คางบุ๋ม เกิดจากอะไร ไม่อยากมีคางแบบนี้ มีวิธีแก้วิธีไหนบ้าง

คางบุ๋ม

ปัญหาคางบุ๋ม” หรือที่เรียกว่า “cobblestone chin” เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงและผู้ชายทั่วไปที่มีคางที่ไม่เรียบเนียน ปัญหานี้อาจก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ภายนอกและความสวยงามของใบหน้าได้ แต่ไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจริงๆ ถึงแม้ว่าคางบุ๋มจะไม่อันตราย แต่มันอาจทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเองได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาคางบุ๋ม มาดูวิธีที่เห็นผลและตอบโจทย์ได้ดีที่สุดกันเถอะ!

คางบุ๋ม มีลักษณะเป็นอย่างไร

คางของเรามีลักษณะหลากหลายอย่าง แต่ลักษณะคางบุ๋มที่แสดงออกชัดเจน คือคางที่บุ๋มลงไปตรงกลาง ซึ่งทำให้คางเกิดร่องและมีคลื่นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังทำให้คางสองข้างไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือรูปหน้าที่ไม่สมดุลและไม่มีความสมส่วนที่สวยงาม

คางบุ๋ม เกิดจากอะไร ?

คางบุ๋มผู้ชาย หรือหญิงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และต่อไปนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดคางบุ๋ม

กรรมพันธุ์หรือโครงสร้างใบหน้า

คางบุ๋มผู้หญิง และผู้ชายอาจเกิดจากกรรมพันธุ์หรือโครงสร้างใบหน้าที่ไม่เป็นปกติ เช่น ร่องรอยกลางของกระดูกขากรรไกรที่เกิดขึ้นหรือกล้ามเนื้อ Mentalis ที่บริเวณคางทั้งสองข้างไม่เชื่อมต่อกัน

การห่อริมฝีปากเป็นเวลานาน

การห่อริมฝีปากเป็นเวลานาน เช่น นักดนตรีที่ใช้เครื่องเป่า อาจทำให้เกิดคางบุ๋มได้ การแสดงสีหน้าแบบนี้บ่อยครั้งอาจทำให้เกิดร่องถาวรบนผิวหนัง

อายุที่เพิ่มขึ้น

คางบุ๋มจะเห็นชัดเจนเมื่อมีการเพิ่มอายุ เนื่องจากมีการฝ่อตัวลงของไขมันบริเวณคาง และกระดูกบริเวณขากรรไกรและคาง ทำให้คางเป็นก้อนหรือคลื่นได้ง่าย บ่อยครั้งจะพบว่ามันมาพร้อมกับร่องน้ำหมากหรือร่องบริเวณริมฝีปากด้วย เมื่อยิ้มก็จะเห็นริ้วรอยชัดขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจ กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยและส่วนมากจะมาอยู่ที่มุมปาก ทำให้ดูแก่กว่าวัย

ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ

คางบุ๋มอาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันล่างที่ยื่นออกมา ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อกระตุ้นและหดตัวตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดคางเป็นคลื่นได้

การแก้ไขคางบุ๋ม

การแก้ไขคางบุ๋ม แก้อย่างไร

ปัจจุบันมีวิธีการแก้ปัญหาคางบุ๋มด้วยวิธีทางการแพทย์หลายวิธีที่มีความปลอดภัยและมีผลดีได้ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเติมที่มีส่วนประกอบหลักคือไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรทางการแพทย์ การฉีดฟิลเลอร์จะใช้เข็มเล็กเจาะผิวหนังในบริเวณคางเพื่อเติมเต็มรอยบุ๋มหรือร่องบริเวณคางให้เต็มตามความต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวคางที่เป็นคลื่นจะเรียบเนียนขึ้นและรูปร่างของคางจะสมดุลกับใบหน้ามากขึ้น ฟิลเลอร์ที่ใช้จะถูกเลือกโดยแพทย์ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และมักใช้ปริมาณเพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน

ฉีดโบท็อกซ์

การแก้ไขปัญหาคางบุ๋มที่มีรอยพับและรอยย่นด้วยการฉีดโบท็อกซ์ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกซ์เพื่อแก้ไขปัญหาคางบุ๋มนั้นไม่ต้องใช้ปริมาณมาก โดยปกติจะใช้เพียง 15 ยูนิตเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ที่จะต้องฉีดไม่ได้กว้างมากนัก หมอผู้ทำการรักษาจะประเมินปัญหาและวิเคราะห์ใบหน้าของผู้ป่วยเพื่อเลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสมและสามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ผ่าตัดเสริมคางแก้คางบุ๋ม

สำหรับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับคางบุ๋มและคางสั้นมาก ๆ แพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาการทำการผ่าตัดเสริมคางเป็นทางเลือก เนื่องจากการผ่าตัดเสริมคางด้วยวัสดุเสริมเช่นซิลิโคนสามารถช่วยปรับปรุงสภาพคางและความยาวของคางได้ตามความต้องการของผู้ป่วย ซึ่งมีผลที่ยาวนานและสามารถสร้างความสวยงามให้กับใบหน้าได้

สำหรับบุคคลที่มีความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัด ความกลัวเจ็บ คุณหมอได้ชี้แจงว่าการเสริมคางเป็นกระบวนการผ่าตัดที่เล็กน้อยและนิยมใช้วัสดุเสริมซิลิโคนขาสั้น เนื่องจากการเปิดแผลมีขนาดเล็ก การผ่าตัดง่าย และลดความเสี่ยงของการเสียเส้นประสาทให้น้อยที่สุด

การเติมไขมันคางแก้คางบุ๋ม

การเติมไขมันคางแก้คางบุ๋มเป็นกระบวนการที่สามารถทำได้เพื่อเพิ่มปริมาณไขมันในบริเวณดังกล่าว โดยบริเวณคางมีการขยับบ่อยครั้งเนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการพูดและการเคี้ยวอาหาร การเติมไขมันในคางนั้นอาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่เต็มร้อยเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดไขมันและไม่ต้องการมีสารสังเคราะห์เป็นฟิลเลอร์ภายในร่างกาย วิธีการเติมไขมันคางยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

การเติมไขมันในบริเวณใบหน้าที่มีการขยับบ่อยครั้งอาจส่งผลให้ไขมันที่เติมไปสลายตัวและยุบตัวลงได้มากกว่าการเติมในบริเวณอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลเกินไป เนื่องจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการเติมไขมันปรับรูปหน้าสามารถคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมที่จะเติมให้ โดยพิจารณาถึงการสลายไขมันที่เกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ เพื่อให้หลังการเติมไขมันใบหน้าดูไม่ดูบวมจนเกินไป คนไข้ควรดูแลตัวเองอย่างดีหลังการเติมไขมัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ไขมันที่เติมเข้าไปยึดติดอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ การดูแลตัวเองอย่างดีหลังการเติมไขมันจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังการเติมไขมันคางออกมาสวยเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน

เติมไขมันคางบุ๋ม ใช้ไขมันส่วนใดบ้าง

การใช้ไขมันเพื่อเติมไขมันคางให้กลมกลืนไม่ได้หมายความว่าสามารถดึงไขมันจากทุกส่วนของร่างกายมาใช้ได้เสมอไป แพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการดูดไขมันเพื่อใช้งาน ส่วนที่แพทย์มักนำไขมันมาใช้โดยทั่วไปคือบริเวณท้องและต้นขา หลังจากนั้นไขมันจะถูกกรองแยกเอาส่วนสารน้ำและเลือดออก เพื่อให้เหลือแต่ส่วนเนื้อไขมันที่มีเซลล์สตีมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้เกิดการผลิตผิวใหม่และเส้นเลือดใหม่ที่สามารถประสานงานได้ จากนั้นไขมันที่ผ่านการกรองจะถูกฉีดเติมในบริเวณที่ต้องการ ดังนั้นการเติมไขมันจะช่วยลดไขมันในต้นขาและท้องได้อีกด้วย

การดูแลตัวเองหลังเติมไขมันคางบุ๋ม

การดูแลตัวเองหลังการเติมไขมันคางเป็นเรื่องสำคัญ เราควรปฏิบัติอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกับการเติมไขมันในส่วนหน้า แต่เราควรใส่ใจเพิ่มเติมในเรื่องการกดทับ การนอนหลับ และนักธุรกิจเท้าคางควรหลีกเลี่ยงการจับหน้าอย่างแรงหรือนวดหน้าเป็นเวลา 7-10 วัน เพื่อป้องกันให้ไขมันที่เติมไปนั้นไม่ถูกสลายลงหรือเกิดการเคลื่อนที่ผิดรูปร่างได้ การดูแลตัวเองหลังการเติมไขมันคางบุ๋มมีดังนี้

  • ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการเติมไขมันคาง เราควรหยุดการนวดหน้าและการใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวหน้าไว้ก่อน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ควรนอนหลับให้เพียงพอประมาณ 8 ชั่วโมงในวันแรก โดยนอนหมอนสูงเพื่อช่วยลดการบวมของหน้าได้เป็นเวลา 2-3 วัน
  • อย่าลืมรับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์เสมอ เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุด นอกจากนี้เราควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความเย็นหรือความร้อนที่มากเกินไป เช่นการอยู่ในซาวน่าอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก และควรงดการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาประมาณ 3-7 วัน
  • ในช่วงเริ่มต้นหลังการเติมไขมันคาง ควรหยุดการออกกำลังกายอย่างหนักไปก่อน เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและฟื้นฟูได้ดีกว่า และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจเช็คและการรักษาที่เหมาะสม

ป้องกันไม่ให้เกิดคางบุ๋ม

การป้องกันไม่ให้เกิดคางบุ๋มทำได้อย่างไร

การหลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าด้วยการเม้มริมฝีปากเป็นสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากบางครั้งบางคนอาจแสดงสีหน้าโดยไม่รับรู้หรือเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นเพื่อนหรือญาติอาจต้องเข้าไปแจ้งเตือนเพื่อหยุดการแสดงสีหน้าเหล่านั้นให้ได้

สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการสบฟันที่ผิดปกติ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากการได้รับการดูแลทันทีจากทันตแพทย์จะช่วยลดการเกิดคางบุ๋มได้มาก

สรุป

หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่มีความครอบคลุมทุกด้านในการแก้ไขปัญหาคางบุ๋มอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการดีเยี่ยม ทีมแพทย์ชำนาญศัลยกรรม อุปกรณ์ที่ทันสมัย และมาตรฐานที่สูงสุด เราขอแนะนำ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ คลินิกศัลยกรรมความงามและดูแลผิวพรรณ ที่มีการบริการที่ครบถ้วนสำหรับปัญหาคางบุ๋มทุกประเภท!

ไม่ว่าจะเป็นการเสริมคางด้วยซิลิโคนโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขานี้ การฉีดฟิลเลอร์คางโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบท็อกซ์ทางผิวหนังโดยแพทย์เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และการเติมไขมันคางโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์มากฝีมือในสาขานี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรีวิวจากลูกค้าที่พอใจอีกจำนวนมากเพื่อให้คุณได้มั่นใจว่าคุณได้เลือกคลินิกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขคางบุ๋มของคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า