ผอมแต่มีพุง (Skinny Fat) ทำไงดี? ให้พุงยุบ หุ่นกลับมาปัง!

ผอมแต่มีพุง (Skinny Fat) ทำไงดี? ให้พุงยุบ หุ่นกลับมาปัง!

“ผอมแต่มีพุง” นั้นเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย เพราะนอกจากจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเองแล้ว ยังทำให้เรามีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า ทำไมคนที่ผอมถึงยังมีพุง มันเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง แล้วเราจะมีวิธีปรับพฤติกรรมลดพุงอย่างไรบ้างที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

ผอมแต่มีพุง หรือ skinny fat คืออะไร ?

อาการ ผอมแต่มีพุง หรือที่เรียกกันว่า Skinny Fat คือการที่เรามีน้ำหนักตัวน้อย ไม่เกินมาตรฐาน มีค่า ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่กลับมีเปอร์เซ็นต์ไขมันสะสมอยู่บริเวณหน้าท้อง และมีปริมาณของมวลกล้ามเนื้อน้อย จนแทบไม่เห็นมัดกล้ามเนื้อเลย ดูภายนอกคือรูปร่างดูผอมเพรียว แขนขาไม่ใหญ่ แต่ดูพุงยื่นพุงป่องออกมาอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีแนวโน้มว่าจะมีไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเรื่องอายุที่มากขึ้น และมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อระดับไขมันในร่างกาย เราสามารถวัดได้ว่าเรากำลังผอมแต่มีพุงหรือไม่ ด้วยการใช้สายวัดวัดรอบเอวบริเวณเหนือสะโพก ค่าปกติเส้นรอบเอวสำหรับผู้หญิง ไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร (32 นิ้ว) ค่าปกติเส้นรอบเอวสำหรับผู้ชาย ไม่ควรเกิน 90 เซนติเมิตร (36 นิ้ว)

เช็คค่า BMI คลิ๊กที่นี่!
ผอมแต่มีพุง วิธีวัดรอบเอว คำนวณค่า BMI

ผอมแต่มีพุง เกิดจากอะไร?

การผอมแต่มีพุงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน มีสาเหตุจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ซึ่งหากเราเข้าใจและมีวิธีการป้องกันและแก้ไขอย่างเหมาะสม ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป

1. การทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง

อาหารที่เราทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น เป็นสาเหตุของการผอมแต่มีพุง โดยคนที่ผอมแต่มีพุง มักชอบทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง

อย่างเช่น คุกกี้ เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม น้ำหวาน อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป อาหารทอด น้ำสลัด และเครื่องปรุงรสชนิดหวาน ที่มีน้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรุกโตสสูงและไขมันทรานส์เป็นส่วนผสม ก็ล้วนแต่เป็นส่วนผสมที่ส่งผลให้ไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณพุงของเรา

2. การอดอาหาร

หลายๆ คน คงเคยใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารมาก่อน ซึ่งการอดอาหารนั้นเป็นวิธีที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากการที่เราทานอาหารในปริมาณน้อย ๆ หรืออดอาหารแบบกะทันหันนั้น ทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงส่งผลทำให้ร่างกายเราพยายามเก็บไขมันเอาไว้เพื่อใช้เป็นพลังงาน

และยังทำให้ร่างกายต้องดึงพลังงานจากมวลกล้ามเนื้อมาใช้ ซึ่งทำให้เรามีกล้ามเนื้อน้อยลงและสุดท้ายการเผาผลาญพลังงานของร่างกายเราก็ลดลงไปด้วย จึงเป็นสาเหตุให้เรามีไขมันสะสมและลงพุงนั่นเอง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

3. การออกกำลังกายผิดวิธี

แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลดี แต่หากออกกำลังกายผิดวิธีก็จะทำให้เกิดผลเสียพุงยื่นมากกว่าเดิมได้ ซึ่งการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ หรือต่อยมวย ล้วนแต่เป็นวิธีที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้อย่างรวดเร็ว

แต่หากออกกำลังกายหนักเกินไปหรือออกกำลังกายโดยที่ทานอาหารไม่เพียงพอกับพลังงานที่เสียไป แทนที่เราจะได้ดึงเอาไขมันส่วนเกินมาใช้ กลับกลายเป็นการทำลายกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้หลายคนไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักขนาดไหนก็ยังผอมแต่มีพุงอยู่ดี

4. การดื่มแอลกอฮอล์

มีผลวิจัยออกมายืนยันว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเบียร์ วิสกี้ วอดก้า ค็อกเทล หรือไวน์ มีผลทำให้เกิดไขมันสะสมในช่องท้องมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่ายิ่งดื่มมากก็ยิ่งทำให้พุงป่องพุงยื่นมากนั่นเอง

5. ปัญหาเรื่องความเครียด

ความเครียดนอกจากจะส่งผลทางด้านอารมณ์แล้ว ยังเป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของห่วงยางรอบเอวออกมา ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายต่ำลง ผลที่ตามมาคือภาวะอ้วนลงพุง ดังนั้นต้องหาวิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเอง และต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
คลิ๊ก ติดต่อไลน์ รับส่วนลด
คลิ๊ก ติดต่อ messenger Facebook
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

ผอมแต่มีพุง อันตราย เสี่ยงโรคแทรกซ้อนจาก ไขมันในช่องท้อง

ผอมแต่มีพุง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

ไขมันที่พุงนั้น มีทั้งไขมันชนิดที่อยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ที่อยู่ในชั้นนอกสุด โดยไขมันชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ส่งผลต่อความสวยงามของรูปร่าง และ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) แต่ไม่ว่าจะเป็นไขมันชนิดไหน สาเหตุก็มาจากพฤติกรรมต่างๆ ข้างต้น ตามที่ได้กล่าวไป ซึ่งเจ้าตัวไขมันในช่องท้องนี่แหละ ที่อาจจะนำโรคร้ายมาให้เราได้ โดยไขมันชนิดนี้จะไปเกาะอยู่ตามอวัยวะภายในช่องท้องเรา ซึ่งจะส่งผลเสียกับสุขภาพจนอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้มากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน เป็นต้น

คนที่ ผอมแต่มีพุง ถ้าอยากรู้ว่าเรามีไขมันใต้ผิวหนังหรือเปล่า ให้ลองใช้มือบีบเนื้อหน้าท้องดูค่ะ ถ้าบีบแล้วได้ชั้นไขมัน นิ่ม ๆ เป็นชั้นขึ้นมาก็ใช่เลยค่ะ เป็นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วคนที่มีปัญหาผอมลงพุง หรือพุงหมาน้อย ก็มักจะมีไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้อยู่ร่วมกัน  

การตรวจวัดมวลไขมันในร่างกายก็อาจจะช่วยบอกเราได้ว่าเรามีไขมันชนิดไหน ปริมาณเท่าไร มีงานวิจัยพบว่า ผู้หญิงแม้จะมีน้ำหนักตัวไม่มาก และมีดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่หากมีรอบเอวที่ใหญ่ก็อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ นั่นก็เป็นเพราะมีไขมันสะสมในช่องท้องนั่นเอง

ผอมแต่มีพุง มีวิธีลดให้พุงยุบยังไง

ผอมแต่ลงพุง ทำอย่างไรดี?

เบื้องต้นเราอาจจะต้องดูว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เรามีอาการเหล่านี้ เป็นเพราะอะไร เราก็ไปโฟกัสตรงนั้น แก้ไขจากสาเหตุนั้น ซึ่งสิ่งที่เราจะโฟกัสหลักๆ คือ เราจะลดไขมัน รวมถึงเพิ่มกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กันด้วย

1. การปรับพฤติกรรมการกิน

  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารไม่มีประโยชน์ พวกอาหารที่มีน้ำตาลสูง ขนมหวาน น้ำหวานต่าง ๆ และอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง ที่มักพบในมาร์การีน เค้ก เบเกอรี่ต่าง ๆ ฟาสต์ฟู้ด เพื่อลดการสะสมไขมัน รวมถึงลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
  • เน้นทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชบางชนิดมีกลุ่มไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ และมีกากใยสูง ทำให้ไม่เกิดการสะสม ซึ่งมีส่วนช่วยลดพุงได้อย่างดีเยี่ยม โดยอาหารที่มีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เช่น ข้าวโอ๊ต ตระกูลถั่วต่างๆ แตงกวา แคร์รอต ต้นหอม สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี แอปเปิ้ล และส้ม
  • พยายามทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเพิ่มการทานโปรตีนให้มากขึ้น โดยโปรตีนจะไปช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ปริมาณโปรตีนที่เราควรกินต่อวัน ควรจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าเราหนัก 50 กิโลกรัม เราก็ควรกินโปรตีนให้ได้ประมาณ 75-100 กรัม ต่อวัน หรือเทียบเท่ากับปลา ประมาณ 400-500 กรัม เป็นต้น

2. การออกกำลังกาย

  • การออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่ง คนที่มีหุ่น skinny fat ส่วนใหญ่มักจะมีรูปร่างที่ขาดมวลกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย
  • ออกกำลังกายแบบ HIIT การออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการคาร์ดิโอที่เหมาะกับรูปร่างหุ่นดีแต่มีพุงด้วย เนื่องจากเป็นการคาร์ดิโอที่ใช้เวลาสั้น ๆ แต่สามารถเบิร์นไขมันสะสมได้เยอะเลยทีเดียว
  • คาร์ดิโอ 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สำหรับคนหุ่นดีแต่มีพุงแนะนำให้คาร์ดิโอสัปดาห์ละ 1-2 ชั่วโมง โดยคาร์ดิโอครั้งละไม่เกิน 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเบิร์นไขมันมากเกินไปจนเสียมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจทำให้ดูผอมไปกว่านี้ ซึ่งการคาร์ดิโอก็สามารถทำได้ทั้งการวิ่ง จ๊อกกิ้ง กระโดดเชือก ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำเลยค่ะ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน ที่แม้ว่าจะใช้เวลานานสักหน่อยกว่าจะประสบผลสำเร็จ แต่นั่นก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและผอมลงได้แบบปลอดภัย แต่หากใครที่คิดว่ามีเวลาจำกัด หรือต้องการลดสัดส่วน ลดพุง ลดเอวแบบได้ผลลัพธ์จริง ๆ ปัจจุบันมีนวัตกรรมทางการแพทย์สำหรับการลดสัดส่วน ที่ช่วยให้เห็นผลได้ชัดเจนและมีความปลอดภัย นั่นคือ

  • การเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Tesla former ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเรียกว่า Functional Magnetic Stimulation (FMS) เข้ามาช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และ สลายไขมัน ไปพร้อมๆ กัน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ สลายไขมัน กระชับสัดส่วน ปั้นหุ่นเฟิร์มได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
  • การดูดไขมันใต้ผิวหนังที่การสะสมไขมันส่วนเกิน เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง และ ดูดไขมันเอว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีภาวะอ้วน แต่มีปัญหาเรื่องสัดส่วนนั่นเอง

ดูดไขมันหน้าท้อง แก้ปัญหาพุงป่อง
ท้องย้วย ด้วย BodyTite & PAL

ดูดไขมันเอวเอส
แก้ปัญหาหุ่นตรง ไม่มีเอว 

Tesla Former สร้างกล้ามเนื้อ
สลายไขมัน ปั้นหุ่นเฟิร์ม ไม่ต้องผ่าตัด

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
คลิ๊ก ติดต่อไลน์ รับส่วนลด
คลิ๊ก ติดต่อ messenger Facebook
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า