เสริมหน้าอก ศัลยกรรม ทรงหน้าอกสวย เพิ่มขนาดหน้าอก โดยศัลยแพทย์

เสริมหน้าอก

สารบัญ

คุณหมอสรุปให้ เสริมหน้าอกคืออะไร และทำไมหลายคนไว้ใจรัตตินันท์ คลินิก

การเสริมหน้าอก การผ่าตัดใส่ซิลิโคนเพื่อเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงหน้าอกให้สวย ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกเล็ก ไม่เท่ากัน หรือมีความหย่อนคล้อยจากอายุหรือหลังคลอด ซึ่งสามารถเข้ามาปรึกษาศัลยแพทย์ที่ รัตตินันท์ คลินิก ได้ฟรี เพื่อประเมินอย่างละเอียดว่ารูปทรงแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

เสริมหน้าอก คืออะไร?

การเสริมหน้าอก คือ หัตถการศัลยกรรมที่มุ่งเน้นการเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงหน้าอกให้ได้สัดส่วน สวยงาม และกลมกลืนกับรูปร่างของแต่ละบุคคล โดยใช้ ซิลิโคนเสริมหน้าอก หรือ การเติมไขมันตัวเอง ซึ่งเป็นเทคนิคยอดนิยมในระดับสากล

การเสริมหน้าอกไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มขนาด แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ เช่น

  • หน้าอกเล็กหรือแบน
  • หน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน
  • หน้าอกหย่อนคล้อยจากอายุหรือหลังคลอด

โดยมีเทคนิคการเสริมหน้าอกที่ได้รับความนิยม

1) เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน คงรูปได้ยาวนาน ช่วยเพิ่มความอิ่มฟูและโค้งมนของทรวงอกได้อย่างสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้เด่นชัด

2) เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer)

เป็นการใช้ไขมันจากร่างกายของผู้รับบริการ เติมเต็มทรวงอกให้ดูละมุน เนียนธรรมชาติ และสัมผัสนุ่ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนาดเพิ่มเล็กน้อยแบบเป็นธรรมชาติระดับสูง

ความสำคัญของการประเมินและเลือกเทคนิคที่เหมาะสม

ขนาดซิลิโคน ประเภทของซิลิโคน รูปทรง และเทคนิคผ่าตัด ล้วนส่งผลโดยตรงต่อความสวย ความปลอดภัย และความกลมกลืนของผลลัพธ์ในระยะยาว ดังนั้น การปรึกษากับศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะด้านจึงเป็นส่วนสำคัญของการตัดสินใจ

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

  • เพิ่มขนาดหน้าอก

ช่วยให้หน้าอกมีความอิ่มฟูมากขึ้น ได้ขนาดตามที่ต้องการ โดยคำนึงถึงความสมดุลกับสรีระ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวย เรียบหรู และเป็นธรรมชาติ

  • ปรับรูปทรงหน้าอก

แก้ปัญหาหน้าอกแบน หน้าอกห่าง หรือสองข้างไม่เท่ากัน ปรับให้รูปทรงได้สัดส่วนมากขึ้น ทั้งในแง่ความโค้งมน ความตั้ง และความสมมาตรของทรวงอก

breast augmentation - Art of Body Surgery 5
breast augmentation - Art of Body Surgery 3
breast augmentation - Art of Body Surgery 2

เสริมหน้าอก ช่วยยกกระชับหน้าอกด้วยไหม

“เสริมหน้าอก ช่วยยกกระชับหน้าอกด้วยไหม” คำถามนี้เป็นหนึ่งในข้อสงสัยที่คุณผู้หญิงถามกันบ่อยมาก โดยเฉพาะคนที่กังวลเรื่องหน้าอกดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนเดิม และอยากรู้ว่าการเสริมซิลิโคนจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่

แม้ว่าการ เสริมหน้าอก จะมีจุดประสงค์หลัก คือ เพิ่มปริมาตรและขนาดของทรวงอก แต่ในหลาย ๆ กรณี การใส่ซิลิโคนสามารถช่วยให้หน้าอกที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย ดูกระชับ เต่งตึง และได้ทรงสวยขึ้น ได้จริงค่ะ เพราะเมื่อมีปริมาตรเพิ่มขึ้น ซิลิโคนจะช่วยเติมเต็มเนื้อหน้าอก ทำให้ทรงโดยรวมดูยกขึ้นเล็กน้อยตามธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการประเมินระดับของความหย่อนคล้อยก่อนตัดสินใจ เพราะ การเสริมซิลิโคนเพียงอย่างเดียว จะช่วยได้เฉพาะกรณีที่

  • หน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อย
  • หัวนมยังอยู่เหนือระดับใต้ราวนม
  • หน้าอกยังมีเนื้อพอสมควรให้ซิลิโคนช่วยดันขึ้นได้

แต่ถ้าหน้าอกมีความหย่อนคล้อยมาก เช่น

  • หัวนมต่ำกว่าระดับใต้ราวนม
  • เนื้อหน้าอกส่วนบนแบนมาก
  • มีผิวหนังยืดขยายมากกว่าปกติ

กรณีนี้ การเสริมซิลิโคนอย่างเดียวจะไม่ช่วยให้หน้าอกยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์อาจไม่ออกมาสวยอย่างที่คาดหวังค่ะ

แพทย์จึงมักแนะนำ การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก (Breast Lift) ร่วมกับการเสริมซิลิโคน เพื่อให้ได้รูปทรงที่ตั้ง เต่งตึง และสวยงามได้สัดส่วนที่สุด

เสริมหน้าอก เหมาะกับใคร

การเสริมหน้าอกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับขนาดและรูปทรงของหน้าอกให้สวยสมส่วนและเข้ากับรูปร่างของแต่ละคน แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าตนเองเหมาะกับการเสริมหน้าอกหรือไม่

บทความนี้จะช่วยอธิบายแบบเข้าใจง่ายว่าผู้ที่มีปัญหาหรือความต้องการแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการเสริมหน้าอก และทำไมการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ รัตตินันท์ คลินิก จึงสำคัญ

1. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับขนาดและรูปร่างหน้าอก

  • ผู้ที่หน้าอกขนาดเล็ก

สำหรับผู้ที่มีหน้าอกเล็กมาก หรือแทบไม่มีหน้าอก ทำให้สัดส่วนร่างกายไม่สมดุลและขาดความมั่นใจเมื่อต้องแต่งตัว การเสริมหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มปริมาตรและปรับทรงให้ดูเต็ม

  • ผู้ที่สูญเสียวอลลุ่มหน้าอก

คุณแม่หลังคลอดหรือหลังให้นมบุตรมักพบว่า หน้าอกหย่อนคล้อยหรือฟีบลง เนื่องจากเนื้อเยื่อเต้านมลดลง การเสริมหน้าอกช่วยฟื้นฟูทรงหน้าอกให้กลับมาอิ่มฟูและดูสมส่วน

  • ผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างมาก

การลดน้ำหนักหนัก ๆ ทำให้เนื้อหน้าอกลดลงและหย่อนคล้อย การเสริมหน้าอกสามารถเติมเต็มปริมาตรที่สูญเสียไป ทำให้รูปร่างกลับมาสมดุล

  • ผู้ที่มีหน้าอกไม่เท่ากัน

หากหน้าอกสองข้างมีขนาดหรือทิศทางต่างกันอย่างชัดเจน การเสริมหน้าอกสามารถปรับขนาดและทรงให้สมดุล ทำให้หน้าอกทั้งสองข้างดูเข้ากัน

  • ผู้ที่มีรูปทรงหน้าอกผิดปกติ

สำหรับผู้ที่ต้องการปรับทรงหน้าอกให้ได้สัดส่วนหรือให้เข้ากับโครงสร้างร่างกาย การเสริมหน้าอกสามารถแก้ไขทรงและสร้างความสมดุลให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ

2. ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาทางการแพทย์

  • ผู้ที่ต้องการสร้างหน้าอกใหม่ (Reconstruction)

ผู้ที่เคยผ่าตัดเต้านมด้วยเหตุผลทางสุขภาพ เช่น การรักษามะเร็งเต้านม อาจต้องการสร้างหน้าอกขึ้นใหม่เพื่อให้รูปร่างกลับมาสมบูรณ์ การเสริมหน้าอกสามารถฟื้นฟูทรงและช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจอีกครั้ง

  • กลุ่มข้ามเพศ (Transgender Women)

สำหรับผู้หญิงข้ามเพศ การเสริมหน้าอกเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างรูปร่างภายนอกให้ตรงกับเพศสภาพ ช่วยให้สัดส่วนของร่างกายดูสมดุลและเพิ่มความมั่นใจ

ทำไมต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รัตตินันท์ คลินิก?

เพราะการเสริมหน้าอกแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน การประเมินอย่างละเอียดโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คุณได้ทรงหน้าอกที่เหมาะสม ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด พร้อมแนะนำขนาดและเทคนิคที่เหมาะกับร่างกายของคุณ

หากคุณสงสัยว่าตัวเองเหมาะกับการเสริมหน้าอกหรือไม่ การปรึกษาแพทย์ที่ รัตตินันท์ คลินิก คือก้าวแรกที่สำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจได้อย่างแท้จริง

การศัลยกรรม เสริมหน้าอก ทำได้กี่วิธี

การศัลยกรรมเสริมหน้าอก สามารถทำได้หลายวิธี โดยหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับ วัสดุที่ใช้เพิ่มขนาดหน้าอก ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน

วิธีแรกคือ การเสริมด้วยซิลิโคน ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาตรหน้าอกได้ชัดเจน เห็นผลทันที และสามารถเลือกทรงและขนาดให้เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน

ส่วนอีกวิธีคือ การเติมไขมันตัวเอง (Fat Transfer) ใช้ไขมันจากร่างกายมาฉีดเติมหน้าอก ทำให้ได้ทรงนุ่มเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดเล็ก ๆ หรือปรับรูปทรงหน้าอกอย่างอ่อนโยน

การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และเข้ากับร่างกายของคุณที่สุด

วิธี เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน (Breast Implant Augmentation)

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนคือหัตถการศัลยกรรมที่ช่วยเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงหน้าอกให้สวยสมส่วน และเข้ากับรูปร่างของแต่ละคน โดยผู้รับบริการสามารถเลือกขนาดและ รูปทรงซิลิโคน ได้ตามความต้องการและลักษณะร่างกาย

การเลือก รูปทรงและชนิดของซิลิโคน มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ของหน้าอก ทั้งในเรื่องความสวยงามและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ

1. ทรงกลม (Round)

ทรงกลมเหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกแบน หรือหน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อย รวมถึงผู้ที่มีเนื้อหน้าอกอยู่บ้าง แต่ต้องการเติมเต็มให้ดูอิ่มฟู

  • ข้อดี : เพิ่มความเต็ม อวบอิ่ม ดูเด่นชัดทันที
  • ผลลัพธ์ : หน้าอกได้รูปสวย อวบอิ่ม โดยเฉพาะช่วงบนของทรวงอก

2. ทรงหยดน้ำ (Teardrop)

ทรงหยดน้ำเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย หรือผู้ที่ต้องการให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติที่สุด

  • ข้อดี : รูปทรงใกล้เคียงหน้าอกธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ : หน้าอกโค้งมนจากบนลงล่าง คล้ายหยดน้ำ ดูเรียบเนียนและสวยสมส่วน

3. ทรงกลมกึ่งหยดน้ำ (Motiva Ergonomix)

เป็นซิลิโคนเจลยืดหยุ่นสูง สามารถเคลื่อนไหวตามสรีระของร่างกาย ทำให้สัมผัสและการตอบสนองคล้ายหน้าอกธรรมชาติ

  • ข้อดี : เคลื่อนไหวตามร่างกาย ดูอ่อนนุ่มและเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ : หน้าอกมีความสมดุลทั้งทรงและสัมผัส เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง

ผิวสัมผัสของซิลิโคนสัมพันธ์กับผลลัพธ์อย่างไร?

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ไม่ใช่แค่เรื่องขนาดและรูปทรง แต่ ผิวสัมผัสของซิลิโคน ก็มีผลต่อความสวยงามและความเป็นธรรมชาติของหน้าอก รวมถึงความปลอดภัยในระยะยาว

ซิลิโคนแต่ละชนิดมีลักษณะผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับความต้องการและโครงสร้างร่างกายที่ต่างกัน

1. ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth Surface)

  • ลักษณะ : ผิวเรียบ ลื่น
  • ข้อดี : สัมผัสนุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ : หน้าอกเคลื่อนไหวตามร่างกายได้ดี ให้สัมผัสอ่อนนุ่มและใกล้เคียงหน้าอกธรรมชาติ

2. ซิลิโคนผิวทราย (Textured Surface)

  • ลักษณะ : ผิวหยาบ มีความขรุขระเล็กน้อย
  • ข้อดี : ช่วยให้ซิลิโคนเกาะกับเนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้ดี ลดโอกาสการเกิดพังผืด (Capsular Contracture)
  • ผลลัพธ์ : หน้าอกทรงคงตัว ลดการบิดหรือเลื่อนของซิลิโคน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูง

3. ซิลิโคนผิวเรียบกึ่งทราย / Nano Textured (Velvet Surface)

  • ลักษณะ : อยู่กึ่งกลางระหว่างผิวเรียบและผิวทราย บางคลินิกเรียกผิวกำมะหยี่
  • ข้อดี : ลดโอกาสการเกิดพังผืดและยังคงสัมผัสนุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ : ให้ทั้งความปลอดภัยและความสวยงาม เคลื่อนไหวตามร่างกายได้เป็นธรรมชาติที่สุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าอกนุ่มฟูและดูเป็นธรรมชาติสูง

ตำแหน่งการวางซิลิโคนสัมพันธ์กับผลลัพธ์อย่างไร?

ตำแหน่งการวาง ลักษณะและข้อดี เหมาะกับใคร
เหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular) ผ่าตัดง่าย เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ทรงสวยกลมชัดเจน ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกและไขมันเดิมมากพอที่จะปกคลุมขอบซิลิโคนได้
ใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular) ลดโอกาสเกิดพังผืด หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อยหรือผอมมาก ซึ่งซิลิโคนอาจเห็นขอบชัดเจนหากวางด้านบน
กึ่งใต้กล้ามเนื้อ (Dual Plane/Hybrid) ผสมผสานข้อดีของทั้งสอง (ส่วนบนอยู่ใต้กล้ามเนื้อ ส่วนล่างอยู่เหนือกล้ามเนื้อ) ให้ทรงที่เป็นธรรมชาติ ลดการเห็นขอบ ผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง และลดโอกาสเกิดปัญหาของซิลิโคน

รูปทรงของซลิโคนเสริมหน้าอก

เลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกอย่างไรดี ให้ได้ผลลัพธ์ดั่งใจ

การเสริมหน้าอกเป็นการตัดสินใจสำคัญที่ต้องอาศัยข้อมูลและความเข้าใจอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะ การเลือกซิลิโคน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสม ไม่ได้มีแค่เรื่องขนาดเท่านั้น แต่ต้องดูตั้งแต่คุณภาพของเนื้อซิลิโคน ความปลอดภัย มาตรฐานการผลิต โครงสร้างผิวของซิลิโคน ไปจนถึงความเข้ากันได้กับสรีระของแต่ละคน

ดังนั้น การศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ และมั่นใจได้ในระยะยาว

จะเลือกซิลิโคนยี่ห้อไหนดี? ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง

ปัจจุบันมีซิลิโคนหลายยี่ห้อให้เลือก แต่ละแบรนด์มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวและจุดเด่นที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือควรเลือกซิลิโคนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น FDA หรือ CE รวมถึงมีงานวิจัยรองรับด้านความปลอดภัย โครงสร้างซิลิโคนต้องมีความยืดหยุ่นดี เปลือกผิวทนทาน ไม่แตกง่าย และมีรูปทรงหลากหลายเพื่อตอบโจทย์สรีระของแต่ละคน หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมว่ายี่ห้อไหนเหมาะกับคุณบ้าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่

ซิลิโคน มีกี่ประเภท เสริมหน้าอก ซิลิโคนยี่ห้อไหนดี

  • 1. Motiva

ซิลิโคน Motiva เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการเสริมหน้าอก ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เนื้อเจลมีความหนาแน่นสูง และผิวสัมผัสมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย จุดเด่นที่สุดคือคุณสมบัติ Ergonomix ที่สามารถขยับและปรับรูปทรงตามท่วงท่าการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้หน้าอกที่ได้ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ เหมือนเต้านมจริงมากที่สุด Motiva จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่ไว้วางใจ

  • 2. Mentor

Mentor เป็นซิลิโคนระดับตำนานในวงการเสริมหน้าอก ที่ได้รับการยอมรับมานานกว่า 10 ปี โดดเด่นด้านคุณภาพที่ผ่านการพิสูจน์จากผู้ใช้ทั่วโลก เนื้อซิลิโคนให้ความรู้สึกอวบอิ่ม นุ่มละมุน และดูเสมือนจริงเป็นอย่างมาก อีกทั้ง Mentor ยังคงพัฒนานวัตกรรมด้านความปลอดภัยและความเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่องในทุกรุ่น ทำให้ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แพทย์และผู้ใช้ให้ความไว้วางใจเสมอมา

วิธี เสริมหน้าอก ด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation)

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง หรือ Fat Transfer Augmentation คือวิธีเพิ่มขนาดหน้าอกโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน โดยใช้ไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก หรือต้นขา ผ่านการดูดไขมัน (Liposuction) แล้วนำไขมันที่คัดแยกจนบริสุทธิ์มาฉีดเติมเข้าไปที่หน้าอก เพื่อเพิ่มปริมาณและปรับรูปทรงให้สวยงาม

วิธีนี้จึงเป็นการใช้เนื้อเยื่อของตัวเองอย่างแท้จริง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งรูปทรงและสัมผัสเหมือนหน้าอกจริงมากที่สุด

  • การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง สามารถเลือกไซซ์แบบเดียวกับซิลิโคนได้ไหม?

โดยทั่วไป การเสริมหน้าอกด้วยไขมัน ไม่สามารถเลือกไซซ์ได้อิสระเหมือนซิลิโคน เนื่องจากปริมาณไขมันที่สามารถฉีดให้ติดอยู่ได้และไม่สลาย มีข้อจำกัดตามสรีระของแต่ละคน ส่วนใหญ่สามารถเพิ่มขนาดได้ประมาณ 0.5 – 1 คัพ เท่านั้น หากต้องการใหญ่กว่านี้อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง หรือเลือกใช้ซิลิโคนร่วมด้วย (Hybrid Breast Augmentation)

  • การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง ต้องใช้ไขมันเท่าไหร่?

ปริมาณไขมันที่ใช้ขึ้นอยู่กับสรีระและขนาดหน้าอกเดิม โดยทั่วไปแพทย์จะดูดไขมันออกจากร่างกายประมาณ 200–400 ซีซี ต่อข้าง เพื่อให้ได้ไขมันบริสุทธิ์ที่เพียงพอสำหรับการฉีด ซึ่งต้องผ่านการคัดแยกให้เหลือไขมันที่มีคุณภาพสำหรับปลูกถ่าย โดยท้ายที่สุดปริมาณที่ฉีดเข้าไปในหน้าอกมักอยู่ที่ประมาณ 150–250 ซีซี ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับโครงสร้างและความเหมาะสมของแต่ละคน

  • ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
    • ได้ความเป็นธรรมชาติสูงที่สุด ทั้งรูปทรงและสัมผัสใกล้เคียงเต้านมจริงมาก
    • ไม่มีสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เพราะใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง จึงเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องซิลิโคน
    • เพิ่มขนาดได้พร้อมกับปรับรูปร่าง เพราะได้ประโยชน์จากการดูดไขมันส่วนเกิน เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก
    • แผลเล็กมาก เพราะใช้แค่จุดดูดไขมันและจุดฉีดไขมัน
    • โอกาสแพ้น้อยมาก เนื่องจากใช้ไขมันตัวเอง
  • ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
    • เพิ่มขนาดได้ไม่มากนัก มักอยู่ที่ประมาณ 0.5 – 1 คัพ ถ้าต้องการใหญ่ชัดเจนอาจไม่ตอบโจทย์
    • ต้องมีไขมันส่วนเกินเพียงพอ ผู้ที่ผอมมากหรือมีไขมันน้อยอาจไม่เหมาะกับวิธีนี้
    • ไขมันบางส่วนอาจสลายตัวหลังการฉีด โดยทั่วไปประมาณ 30–40% ทำให้ขนาดอาจลดลงเล็กน้อยหลัง 3–6 เดือน
    • อาจต้องทำหลายครั้ง หากต้องการให้หน้าอกใหญ่ขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
    • ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์มาก เพื่อให้ไขมันติดดี กระจายตัวสวย และลดความเสี่ยงต่อก้อนแข็ง
  • ควรเลือกฉีดไขมันหน้าอก หรือเสริมซิลิโคนดี?

หากคุณกำลังลังเลระหว่างสองวิธี ลองศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบข้อดี-ข้อจำกัดของทั้งสองแบบได้ที่ ฉีดไขมันหน้าอก vs เสริมซิลิโคนหน้าอก เลือกแบบไหนดีนะ

และถ้าต้องการรู้ว่าวิธีนี้เหมาะกับตัวเองหรือไม่ สามารถอ่านต่อได้ที่ฉีดไขมันเสริมอก เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง เหมาะกับใครบ้าง?

วิธี เสริมหน้าอก แบบผสมผสาน (Hybrid Augmentation)

หลักการของ Hybrid คือการผสมผสาน ซิลิโคน และ ไขมันตัวเอง ดังนี้

  1. วางซิลิโคน เพื่อสร้างขนาดและโครงสร้างหน้าอกตามความต้องการ

  2. ฉีดไขมันตัวเอง ที่ผ่านการดูดและคัดแยกจากส่วนเกินในร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก

  3. เติมไขมันบริเวณขอบซิลิโคน โดยเฉพาะส่วนบน เพื่อทำให้ทรงดูฟู มีความกลมมน และลดความแข็งทื่อของรูปทรงซิลิโคน

วิธีนี้จึงให้ผลลัพธ์ที่สมดุล ทั้งความอวบอิ่มจากซิลิโคน และความเป็นธรรมชาติจากไขมันของตัวเอง

ข้อดีของการเสริมหน้าอกแบบ Hybrid

  • หน้าอกดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

การเติมไขมันช่วยให้ผิวบริเวณด้านบนของหน้าอกดูฟู ละมุน และมีทรงที่ธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อเหมือนมีซิลิโคนเพียงอย่างเดียว

  • ลดโอกาสเห็นขอบซิลิโคน

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ผอมมาก เนื้อหน้าอกเดิมน้อย ทำให้เสี่ยงต่อการเห็นรอยคลื่นหรือขอบซิลิโคน วิธี Hybrid จะช่วยปกปิดจุดนี้ได้อย่างดี

  • เพิ่มความกลมมนของช่วงบนหน้าอก (Upper Pole Fullness)

หลายคนที่เสริมซิลิโคนอย่างเดียว อาจได้ทรงที่สวยแต่ยังไม่ฟูด้านบน การเติมไขมันช่วยให้รูปทรงเนียนตาและสวยครบทุกมิติ

  • ปรับความไม่สมดุลของหน้าอกได้ดี

ไขมันสามารถช่วยเก็บรายละเอียด เช่น หน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน ร่องอกห่าง หรือขอบบางส่วนดูเป็นเหลี่ยม ช่วยให้ทรงออกมาสมมาตรมากยิ่งขึ้น

  • ได้รูปร่างที่ดีขึ้นจากการดูดไขมัน

ส่วนเกินที่ดูดออก เช่น หน้าท้องหรือสะโพก จะช่วยให้รูปร่างโดยรวมสมส่วนขึ้น เป็น 2 ผลลัพธ์ในครั้งเดียว

Hybrid Augmentation เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่ผอมมาก หรือมีเนื้อหน้าอกเดิมบาง ทำให้เสริมซิลิโคนอย่างเดียวแล้วเห็นขอบง่าย
  • ผู้ที่ต้องการหน้าอกที่ เป็นธรรมชาติแบบสัมผัสจริง แต่ยังอยากได้ขนาดที่ใหญ่พอสมควร
  • ผู้ที่กังวลเรื่องความแข็งของหน้าอก หรือความเป็นทรงซิลิโคนเกินไป
  • ผู้ที่เคยเสริมด้วยซิลิโคนแล้วรู้สึกว่า ด้านบนแบน ต้องการปรับให้ฟูและสวยละมุนมากขึ้น
  • คนที่มี ไขมันส่วนเกินในระดับหนึ่ง ซึ่งเพียงพอสำหรับนำมาเติมเต็ม
  • ผู้ที่ต้องการปรับรายละเอียด เช่น ความไม่เท่ากันของหน้าอกหรือร่องอก

เทคนิคศัลยกรรม ผ่าตัดเสริมหน้าอก

การเสริมหน้าอกจำเป็นต้องมีแผลผ่าตัด เพื่อเปิดช่องวางซิลิโคนอย่างเหมาะสมและปลอดภัย ศัลยแพทย์จึงเลือกตำแหน่งแผลที่เข้าถึงง่าย ลดการบิดเบี้ยว และช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีที่สุด

1. แผลใต้ราวนม (Inframammary Crease)

ข้อดี : ควบคุมตำแหน่งซิลิโคนได้แม่นยำ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว แผลซ่อนในรอยพับ จางง่าย

ข้อเสีย : ต้องดูแลให้แผลเรียบสวย หากผิวบางอาจเห็นรอยแดงในช่วงแรก

2. แผลรอบปานนม (Periareolar)

ข้อดี : แผลค่อนข้างแนบเนียนเพราะอยู่ในขอบสีผิวปานนม

ข้อเสีย : อาจกระทบเส้นประสาทที่หัวนม เสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่าเนื่องจากผ่านท่อน้ำนม

3. แผลใต้รักแร้ (Axillary)

ข้อดี : ไม่มีแผลบนหน้าอก เหมาะกับคนไม่อยากเห็นรอยผ่าตัดบริเวณเต้านม

ข้อเสีย : ควบคุมตำแหน่งซิลิโคนได้ยากกว่า เจ็บนานขึ้น และแผลใต้วงแขนอาจเห็นได้ชัดเวลายกแขน

ผ่าตัดเสริมหน้าอก แผลใต้ราวนม กับ แผลใต้รักแร้มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร

การเสริมหน้าอกสามารถทำได้ผ่านหลายตำแหน่งของแผลผ่าตัด โดยแต่ละตำแหน่งมีข้อดี–ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่ต่างกันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกมีทั้งหมด 3 จุดหลัก ได้แก่ แผลใต้ราวนม แผลใต้รักแร้ และแผลปานนม

อย่างไรก็ตาม ในการผ่าตัดจริง ศัลยแพทย์จะเลือกตำแหน่งแผลที่เหมาะกับแต่ละเคสที่สุด เพื่อให้ควบคุมความปลอดภัย ความแม่นยำ และผลลัพธ์หลังผ่าตัดได้ดีที่สุด

ที่ รัตตินันท์ คลินิก ศัลยแพทย์มักเลือกเทคนิคการเปิดแผล บริเวณใต้ราวนม เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ผ่าตัดง่าย แม่นยำ แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวไวกว่า พร้อมช่วยให้การดูแลรอยแผลเป็นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1) แผลใต้ราวนม (Inframammary Fold Incision)

ลักษณะของแผล คือ จะอยู่ในรอยพับใต้ราวนม ยาวประมาณ 3–4 ซม. ซึ่งเป็นจุดที่สามารถวางซิลิโคนได้โดยตรง มองเห็นชัดเจนระหว่างผ่าตัด และควบคุมตำแหน่งได้แม่นยำที่สุด ซึ่งการผ่าตัดลักษณะนี้จะทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และทำให้ศัลยแพทย์มองเห็นพื้นที่ผ่าตัดได้ชัด วางซิลิโคนได้ตรงตำแหน่ง ลดโอกาสเกิดพังผืดหดรัด และลดความเสี่ยงต่อซิลิโคนเบี้ยว ดูแลแผลง่าย รักษารอยแผลเป็นได้ดี เสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทหรือท่อน้ำนมน้อย

2) แผลใต้รักแร้ (Transaxillary Incision)

ลักษณะของแผล คือ แผลซ่อนอยู่บริเวณรอยพับใต้รักแร้ ใช้กล้องส่อง (Endoscope) ช่วยให้เห็นภาพในการผ่าตัด ไม่เห็นแผลบริเวณหน้าอก เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องรอยแผล ซ่อนแผลได้ดีในรอยพับรักแร้

โดยข้อจำกัด คือ ศัลยแพทย์ควบคุมการผ่าตัดได้น้อยกว่าแผลใต้ราวนม เพราะเป็นพื้นที่ลึกและเข้าถึงซิลิโคนยากกว่า มีโอกาสเกิดปัญหา ซิลิโคนเบี้ยว ร่องอกห่าง หรือพังผืดหดรัด มากกว่า เมื่อตำแหน่งซิลิโคนคลาดเคลื่อน เจ็บกว่า ฟื้นตัวช้ากว่า หากต้องแก้ไขในอนาคต มักต้องเปิดแผลใหม่ใต้ราวนมอยู่ดี แผลอาจเห็นได้ชัดในคนที่ชอบโกนขนรักแร้หรือใส่เสื้อแขนกุดบ่อย เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการเลี่ยงแผลบนหน้าอก และต้องมีความพร้อมว่าการผ่าตัดอาจซับซ้อนกว่าเล็กน้อย

3) แผลปานนม (Periareolar Incision)

แม้จะเป็นหนึ่งในตำแหน่งแผลที่พบได้ แต่ ไม่เหมาะในหลายกรณี เพราะ อาจเสี่ยงกระทบท่อน้ำนม เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากช่องทางของปานนม แผลอาจเห็นได้ชัดในระยะใกล้ ใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีปานนมขนาดใหญ่พอ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่ตำแหน่งแผลหลักในคลินิกส่วนใหญ่ รวมถึงรัตตินันท์ คลินิก

ทำไมรัตตินันท์ คลินิกจึงเลือก แผลใต้ราวนม?

ศัลยแพทย์ของคลินิกให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การควบคุมตำแหน่งซิลิโคน และผลลัพธ์ระยะยาว แผลใต้ราวนมจึงตอบโจทย์ที่สุด เพราะให้ความแม่นยำสูง เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และดูแลแผลเป็นได้ดี จึงลดปัญหาอย่างซิลิโคนเบี้ยว ร่องอกห่าง หรือพังผืดได้มากกว่าตำแหน่งอื่น

ก่อนเสริมหน้าอก ต้องเตรียมตัวอย่างไร

สำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก มีดังนี้

  • ปรึกษากับแพทย์และกำหนดวันผ่าตัดเสริมหน้าอก
  • งดวิตามิน อาหารเสริมต่าง ๆ รวมถึง บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • ตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด (บริการฟรี)
  • งดอาหารและน้ำ ก่อนผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง

หลังเสริมหน้าอก ต้องดูแลตัวเองอย่างไร

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก มีดังนี้

  • งดการยกสิ่งของหนักเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
  • งดกิจกรรมหนัก และออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 1 เดือน
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
  • ไม่ควรใส่ยกทรงที่มีโครงเหล็กช่วง 3 อาทิตย์แรก หลังการผ่าตัด
  • มาติดตามผลการผ่าตัดให้ครบตามนัดหมาย

การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกให้ฟื้นตัวระยะสั้น ลดพังผืด

ข้อแนะนำในการพักฟื้น หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

คำแนะนำสในการพักฟื้นหลังจากได้รับการผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอกมีดังนี้

  • หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับไปปฏิบัติงานได้ภายในระยะเวลา 2-3 วัน
  • ศัลยแพทย์จะจัดการนัดหมายเพื่อตรวจสอบสภาพหน้าอกและดำเนินการตัดไหมหลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการให้หน้าอกได้รับการกระทบหรือสัมผัสกับวัตถุใด ๆ นอกจากการสวมใส่ยกทรง เพื่อป้องกันความเสียหาย โดยควรปฏิบัติตามนี้เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
  • เมื่อเวลาผ่านไป รอยแผลจากการผ่าตัด

การนอนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ถูกวิธี ดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

ราคาศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทำไมต้อง รัตตินันท์ คลินิก

ที่รัตตินันท์ คลินิก เราให้ความสำคัญทั้งความต้องการของผู้เข้ารับบริการและมาตรฐานความปลอดภัยสูง ซึ่งก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินอย่างละเอียดในทุกมิติ ตั้งแต่สรีระ ความกว้างของลำตัว ฐานและเนื้อหน้าอกเดิม รวมถึงความหนาและปริมาณไขมันเพื่อออกแบบทรงที่เหมาะสมที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จึงงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ และตอบโจทย์ความพึงพอใจในแบบเฉพาะบุคคล

ราคาเสริมหน้าอกที่ รัตตินันท์ คลินิก

เพื่อให้คุณได้เปรียบเทียบราคาและบริการของ รัตตินันท์ คลินิก กับคลินิกอื่น ๆ เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ในรูปแบบของตาราง ดังนี้

หัตถการ เสริมหน้าอก

ราคาเริ่มต้น

เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

139,000 - 159,000 บาท

เสริมหน้าอกผิวเรียบทรงกลม Mentor

139,000 บาท

เสริมหน้าอกผิวทรายทรงหยดน้ำ (Extra Gel) Mentor

139,000 บาท

เสริมหน้าอก Motiva รุ่น SilkSurface

139,000 บาท

เสริมหน้าอก Motiva รุ่น Ergonomix

159,000 บาท

เสริมหน้าอกด้วยไขมัน

69,000 บาท

ลดขนาดปานนม

45,000 บาท

บริการและสิ่งที่รวมอยู่ในราคา

  • บริการปรึกษาแพทย์ฟรี เพื่อให้คำแนะนำและช่วยเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมกับรูปร่างและความต้องการของคุณ
  • การตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด รวมอยู่ในราคาเพื่อความปลอดภัยและการวางแผนการผ่าตัดอย่างรอบคอบ
  • การผ่าตัดและดูแลหลังผ่าตัด รวมค่าบริการดมยาสลบโดยวิสัญญีแบบ 1:1 การตรวจเช็กและติดตามผลการรักษาหลังการผ่าตัด
  • ประกันการผ่าตัด: มีประกันคุ้มครองหลังการผ่าตัดเพื่อความอุ่นใจ
  • บริการ After Care ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นและเสริมความมั่นใจในทรวงอก

การเสริมหน้าอก ที่ รัตตินันท์ คลินิก ไม่เพียงแต่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีและดูเป็นธรรมชาติ แต่ยังมาพร้อมกับบริการที่ครบในราคาที่คุ้มค่า มีทีมแพทย์และวัสดุคุณภาพดี รัตตินันท์ คลินิก จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่กำลังมองหาการเสริมหน้าอกที่มีคุณภาพและปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการเสริมหน้าอก

คำถาม (Q) คำตอบแบบง่าย (A)
เสริมหน้าอกแล้ว ให้นมลูกได้ไหม? ส่วนใหญ่ให้นมได้ค่ะ เพราะซิลิโคนมักจะวางอยู่ใต้ต่อมน้ำนมหรือกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่รบกวนท่อน้ำนมโดยตรง
เสริมหน้าอกแล้ว ออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ไหม? ได้แน่นอนค่ะ แต่ต้องรอให้หน้าอกหายดีก่อน (ประมาณ 4-6 สัปดาห์) หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตและออกกำลังกายได้ตามปกติ
หลังเสริมหน้าอก ต้องพักฟื้นนานแค่ไหนกว่าจะเข้าที่? อาการเจ็บจะดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ แต่หน้าอกจะ นิ่มและเข้าที่สวยงามเต็มที่ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน
เสริมหน้าอก มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติค่ะ แต่ต้องมีช่วงเวลาที่ต้องพักฟื้นและระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ในช่วง 7-10 วันแรก หลังการผ่าตัด ถือเป็นช่วงที่แผลกำลังสมานและร่างกายกำลังฟื้นตัว ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศ หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เพื่อป้องกัน:การกระทบกระเทือนบริเวณหน้าอกความเสี่ยงที่แผลจะปริหรือเปิดออกการเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกหรือบวมมากขึ้น

คำถาม (Q) คำตอบแบบง่าย (A)
ซิลิโคนอยู่ได้นานแค่ไหน? ต้องเปลี่ยนออกไหม? อยู่ได้ตลอดชีวิตค่ะ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามกำหนดเวลาเหมือนสมัยก่อน จะเปลี่ยนเมื่อมีปัญหาเท่านั้น เช่น ซิลิโคนแตก หรือเกิด พังผืดรัด หน้าอกแข็ง
ต้องผ่าตัดแก้ไขหน้าอกเมื่อไหร่บ้าง? เมื่อหน้าอกมีปัญหาหลัก ๆ คือ พังผืดรัด จนหน้าอกแข็งผิดปกติ, ซิลิโคนแตก/รั่ว, ซิลิโคนเลื่อนผิดตำแหน่ง, หรือเมื่อคุณ ไม่ชอบผลลัพธ์ ที่ออกมา
ถ้าทำแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถแก้ไขได้ไหม? แก้ได้ค่ะ คุณหมอสามารถทำการผ่าตัดแก้ไขเพื่อเปลี่ยนขนาด รูปทรง หรือปรับตำแหน่งของซิลิโคนให้ดีขึ้นได้
คำถาม (Q) คำตอบแบบง่าย (A)
เสริมหน้าอกแล้วจะเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมไหม? ไม่ค่ะ โดยทั่วไปไม่เพิ่มความเสี่ยง แต่ถ้าใช้ซิลิโคนผิวหยาบมาก ๆ ต้องคุยกับคุณหมอเรื่องความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหายาก ซึ่งมีโอกาสเกิดน้อยมาก
มีซิลิโคนแล้ว ตรวจมะเร็งเต้านม (แมมโมแกรม) ได้ไหม? ตรวจได้ปกติค่ะ แค่ต้องบอกเจ้าหน้าที่ว่าเราเสริมซิลิโคนมา เขาจะได้ใช้เทคนิคตรวจที่เหมาะสม
ซิลิโคนจะแตกได้ไหม? ขึ้นเครื่องบินแล้วจะแตกไหม? มีโอกาสแตกได้บ้าง ถ้าซิลิโคนเก่ามาก หรือโดนกระแทกแรง ๆ แต่แรงดันอากาศบนเครื่องบินไม่ทำให้ซิลิโคนแตกแน่นอนค่ะ
“นม 2 ชั้น” คืออะไร เกิดจากอะไร? คือการที่หน้าอกมีรอยพับ 2 ชั้น มักเกิดจากซิลิโคนถูกวางตำแหน่งต่ำเกินไป หรือเนื้อหน้าอกเดิมหย่อนคล้อยลงมา
ทำหน้าอกใหญ่มาก ๆ มีข้อเสียไหม? มีค่ะ อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ, เสี่ยงผิวหนังยืด, อาจปวดหลังหรือปวดไหล่ได้ง่าย และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา
เสริมหน้าอกลูกสาวหมอเต้ย 2
เสริมหน้าอกลูกสาวหมอเต้ย 3
เสริมหน้าอกลูกสาวหมอเต้ย 4
เสริมหน้าอกลูกสาวหมอเต้ย 1
รีวิว เสริมหน้าอก ก่อนทำและหลังทำ ที่รัตตินันท์ คลินิก

เสริมหน้าอก เหมาะกับใครและมีข้อดีอย่างไร

ใครที่ควรเสริมหน้าอก

กลุ่มคนที่ควรเสริมหน้าอก คือคนที่มีปัญหาที่ลดความมั่นใจในตัวเอง ดังนี้

  • คนที่หน้าอกแบนราบ หรือเล็กมากโดยกำเนิด ต้องการมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้รูปร่างมีมิติชัดเจน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศสภาพ
  • คนที่ไม่มีเนินอกอวบอิ่มเต็มเต้า ต้องการเสริมอึ๋มเพื่อเพิ่มความชัดเจนของทรวงอก
  • คนที่เป็นคุณแม่หลังคลอด โดยส่วนใหญ่พบว่าหน้าอกจะหย่อนคล้อยภายหลังจากการให้นมบุตร
  • คนที่มีหน้าอกไม่สมส่วน ทรงไม่ได้รูป หน้าอกไม่เท่ากัน
  • คนที่มีประวัติการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็งเต้านม
  • คนที่มีหน้าอกหย่อนยานจากอายุที่เพิ่มขึ้น

หรือถ้าหากคุณมีปัญหาหรือข้อกังวลใจเกี่ยวกับทรวงอกของตนเอง สามารถเข้ามาปรึกษาศัลยแพทย์อย่างเป็นส่วนตัวกับเราได้ที่นี่

ข้อดีการเสริมหน้าอก

ข้อดีของการเสริมหน้าอก ที่ รัตตินันท์ คลินิก มีดังนี้

  • ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกแบนราบให้มีเนินอกใหญ่ขึ้นเต็มตา
  • ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีขนาดเต้านมไม่เท่ากัน ไม่สมส่วน ทั้งตั้งแต่กำเนิด และการผ่าตัดต่าง ๆ ให้เท่ากัน สวยงามมากขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต การแต่งตัว การถ่ายรูป และการพบปะผู้คน
  • ช่วยเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานสำหรับบางอาชีพ

ศัลยกรรมแก้ไขหน้าอก

นอกจาก เสริมหน้าอก เรายังมีบริการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกอีกด้วย สำหรับผู้ที่มีปัญหาดังนี้

  • ขนาดหน้าอกใหญ่เกินไป อยากแก้ไขเปลี่ยนขนาดให้เล็กลง
  • อยากแก้ไขให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ
  • มีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ฯลฯ เนื่องจากทำไซซ์ใหญ่เกินไป
  • เกิดปัญหาจากการเสริมหน้าอกครั้งก่อน เช่น นมสองชั้น นมสูง นมห่าง นมแฝด ฯลฯ
  • มีภาวะพังผืดหนาหดรัดซิลิโคน
  • เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น อักเสบ ติดเชื้อ

รีวิวเสริมหน้าอก ที่ รัตตินันท์ คลินิก

ภาพรีวิว Before-after เสริมหน้าอก 04
ภาพรีวิว Before-after เสริมหน้าอก 02
ภาพรีวิว Before-after เสริมหน้าอก 03
ภาพรีวิว Before-after เสริมหน้าอก 01
อ่าน! แอนโทเนีย โพซิ่ว แชร์เคล็ดลับหุ่นสับฉบับสาวยูนิเวิร์ส อ่านรีวิว เสริมหน้าอก ถ่ายแบบฉ่ำ เป๊ะกว่าเดิม

ขั้นตอนการเสริมหน้าอก

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอก ที่ รัตตินันท์ คลินิก มีดังนี้

ดมยาสลบก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก

พร้อมให้ยาชา

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

นอนพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

เพื่อดูอาการก่อนกลับบ้าน

นัดตรวจซ้ำและตัดไหมหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

ติดตามผลการรักษาต่อเนื่อง

หน้าอกสวยหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

หลังจากผ่านไปแล้ว 1 เดือน

การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก มีอะไรบ้าง

สำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก มีดังนี้

  • ปรึกษากับแพทย์และกำหนดวันผ่าตัดเสริมหน้าอก
  • งดวิตามิน อาหารเสริมต่าง ๆ รวมถึง บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • ตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด (บริการฟรี)
  • งดอาหารและน้ำ ก่อนผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง

การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก

คำแนะนำสำหรับการดูแลตัวเองหลังจากได้รับการผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอกมีดังนี้
  • หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับไปปฏิบัติงานได้ภายในระยะเวลา 2-3 วัน
  • ศัลยแพทย์จะจัดการนัดหมายเพื่อตรวจสอบสภาพหน้าอกและดำเนินการตัดไหมหลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการให้หน้าอกได้รับการกระทบหรือสัมผัสกับวัตถุใด ๆ นอกจากการสวมใส่ยกทรง เพื่อป้องกันความเสียหาย โดยควรปฏิบัติตามนี้เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
  • เมื่อเวลาผ่านไป รอยแผลจากการผ่าตัดจะค่อย ๆ ลดลงและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 3 เดือนจนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละบุคคลในการฟื้นตัว

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก มีดังนี้

  • งดการยกสิ่งของหนักเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
  • งดกิจกรรมหนัก และออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 1 เดือน
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
  • ไม่ควรใส่ยกทรงที่มีโครงเหล็กช่วง 3 อาทิตย์แรก หลังการผ่าตัด
  • มาติดตามผลการผ่าตัดให้ครบตามนัดหมาย

เสริมหน้าอก TIPS: ซิลิโคน Size เท่ากัน แต่ผลที่ได้ในแต่ละคนจะไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะส่วนสูง ขนาดลำตัว รวมทั้งเนื้อหน้าอกของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นผลที่ได้จะออกมาต่างกันตามรูปร่าง การเลือกขนาดซิลิโคนเสริมหน้าอกจึงควรเลือกและลองขนาดด้วยตัวเอง เพื่อที่คุณหมอจะได้แนะนำขนาดที่ตรงกับความต้องการ และที่สำคัญคือต้องพอดีกับรูปร่าง เพื่อความสวยงามเป็นธรรมชาติและลดโอกาสการเกิดปัญหาในภายหลัง

ก่อนเสริมหน้าอกที่ รัตตินันท์ คลินิก จะมี Sizer อุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยในการเลือกไซซ์ของหน้าอก ทำให้เห็นภาพก่อนทำว่า หากเสริมแล้วขนาดของหน้าอกจะเป็นลักษณะไหน ขนาดเท่าไหร่ ทำให้ช่วยตัดสินใจในการเลือกไซซ์ให้เหมาะกับที่ต้องการ

จริง ๆ แล้ว ซิลิโคนมีส่วนช่วยให้หน้าอกเราสวยขึ้นเพียง 20-30% เท่านั้น เพียงแค่เลือกไซซ์ให้เหมาะสมกับร่างกายก็ช่วยทำให้หน้าอกสวยขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ช่วยทำให้หน้าอกออกมาสวยงาม สมบูรณ์ ปลอดภัยมากกว่า 60% คือฝีมือ ประสบการณ์และเทคนิคของศัลยแพทย์

อ่านเพิ่มเติม : 

เสริมหน้าอก ราคาเท่าไหร่

ราคาเสริมหน้าอกที่รัตตินันท์ คลินิกเริ่มต้นที่ 109,000 บาท ผู้สนใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวมากที่สุด

ในการเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะในการเสริมหน้าอกให้ออกมาได้รูปสวยหรือดูดีนั้น จะต้องพิจารณาจากรูปร่างของคนไข้ด้วย ซึ่งซิลิโคนเสริมหน้าอกที่รัตตินันท์ใช้เป็นเกรดพรีเมียม คำนึกถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก

คำถามที่พบบ่อย

การเกิดนมสองชั้น อาจเกิดจากเทคนิคการผ่าตัดที่แพทย์ไม่เข้าใจสรีระของคนไข้ดีพอ เลือกใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบัน จะมีเทคนิค Dual Plane ที่ช่วยทำให้หน้าอกเข้ารูป เป็นทรงสวยงามมากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่ามี เช่น ปัญหาสุขภาพ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากอยากแก้ไข ปรับไซซ์ให้เล็กลงก็สามารถทำได้เช่นกัน

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่มีหลักฐานว่าจะเพิ่มความเสี่ยงในการพัฒนามะเร็งเต้านม เนื่องจากวัสดุซิลิโคนที่ใช้ในกระบวนการนี้ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ซึ่งระบุว่ามีความปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

น้อยมาก ๆ เพราะปัจจุบันเนื้อเจลในซิลิโคนมีความหนาแน่นและยืดหยุ่นสูง และถ้าหากพบว่าซิลิโคนแตกก็มีการรับประกัน (ตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด) สามารถแก้ใหม่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

การเสริมหน้าอก ซิลิโคนสามารถอยู่ได้นานเกิน 10 ปีไปจนถึงตลอดชีวิต หลังจากผ่านไปแล้ว 5 ปี สามารถตรวจเช็กสภาพหน้าอกตัวเองได้ทุก ๆ ปีเหมือนตรวจสุขภาพทั่วไป

1. ศาสตร์ + ศิลป์ ศัลยกรรมที่เข้าใจเรือนร่างของคุณ

2. ดูแลอย่างปลอดภัยมาตรฐานระดับโรงพยาบาล

3. Luxury Holistic Care ดูแลครบทุกมิติ

4. ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ความสวย แต่คือความมั่นใจ

ได้ค่ะ การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนไม่ส่งผลกระทบต่อต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ เพราะซิลิโคนจะอยู่ต่างหากจากต่อมน้ำนม โดยเฉพาะการเปิดแผลใต้ราวนมที่รัตตินันท์ คลินิกใช้ จะไม่กระทบต่อระบบการให้นม

ได้ แต่ต้องแบ่งเป็นช่วง ๆ

  • 2-3 วันแรก : พักผ่อน หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวมาก
  • 1 เดือนแรก : งดออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก โดยเฉพาะท่าที่ใช้กล้ามเนื้ออก
  • หลัง 1 เดือน : สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ค่อย ๆ เพิ่มความหนักทีละน้อย
  • หลัง 3 เดือน : ออกกำลังกายได้เต็มที่ รวมถึงกีฬาทุกประเภท

แก้ไขได้ ที่ รัตตินันท์ คลินิก มีบริการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกสำหรับกรณีต่าง ๆ เช่น

  • ปรับขนาด : เปลี่ยนซิลิโคนให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง
  • แก้ไขปัญหา : นมสองชั้น นมสูง นมห่าง นมแฝด
  • แก้พังผืด : กรณีมีพังผืดหนาหดรัดซิลิโคน
  • ถอดซิลิโคน : ถ้าต้องการถอดออก หรือเปลี่ยนเป็นไขมันตัวเอง

ควรรอให้หน้าอกเข้ารูปสมบูรณ์ประมาณ 3-6 เดือนก่อนพิจารณาแก้ไข เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

เสริมหน้าอก จะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ซึ่งรัตตินันท์ คลินิก เราคำนึงถึงความต้องการของคนไข้ และต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยสำคัญที่สุด ก่อนทำศัลยกรรม ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปร่าง ความกว้างของลำตัว ฐานหน้าอกเดิม เนื้อหน้าอกเดิม ความหนาของหน้าอก และปริมาณไขมันหน้าอก เป็นต้น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม และเป็นที่น่าพอใจมากที่สุด