กินเบียร์อ้วนไหม เบียร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?

กินเบียร์อ้วนไหม เป็นคำถามที่นักดื่มหลายคนอาจสงสัย เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนชอบดื่มเวลาสังสรรค์หรือเพื่อคลายเครียด แต่การดื่ม เบียร์ ในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับอักเสบ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว รวมถึงอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และนำไปสู่โรคอ้วนได้

เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวไรย์ หรือข้าวบาร์เลย์ มักหมักด้วยยีสต์และฮ็อพเพื่อเพิ่มความขม ผู้ผลิตเบียร์บางรายยังเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ผลไม้ สมุนไพร หรือเครื่องเทศ เป็นต้น

เบียร์แต่ละยี่ห้ออาจมีปริมาณแอลกอฮอล์แตกต่างกัน ปริมาณแอลกอฮอล์สามารถสังเกตได้จากค่า ABV หรือ Alcohol By Volume ที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แสดงถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม 100 มิลลิลิตรจะมีแอลกอฮอล์อยู่ 4 มิลลิลิตร ซึ่งโดยทั่วไปเบียร์ที่จำหน่ายตามท้องตลาดมักมีค่า ABV อยู่ 4-6 เปอร์เซ็นต์ แต่บางยี่ห้ออาจมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่าหรือมากกว่านั้น

นอกจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่ต่างกันแล้ว เบียร์แต่ละชนิดยังมีสีและรสชาติที่ต่างกันอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิตเบียร์ เวลาบ่ม และวัตถุดิบที่ผู้ผลิตเบียร์แต่ละรายใช้ โดยลาเกอร์เบียร์ ซึ่งมักมีสีเหลืองอ่อนและใส เป็นเบียร์ประเภทหนึ่งที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด และได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในหมู่ผู้บริโภคคนไทย

เบียร์ประเภทต่าง ๆ มีปริมาณแคลอรีต่างกัน เบียร์ขนาดมาตรฐาน 355 มล. ที่มี ABV 4% ให้พลังงานประมาณ 153 แคลอรี โดยมีคาร์โบไฮเดรต 13 กรัม โปรตีน 2 กรัม และไขมัน 0 กรัม เพราะแอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 7 แคลอรี

เบียร์มีสารอาหารอื่น ๆ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม อย่างไรก็ตามมีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ดังนั้นเครื่องดื่มนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นแหล่งหลักสำหรับร่างกาย

การดื่มเบียร์ในปริมาณมากหรือดื่มเป็นประจำสามารถเพิ่มปริมาณไขมันในร่างกายของคุณได้ จนเกิดการสะสมตามส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะรอบเอว ซึ่งอาจทำให้คุณอ้วนได้โดยไม่รู้ตัว

1. เบียร์มีแคลอรีสูง เมื่อเทียบเป็นแคลอรีต่อลิตร เบียร์อาจมีแคลอรีสูงพอ ๆ กับน้ำอัดลม นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความอยากอาหารของคุณได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็อาจทำให้ผู้ดื่มกินมากขึ้นได้ คนส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักกันว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง โดยผู้ที่ดื่มเบียร์แล้ว แต่ยังรับประทานอาหารปริมาณเท่าเดิม ก็อาจมีแนวโน้มได้รับแคลอรีเกินจากเกณฑ์ที่กำหนดได้
2. เบียร์ขัดขวางการเผาผลาญไขมัน กระบวนการย่อยสลายแอลกอฮอล์ทำให้เกิดของเสียที่เรียกว่าอะซีเตตและอะซีตัลดีไฮด์ เมื่อสมองตรวจพบสาร 2 ชนิดนี้ จะส่งสัญญาณให้ร่างกายหยุดเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย ในขณะเดียวกันก็สั่งให้ร่างกายเปลี่ยนของเสียจากการย่อยแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปให้กลายเป็นไขมัน การดื่มเบียร์เป็นประจำจึงอาจทำให้ระดับไขมันในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บางงานวิจัยกลับพบว่า การดื่มเบียร์ในปริมาณที่พอดีหรือน้อยกว่า 500 มิลลิลิตร/วัน อาจไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัวและไขมันรอบเอว ดังนั้น หากจำเป็นต้องดื่มเบียร์ ควรดื่มแต่พอดีจะส่งผลดีที่สุด
3. เบียร์มีสารไฟโตเอสโตรเจน ไฟโตเอสโตรเจนเป็นสารที่ผลิตโดยพืช มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงและใช้ในกระบวนการผลิตเบียร์ ฮ็อปมีไฟโตเอสโตรเจนสูง การดื่มเบียร์อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกายผู้ชาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ชายที่ดื่มเบียร์อาจมีภาวะฮอร์โมนแปรปรวน อันเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไขมันรอบเอวได้

การดื่มเบียร์ในปริมาณมากเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ดังนี้

• น้ำหนักเกินเกณฑ์และอ้วนลงพุง
• ริ้วรอยก่อนวัย หน้าดูแก่ก่อนวัย
• ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และตับแข็ง
• โรคหัวใจและหลอดเลือด
• ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
• ภาวะหัวใจวาย
• โรคมะเร็ง
• ทำลายสมองและระบบประสาทอาจเสี่ยงอัลไซเมอร์
• สับสน เวียนศีรษะ ขาดสติ และอาจเกิดอุบัติเหตุ เช่น รถชน หกล้ม
• อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตไวขึ้น

ข้อควรระวังในการดื่มเบียร์ มีดังนี้

• หากคุณไม่เคยดื่มมาก่อนไม่แนะนำให้เริ่มดื่ม แต่ถ้าดื่มเป็นประจำแนะนำให้ดื่มเบียร์ในปริมาณที่พอดี ไม่เกิน 1-2 แก้ว/วัน เพราะการดื่มเกินกว่านั้นจะเพิ่มความเสี่ยงน้ำหนักขึ้น โรคอ้วน และโรคไม่ติดต่อชนิดเรื้อรังอื่นๆ
• ควรหลีกเลี่ยงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคตับ โรคพิษสุราเรื้อรัง และภาวะหัวใจล้มเหลว เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงและอาจทำให้เสียชีวิตได้
• หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการดื่มเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น ไวน์ เหล้า เบียร์ เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ได้

นับแคลอรี

ใครหยุดดื่มไม่ได้ คุณหมอแนะนำให้ลดปริมาณการดื่มเบียร์ลงเพื่อลดความถี่ นอกจากนี้ คุณควรเลือกเบียร์ที่มีแคลอรีต่ำ เช่น ดาร์กเบียร์หรือไลท์เบียร์ และระบุจำนวนแคลอรีของอาหารที่คุณต้องกินในแต่ละวันด้วย คำนวณกันให้ดี ๆ อย่าให้เกิด ยิ่งในวันที่ต้องรู้ว่าต้องไปดื่ม ก็พยายามควบคุมแคลอรีของอาหารที่จะทานก่อนไปดื่ม รวมถึงกับแกล้มขณะดื่มด้วย เพราะการทานอาหารหรือกับแกล้มมาก ๆ จะทำให้เราอ้วนได้ง่าย ๆ นั่นเอง

ออกกำลังกาย

ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แอลกอฮอล์เป็นตัวทำลายระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อเราเป็นคนกินเหล้าก็ยิ่งต้องออกกำลังกายเพื่อเพิ่มระบบเผาผลาญด้วย การออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี รวมถึงการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่มีความเข้มข้นสูง เป็นการออกแรงอย่างสุดกำลังในช่วงสั้น ๆ สลับกับการผ่อนแรงลง ใช้เวลาเพียง 10-30 นาที เท่านี้ก็จะช่วยลดไขมันรอบเอว ลดพุงเบียร์ ลดอาการบวมเบียร์ และยังส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงกันอีกด้วย อย่างน้อยก็ควรออกกำลังทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับคนชอบดื่มเบียร์

ปรึกษาแพทย์เพื่อกำจัดไขมัน

มีคนไข้หลายคนที่เป็นนักดื่มที่ดื่มเบียร์จนมีพุงมาปรึกษาคุณหมอเรื่องกำจัดไขมันรอบเอว พุงเบียร์ พุงยุบ วิธีกำจัดไขมันรอบเอว หลายคนสนใจที่จะดูดไขมันหน้าท้อง หรือดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย อาจจะยังงงว่าการดูดไขมันสามารถทำได้ทุกคน โดยคุณหมอมีคำแนะนำเกี่ยวกับการดูดไขมันว่า การดูดไขมันจะเหมาะสำหรับกรณีที่มีปัญหาพุงเบียร์ที่เป็นไขมันใต้ผิวหนัง ส่วนคนไข้ที่กินเบียร์ลงพุงแบบมีไขมันในช่องท้องนั้นจะไม่สามารถทำการดูดไขมันออกมาได้ เนื่องจากไขมันชนิดนี้จะแทรกอยู่ภายในอวัยวะในช่องท้อง วิธีกำจัดไขมันชนิดนี้คือ ควบคุมแคลอรีและออกกำลังกายเท่านั้น

คำถามที่หลายคนสงสัยว่าการกินเบียร์อ้วนไหม คำตอบก็คืออ้วนแน่นอนถ้ากินในปริมาณมากและกินสม่ำเสมอ รวมถึงขาดการออกกำลังกาย เพราะไม่เช่นนั้น โรคอ้วนในช่องท้องที่มาจากไขมันและอันตรายจากแอลกอฮอล์จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ หากตรวจแล้วพบว่าตัวเองมีพุงปลิ้น บวมเบียร์หรืออ้วนลงพุง หมอแนะนำให้ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่กับปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและหันมาออกกำลังกาย

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องอยู่ สามารถเข้ามารับคำปรึกษาจากคุณหมดที่คลินิกรัตตินันท์ของเราได้เลย ทางเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการกำจัดไขมันส่วนเกิน ซึ่งมีหลายวิธีในการกำจัด อยากรู้รายละเอียดและอยากกำจัดไขมันให้ตรงจุดเข้ามารับการรักษาจากคลินิกของเราได้ รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังที่เลือกคลินิกของเราในการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกไปอย่างแน่นอน ทางคลินิกยินดีให้บริการและให้คำแนะนำฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย