รักษา “เอ็นอักเสบ” หัวไหล่ ข้อมือ เข่า และเท้า ด้วย PRP Therapy

รักษา เอ็นอักเสบ ด้วย PRP Therapy

เอ็นอักเสบ (tendinitis) เป็นโรคที่พบได้บ่อย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณเส้นเอ็นที่มีการอักเสบ มีอาการบวม บางครั้งอาจรู้สึกอุ่น ๆ หรือมีอาการแดงร่วมด้วย ขยับได้ลำบาก บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อเข่า และข้อเท้า อาการปวดดังกล่าวอาจกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวัน

สาเหตุ เกิดจากการได้รับบาดเจ็บกะทันหัน หรือเกิดจากการเคลื่อนไหวของเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้เอ็นบริเวณที่ถูกใช้งานและตึงขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ ได้แก่

  1. ผู้ที่มีอายุมากจะยิ่งมีโอกาสเกิดภาวะเอ็นอักเสบได้มากขึ้น เนื่องจากเอ็นกล้ามเนื้อเริ่มมีความยืดหยุ่นน้อยลง
  2. มีการเคลื่อนไหวร่างกายบางส่วนผิดท่าบ่อยครั้ง
  3. เกิดจากการเล่นกีฬาบางชนิดที่เอ็นกล้ามเนื้อต้องทำงานซ้ำๆ เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ แบดมินตัน ว่ายน้ำ และวิ่ง

การรักษา เอ็นอักเสบ ด้วยตนเอง

การรักษาภาวะเอ็นอักเสบในเบื้องต้นทำได้ด้วยการหยุดพักกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของเอ็นบริเวณที่อักเสบจนกว่าจะหายดี รวมถึงการดูแลรักษาด้วยตนเองซึ่งทำได้ดังนี้

  1. ประคบเย็นด้วยผ้าห่อน้ำแข็งบริเวณที่อักเสบนาน 20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง
  2. ใช้ผ้าพันบริเวณรอบๆ เพื่อรองรับการใช้งานเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณนั้น
  3. พยายามยกส่วนของร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ในระดับสูง โดยใช้หมอนหนุนเมื่อนั่งหรือนอน
  4. รับประทานยาแก้ปวดลดอักเสบ หรือทาเจลเย็นเพื่อบรรเทาอาการอักเสบเบื้องต้น
  5. ป้องกันการบวมของบริเวณที่อักเสบในช่วง 3 วันแรก ด้วยการหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น น้ำอุ่น หรือถุงน้ำร้อน รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์และการนวดบริเวณดังกล่าว
  6. หลีกเลี่ยงการใช้เอ็นกล้ามเนื้อส่วนที่อักเสบ
รักษา เอ็นอักเสบ ด้วย PRP Therapy

โดยปกติแล้วอาการของเอ็นอักเสบส่วนใหญ่ มักจะดีขึ้นเองภายใน 2-3 วัน ด้วยการพักและดูแลรักษาตนเอง แต่หากพบว่ายังคงมีอาการรุนแรงต่อเนื่อง กระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันเป็นเวลานานกว่า 3 วัน หรือคิดว่าเอ็นกล้ามเนื้ออาจฉีกขาด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย เช่น เส้นเอ็นฉีกขาด กล้ามเนื้อปลายแขนอ่อนแรง เป็นต้น

แพทย์อาจรักษาโดยการฉีดยาบรรเทาอาการปวดลดอักเสบเข้าไปบริเวณรอบๆ เส้นเอ็นที่มีการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและอาการปวดได้มาก แต่ก็มีข้อจำกัดคือถ้าฉีดบ่อยๆ จะทำให้เส้นเอ็นเกิดการฉีกขาดได้ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นแข็งแรงขึ้น

รักษา เอ็นอักเสบ ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP Therapy)

รักษา เอ็นอักเสบ ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น

ถ้าอาการดังกล่าวยังไม่ดีขึ้น นอกจากจะสามารถรักษาด้วยการผ่าตัดแล้ว ในปัจจุบันยังมีอีกวิธีที่ช่วยรักษาอาการเส้นเอ็นอักเสบได้ นั่นก็คือ การใช้เกล็ดเลือดเข้มข้น หรือ PRP (PLATELET RICH PLASMA) มาฉีดเข้าไปในบริเวณเส้นเอ็นที่มีการอักเสบอยู่ โดยหลักการของวิธีนี้ก็คือ “เซลล์ซ่อมเซลล์” จะช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ ลดการอักเสบ และลดอาการปวด

ฉีด PRP รักษา เอ็นอักเสบ ข้อเท่า เข่า หัวไหล่

การฉีด PRP เป็นเทคนิคใหม่ทางการแพทย์และกำลังเป็นที่นิยม ในการนำมาใช้รักษาอาการบาดเจ็บ ของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน โดยแพทย์จะฉีด PRP เข้าสู่จุดที่มีการบาดเจ็บ สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อให้หายจากอาการบาดเจ็บ ลดอาการปวด และยังช่วยให้ฟื้นตัวได้อย่างอย่างรวดเร็วที่สำคัญคือ ไม่เป็นอันตราย ไม่เกิดอาการแพ้ กเนื่องจากเป็นส่วนประกอบจากเลือดของผู้ป่วยเอง

ภายในเกล็ดเลือดประกอบไปด้วยสารที่สำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด และ Growth Factor โดยการนำเลือดมาปั่น แล้วฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ เกล็ดเลือดจะถูกกระตุ้นให้รวมตัวกันและปล่อยสารที่มีประโยชน์นี้ไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซม จึงสามารถบรรเทาอาการปวดและส่งเสริมการเร่งฟื้นฟูได้

การบาดเจ็บส่วนเส้นเอ็น ที่สามารถรักษาโดยการฉีด PRP

  • เอ็นอักเสบที่ข้อศอกด้านนอก (Tennis Elbow)
  • เอ็นอักเสบที่ข้อศอกด้านใน (Golfer’s Elbow)                        
  • เอ็นหน้าเข่าอักเสบ Jumper’s Knee ( Patellar Tendinosis )
  • เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendinosis)
  • รองช้ำ (Plantar Fasciitis)
  • เอ็นอักเสบข้อพับเข่าด้านหลัง (Hamstring Tendons)
  • เอ็นอักเสบขาหนีบ (Adductor Tendons)
  • เอ็นอักเสบสะโพก (Gluteal Tendons)
รักษา เอ็นอักเสบ หัวไหล่

การเตรียมตัวก่อนฉีด PRP รักษา เอ็นอักเสบ

  • งดยาตามที่แพทย์แนะนำ โดยเฉพาะยาแก้ปวดลดการอักเสบกลุ่ม NSAID’s เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และยาสเตียรอยด์ (Steroid) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดยา เนื่องจากยาจะส่งผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด ทำให้ประสิทธิภาพในการฉีดลดลง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมากๆ ตั้งแต่ก่อนฉีด 1 วัน เนื่องจากหากมีภาวะขาดน้ำจะทำให้การดูดเลือดทำได้ยาก

ขั้นตอนการฉีด PRP รักษา เอ็นอักเสบ

  1. เจาะเลือดผู้ป่วยออกมาประมาณ 20-25 ซีซี
  2. นำมาปั่นด้วยเครื่องปั่นพิเศษ เพื่อแยกเกล็ดเลือดเข้มข้นออกมา ขั้นตอนการทำ PRP จะเพิ่มคุณสมบัติของเกล็ดเลือดต่อการซ่อมแซมร่างกายเหนือเกล็ดเลือดธรรมดา ซึ่งการเตรียม PRP ที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะได้เกล็ดเลือดที่มีคุณภาพ
  3. นำกลับไปฉีดให้ผู้ป่วย ในบริเวณเส้นเอ็นกล้ามเนื้อที่มีการอักเสบ

ซึ่งการฉีด PRP จะใช้เวลาทำประมาณ 20-30 นาที ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยเนื่องจากเป็นเลือดของตัวเอง และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณตำแหน่งที่ฉีด

การดูแลหลังการฉีด PRP รักษา เอ็นอักเสบ

หลังฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นไปแล้ว ยังควรต้องงดยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAID’s และสเตียรอยด์ต่อไป หากมีอาการปวดอาจใช้ยาแก้ปวดพาราเซตามอลหรือใช้การประคบเย็นช่วยลดอาการปวด ซึ่งโดยปกติผู้ป่วยจะมีอาการปวดได้ในช่วง 3 วันแรก แต่หากอาการปวดยังคงอยู่หลังจากวันที่ 3 หลังฉีดยา หรือมีอาการบวมแดงมากขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์

PRP รักษา เอ็นอักเสบ หัวไหล่ ข้อเข่า ข้อเท้า

ผลการรักษา เอ็นอักเสบ

  • ประสิทธิภาพในการรักษาขึ้นอยู่กับตำแหน่งหรืออวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บ หากเป็นกล้ามเนื้ออาจใช้เวลาน้อยกว่ากลุ่มของเส้นเอ็น
  • เนื้อเยื่อบาดเจ็บแบบเฉียบพลันจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการบาดเจ็บเรื้อรัง
  • การฉีด PRP ต้องฉีดประมาณ 2-3 ครั้งต่อเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บ โดยเว้นระยะห่างกันครั้งละ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
  • ผลการรักษาจะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป

ใครที่ไม่เหมาะสำหรับการรักษาด้วย PRP

  1. คนที่มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกล็ดเลือดผิดปกติ โลหิตจางขั้นรุนแรง
  2. ติดเชื้อในกระแสเลือด
  3. มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ
  4. โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง (Autoimmune Diseases) ได้แก่ โรค SLE โรครูมาตอยด์
  5. โรคเก๊าท์
  6. คนไข้กินยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด
  7. ผู้ที่กำลังป่วยอยู่ควรรักษาตัวให้หายดีก่อนทำ PRP Therapy เพราะอาจมีเชื้อโรคปะปนในกระแสเลือด
  8. ตั้งครรภ์และให้นมบุตร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า