คอเป็นชั้น เป็นปล้อง เกิดจากอะไร แก้ไขด้วยวิธีไหนดี

คอเป็นชั้น เป็นปล้อง เกิดจากอะไร? หลายคนอาจมีภาพว่าคนที่มีคอเป็นชั้นจะต้องเป็นคนที่น้ำหนักเกินเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าคนผอมก็สามารถประสบปัญหานี้ได้ เพราะการมีคอเป็นชั้นไม่ได้เกิดจากความอ้วนเสมอไป และสำหรับใครที่มีปัญหานี้จะรู้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความมั่นใจลดลง แต่การจะหาทางแก้ไขนั้นทำได้ยากเหลือเกิน

แต่คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน เพราะเคล็ดลับคือการรู้สาเหตุว่าปัญหาของเราเกิดจากอะไร และหลังจากนั้นการหาทางออกก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ดังนั้นเราไปไขข้อสงสัยกันว่าคอเป็นชั้นเป็นปล้อง เกิดจากอะไร และควรแก้ไขด้วยวิธีไหน

คอเป็นชั้น เป็นปล้อง อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าไม่ได้เกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปเท่านั้น ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาคอเป็นชั้นมีดังนี้

หากสมาชิกในครอบครัวมีปัญหาเรื่องคอเป็นชั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินหรือมีปัญหานี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นไปได้ว่าเกิดจากกรรมพันธุ์

เช่นการนอนหมอนสูงเกินไป นั่งหลังค่อม ก้มหน้าดูโทรศัพท์นาน ๆ หรือทำพฤติกรรมใด ๆ ซ้ำ ๆ ที่ทำให้คอพับในบริเวณเดิมจะส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นสูญเสียความยืดหยุ่นจนเกิดเป็นรอยพับถาวรขึ้น จะสังเกตได้ว่าคนที่นั่งหลังตรง คอเชิด หน้าตั้ง จะไม่ค่อยประสบปัญหาคอเป็นชั้นอันมีสาเหตุจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำยังส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากผิวสวย เลี่ยงได้ ก็ควรเลี่ยง

นี่เป็นปัญหาคอเป็นชั้นได้ง่ายที่สุด นี่คือเหตุผลที่หลายคนมีภาพจำ นั่นเป็นเพราะคนอ้วนมีไขมันมาก และไขมันส่วนเกินส่วนหนึ่งจะไปสะสมที่บริเวณคอ หากปล่อยให้ไขมันสะสมต่อไปเรื่อย ๆ จนมีความหนามากขึ้น  ผิวบริเวณนั้นก็จะเริ่มย้วยจนเริ่มเห็นคอเป็นชั้น ๆ

เมื่อคุณอายุมากขึ้น ผิวจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นเนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังผลิตได้น้อยลง ผิวหนังเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น สังเกตได้ว่าผู้สูงอายุหลายคนประสบปัญหานี้ ทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องข้อคอเป็นชั้นมาก่อน

แสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจที่สามารถทำร้ายผิวของคุณได้ ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ และหากผิวถูกทำลายมากขึ้นเรื่อย ๆ (โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบทาครีมกันแดดที่คอ) ผิวบริเวณคอก็จะค่อย ๆ หย่อนคล้อย เกิดเป็นริ้วรอยตามมาและมีปัญหาคอเป็นชั้นในที่สุด

คอเป็นบริเวณหนึ่งที่มักถูกละเลย แม้ว่าผิวบริเวณนี้ควรได้รับการบำรุงเช่นเดียวกับใบหน้า หากใครไม่ทาครีมบริเวณลำคอ ผิวของเราจะขาดความชุ่มชื้นจนเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

ปัญหาคอเป็นชั้น เป็นปล้อง แม้จะดูเป็นปัญหาที่แก้ยาก แต่มีวิธีรักษา โดยวิธีที่นำมาฝากในวันนี้บอกเลยว่ามีแต่วิธีง่าย ๆ ไม่ยากเลย ได้แก่

ทางออกที่ดีที่สุดคือการจัดการที่ต้นเหตุของปัญหา นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแบ่งชั้นของคอ เช่น ถ้าคุณชอบนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์นาน ๆ คุณควรเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน หรืออาจเปลี่ยนท่านอนให้พอดีกับศีรษะของเรา เป็นต้น

ผิวบริเวณลำคอต้องได้รับการดูแลเช่นเดียวกับผิวหน้า ควรเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำเพื่อเติมน้ำให้ผิว ริ้วรอยจะเกิดช้าลง และที่สำคัญที่สุดคือต้องการความสม่ำเสมอ เพราะการทาครีมใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

เมื่อเรารู้ว่าแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิว ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำคือปกป้องผิวจากแสงแดด อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำ อยู่บ้านก็ต้องทา อย่าละเลยบริเวณคอโดยเด็ดขาด และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งที่มีแสงแดดแรง ๆ เพื่อไม่ให้ผิวของเราเสื่อมสภาพไปมากกว่านี้

วิตามินซีสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย จึงช่วยบำรุงผิวของเราไม่ให้เหี่ยวย่นและชะลอปัญหาคอ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยชะลอไม่ให้ผิวของเราเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร (แต่ไม่ใช่กินเพื่อรักษานะ) วิตามินซีที่เราแนะนำจะเป็นวิตามินซีจากผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอ เป็นต้น

นี่อาจไม่ใช่การรักษาที่สมบูรณ์ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทริคในการบรรเทาปัญหาที่ได้ผลดี สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน โดยใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างนวดจากท้ายทอยขึ้นไปด้านบนเป็นเส้นตรง (ห้ามนวดเป็นวงกลมและห้ามนวดจากบนลงล่างเด็ดขาด) และควรนวดอย่างเบามือเพราะผิวหนังบริเวณคอค่อนข้างบอบบาง นวดเซ็ตละ 10-15 นาที เพื่อยกกระชับผิวไม่หย่อนคล้อย หรือถ้าใครอยากใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวในการนวดก็ได้เช่นกัน

มาส์กหน้าแล้วอย่าลืมมาส์กคอด้วยนะคะ เพื่อบำรุงผิวไม่ให้เสื่อมสภาพช้าลง สูตรมาส์กเหล่านี้ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และส่วนผสมก็หาได้จากในครัว สูตรแรกที่เรานำมาฝากก็คือ สูตรมาส์กหน้าด้วยกล้วยทำได้โดยนำกล้วยสุกมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมันมะกอก คนให้เข้ากัน แล้วพอกที่คอประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้มาส์กสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อบำรุงผิวบริเวณลำคอให้ชุ่มชื้นและเรียบเนียน ริ้วรอยต่าง ๆ จะได้ไม่หนักขึ้นกว่าเดิมนอกจากนี้เรายังมีสูตรมาส์กอีกหนึ่งสูตรที่น่าสนใจ ได้แก่ การมาส์กคอด้วยฟักทอง แล้วพอกผิวบริเวณลำคอ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก เพราะในฟักทองมีสารต่อต้านริ้วรอย จึงใช้บำรุงผิวได้ ทั้งสองสูตรนี้ใครสะดวกจะทำสูตรไหนก็เลือกทำได้เลย เพราะวัตถุดิบในการทำสามารถหาได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน

หากพูดถึงวิธีแก้ปัญหาคอเป็นชั้นที่ได้ผลชัดเจนและเร็วที่สุด HA-Filler คือตัวช่วยแรกที่เราอยากแนะนำให้ทุกคน เพราะ HA-Filler สามารถแก้ปัญหาเส้นยาวตามแนวคอได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยยกกระชับผิวและช่วยปรับสีผิวบริเวณลำคอให้สม่ำเสมอได้อีกด้วย หลังฉีดจะพบว่าเส้นยาวรอบคอดูจางลง คอจึงดูเนียนกระชับไม่เป็นชั้นเหมือนก่อนฉีด ซึ่งการฉีดจะเห็นผลทันทีหลังทำ

HA-Filler เป็นขั้นตอนที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารที่สร้างขึ้นเลียนแบบสารประกอบคอลลาเจนในร่างกาย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว จึงกล่าวได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาคอที่ตรงจุดที่สุด ที่ใครที่มีปัญหาเรื่องคอเป็นชั้นสามารถทำได้เลย ช่วยคืนความยืดหยุ่นและชะลอความร่วงโรยของผิว ในการฉีดหนึ่งครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตนเองหลังทำ หลังจากนั้นยาจะค่อย ๆ สลายออกจากร่างกายเอง จึงไม่เหลือสารตกค้างให้กังวลใจ แต่สำหรับใครที่อยากคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ๆ ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะสามารถฉีดเติมได้โดยไม่เป็นอันตรายเลยดังนั้น

สำหรับใครที่มีปัญหาคอเป็นปล้อง คอมีรอยพับเป็นชั้น ๆ ผิวบริเวณลำคอหย่อนยาน หรือมีร่องแนวยาวบริเวณลำคอ การฉีดฟิลเลอร์คอ คือหัตถการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผลดีที่สุด เพราะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด อีกทั้งยังสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัวและไม่ต้องพักฟื้น นับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด วิธีการรักษาไม่ยุ่งยาก ทุกขั้นตอนจะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด ที่สำคัญเมื่อทำการฉีด HA-Filler ที่รัตตินันท์คลินิกรับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะทางคลินิกมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดทั้งก่อนทำและหลังทำอีกด้วย