ขาหนีบเสียดสี ปัญหาใหญ่สำหรับคนที่มีต้นขาใหญ่ ต้องรีบแก้ด่วน

ปัญหาขาหนีบเสียดสี เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงทุกช่วงวัย ถึงแม้ว่าปัญหานี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคนที่มีขาสวยและเรียว และมีไขมันสะสมน้อย แต่สำหรับคนที่มีขาใหญ่ ปัญหาขาหนีบเสียดสีกลายเป็นปัญหาที่สำคัญและมีผลกระทบทันทีต่อความเชื่อมั่นในรูปร่างและการแต่งตัว ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาขาหนีบยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบเป็นแผลได้ด้วยถ้าไม่รีบรักษา!

เหตุผลที่บริเวณขาหนีบของเราอาจเปลี่ยนเป็นสีดำ แดง หรือมีรอยแผลเกิดขึ้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ในการแก้ไขปัญหาขาหนีบเสียดสีให้ถูกต้องและได้ผลมากที่สุด จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาตามสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือรอยแผลอย่างถูกต้อง ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ขาหนีบดำเกิดขึ้นและวิธีการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดพร้อมกับวิธีการรักษาให้ขาหนีบให้กลับมาขาวและสวยงามเหมือนเดิม

ขาหนีบเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเหยียดขาเข้าหากัน (hip adductor muscle) ตั้งอยู่ระหว่างกระดูกเชิงกรานและหัวเข่า มีความยืดหยุ่นสูงและเป็นที่สะสมไขมันได้ง่าย แต่ลดไขมันในบริเวณนี้ยากมาก ทำให้เกิดการเสียดสี ขาหนีบอ่อนเป็นสีดำคล้ำ มีรอยแดงหรือแผลที่เกิดขึ้นได้

ปัญหาขาหนีบเสียดสีเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังพบเจอกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนกลุ้มใจและสงสัยว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และทำไมเราเองก็ถึงเป็นหนึ่งในผู้ที่พบปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ยังมีคำถามว่าทำไมคนที่มีปัญหาขาหนีบเสียดสีมานานก็ยังไม่หายไป วันนี้เราจะอธิบายสาเหตุของปัญหาขาหนีบเสียดสีให้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่พบในคนไข้ส่วนใหญ่มักมาจากสาเหตุต่อไปนี้

ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนที่อ้วนหรือมีน้ำหนักเกินก็จะเกิดปัญหาขาหนีบเสียดสีได้ จริง ๆ แล้วปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน หากมีไขมันสะสมตรงช่วงต้นขามากเกินไป จะทำให้ขนาดของขาด้านในขยายตัวและเบียดเสียดสีกัน ปัญหาไขมันสะสมที่ขาหนีบเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก และไขมันดื้อที่ลดได้ยาก ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารก็ยากที่จะลดปัญหาต้นขาชั้นในให้เล็กลง ดังนั้นหลายคนจึงต้องเผชิญกับปัญหาขาหนีบเสียดสีนานหลายปี ปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำหนักหรือความอ้วนเท่านั้น เพราะไขมันต้นขานี้เป็นไขมันดื้อที่ยากที่จะลดลงได้

ภาวะโรคอ้วนไม่เพียงแต่มีผลต่อสุขภาพทางกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อรูปร่างด้วย ภาวะโรคอ้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาขาหนีบเสียดสีและทำให้เหนื่อยง่ายอีกด้วย โดยเมื่อผิวหนังและชั้นไขมันขยายตัวเนื่องจากภาวะโรคอ้วน ช่องว่างระหว่างขาหนีบจะหายไป ผิวหนังที่ขาหนีบจึงเสียดสีกันตลอดเวลาที่คนไข้เคลื่อนไหว อาจเกิดอาการขาหนีบแสบเจ็บ คัน และทำให้เกิดแผลได้ ทำให้ผิวที่ขาหนีบดำคล้ำขึ้นมา

การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปอย่างแน่นเกินไป เช่น กางเกงหรือกระโปรงที่มีความรัดแน่น เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังช่วงขาหนีบเสียดสีได้ง่ายขึ้น การสวมใส่เสื้อที่ไม่ระบายอาจทำให้เกิดความอับชื้นและอาจทำให้ผิวหนังที่เสียดสีอักเสบ และเกิดแผล ทำให้คนไข้รู้สึกแสบและไม่สบายตัวได้

ขาหนีบเสียดสีไม่เพียงแค่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาไขมันสะสมเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้อย่างหลากหลายด้านมากมาย เราได้รวบรวมประเด็นสำคัญที่พบบ่อยในผู้ที่มีปัญหาขาหนีบเสียดสี เพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น ดังนี้

• เจ็บแสนคันที่ผิวต้นขา: การมีปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจส่งผลให้คุณรู้สึกเจ็บปวดและคันที่บริเวณผิวต้นขา
• เกิดแผลพุพองและตุ่มใส: ผิวของคุณอาจเกิดแผลพุพองและตุ่มใสที่มีน้ำเหลืองออกมา เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีปัญหาขาหนีบเสียดสี
• ผิวระคายเคืองได้ง่ายยิ่งขึ้น: ผิวของคุณอาจเป็นไปได้ที่จะระคายเคืองง่ายขึ้นเมื่อมีปัญหาขาหนีบเสียดสี เช่น เมื่อสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้แพ้พันธุ์แบคทีเรีย หรือสารตกค้างบนผิว
• แบคทีเรียสะสมได้ง่ายขึ้น: ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจทำให้แบคทีเรียสะสมบนผิวได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหาผิวอื่น ๆ เช่นสิวและการอักเสบ
• รู้สึกไม่สบายตัวทุกครั้งที่เคลื่อนไหว: การมีขาหนีบเสียดสีอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บปวดเมื่อคุณเคลื่อนไหว ทำให้กิจกรรมประจำวันเช่นการเดินหรือวิ่งนาน ๆ มีความยากลำบาก
• กลิ่นไม่พึงประสงค์: ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากแบคทีเรียหรือสารตกค้างที่สะสมบนผิวของคุณ
• ผิวหนังบริเวณขาหนีบคล้ำเสีย: ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจทำให้ผิวหนังในบริเวณขาหนีบดูคล้ำหรือไม่สม่ำเสมอ มีความไม่เรียบเนียนเหมือนผิวในบริเวณอื่น ๆ
• สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างจำกัด: ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจทำให้คุณไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้ตามที่คุณต้องการ เนื่องจากความไม่สบายหรือรูปร่างของขาที่เปลี่ยนไป
• เสียความมั่นใจในการสวมบิกินี่: ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจทำให้คุณไม่มั่นใจในการสวมบิกินี่หรือชุดว่ายน้ำ เนื่องจากคุณรู้สึกไม่สวยหรือไม่สบายตัว

หลังจากที่ทุกคนได้อ่านสาเหตุที่ทำให้เกิดการขาหนีบเสียดสีแล้วเรียบร้อยแล้ว น่าจะเข้าใจแล้วว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบเกิดรอยแผลคือ “ไขมันส่วนเกิน” ที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ขาหนีบเสียดสี วิธีแก้และเพื่อป้องกันขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบที่มีรอยแผล เราควรกำจัดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณต้นขาออกไปให้มากที่สุด วิธีการกำจัดไขมันที่ต้นขาสามารถทำได้หลากหลายวิธีดังต่อไปนี้

การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการลดไขมันทั่วไป อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายไม่สามารถลดไขมันในส่วนที่ต้องการเฉพาะได้ หากต้องการลดไขมันที่ต้นขา ออกกำลังกายอาจต้องใช้ความพยายามและเวลานานหลายเดือน เนื่องจากการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายเป็นการลดน้ำหนักทั่วร่างกาย ไม่ใช่ลดไขมันเฉพาะบริเวณนั้น แต่ถ้ามีการสะสมไขมันน้อยในบริเวณต้นขา จะช่วยให้ต้นขาดูกระชับและเรียวเร็วกว่าส่วนอื่น แต่ถ้าบริเวณขาหนีบมีไขมันสะสมมาก อาจใช้เวลานานหลายเดือนก่อนเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยให้ต้นขากระชับขึ้นได้ หากพฤติกรรมการทานอาหารยังคงเดิม หากต้องการให้ต้นขาเรียวกระชับ ไม่มีรอยคล้ำ ไม่มีรอยแดง หรือไม่มีรอยแผลมาก ควรควบคุมปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละวันให้เพียงพอกับพลังงานที่ร่างกายต้องการ (BMR) และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล แป้ง และไขมันสูง

การดูดไขมันขาเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด และเห็นผลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามผลลัพธ์หลังการดูดไขมันอาจแตกต่างกันไป และอาจมีความพึงพอใจที่แตกต่างกันไปตามบุคคล และเหมาะกับรูปร่างและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนั้น การเลือกคลินิกดูดไขมันที่เชื่อถือได้และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดูดไขมัน เช่น รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ที่มีประสบการณ์ในการดูดไขมันขาทุกประเภทและปัญหา จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาขาหนีบ ไม่ว่าจะเป็นขาหนีบดำ ขาหนีบแดง หรือขาหนีบที่มีรอยแผล คุณสามารถปรึกษาเราได้ทุกเรื่อง

เครื่องดูดไขมันต้นขาในปัจจุบันมีหลายแบบที่ให้เลือกใช้กันได้ แต่ละแบบมีคุณสมบัติและพลังงานที่แตกต่างกันออกไป การดูดไขมันต้นขาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามต้องใช้เครื่องมือที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นคลินิกที่มีเครื่องดูดไขมันมากมายให้เลือกใช้ ทางคลินิกได้จัดเครื่องดูดไขมันให้ครอบคลุมทุกพลังงานเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกใช้ตามความต้องการได้ไม่ว่าจะเป็น

เครื่องดูดไขมันพลังน้ำหรือ Body-jet เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้น้ำในการดูดไขมันขาอย่างอ่อนโยนและปลอดภัย เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องอาการบวมช้ำหรือไม่สะดวกในการพักฟื้นนาน โดยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำนี้สามารถแยกเซลล์ไขมันออกจากกล้ามเนื้อและผิวหนังอย่างอ่อนโยน ทำให้ไม่เกิดการบาดเจ็บหรือความเจ็บปวดหลังการดูดไขมัน จึงทำให้ผู้ป่วยต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อยลง นอกจากนี้ เมื่อแพทย์ดูดไขมันออกมาแล้ว ผู้ป่วยยังสามารถนำไขมันที่ได้มาเติมเต็มในส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ฉีดไขมันเต้านมหรือหน้า เติมไขมันให้แก่น้องสาว หรือเติมไขมันในบริเวณหลังเพื่อให้ก้นดูหน้างอนได้ ซึ่งเป็นการนำเสนอทางเลือกที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปร่างของร่างกายให้สวยงาม

หากคนไข้ต้องการทำการดูดไขมันและต้องการกำจัดไขมันที่อยู่บริเวณต้นขาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีไขมันสะสมมากในบริเวณนั้นหรือเคยทำการดูดไขมันขามาก่อนหน้านี้ สามารถเลือกใช้เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 ที่มีพลังงานสูงในการสลายไขมันได้ เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 สามารถดูดไขมันออกจากต้นขาได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวหนังไหม้ แม้ว่าไขมันที่ถูกสลายด้วย Vaser Smooth 2.2 จะแตกตัวเป็นน้ำมันในขณะที่ถูกดูดออกมา แต่ไม่สามารถนำไปเติมส่วนอื่นของร่างกายได้อีก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันและปรับรูปร่างต้นขาให้มีความสวยงามตามที่ต้องการ

สำหรับผู้ที่มีขนาดร่างกายเล็กแต่มีปัญหาเกี่ยวกับขาที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้เครื่องดูดไขมัน Ultra Z ที่นำเข้าจากเกาหลีได้ โดยเครื่องนี้จะช่วยในการสลายไขมันอย่างดี และใช้เวลาในการสลายไขมันไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างร่างกายไม่ใหญ่มาก แต่มีไขมันส่วนเกินในบริเวณบางส่วน โดยเครื่อง Ultra Z จะใช้พลังงานอัลตราซาวด์ในการสลายไขมันเหมือนกับเครื่อง Veser Smooth 2.2 เพียงแต่มีระดับพลังงานและกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันเท่านั้น

ทางคลินิกของเราได้นำเครื่องดูดไขมัน MicroAire PAL มาใช้ในกระบวนการสลายไขมันเพิ่มเติม เนื่องจากมีความสามารถในการสลายไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแรงสั่นสะเทือนของเข็มที่ทำงานด้วยความเร็ว 4,000 รอบต่อนาที โดยใช้พลังงานกลในการทำงาน ซึ่งไม่ทำให้เกิดการผิวไหม้ในผู้รับบริการ แพทย์บางครั้งอาจใช้เครื่องนี้ร่วมกับการดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังอัลตราซาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น โดยเครื่อง MicroAire PAL จะเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อรักษารายละเอียดของงานให้ทำได้อย่างครบถ้วนและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไข้ทุกคน คลินิกของเราได้นำเครื่องดูดไขมัน BodyTite Pro เข้ามาใช้ในกระบวนการรักษา เครื่องดูดไขมันนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการยกกระชับผิวและสลายไขมันส่วนเกินในร่างกาย แตกต่างจากเครื่อง BodyTite รุ่นเก่าที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้หน้าจอแสดงผลอุณหภูมิใต้ผิวหนังและบนผิวหนัง เป็นที่ประทับใจที่หมอสามารถควบคุมอุณหภูมิที่ใช้กับคนไข้ได้อย่างแม่นยำ ทำให้โอกาสที่จะเกิดผิวไหม้น้อยลงมากกว่าการใช้เครื่อง BodyTite แบบธรรมดาอย่างมาก สำหรับคนไข้ที่เหมาะกับการใช้เครื่อง BodyTite Pro จะเป็นคนที่มีปัญหาไขมันสะสมในระดับน้อยถึงปานกลางและมีปัญหาผิวหนังยุบเล็กน้อย เช่นกลุ่มคนที่มีอายุราว ๆ 20 – 30 ปี

การดูดไขมันขา เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่สวยงามและสม่ำเสมอทั้งสองขา ขั้นตอนการดูดไขมันต้นขามีลำดับดังนี้

ก่อนที่จะดำเนินการดูดไขมันในทุก ๆ เคส แพทย์จะประเมินปัญหาและวาดเคสเพื่อกำหนดตำแหน่งที่จะดูดไขมันรวมถึงปริมาณไขมันที่ควรดูดออกมาให้เหมาะสม การประเมินเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูดไขมันได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย

หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับยาชาหรือยาสลบแล้ว แพทย์จะทำการใส่ Tumescent ซึ่งเป็นสารที่ประกอบด้วยยาชา น้ำเกลือ และอะดรีนาลีนลงใต้ชั้นผิวหนัง เนื่องจากสาร Tumescent นี้ช่วยลดการบาดเจ็บและการเลือดของผู้ป่วย และยังช่วยให้เส้นประสาทและเส้นเลือดหดตัวและลอยอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการดูดไขมันในขั้นตอนถัดไป

ไขมันในบริเวณต้นขามักจะเกาะกันเป็นก้อน แพทย์จะใช้เครื่องมือที่ผู้ป่วยเลือกไวมาใช้ในการสลายไขมัน โดยการสลายไขมันอาจใช้เวลาต่างกันไปขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ หลังจากสลายไขมันเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการดูดไขมัน

การดูดไขมันขาที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์เป็นกระบวนการเฉพาะที่ใช้ในการลดไขมันต้นขาโดยแพทย์ผ่านการใช้เครื่อง BodyTite Pro และ MicroAire PAL ร่วมกัน โดยใช้เทคนิค 360° Body Contouring ที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงในการดูดไขมัน อาจารย์แพทย์ที่ปรึกษาจะใช้ประสบการณ์การทำงานกับเครื่องดูดไขมันหลายชนิดเพื่อให้เห็นว่าการใช้ BodyTite Pro และ MicroAire PAL พร้อมกันจะช่วยให้ผลลัพธ์การดูดไขมันต้นขาดีขึ้นอย่างมาก การดูดไขมันโดยใช้เทคนิคนี้จะช่วยกระชับสัดส่วนของต้นขา และทำให้แผลดูดไขมันเล็กลงอย่างมาก ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้น

ปัญหาขาหนีบเสียดสีอาจเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก สำหรับท่านที่ต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนผ่านวิธีการดูดไขมันขา ขอแนะนำให้ท่านดูรีวิวและตัดสินใจอย่างรอบคอบ เนื่องจากการดูดไขมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนต้องเลือกให้ดี

หากท่านต้องการทำการดูดไขมันขาและอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ขอแนะนำให้ท่านติดต่อผ่าน LINE ของคลินิกรัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์เพื่อทำการจองคิวในคลินิกก่อนเข้ารับบริการ และที่คลินิกของเรายินดีที่จะให้คำปรึกษาแก่ทุกท่านเสมอ