงอย่างน้อย 1 คืน
Seroma อาจใช้เวลาในการสลายตัวประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการดูแลและการตอบสนองของร่างกาย การนวดช่วยลดการสะสมของ seroma ได้
การนวดหลังดูดไขมันช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดอาการบวม และลดการสะสมของ seromas แนะนำให้นวดต่อเนื่องประมาณ 5-10 ครั้งตามคำแนะนำของแพทย์
ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาในตำแหน่งเดิม แต่หากไม่ควบคุมน้ำหนัก ไขมันอาจสะสมในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้
การดูดไขมันช่วยลดปริมาณไขมันเฉพาะจุดและปรับรูปร่าง แต่ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญ การดูแลควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษารูปร่างในระยะยาว
แนะนำให้งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการดูดไขมัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ควรงดการใช้ซาวน่าอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการดูดไขมัน เพราะความร้อนอาจกระทบต่อแผลและทำให้เกิดการอักเสบได้
การดูดไขมันหลายจุดสามารถทำได้โดยการใช้ยาชาเฉพาะจุดในบางกรณี ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ทำ แพทย์จะประเมินและแนะนำวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เข้ารับบริการ
สรุป ดูดไขมัน คืออะไร? พร้อมเทคนิค ขั้นตอนดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง
การ ดูดไขมัน เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปร่างให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่ลดได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว และเหนียงใต้คาง ที่ รัตตินันท์ คลินิก ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น J Plasma และ TripleTite ซึ่งช่วยดูดไขมันอย่างแม่นยำและยกกระชับผิวไปพร้อมกัน ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
ทำไมต้อง ดูดไขมัน
ที่ รัตตินันท์
การเลือกสถานที่สำหรับการดูดไขมันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ รัตตินันท์ มีจุดเด่นในการให้บริการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านดูดไขมัน และการบริการที่ใส่ใจในรายละเอียด จึงเป็นที่ไว้วางใจของผู้รับบริการ
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ ศูนย์ได้รับการรับรองคุณภาพจาก AACI สหรัฐอเมริกา ในฐานะศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้รับการประเมินในด้านการให้บริการจากลูกค้าหลายประเทศ