ทำตาสองชั้น คืออะไร? รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ

ทำตาสองชั้น

สารบัญ

คุณหมอสรุปให้ ทำตาสองชั้น คืออะไร ทำไมต้อง รัตตินันท์ คลินิก

ทำตาสองชั้น คือ การศัลยกรรมตกแต่งหนังตาบน เพื่อสร้างชั้นตาที่ชัดเจน ดูสดใสและมีมิติมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาตาชั้นเดียว ชั้นหลบใน หรือหนังตาตกที่ทำให้ดูง่วงหรือล้า

ทำตาสองชั้น มีเทคนิค โดยทั่วไปมี 3 เทคนิคหลัก ได้แก่ กรีดสั้น กรีดยาว และเทคนิคเย็บจุด แต่ละแบบเหมาะกับปัญหาตาและโครงสร้างผิวที่แตกต่างกัน ควรให้แพทย์ประเมินก่อนตัดสินใจ

ทำตาสองชั้น คืออะไร?

ทำตาสองชั้น หรือที่เรียกกันว่า ศัลยกรรมเปลือกตาบน (Double Eyelid Surgery) คือ หัตถการที่ช่วยสร้างรอยพับชั้นตาบนให้ดูชัดเจน เป็นธรรมชาติ และสมดุลกับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน หนังตาตก หรือชั้นตาไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้ดวงตาดูง่วง เหนื่อยล้า หรือแต่งหน้ายาก

เป้าหมายของการ ทำตาสองชั้น คือ ช่วยให้ ดวงตาดูโต สดใส และคมชัดมากขึ้น แก้ปัญหา ตาดูง่วง/เหนื่อยล้าแม้ในเวลาปกติ ทำให้ แต่งตาง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้สติ๊กเกอร์หรือกาวติดชั้นตา สร้างความมั่นใจ และ ปรับสมดุลโครงหน้าให้ดูละมุนขึ้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการ ทำตาสองชั้น

  • ตาชั้นเดียว / ชั้นตาหลบใน
  • ดวงตาดูง่วงนอน ตาไม่สดใส
  • หนังตาตกตามวัย
  • ชั้นตาไม่เท่ากัน
  • ต้องการให้แต่งหน้าง่ายขึ้น
เทคนิคการทำตาสองชั้นมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

เทคนิคการทำตาสองชั้นมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

เทคนิคเย็บ 3 จุด

เทคนิคเย็บ 3 จุด หรือที่หลายคนเรียกกันว่า เย็บตาแบบไม่กรีด เป็นหนึ่งในวิธีการทำตาสองชั้นที่ ไม่ต้องกรีดเปิดหนังตาตลอดแนว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวเร็ว และไม่อยากมีรอยแผลยาว

ข้อดีของเทคนิคเย็บ 3 จุด

  • ไม่ต้องกรีดแผลยาว แผลมีขนาดเล็กมาก (ประมาณ 1–2 มิลลิเมตร)
  • ฟื้นตัวไว บวมน้อยกว่าการกรีดยาว
  • เหมาะกับคนอายุน้อย ที่ไม่มีหนังตาหย่อนหรือไขมันเปลือกตาเยอะ
  • ได้ชั้นตาที่ดู บาง เรียบ และธรรมชาติ
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน กลับไปใช้ชีวิตได้เร็ว

เทคนิคเย็บ 3 จุด เหมาะกับใครบ้าง?

  • คนอายุน้อย (อายุประมาณ 18–35 ปี)
  • ผู้ที่มีตาชั้นเดียว / ชั้นตาหลบใน แต่ไม่มีหนังตาหย่อน
  • คนที่ไม่เคยทำตาสองชั้นมาก่อน
  • ผู้ที่ต้องการหัตถการเบา ๆ แผลเล็ก ไม่ต้องพักฟื้นนาน

เทคนิคกรีดสั้น

ทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น หรือ Mini Incision Technique คือ เทคนิคที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง เย็บ 3 จุด กับ กรีดยาวเต็มแนว โดยแพทย์จะกรีดเปิดเปลือกตาเพียงบางส่วน (ไม่กรีดยาวตลอดแนว) เพื่อสร้างชั้นตาใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับ นำไขมันบางส่วนใต้เปลือกตาออกได้ หากมีไขมันสะสมมาก

ข้อดีของเทคนิคกรีดสั้น

  • แผลเล็ก ฟื้นตัวไวกว่ากรีดยาว
  • สามารถ เอาไขมันเปลือกตาออก ได้บางส่วน
  • ได้ชั้นตาชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ
  • ลดโอกาสที่ชั้นตาจะหลุดในอนาคต เมื่อเทียบกับเย็บ 3 จุด
  • เป็นเทคนิคที่ ปลอดภัยและเป็นที่นิยม สำหรับผู้ที่ไม่อยากกรีดยาว

เทคนิคกรีดสั้น เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่มีไขมันเปลือกตาเล็กน้อย
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวรกว่าเย็บ 3 จุด แต่ยังไม่อยากกรีดเต็มแนว
  • คนที่ต้องการ ชั้นตาที่ชัดเจน แต่ดูไม่เว่อร์
  • คนที่มีปัญหาชั้นตาหลบในจากไขมันสะสมบางส่วน

เทคนิคกรีดยาว

การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว หรือที่เรียกว่า Full Incision Technique คือ เทคนิคการผ่าตัดสร้างชั้นตาโดยการ กรีดเปิดหนังตาบนตลอดแนวชั้นตาใหม่ ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถ ตัดหนังตาส่วนเกิน ดูดไขมัน และจัดเรียงกล้ามเนื้อตาได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อน ตาชั้นเดียว หรือชั้นตาไม่เท่ากันอย่างชัดเจน

ข้อดีของเทคนิคกรีดยาว

  • ได้ชั้นตาที่ชัดเจน และถาวร
  • แก้ปัญหา หนังตาหย่อน, ชั้นตาหลบใน, ไขมันสะสม ได้ดีที่สุด
  • เหมาะกับการ แก้ชั้นตาเดิม หรือผู้ที่เคยทำมาแล้วไม่พอใจ
  • ปรับสมดุลของชั้นตาให้สองข้างเท่ากันได้แม่นยำ

เทคนิคกรีดยาว เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่มีหนังตาตก / หนังตาหนา / ไขมันสะสมมาก
  • คนที่ต้องการชั้นตาคมชัดและผลลัพธ์ถาวร
  • ผู้ที่เคยทำตาสองชั้นมาแล้วแต่ไม่พอใจ ต้องการแก้ไข
  • คนที่มีตาไม่เท่ากันอย่างชัดเจน

เทคนิคกรีดยาว+ดูดไขมันหนังตา

การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวร่วมดูดไขมันหนังตา คือ เทคนิคศัลยกรรมเปลือกตาบนที่แพทย์จะ กรีดหนังตาตลอดแนวชั้นตา และในขณะเดียวกันก็จะ นำไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาออก เพื่อให้ชั้นตาใหม่ดูเรียบเนียน คมชัด และไม่พองหรือหนา

เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่มีตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน หนังตาหนา หรือมีไขมันสะสมใต้เปลือกตามาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาดูง่วงหรือหมองอยู่ตลอดเวลา

ข้อดีของเทคนิคกรีดยาวร่วมดูดไขมันหนังตา

  • ได้ชั้นตาชัดเจนและสวยคมขึ้นมาก
  • ลดความบวมและความหนาของเปลือกตาได้จริง
  • ป้องกันไม่ให้ชั้นตาหลุดง่ายในอนาคต
  • ชั้นตาเรียบ ไม่หนา ไม่โป่ง เหมือนบางกรณีที่ไม่ดูดไขมัน

เทคนิคกรีดยาวร่วมดูดไขมันหนังตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่มี ไขมันเปลือกตาเยอะ ตาดูอูม
  • คนที่มี ชั้นตาหลบในเพราะไขมันสะสม
  • ผู้ที่เคยเย็บ 3 จุดแล้วหลุดง่าย อยากทำแบบถาวร
  • ผู้ที่มีอายุ 30+ ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีหนังตาตกและไขมันสะสม

เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสียของแต่ละเทคนิค

เทคนิค

ข้อดี ข้อเสีย

เหมาะกับใคร

เย็บ 3 จุด

แผลเล็กมาก, ไม่ต้องกรีด,ฟื้นตัวไว, ไม่มีรอยแผลยาว ชั้นตาอาจหลุดได้ในอนาคต แก้ไขรูปตาได้น้อย

คนอายุน้อย หนังตาไม่หย่อน ต้องการทำแบบธรรมชาติและไม่ต้องพักฟื้นนาน

กรีดสั้น

แผลเล็กกว่ากรีดยาว เอาไขมันออกได้บางส่วน ชั้นตาติดแน่นกว่าเย็บ 3 จุด ไม่เหมาะกับคนหนังตาหนา ฟื้นตัวนานกว่าเย็บ 3 จุด คนที่มีไขมันเปลือกตาเล็กน้อย ต้องการความถาวรและยังอยากฟื้นตัวไว

กรีดยาว

ชั้นตาชัดเจน ถาวร แก้ปัญหาหนังตาตกได้ เหมาะกับการแก้ไขชั้นตาเก่า แผลยาว ฟื้นตัวนานบวมช้ำมากกว่าวิธีอื่น

คนที่หนังตาหย่อน ไขมันเยอะ ผู้ที่เคยทำมาแล้วและต้องการแก้ไข

กรีดยาว + ดูดไขมัน

ลดความหนาของเปลือกตาได้ชัดเจน ชั้นตาสวยคม ไม่โป่ง เหมาะกับเคสตาหนา/ตาอูม

ต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ฟื้นตัวยาว และมีบวมช้ำ

คนที่มีไขมันเปลือกตาเยอะ ชั้นตาหลบในเพราะตาอูม ต้องการผลลัพธ์ถาวรและเปลี่ยนชัดเจน

สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ทำตาสองชั้น

อาการบวม ช้ำ หลังทำตาสองชั้น สิ่งที่ควรรู้และวิธีรับมือ

หลังทำตาสองชั้น อาการบวมและช้ำถือเป็น ภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน ซึ่งเป็นผลจากการที่เนื้อเยื่อเปลือกตาถูกกรีดหรือเย็บเพื่อสร้างชั้นตาใหม่ โดยระดับความบวม–ช้ำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ เทคนิคที่ใช้, สภาพร่างกายแต่ละคน, และ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

ช่วงเวลาของอาการบวม–ช้ำหลังผ่าตัด

ช่วงเวลา

ลักษณะอาการ

1–3 วันแรก

บวมมากที่สุด (โดยเฉพาะช่วงเช้า), อาจมีรอยช้ำม่วงหรือแดงบริเวณรอบดวงตา

วันที่ 4–7

อาการบวมเริ่มลดลง รอยช้ำเปลี่ยนสีจากม่วง → เขียว → เหลือง

สัปดาห์ที่ 2

อาการบวมเหลือเพียงเล็กน้อย ชั้นตาเริ่มเข้ารูป

1 เดือนขึ้นไป

ชั้นตาเข้าที่มากขึ้น รอยแผลเริ่มจางจนแทบไม่เห็น

ทำตาสองชั้น แบบไหนดี

ดูแลตัวเองอย่างไร หลังทำตาสองชั้น

  1. ประคบเย็นอย่างต่อเนื่อง (ใน 48 ชม. แรก)

  • ใช้เจลเย็นหรือผ้าเย็นวางเบา ๆ บนเปลือกตา
  • ประคบครั้งละ 15–20 นาที ทุก 1–2 ชั่วโมง
  • ช่วยลดอาการบวม ช้ำ และเลือดออกใต้ผิวหนัง

2. นอนหัวสูง เพื่อลดบวม

  • ใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ (ห้ามนอนราบ)
  • ควรนอนหงาย หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ

3. ทานยาและทำแผลตามคำแนะนำของแพทย์

  • ทานยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และยาลดบวมให้ครบ
  • ใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดรอบแผลเบา ๆ วันละ 1–2 ครั้ง
  • ทายาหรือแปะแผลตามที่แพทย์สั่ง

4. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้แผลอักเสบ

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ 1–2 สัปดาห์
  • งดอาหารแสลง เช่น อาหารทะเล ของหมักดอง เผ็ดจัด
  • หลีกเลี่ยงแดดจัด ฝุ่น ควัน และลมแรง

5. งดแต่งหน้าและล้างหน้าบริเวณตา 7 วันแรก

  • ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดหน้าเบา ๆ แทนการล้างน้ำ
  • หลังครบ 7 วัน และแพทย์ประเมินว่าปลอดภัยแล้ว จึงเริ่มล้างหน้า/แต่งตาได้

6.กลับมาตรวจตามนัด

  • พบแพทย์เพื่อตัดไหม (ถ้ามี) ประมาณวันที่ 5–7
  • แพทย์จะประเมินอาการบวม รอยแผล และแนวชั้นตา

7. สังเกตอาการผิดปกติ

รีบพบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการ

  • แผลแดง บวม ร้อนมากผิดปกติ
  • มีหนองหรือกลิ่นจากแผล
  • ปวดมากแม้ทานยา
  • เห็นชั้นตาไม่เท่ากันชัดเจนในช่วงหลังแผลเริ่มเข้าที่ (หลัง 3–4 สัปดาห์)

ดูแลหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น

สรุปการทำตาสองชั้น คืออะไร ดีอย่างไร ใครควรทำบ้าง

การทำตาสองชั้น คือ หัตถการศัลยกรรมเพื่อสร้างรอยพับที่เปลือกตาบน ให้ดวงตาดูโต คมชัด และมีมิติมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน หรือหนังตาตกตามวัย ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

ข้อดีของการทำตาสองชั้น คือ แต่งหน้าง่ายขึ้น ชั้นตาไม่หลุดเหมือนติดสติ๊กเกอร์ และผลลัพธ์อยู่ได้นานหรือถาวร ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ใครที่รู้สึกว่าตาดูง่วง ตาไม่เท่ากัน หรืออยากเสริมความมั่นใจในลุคโดยรวม ควรพิจารณาทำตาสองชั้นร่วมกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะกับใบหน้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น (FAQ)

ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะแพทย์ใช้ ยาชาเฉพาะที่ คนไข้จะรู้สึกเพียงตึง ๆ หรือกด ๆ เล็กน้อย ส่วนหลังทำอาจมีบวม ระบมเล็กน้อยในช่วง 2–3 วันแรก ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง

โดยทั่วไปจะ บวมมากใน 1–3 วันแรก, จากนั้นค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 7 วัน และชั้นตาจะเริ่มเข้าที่ในช่วง 2–4 สัปดาห์ หากดูแลตัวเองดี เช่น ประคบเย็น-นอนหัวสูง จะช่วยให้หายไวขึ้น

หากใช้เทคนิคกรีดสั้นหรือกรีดยาว ชั้นตาจะ อยู่ได้ถาวร แต่หากเป็นการเย็บ 3 จุด อาจอยู่ได้ประมาณ 3–10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพหนังตาและอายุ

สามารถแต่งหน้าเบา ๆ รอบดวงตา และใส่คอนแทคเลนส์ได้หลัง 7–10 วัน เมื่อแผลแห้งดีแล้ว และแพทย์อนุญาตให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

หากใช้เทคนิคเย็บ 3 จุด มีโอกาสที่ชั้นตาจะคลาย หรือหลุดได้ในอนาคต โดยเฉพาะในผู้ที่มีหนังตาหนา แต่ถ้าใช้เทคนิคกรีดยาว ชั้นตาจะติดแน่นและคงอยู่ถาวร